ตอนที่ 126 สั่งสอน
ซูผิงสังเกตว่านักเรียนของเขาเริ่มกลัวเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เอาล่ะนั่นเพียงพอแล้ว
“ถ้าคุณรู้สึกเสียใจ พยายามเรียนรู้ให้ดีที่สุด คุณไม่สามารถมาตำหนิ
ผมได้หากคุณล้มเหลว”
“ผมเข้าใจ…”
ครั้งแรกที่พวกเขาปะทะกัน สวี่คังคิดว่าเขาประมาทเกินไปและซูผิง
ก็ใช้โอกาสนั้นซุ่มโจมตีเขา แต่หลังจากที่เขาเห็นอสูรของตัวเอง
ถูกซูผิงปราบ เขาก็ได้ตระหนักถึงช่องว่างระหว่างพวกเขา
“ตามที่บทเรียนของเรากำหนดไว้ ผมจะแสดงสิ่งหนึ่งที่คุณต้องการ
เรียนรู้” ซูผิงขยับเข้าไปใกล้สวี่คังโดยไม่สนใจอสูรที่น่ากลัวที่กำลัง
จ้องมองเขาอยู่ใกล้ ๆ “แล้วจะเป็นอะไร? การควบคุมพลังดวงดาว?
หรืออะไรเกี่ยวกับอสูรของคุณ”
สวี่คังก้มหน้า “ผม- ผมค่อนข้างเก่งในพลังดวงดาวครับ ดังนั้น…ผม
รู้ว่าคุณสามารถสอนผมเกี่ยวกับอสูรได้ แต่ได้โปรด อย่าเพิ่งบอกผม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น และถ้าผมสามารถทำ
ให้อสูรของผมแข็งแกร่งขึ้น … ผมไม่รู้ว่าจะควบคุมพวกมันยังไง”
ซูผิงพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว ผมจะแสดงวิธีเพิ่มพลังและความสามารถ
ของอสูรของคุณในการต่อสู้ จำไว้ว่าผมจะไม่ช่วยให้คุณหรืออสูร
ของคุณมีระดับที่สูงขึ้น แต่คุณจะรู้ว่าต้องทำยังไงให้ดีขึ้นในลีก”
สวี่คังเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ “คุณหมายความว่าผม
ยังใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่?”
“ใช่ คุณทำงานได้แย่มากที่ส่งคู่หูตัวน้อยของคุณมาหาผม ผมหมายถึง
ว่าสถาบันของคุณสอนวิธีออกคำสั่งแบบนั้นหรือ?”
สวี่คังตกตะลึงชั่วครู่เมื่อเขาได้ยินซูผิงพูดถึงอสูรที่ดูน่ากลัวของเขา
ว่า “คู่หูตัวน้อย” สวี่คังเคยชินกับพวกมัน แม้ว่าเขาจะตระหนักถึง
รูปลักษณ์ที่น่ากลัวของพวกมัน ซึ่งเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะกับผู้หญิง
ถึงกระนั้นซูผิงไม่สนใจสิ่งนี้
สวี่คังตอบขณะที่ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อด้วยความลำบากใจ “ผม
แค่อยาก…สู้กลับ ผมไม่ได้คิดให้รอบคอบ”
“นั่นคือปัญหา” ซูผิงตอบหน้าตาเฉย “คุณอยากทำให้ผมกลัว อสูร
ของคุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร ทั้งคู่จึงมาหาผม แต่คุณไม่เคยรู้เลยว่า
นั่นคือการต่อสู้ที่คุณจะชนะได้หรือเปล่า ในใจของคุณ คุณคาดหวัง
ชัยชนะทั้ง ๆ ที่คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลย นั่นเป็นความโง่ล้วน ๆ”
สวี่คังทำตัวไม่ถูก เมื่อฟังคำพูดของซูผิง เขารู้ว่าซูผิงพูดถูกทุกอย่าง
ฉันจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปได้ไหม ถ้าฉันจริงจังกว่านี้
ความคิดดังกล่าวคงอยู่เพียงชั่ววินาที เมื่อสวี่คังจำได้ว่าซูผิงโยน อสูร
บึงน้ำ ออกไปไหลายเมตรด้วยมือข้างเดียว และวิธีที่เขาปล่อยมังกร
คำรามโดยใช้ร่างของมนุษย์
ผู้ชายคนนี้เป็นมนุษย์เหรอ ??
