Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 139

เรื่อง ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 139

ตอนที่ 139 แพ้กันหมด
“อาจารย์ครับมีการแข่งขันอสูรที่สถาบัน พวกเราต้องต่อสู้กับคน
จากสถาบันดาบคลั่ง แต่การแข่งขันของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าคุณ
ต้องการคุณสามารถไปชมได้พรุ่งนี้ พวกเขากำหนดเวลาการแข่งขัน
ช้ากว่าเดิม ถ้าผมจำไม่ผิดเกมของเย่ห่าวมีกำหนดการในวันพรุ่งนี้
เช่นกัน”
ดังนั้นรายการของวันนี้จึงเสร็จสิ้นแล้ว แล้วทำไมมีนักเรียนมาน้อย
จัง? ซูผิงสงสัย “มีอะไรอีกบ้างที่ผมควรจะรู้”
“ไม่ครับอาจารย์”
ซูผิงขมวดคิ้วและบอกลานักเรียน
ทางร้านต้อนรับลูกค้าอีกสองสามรายที่มารับอสูรหรือนำอสูรมา
ฝึกฝน เหมือนเช่นเคยซูผิงรอจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง ส่งหุ่นฝึกซ้อมไปดูแล
อสูรจำนวนมากและกลับบ้าน
มีเพียงซูหลิงเยวี่ยที่รออยู่ในห้องนั่งเล่นในวันนี้ ไม่เห็นแม่ของพวก
เขา
“แม่ไปไหน…”
ซูหลิงเยวี่ยมองไปที่ซูผิงและหยุดการบ่มเพาะของเธอ “นายมาช้า
ฉันเลยบอกให้แม่นอนก่อน อาหารเย็นของนายอยู่ในครัว เอาเข้า
ไมโครเวฟเอง”
ซูผิงพยักหน้า
ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ค่อยแย่ หลังจากยกอาหารมาที่โต๊ะแล้ว ซูหลิง
เยวี่ยก็เอาน้ำมาให้ “นายยังมี…มังกรเพลิงนรกอยู่หรือเปล่า?” ซูหลิง
เยวี่ยถามก่อน
“อะไร เธอก็อยากดูเหมือนกันเหรอ?”
นั่นเป็นสิ่งที่ซูหลิงเยวี่ยต้องการอย่างแท้จริง แต่เธอไม่รู้สึกเช่นนั้น
อีกต่อไปเมื่อซูผิงพูดแบบนั้น
“ไม่ ฉันไม่สนใจ ก็แค่มังกรเพลิงนรก มีรูปภาพมากมายบนอินเทอร์เน็ต”
“โอเค”
ซูหลิงเยวี่ยกลอกตา “วันนี้นายได้ยินเกี่ยวกับการแข่งขันอสูรที่
สถาบันไหม?”
ซูผิงพึมพำบางอย่างโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากอาหารของเขา
“…ฉันมีการแข่งขันในบ่ายวันพรุ่งนี้ นายจะมาดูไหม”
“หืม? เธอไม่ใช่นักเรียนชั้นปี 1 เหรอ?”
“เป็นปี 1 แล้วทำไม? ฉันเป็นแชมป์ ของปีนะ!”
“แล้วการจับคู่เป็นยังไง เพื่อการศึกษา?”
“มันเป็นการแข่งขันเพื่อกระชับมิตรระหว่างสถาบัน!”
“อืม อืม”
ซูหลิงเยวี่ยยอมแพ้และเดินขึ้นไปชั้นบน
“เดี๋ยวก่อน” ซูผิงเรียกเธอ
“ต้องการอะไร??”
“มานี่” ซูผิงกวักมือเรียก ซูหลิงเยวี่ยขมวดคิ้วและตัดสินใจฟังเขา แม้ว่า
เธอจะไม่ต้องการฟัง “จะพูดอะไรก็พูดมาเร็ว ๆ”
“เฮ้ออ อย่างน้อยช่วยเป็นมิตรกว่านี้หน่อยได้ไหม?”
ซูผิงส่ายหัวและส่งพลังดวงดาวออกมาเป็นกำแพงน้ำรอบตัวเขา
จากนั้นมันก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นทรงกลมโปร่งแสง
ลอยอยู่ตรงหน้าเขา
“นั่นอะไร??” ซูหลิงเยวี่ยเบิกตากว้างเมื่อเห็นทรงกลม
“นี่คือพรแห่งสายน้ำเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกัน” ซูผิงยื่นมัน
ให้น้องสาว
“เธอสามารถใช้มันได้ในระหว่างการแข่งขัน เสร็จแล้วค่อยเอามาคืน”
ซูผิงได้สิ่งนี้มาโดยใช้แต้มที่เขาได้รับระหว่างการเดินทางไปรอยแยก
มิติ ของชิ้นนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะเบี่ยงเบนการโจมตีในระดับแปด
หรือต่ำกว่า ถึงกระนั้นมันก็มีประโยชน์เพียงเล็กน้อยสำหรับเขา
เพราะเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ร้าน
“เครื่องมือป้องกัน?” ซูหลิงเยวี่ยหมุนบอลน้ำด้วยความกลัว “นายได้
สิ่งนี้มาได้ยังไง?”
