ตอนที่ 134 ความป่าเถื่อน
“แกรู้ไหมว่าแกกำลังพูดอยู่กับใคร” ชายผมสั้นกล่าว ใบหน้าของเขา
ขุ่นมัว
ชายหน้าตาดีอีกคนร้อง”ทำไมเราต้องมาเสียเวลาที่นี่? ฉันจะเขียนชื่อ
หวางหม่าฉิวกลับหลัง ถ้าไม่ได้ผลักมันลงนรก!”
“จัดการมัน พวกเราลุยเลย!”
ดวงตาของชายหนุ่มร่างใหญ่เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาไม่สนใจ
เพื่อนของเขา พลังดวงดาวพุ่งออกมาจากเขาอย่างรุนแรง เขาไม่ได้
เคลื่อนไหวใด ๆ และยังมีรูปแบบที่บ่งบอกถึงทักษะการเสริมพลังที่
ถักทอด้วยพลังดวงดาวซึมออกมาจากทั่วร่างกาย ปกคลุมเขาไว้
ความเชี่ยวชาญในการเสริมรูปแบบดวงดาวนี้เพียงพอที่จะแสดงให้
เห็นถึงพลังของนักเรียนเหล่านี้
เนื่องจากแบร์เป็นคนจริงจัง นักเรียนคนอื่น ๆ จึงหยุดล้อเล่น พวก
เขาก้าวถอยหลัง
ซูผิงท้าทายให้พวกเขาโจมตีเขามาพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม นักเรียน
เหล่านั้นไม่คิดทำแบบนั้น มันมีแต่จะทำให้สถาบันพวกเขาเสียชื่อ
และเป็นที่หัวเราะเยาะ
ในขณะที่ไต่หยานเดินกลับมา เขาก็ส่งเสียงอย่างโหดเหี้ยม “สอน
บทเรียนให้เขา!”
คนอื่น ๆ ยืนห่างออกไปประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร พวกเขาเฝ้าดูซูผิง
ด้วยสายตาที่เย็นชา รอให้เขาร้องขอความเมตตา
ซูผิงไม่พอใจที่คนอื่น ๆ ก้าวออกไป เขาได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจน
ทำไมพวกเขาถึงต้องการต่อสู้ทีละคน? นี่มันเสียเวลา!
“มาเลย เข้ามา!” ชายหนุ่มร่างใหญ่คำรามใส่ซูผิงที่ยังคงนิ่ง
ชายหนุ่มร่างใหญ่จะไม่เย่อหยิ่งหากเขาเผชิญหน้ากับเย่ห่าว อย่างไร
ก็ตาม นอกเหนือจากเย่ห่าวแล้วไม่มีคู่ต่อสู้ที่คู่ควร นอกจากนี้เขาก็
พร้อมแล้ว เขาบอกให้ซูผิงเริ่มก่อนเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าการ
เริ่มก่อนจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขา!
ซูผิงทอดสายตามองความเย็นชาเพิ่มขึ้นในดวงตาของเขา “ไสหัว
ไป!”
เขาไม่แม้แต่จะขยับมือ ชายหนุ่มร่างใหญ่ถูกผลักออกไป ชนเข้ากับ
คนที่อยู่ข้างหลังเขา
คนนี้เป็นนักเรียนดวงดาวเช่นกัน เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว หลังจาก
ความตกใจครั้งแรกที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ เขาก็ยกมือขึ้นจับชายหนุ่ม
ร่างใหญ่ไว้ อย่างไรก็ตาม พลังที่หนักหน่วงแผ่กระจายไปทั่วร่าง
ของชายหนุ่มร่างใหญ่ มันทำให้เขาประหลาดใจ
เขาอุ้มชายร่างใหญ่ไว้และถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนที่เขาจะทรงตัว
และหยุดได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ทุกคนเฝ้าดู แต่ไม่มีใคร
เห็นว่าซูผิงทำได้ยังไง
“นี่มันอะไร…?”
พวกเขาทั้งหมดยืนงง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา การแสดงออกของลั่วเฟิงเทียนยังไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ในขณะนี้ ใบหน้าของเขากลับแข็งทื่ออย่างประหลาด ไม่นานมี
บางอย่างเข้ามาในใจที่ทำให้เขากลัว แต่เขาก็ยกเลิกความคิดนั้นไป
อย่างรวดเร็ว
เหนือสิ่งอื่นใด ซูผิงดูเด็กมาก
นักเรียนคนไหนที่สามารถไปถึงขั้นนั้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย?
หากนักเรียนสามารถทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ นักเรียนคนนั้นก็คงสามารถ
คว้าแชมป์ ของลีกนักรบอสูรระดับโลกโดยไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขัน
ใด ๆ !