“คุณแพ้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?” ซูผิงถาม “คู่ต่อสู้ของคุณคือใคร?”
“โอ้ อะแฮ่ม! ผมไม่เคยแพ้ครับ ผมติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของ
สถาบันแอรีสเสมอ!”
ซูผิงมองเขาอย่างสงสัย
“ผมพูดจริง!”
สวี่คังกำลังพูดความจริง แม้ว่าเขาจะแพ้การต่อสู้ แต่เขาก็ต้องฝึกฝน
ทั้งวันทั้งคืนเพื่อฟื้นสภาพ จนกระทั่งเขาได้พบกับซูผิง
“คุณดูมั่นใจมาก แล้วทำไมคุณถึงไม่เป็นอันดับหนึ่งในสถาบันของ
คุณ”
“ผม…”
จี้ใจดำ
“บอกผมเกี่ยวกับการแข่งขันที่ล้มเหลวของคุณ เพื่อให้ผมรู้ว่าจะช่วย
คุณยังไง?”
สุดท้ายสวี่คังก็เริ่มอธิบายการต่อสู้ที่เขาแพ้เมื่อหลายเดือนก่อน เขา
ขึ้นไปเป็นอันดับ 2 ในการจัดอันดับวันนั้น
ซูผิงฟังเรื่องราวด้วยท่าทางแปลก ๆ เพราะสวี่คังสามารถชนะการ
แข่งขันนั้นได้อย่างแน่นอน
“คุณเพิ่งพูดว่า คุณบอกให้อสูรบึงน้ำระดับหกสู้กับปีกแผดเผาระดับ
หกซึ่ง ๆ หน้า? คุณคิดอะไรอยู่”
สวี่คังคงจะสาปแช่งดัง ๆ ถ้ามีคนพูดกับเขาแบบนี้ แต่เขาจะทำแบบ
นั้นไม่ได้ในตอนนี้
“ไม่เอาน่า! อสูรบึงน้ำของผมปิดผนึกท้องฟ้า ดังนั้นปีกแผดเผาของ
เขาจึงต้องต่อสู้กับมันบนพื้นดิน ผมทำผิดตรงไหน ?? ไม่ใช่ความผิด
ของผมที่นกมีข้อได้เปรียบด้านธาตุ!”
“พูดให้สั้นลงอย่าทำตัวเหมือนเด็ก คุณรู้ทักษะทั้งหมดของอสูรคุณ
หรือเปล่า?”
“ใช่ คุกกระดูก, ไอน้ำกัดกร่อน, เข็มกระดูก, เกราะกระดูกและการ
แปลงวิญญาณโลหิต”
“คุณรู้วิธีใช้ ไอน้ำกัดกร่อน หรือไม่”
“แน่นอนผมรู้ มันสร้างหมอกบางอย่างในสนามเพื่อปิดกั้นการมองเห็น
ของศัตรู แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรกับปีกแผดเผาไม่ใช่หรอ? นก
สามารถล้างทุกอย่างออกได้อย่างง่ายดายด้วยไฟของมัน”
ซูผิงถอนหายใจด้วยความผิดหวัง “ใครบอกคุณว่าทั้งหมดคือการปิด
กั้นสายตา ไอน้ำมีฤทธ์ิกัดกร่อน มันตรงตามชื่อ! คุณรู้ไหมว่าจะเกิด
อะไรขึ้นถ้าคุณหายใจเอาไอนั่นเข้าไป? ร่างกายของคุณจะอ่อนแอลง
จนตาย ไอน้ำกัดกร่อนทำงานได้ดีเมื่อรวมกับการแปลงวิญญาณโลหิต
อสูรทั้งสองอยู่ในระดับหกแน่นอนว่าอสูรบึงน้ำของคุณสามารถทิ้ง
บาดแผลไว้กับ ปีกแผดเผาได้ใช่ไหม? ตราบใดที่ยังมีแผลเปิด อสูร
บึงน้ำของคุณสามารถดึงพลังชีวิตของปีกแผดเผาผ่านไอน้ำเพื่อมาเป็น
ของตัวเองได้ มันสามารถทำให้ศัตรูเสียเปรียบได้ด้วยวิธีนี้มากขึ้น
พลังงานก็ถูกขโมยมากขึ้น”