“จะถามทำไม? ถ้าไม่อยากได้ก็เอาคืนมา”
ทั้งคู่ไม่รู้สึกกังวลกับการสนทนาที่ “ไม่เป็นมิตร” ของพวกเขา เนื่องจาก
มันเป็นอย่างนี้ทุกวัน
ซูหลิงเยวี่ยยิ้มเล็กน้อย “เนื่องจากนายตั้งใจให้ของขวัญกับฉัน ฉันก็
จะยอมรับมัน”
“ฉันให้ยืม เป็นเวลาหนึ่งวัน”
“ฮึ่ม ทำอยากกับฉันอยากได้อย่างงั้นแหละ”
แน่นอนว่าซูหลิงเยว่จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอไม่เคยเห็นอะไรที่น่าสนใจ
แบบนี้มาก่อน และเธอก็อยากจะลองเล่น “เอ่อ ฉันจะใช้มันยังไง?”
ซูผิงมองเธออย่างหมดความอดทน แต่ก็อธิบายวิธีใช้อย่างถูกต้องให้
ซูหลิงเยวี่ยทำตามคำแนะนำ ส่งพลังดวงดาวของเธอเข้าไปในนั้น
ในไม่ช้าลูกกลมก็ขยายตัวเป็นชั้นบาง ๆ ที่สร้างจากธาตุน้ำ ซึ่ง
เกาะติดกับผิวหนังของเธอราวกับครีมกันแดด
ในตอนแรกเธอรู้สึกหนาว แต่ในไม่ช้าร่างกายของเธอก็อุ่นขึ้นจน
เธอไม่หนาวอีกต่อไป ม่านน้ำนั้นแทบจะไม่มีน้ำหนัก และไม่กีด
ขวางการไหลเวียนของอากาศ
ซูผิงตัดสินใจมอบให้เธอเพราะเหตุการณ์ในวันนี้ เขากลัวว่า
“นักเรียนคู่แข่ง” เหล่านั้นจะระบายความแค้นกับนักเรียนคนอื่น ๆ
ของสถาบันฟีนิกซ์ ซึ่งหมายความว่าน้องสาวของเขาจะไม่ปลอดภัย
“ฝันดี” ซูผิงล้างจาน ไปที่ห้องของเขาโดยไม่พูดอะไรอีก
ซูหลิงเยวี่ยต้องการถามเขาเกี่ยวกับความเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นกะทันหัน
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ทำ
เช้าวันรุ่งขึ้นซูหลิงเยวี่ยและซูผิงทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ และแยก
ย้ายกันไปเช่นเคย
ลูกค้าที่รอคอยบางคนดูเหมือนจะรีบมากในวันนี้ หลังจากขอบคุณ
ซูผิงสำหรับการพัฒนาอสูรของพวกเขา พวกเขาก็รีบตรงไปสถาบัน
ทันทีโดยไม่หันกลับมามอง
ถังหลางซึ่งรออยู่ที่ท้ายแถวเห็นนักเรียนเดินออกไป ถามด้วยท่าทาง
แปลก ๆ “คุณซูทำไมคนเหล่านี้ถึงเรียกคุณว่าอาจารย์? คุณสอนพวก
เขา?”
“ใช่ คุณเอาอสูรปีกมาฝึกใช่ไหม?”
ถังหลางพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ “เดี๋ยวก่อนคุณเป็นอาจารย์
หรือ? แต่…คุณไม่ได้แก่กว่าผมใช่ไหม?”
“คุณหมายถึงอะไร? คุณก็ดูแก่อยู่นะ ผมอายุแค่ 18 ปี ยังมีช่วงชีวิตที่
สดใส”
ถังหลางตรวจสอบใบหน้าของซูผิงอย่างระมัดระวัง เดี๋ยวก่อนเขา
บอกว่าฉันแก่แล้วหรอ ?? ฉันอายุ 21 ยังไม่แก่!