ด้วยความตกตะลึง ชายหนุ่มร่างใหญ่จ้องมองซูผิงที่อยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว แต่ตอนนี้อยู่ห่างออกไป 10 เมตร ชายร่างใหญ่
ไม่เห็นว่าซูผิงลงมือใด ๆ เช่นกัน ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เขารู้สึก
ถึงสภาวะไร้น้ำหนัก เมื่อได้สติ เขาก็ไม่มีที่ให้ยึดเกาะ เขาทำได้แค่
มองร่างตัวเองลอยไปข้างหลัง
ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนของเขาจับเขาไว้ เขาคงอับอาย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดชายหนุ่มร่างใหญ่ก็รู้สึกได้ว่าเท้า
ของเขาแตะพื้นแล้ว เขายังคงตกตะลึงเพราะการโจมตีของซูผิงนั้น
แปลกประหลาดอย่างที่สุด
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ไม่ใช่นักเรียน
ทั่วไปอย่างที่พวกเขาคิด
“ฉันไม่รู้ว่านอกจากเย่ห่าวแล้ว เรายังได้พบกับคนที่เก่งกาจแบบนาย
ได้ในสถาบันฟีนิกซ์” ชายร่างใหญ่ยืดตัว แทนที่จะถอย เขากลับลุก
โชนไปด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้ เลือดของเขาเดือดพล่าน
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและพื้นก็สั่นสะท้าน พื้นที่อสูรเปิดขึ้น
ต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว หมีกรงเล็บทองคำลงสู่พื้น นี่คืออสูรที่มี
สายเลือดระดับแปด ตอนนี้ หมีกรงเล็บทองคำตัวนี้ได้อยู่ในระดับ
ห้าขั้นสูงและค่อนข้างก้าวร้าว!
โฮก! ทันทีที่ หมีกรงเล็บทองคำออกมา มันก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึง
ความโกรธเกรี้ยวของเจ้านายมันหมีกรงเล็บทองคำร้องตะโกนใส่
ซูผิง
เสียงคำรามเต็มไปด้วยความโกรธและการคุกคาม เสียงคำรามของ
หมีเป็นทักษะการยับยั้ง อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้ยังสามารถข่มอสูร
ระดับเดียวกันได้ด้วย
เสียงคำรามนี้ดังและชัดเจน ซูผิงรู้สึกได้ว่าบ่อเลือดที่เงียบสงบภายใน
ตัวเขาถูกรบกวนเล็กน้อย สิ่งที่เขารู้สึกในสนามบ่มเพาะถูกปลุกขึ้นมา
ความรู้สึกบ้าคลั่งและการฆ่าที่ปราศจากการยับยั้ง
เขาจะไม่สนใจความตาย หรืออันตราย แค่ฆ่า!
สายตาของเขาเปลี่ยนไป
แทนที่จะคงสภาพเฉยชา สายตาของเขากลับเปลี่ยนไปเหมือนตอน
อยู่ที่สนามบ่มเพาะ
เย็นชา กระหายเลือด โหดร้ายและไม่แยแส
ราวกับว่าดวงตาคู่นั้นกำลังเหยียดหยามทุกสิ่งมีชีวิต
หมีกรงเล็บทองคำที่เพิ่งคำรามเสร็จสบตากับซูผิง ความโกรธในจิตใจ
ถูกบางสิ่งบางอย่างตรึงไว้ ความรู้สึกอันตรายที่ไม่อาจบรรยายได้ ทำ
ให้หมีกรงเล็บทองคำรู้สึกหนาวสั่น
หมีกรงเล็บทองคำรู้สึกถึงอันตรายมากจนอยากจะหันหลังหนีไป
พร้อมเจ้านายมัน!
ในขณะที่หมีกรงเล็บทองคำยังคงนิ่งอยู่ ซูผิงก็ขยับตัว
เขาไม่ได้เรียกอสูรใด ๆ เขาเหยียบลงบนพื้นและดีดตัวเองออกไป
เหมือนปืนใหญ่ขนาดเท่ามนุษย์ เขาเร็วมากจนความเร็วของเขาเทียบ
ได้กับอสูรระดับห้าที่เด่นด้านความเร็ว!
ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ซูผิงมาถึงหน้าหมีกรงเล็บทองคำ
หมีกรงเล็บทองคำอยู่ใกล้แค่เอื้อม!
ใบหน้าของพวกเขาแทบจะชนกัน
คนหนึ่งเป็นคนหน้าตาดี ส่วนอีกฝ่ายมีปากหมีขนาดใหญ่ เต็มไป
ด้วยเขี้ยวแหลมคม ใคร ๆ ก็เชื่อว่ามนุษย์ควรเป็นฝ่ายที่กลัว
กระนั้น ความกลัวกลับฉายบนหน้าของหมี คมเขี้ยวเหล่านั้นกำลัง
สั่น
ปัง! ซูผิงต่อยหมัดทันที
การเคลื่อนไหวของเขารุนแรง ขณะที่เขาชกเข้าที่ท้องของหมีกรง
เล็บทองคำ เสียงแตกของกระดูกหมีกรงเล็บทองคำก็ดังขึ้น อวัยวะ
ภายในมันแตกร้าว
ท่ามกลางการต่อสู้ที่แตกต่างกันหลายครั้ง ซูผิงค่อนข้างคุ้นเคยกับ
โครงสร้างทางกายภาพของอสูร ด้วยการชกครั้งเดียว เขาก็ขย้ำหมี
กรงเล็บทองคำอย่างรุนแรง ทำให้มันพิการ
แต่นี่ไม่ใช่การโจมตีที่ร้ายแรง หากเขาคิดฆ่า ซูผิงจะใช้มือของเขา
เจาะใต้คอของหมีกรงเล็บทองคำ เล็บของเขาคมยิ่งกว่ามีด เขา
สามารถฉีกหนัง แทงเข้าที่หัวของฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยเล็บของเขา
เขาเอามือลง หมีกรงเล็บทองคำไม่ได้ล้มลง มันยังสั่นอยู่ เขาใช้
ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ซูผิงเดินผ่านหมีกรงเล็บทองคำ เดินเข้าหา
ชายร่างใหญ่ ชายร่างใหญ่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นด้วยความ
กลัวชายร่างใหญ่จึงยกมือขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง
แต่ซูผิงเร็วกว่า
โดยใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ซูผิงคว้าที่คอ จากนั้นก็เหวี่ยงเขา
ออกไป
บรรดาผู้ที่เห็นต่างตกใจ ซูผิงเอาชนะหมีกรงเล็บทองคำระดับห้าได้
ด้วยมือเปล่า?