ขากรรไกรของสวี่คังค้างไปแล้ว
“คุณใช้คุกกระดูกผิดวิธีด้วย มันเป็นมากกว่าทักษะการควบคุม อสูร
ของคุณสามารถใช้คุกเป็นที่กำบังได้ เช่นเดียวกับการอยู่หลังกำแพง
ปราสาท อสูรบึงน้ำมีอิสระที่จะยิงหนามกระดูกข้ามโล่ของคุก
ในขณะที่ ปีกแผดเผาไม่สามารถโต้กลับได้ หากอสูรของคุณเติบโต
ต่อไป มันจะสามารถใช้คุกกระดูกได้สามหรือสี่อันพร้อมกันจนกว่า
ปีกแผดเผาจะไม่มีทางอื่นให้ขยับได้
“ดูสิ คุณมีวิธีจัดการกับปีกแผดเผามากกว่าหนึ่งวิธี ถ้าสิ่งที่คุณบอกผม
ถูกต้อง นกตัวนั้นก็ไม่รู้ทักษะใด ๆ ในการใช้สนามให้เป็นประโยชน์
ในขณะที่อสูรบึงน้ำของคุณรู้วิธีการควบคุมที่สะดวกสบาย”
ในขณะเดียวกันสวี่คังก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน การแปลงวิญญาณ
โลหิตทำงานร่วมกับไอน้ำกัดกร่อน? ใช้คุกกระดูกเพื่อป้องกัน? ใช้
คุกกระดูกหลายอัน?
เขารู้ดีว่าซูผิงพูดถูกทั้งหมด ถ้าอสูรบึงน้ำของเขาใช้เทคนิคดังกล่าว
ในระหว่างการต่อสู้ครั้งนั้น เขาคงชนะ แต่เขายังไม่ได้พิสูจน์ว่า
วิธีการเหล่านี้ใช้ได้ผลหรือไม่
ซูผิงมองผ่านความคิดของเขาและพูดว่า “แค่ทดสอบดู ที่นี้ใหญ่พอ”
สวี่คังพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง เขาสั่งให้อสูรบึงน้ำของเขาเตรียม
ไอน้ำกัดกร่อน และเรียกอสูรขั้นต่ำอีกตัวออกมา ดังนั้นจึงมีเลือดอยู่
ในสภาพแวดล้อม
ผลลัพธ์ที่ได้น่าพอใจอย่างน่าประหลาดใจอสูรบึงน้ำได้ดูดซับพลัง
ชีวิตของอสูรที่อ่อนแอกว่าจากระยะไกล นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับสวี่คัง
ที่เชื่อเสมอว่าไอน้ำกัดกร่อนเป็นแค่การทำให้ศัตรูสับสน สวี่คังไม่ได้
ลองใช้ทฤษฎีอื่นซึ่งเกี่ยวกับ “คุกกระดูกหลายอัน” เพราะเขารู้ว่ามัน
น่าจะเป็นความจริง ซูผิงช่วยเขาเปิดวิธีการใหม่ ๆ
“อืม คุณครับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า ปีกแผดเผาใช้คลื่นไฟ? คุกกระดูก
จะไม่สามารถทำอะไรได้”
“อสูรบึงน้ำของคุณสามารถใช้เกราะกระดูกได้ใช่ไหม?” ซูผิงหมด
ความอดทน “นั่นจะช่วยให้มันอยู่ได้นานขึ้น ปีกแผดเผา จะเคลื่อนที่
ช้าลงเมื่อใช้คลื่นไฟนั่นคือเวลาที่คุณสามารถโจมตีได้อย่างแน่นอน”
สวี่คังพยักหน้าเข้าใจ นั่นหมายถึงการโจมตีปีกแผดเผาในจุดอ่อน
และเปลี่ยนกระแสการต่อสู้
ทันใดนั้นเขารู้สึกท่วมท้นด้วยภูมิปัญญาใหม่ที่เขาสามารถใช้เพื่อ
เอาชนะการต่อสู้ได้มากขึ้น
คุณซูพูดถูก…ฉันไม่ควรแพ้!