Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 143

เรื่อง ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 143

ตอนที่ 143 นักรบอสูรกิตติมศักดิ์
การแสดงโลดโผนของเฟยหยานป๋อดึงดูดทุกคนในสนาม ทันทีที่
พวกเขาจำเขาได้ว่าเป็นหนึ่งในอาจารย์จากสถาบันดาบคลั่ง ในไม่ช้า
พวกเขาก็เริ่มหงุดหงิดเพราะพวกเขาคิดว่าเฟยหยานป๋อกำลังล้อเลียน
พวกเขา
ลั่วเฟิงเทียนยังไม่ได้ลงจากเวที ในขณะนี้เขารีบวิ่งไปหาเฟยหยาน
ป๋อ “อาจารย์ต้องการอะไรเหรอครับ?”
ลั่วเฟิงเทียนคิดว่าอาจารย์ของเขามาเพื่อแสดงความยินดีเป็นการ
ส่วนตัว แต่นี่ไม่ได้อธิบายถึงท่าทางที่ก้าวร้าวของเขา
เฟยหยานป๋ อยิ้มให้นักเรียนคนโปรดของเขา “อาชญากรที่ทำร้าย
เพื่อนของนายเมื่อวานนี้ นายจำเขาได้ใช่ไหม? เขาอยู่ที่นี่ตอนนี้ นาย
ควรลงไปและดูฉันชำระหนี้”
“เขามาแล้วหรอ??” ลั่วเฟิงเทียนไม่เคยสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นนอก
เวที เขามองไปที่บริเวณที่สถาบันของเขารออยู่ทันทีและเห็นซูผิง
ท่ามกลางฝูงชน
ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ลั่วเฟิงเทียนไม่ได้เกลียดซูผิงในสิ่งที่เขาทำ
ตรงกันข้ามเขาค่อนข้างเคารพในอำนาจของซูผิง การได้พบกับคู่
ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ลั่วเฟิงเทียนมีความกระตือรือร้นที่จะแข็งแกร่ง
ขึ้น เขาต้องการฝึกให้หนักขึ้นและอาจจะมีการแข่งขันกับซูผิงในสัก
วันหนึ่ง”อาจารย์…ผมจะเอาชนะเขาด้วยมือของผมเองในวันหนึ่ง
อาจารย์ไม่ต้องกังวลกับมัน”
เฟยหยานป๋อมองเขาอย่างดุร้าย “นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ระหว่างนายสอง
คนอีกต่อไป ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะขอโทษเรา เขายังดู
หมิ่นสถาบันของเราต่อหน้าทุกคนอย่างโจ่งแจ้ง ฉันต้องสอนบทเรียน
ให้เขาว่าเขาควรรู้จักเจียมตัว”
ลั่วเฟิงเทียนสังเกตเห็นว่าอาจารย์ของเขาโกรธจริง ๆ เขาได้แต่ถอน
หายใจในใจ
เมื่อเห็นเฟยหยานป๋อพร้อมแล้ว ซูผิงจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวผมกลับมา”
เขาพยักหน้าให้ตงซงหมิงและลั่วกู่เสวี่ยก่อนที่จะปล่อยพลังดวงดาว
ยกร่างของเขาขึ้นจากพื้น
“เขาบินได้ ??” ทั้งตงซงหมิงและโจวหยุนชานที่เพิ่งนั่งลงลุกขึ้นยืน
อีกครั้ง จ้องกลับไปที่ซูผิงด้วยความประหลาดใจ
แม้แต่พลเรือนทั่วไปในโลกนี้ก็ควรรู้ว่า “การบิน” เป็นความสามารถ
ที่ “ได้รับสิทธิพิเศษ” สำหรับนักรบระดับเก้าเท่านั้น ถ้ามีใครบินอยู่
เหนือเมืองโดยไม่ใช้เครื่องมือหรือเล่ห์กล พวกเขาก็มีบรรดาศักด์ิเป็น
นักรบอสูรกิตติมศักด์ิ หรืออาจจะเป็นนักรบอสูรในระดับตำนาน
นักรบอสูรได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียง เมื่อเขาหรือเธอ