หมีกรงเล็บทองคำเป็นอสูรที่รู้จักกันดีในเรื่องความดุร้ายและการ
ป้องกันที่แข็งแกร่ง ในบรรดาอสูรระดับเดียวกันหมีกรงเล็บทองคำ
ถือได้ว่าน่าทึ่ง ชายที่ชื่อว่าแบร์ทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการ
ฝึกฝนหมีทองคำตัวนี้ แม้ว่าหมีกรงเล็บทองคำจะอยู่ในระดับห้า แต่
ก็สามารถแข่งขันกับอสูรที่อยู่ในระดับหกได้!
อสูรเช่นนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีด้วยหมัดเดียวของซูผิงได้ยังไง?
เมื่อกี้มันคืออะไร?
วิธีการต่อสู้นี้แปลกมาก
โดยทั่วไปแล้วนักรบอสูรควรซ่อนตัวอยู่หลังอสูรเพื่อช่วยเหลือพวก
มันใช่ไหม? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นักรบอสูรสามารถเอาชนะอสูรด้วย
ตัวเองได้!
ลั่วเฟิงเทียนยืนอยู่ด้านข้างด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้
มุมมองโลกเขาเปลี่ยนไป ไม่มีนักเรียนทั่วไปที่สามารถเอาชนะหมี
กรงเล็บทองคำระดับห้าได้ด้วยมือเปล่า!
ลั่วเฟิงเทียนพบว่าสิ่งนี้คงยอมรับได้หากซูผิงเป็นนักรบอสูรระดับ
แปด แต่ดูเหมือนว่าซูผิงจะอายุเท่ากับพวกเขา…ไม่มีทางที่เขาจะ
เป็นนักรบอสูรระดับแปด!
เป็นไปได้ไหมที่ซูผิงจะเป็นหนึ่งในนักรบอสูรที่ถนัดใช้ร่างกาย ซึ่งมี
น้อยและไม่เป็นที่นิยม?
แต่นักรบอสูรด้านนี้ตายไปหมดแล้วนี่?
มีเวลาเพียงเล็กน้อยสำหรับลั่วเฟิงเทียนที่จะจมอยู่กับความคิดของ
เขา แม้แต่แบร์ก็ยังพ่ายแพ้ต่อซูผิง ลั่วเฟิงเทียนต้องแก้ปัญหาด้วย
ตัวเอง มิฉะนั้นพวกเขาจะรู้สึกละอายใจเกินกว่าที่จะเข้าไปสถาบัน
ฟีนิกซ์ หากพวกเขาพ่ายแพ้นอกประตูเมื่อพวกเขาได้รับเชิญให้เข้า
ร่วมการแลกเปลี่ยนทางวิชา มันจะน่าอับอาย
หวีด!
ลั่วเฟิงเทียนปลดปล่อยพลังดวงดาวที่เขาปกปิดเอาไว้ เขาปลดปล่อย
พลังเต็มที่ เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังอย่างซูผิง การปิดบังต่อไป
จะหมายถึงการฆ่าตัวตาย
เมื่อเขาปลดปล่อยพลังดวงดาวออกมาอย่างเต็มที่ คนอื่น ๆ ที่อยู่
รอบตัวเขาก็ตกใจ
ความแข็งแกร่งของพลังดวงดาวของเขามาถึงระดับหก!
พวกเขามาจากสถาบันเดียวกัน และลั่วเฟิงเทียนมาถึงระดับหกแล้ว!!
อีกหนึ่งระดับ ลั่วเฟิงเทียนก็จะกลายเป็นนักรบอสูรขั้นสูง !!
ด้วยความแข็งแกร่งระดับหก ลั่วเฟิงเทียนสามารถเทียบเคียงได้กับ
นักสำรวจขั้นสูงบางคน!
จำนวนของนักรบอสูรขั้นสูง … มีเพียงเล็กน้อยในเมืองหลัก
สำหรับนักรบอสูรระดับแปดนั้น มีอยู่แค่หลักสิบ!