“มาเลย จ่ายก่อน” ซูผิงโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “100,000
เหมือนเดิม”
ถังหลางทำการโอนเงินในขณะที่ใบหน้าของเขากระตุกด้วยความอึด
อัด อย่างน้อยเขาก็ยอมรับว่าบริการของซูผิงนั้นคุ้มค่า หลังจากการ
ฝึกฝนทั้งหมด อสูรปีกของเขามีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับอสูรที่ดี
ที่สุดของเขา
ก่อนหน้านี้เขาคิดจะแบ่งปันที่อยู่ของร้านกับเพื่อน ๆ แต่ต่อมาก็
ตัดสินใจที่จะไม่ทำหลังจากเห็นว่าสถานที่แห่งนี้มีคนหนาแน่นแค่
ไหนในแต่ละวัน
ถ้าทำได้เขาคงจองทั้งร้านไว้ใช้เองแล้ว
ในขณะนั้น ถังหลางตัดสินใจรอจนกว่าอสูรของเขาจะได้รับการฝึกฝน
เพียงพอก่อนค่อยบอกคนอื่นถึง “การค้นพบ” ครั้งใหญ่ของเขาให้กับ
รุ่นพี่และอาจารย์ของเขา ในตอนนั้นเขาคงแซงหน้าทุกคนแล้ว
ซูผิงพาอสูรปีกไปที่ห้องอสูร เรียกหุ่นฝึกซ้อมมาดูแลและเข้าสู่ดินแดน
ราชามังกรอีกครั้งเนื่องจากมีอสูรไม่มากนักที่จะไปที่นั่นในช่วงชั่วโมง
นี้ของวัน
แม้ว่าจะไม่ใช้เม็ดยาพลัง แต่การต่อสู้และการสำรวจที่เขาดำเนินไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังคงเพิ่มศักยภาพพลังดวงดาวของเขาด้วยความเร็วที่น่า
ทึ่ง ในขณะนี้เขาเกือบจะอยู่ในระดับที่สี่แล้ว
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน เขานึกถึงการแข่งขันของซูหลิงเยวี่ยและ
ข้อความของตงซงหมิงได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโดย
ไม่เต็มใจ ระหว่างทางเขามุ่งหน้าไปที่ร้านขายของชำเพื่อซื้อของที่
จะใช้ในภายหลัง
พื้นที่เสียหายด้านหน้าสถาบันได้รับการแก้ไขแล้ว แม้ว่านี่จะไม่มี
อะไรพิเศษเนื่องจากสถาบันร่ำรวยพอที่จะจ้างช่างซ่อมส่วนตัวได้
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหารองผู้อำนวยการ “สวัสดี? คุณ
ตง ตอนนี้ผมอยู่ที่ประตูของสถาบัน ผมจะหาคนที่คุณพูดถึงได้ที่
ไหน?”
ในตอนนี้ตงซงหมิงได้ยินไม่ค่อยชัด ดังนั้นชายชราจึงพูดเสียงดัง
เขาฟังดูไม่พอใจอะไรบางอย่างเช่นกัน “เราอยู่ที่ สนามหนึ่ง มาเร็ว
รอบชิงชนะเลิศกำลังจะเริ่มขึ้น!”
รอบชิงชนะเลิศซู่หลิงเยวี่ยบอกฉันหรือเปล่าว่าการแข่งขันของเธอ
เป็นเวลาประมาณนี้? หากรอบชิงชนะเลิศกำลังเริ่มขึ้น แสดงว่าเธอ
แข่งจบแล้วใช่ไหม?
เขาสับสน ซูผิงปั่นเร็วขึ้น โชคดีที่เขารู้จักเส้นทางรอบ ๆ สถาบันใน
ตอนนั้น สนามหนึ่งเป็นสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในสถาบันทั้งหมดซึ่งมี
ขนาดใหญ่พอที่จะรองรับผู้คนได้ 100,000 คน
ไม่เหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้คือเขาไม่ได้ยินเสียงเชียร์หรือเสียง
โห่ร้องใด ๆ ที่มาจากอาคาร แต่กลับเงียบ มีเพียงเสียงปะทะกันเป็น
ครั้งคราวที่บ่งบอกว่ามีคนกำลังต่อสู้กัน
เขาเข้าไปในอาคารและเห็นที่นั่งเกือบทั้งหมดถูกจอง ถึงกระนั้น
บรรยากาศที่น่ากลัวในสนามก็ไม่ได้สะท้อนจำนวนผู้ชมอย่าง
เหมาะสม
เขามองไปข้างหน้าและเห็นมังกรหลุมดำที่คุ้นเคยกำลังแสดงความ
โดดเด่นบนเวที ในขณะที่มันตะครุบบาซิลิสก์สายฟ้าของเย่ห่าวไว้
ในกรงเล็บ
เห็นได้ชัดว่าการแข่งขันรอบสุดท้ายเกือบได้ข้อสรุปแล้ว
ซูผิงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของเย่ห่าวมากนัก เนื่องจาก
มังกรหลุมดำนั้นแข็งแกร่งกว่าบาซิลิสก์สายฟ้าในหลาย ๆ แง่มุม
“เฮ้” เขาถามผู้คนที่อยู่ใกล้เขาที่สุด
“ซูหลิงเยวี่ยแข่งจบแล้วหรอ?”
ชายคนดังกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยไม่หันมามองเขา “เสร็จ
แล้ว! ทุกคนจบแล้ว! ให้ตายเถอะ!”
“ผลลัพธ์เป็นยังไง?”
“หมายถึงอะไร ‘ผลลัพธ์’ ?? ทำไมพวกเราถึงต้องแข่งกับพวกโรค
จิตนี่ด้วย? นี่มันบ้าชัด ๆ !”
ซูผิงขมวดคิ้วและตรวจสอบว่าชั้นเรียนของซูหลิงเยวี่ยนั่งอยู่ตรงไหน
แต่กลับไม่พบเธอ
เธอต้องไม่เป็นไรด้วยพรแห่งสายน้ำที่ปกป้องเธอสิ?
เพื่อให้แน่ใจ เขามุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อถามถึงน้องสาวของเขา

อ่านตอนอื่นๆของ ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store คลิกเลย

แฟนเพจ