เรียนรู้วิธีใช้พลังดวงดาวอย่างอิสระเพื่อควบคุมพลังงานภายนอกใน
สภาพแวดล้อม ณ จุดนี้การบินจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องฝึก
มากมายเหมือนเด็กฝึกเดิน
แต่การบินเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้อย่างแน่นอนและไม่ต้องสงสัย
เลยว่าไม่สามารถทำได้สำหรับนักรบอสูรธรรมดา
ตงซงหมิงและโจวหยุนชาน ในฐานะคนมีอายุมากสุดสองคนใน
ปัจจุบันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนอายุน้อยมากที่มีคุณสมบัติเป็น
นักรบอสูรกิตติมศักด์ิ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถหาคำอธิบาย
ที่ดีกว่านี้เพื่อระบุสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของซูผิงได้
ถัดจากรองอาจารย์ใหญ่ อาจารย์และนักเรียนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ตระหนัก
เช่นเดียวกัน ขากรรไกรของพวกเขาค้างไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่ม
ของไต่หยานที่ยังมีสีหน้าเยาะเย้ยซูผิงเมื่อวินาทีก่อน
ทั้งสนามเงียบสนิทอีกครั้ง
ซูผิงไม่ได้ดูสะดุดตาเหมือนที่เฟยหยานป๋ อทำก่อนหน้านี้ เพราะเขา
ลอยอยู่เหนือพื้นเพียงไม่กี่เมตร แต่…มันคือการบินอยู่ ไม่ใช่กระโดด
ไม่ใช่โฉบเพียงชั่วคราว ซูผิงลอยอยู่ในอากาศอย่างต่อเนื่อง
ซูหลิงเยวี่ยที่เพิ่งออกจากห้องพยาบาลและเห็นพื้นที่เวทีรู้สึกว่าหัว
ของเธอหมุนอีกครั้ง ภาพที่เธอเห็นคือพี่ชายของเธอนั้นเป็นนักรบ
อสูรกิตติมศักด์ิ? พี่ชายของฉัน? แต่เขาอายุแค่ 18 ปี!
ที่กลางเวที รอยยิ้มเย้ยหยันของเฟยหยานป๋ อถูกแทนที่ด้วยความตกใจ
อย่างแท้จริง ขณะที่ลั่วเฟิงเทียนแทบเซตกเวที
ลั่วเฟิงเทียนเพิ่งคิดว่าเขาจะไปถึงระดับที่ซูผิงอยู่ได้ด้วยความพยายาม
แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาความฝันนั้นก็ถูกทำลายลงอย่างไร้ความปราณี
สำหรับเขา การไปถึงระดับของนักรบอสูรเช่นนั้นคือเป้าหมายใน
ชีวิตของเขา นอกเหนือจากจุดนั้นหมายถึงการเป็นนักรบในตำนาน
ซึ่งไม่ใช่ความฝันที่น่าจะเป็นไปได้เพราะมีนักรบแค่ไม่กี่หยิบมือที่
กลายเป็นนักรบระดับตำนานได้
ตุบ
ซูผิงค่อย ๆ ร่อนลงที่อีกด้านหนึ่งของสนามประลอง จุดที่เย่ห่าว
กำลังร้องไห้อยู่บนพื้น
แม้ซูผิงจะชื่นชมความตั้งใจของเย่ห่าว แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่ห่าว
ถึงดูสลดใจขนาดนี้เพียงเพราะการพ่ายแพ้เพียงเล็กน้อย ชื่อเสียงของ
สถาบันฟังดูมีความสำคัญ แต่ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับการมีสุขภาพที่
ดีและยังมีชีวิตอยู่
ในมุมมองของซูผิง ชื่อเสียงก็เหมือนกับเงิน เขาสามารถเสียมันไป
ได้ ตราบใดที่เขายังสามารถดีขึ้นและได้รับมันกลับคืนมาทีหลัง
“ลุกขึ้น” ซูผิงยื่นมือไปหาเย่ห่าว
เย่ห่าวกัดฟันแน่น ขณะที่ผลการแข่งขันน่าเศร้ายังคงตามหลอกหลอน
เขา แทนที่จะยื่นมือรับความช่วยเหลือจากซูผิง เขาลุกขึ้นนั่งเองด้วย
แขนที่สั่นเทา
ไม่ไกลจากเขา บาซิลิสก์สายฟ้าของเขาแทบไม่หายใจ เกล็ดส่วนใหญ่
ถูกลอกออกแล้วซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่โดยรอบ
สำหรับอสูรร้ายโหดเหี้ยมที่เป็นตัวการ…ลั่วเฟิงเทียนได้เรียกมัน
กลับมาแล้ว
เย่ห่าวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนในขณะที่ฮึดฮัด ก่อนที่เขาจะเรียกบาซิลิสก์
สายฟ้าเข้าไปในพื้นที่อสูรของเขาเช่นกัน
“ผมขอโทษ” เขาพูดโดยไม่มองซูผิง
เอาเถอะ คนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะพวกนี้ไม่ต้องร้องไห้เหมือนเด็ก
หรือไง? ซูผิงบ่นในใจจากนั้นเขาก็วางมือบนไหล่ของเย่ห่าว
“มันก็แค่ไม่ถูกคู่ มันไม่ใช่ว่าคุณตายไปแล้ว แค่ทำตัวให้ดีขึ้นและ
กลับมาทวงในสิ่งที่คุณสูญเสียไป ในอนาคต ถ้าคุณต้องการคำแนะนำ
อย่าลังเลที่จะแวะไปที่ร้านของผม เข้าใจไหม?”
ซูผิงหมายถึงอะไรทุกคนน่าจะรู้ดี เย่ห่าวได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อ
จองบริการของเขา แต่ไม่ได้ไปมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์แน่นอน
ว่าเขาต้องการแน่ใจว่าลูกค้าที่ร่ำรวยเช่นนี้มีชีวิตอยู่เพื่อ “ซื้อ” ในวันอื่น
เย่ห่าวยิ้มเล็กน้อย เขาเชื่อว่าซูผิงกำลังปลอบโยนเขาในฐานะอาจารย์
ของสถาบัน
เขามองไปข้างหน้า คาดหวังว่าจะได้เห็นรองอาจารย์ใหญ่และอาจารย์
คนอื่น ๆ ตำหนิเขา แต่เขามองเห็นคนเหล่านั้นอ้าปากค้างไม่ขยับ
ราวกับว่าพวกเขากำลังมีปัญหาในดึงสติกลับมาจากผลลัพธ์ที่ไม่เป็น
ที่ยอมรับ
เย่ห่าวรู้สึกเศร้ามากขึ้นในทันที เขาล้มเหลว เขาไม่สามารถทำตาม
ความคาดหวังของพวกเขาได้
“ออกไปได้แล้ว” ซูผิงกำชับเขา “ไม่งั้นคุณจะได้รับบาดเจ็บ”
“หือ…? เจ็บ?”
ซูผิงชี้ไปข้างหลังเขาด้วยนิ้วหัวแม่มือ “ผู้ชายคนนั้นต้องการสู้กับผม
เราต้องใช้สนาม”
แน่นอนเย่ห่าวจำได้ว่าเฟยหยานป๋อคือใคร และเขาไม่อยากจะเชื่อใน
สิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน
อาจารย์ระดับแนวหน้าของสถาบันดาบคลั่งกำลังท้าทายซูผิง?? ซูผิง
ยอมรับจริง ๆ ! และเขาก็ดูไม่กังวลด้วย !!
เย่ห่าวสังเกตเห็นความเงียบสงบผิดปกติและมองไปรอบ ๆ สนาม
เห็นทุกคนยืนรอดูอยู่ เขารู้สึกราวกับว่าเขาพลาดบางสิ่งที่สำคัญ
นักเรียนทุกคนมองมาในทิศทางของเขาโดยไม่ส่งเสียง แม้ว่าเขาจะ
แพ้นัดชิงชนะเลิศและทำให้สถาบันของเขาผิดหวังก็ตาม

อ่านตอนอื่นๆของ ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store คลิกเลย

แฟนเพจ