Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 149

เรื่อง ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 149

ตอนที่ 149 นักรบอสูรในตำนาน
เฟยหยานป๋ อตกใจกับคำพูดของซูผิง
งูนรก นอนขดตัวสั่นอยู่บนพื้น นี่เป็นความจริงที่ยากจะยอมรับ
สำหรับเฟยหยานป๋อ
เขาต้องลำบากมากกว่าจะได้รับ งูนรก เพียงแค่นั้นมันกลับพ่ายแพ้
ต่อสิ่งที่เป็นเพียงโครงกระดูก มันช่างน่าขันเสียจริง!
แต่ความจริงก็คือความจริง เขาต้องยอมรับมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“นาย…นั่นไม่ใช่โครงกระดูกทั่วไปใช่ไหม?” หลังจากเงียบไปครู่
หนึ่งเฟยหยานป๋ อก็ถาม เขาสังเกตว่าเสียงของเขาแหบแห้ง
ซูผิงมองเขา แต่ไม่พูดอะไรตอบกลับ
เขาไม่จำเป็นต้องบอกข้อมูลที่เกี่ยวกับอสูรของเขา
นอกจากนี้ นี่เป็นคำถามโง่ ๆ ที่เขาไม่ต้องตอบ เฟยหยานป๋ อปาก
เบี้ยวหลังเห็นปฏิกิริยาของซูผิง เขาไม่ได้ถามย้ำ เขาหันกลับมาและ
เรียก งูนรก ที่นอนตัวสั่นและเลือดไหลกลับเข้าไปในพื้นที่อสูร การ
ต่อสู้ครั้งนี้จบลงอย่างรวดเร็ว มีความสามารถที่งูนรก ของเขายัง
ไม่ได้ใช้ แต่เฟยหยานป๋อรู้ดีว่าเขาแพ้แล้ว!
เมื่อไม่มีการคุกคามจาก งูนรก ม่านพลังป้องกันก็ปิดลง
ซูผิงหันหลังกลับและบินออกไปจากเวทีที่สะบักสะบอมนี้
เฟยหยานป๋อเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ขณะที่เขาเฝ้ามองซูผิง
จากไป เฟยหยานป๋ อลังเลที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้ เขาเต็มไปด้วยความ
ขมขื่น ความอิจฉาและความรู้สึกโชคดีกลับกลายเป็นขุ่นเคือง
ซูผิงบินออกจากเวที เย่ห่าวเพิ่งฟื้นจากความตกตะลึง เมื่อเห็นซูผิง
บินก็ทำให้เขาประหลาดใจอีกครั้ง! เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เมื่อซูผิงลงจากเวที นักเรียนก็กลับมามีสติ พวกเขามองเวทีซึ่งเละเทะ
ในขณะที่พวกเขายังตกตะลึง ไม่นานผู้คนก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความ
ตื่นเต้น พวกเขาส่งเสียงเชียร์ซูผิงดังลั่น
เสียงเชียร์ของพวกเขาดังทะลุหลังคา! ซูผิงชนะอีกแล้ว! เขาเอาชนะ
งูนรกได้!
สำหรับนักเรียนหลายคน การบินของซูผิงเป็นเหมือนตำนาน เขาอยู่
ยงคงกระพัน!
เขาเป็นวัยรุ่นอายุไล่เลี่ยกับนักเรียน แต่ถึงกระนั้นความสำเร็จที่เขา
ทำได้ก็เป็นสิ่งที่นักเรียนไม่มีทางเข้าถึง!
ใครควรถูกกล่าวว่าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้?
ซูผิงเป็นคือคนนั้น!
หลายคนสรรเสริญพร้อมกัน “ผู้ชนะ!”
“ผู้ชนะ !!”
“ผู้ชนะ !!!”
ทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวและดังมากจนสถานที่จัดงานสั่นสะเทือน
เสียงของพวกเขาดังขึ้นดังพอที่จะปลุกคนตาย!
ตงซงหมิง, ลั่วกู่เสวี่ยและคนอื่น ๆ ถูกดึงกลับสู่ความเป็นจริงด้วย
เสียงเชียร์ที่น่าตื่นเต้น พวกเขาประหลาดใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
เมื่อเห็นซูผิงผู้ได้รับชัยชนะด้วยความกลัวและความเคารพ
ซูผิงได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าอาจารย์กิตติมศักด์ิ
ทั่วไปคนอื่น ๆ เขาเป็นคนที่สามารถแข่งขันกับ ฉินหยวนเฟยได้!
นอกจากนี้ซูผิงยังอายุน้อยกว่าฉินหยวนเฟยมาก ดังนั้นในอนาคตเขา
จะมีศักยภาพมากกว่านี้มาก!
หลานเฮ่อซึ่งยืนอยู่ข้างลั่วกู่เสวี่ยได้เห็นซูผิงด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
ความรู้สึกของเขานั้นคล้ายคลึงกับสิ่งที่นักเรียนรู้สึกในตอนนี้ ชาย
หนุ่มคนนี้เป็นผู้ชนะ ผู้ชนะที่ไร้เทียมทาน!
นักเรียนอย่างเย่ห่าวและลั่วเฟิงเทียนเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์
เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ซูผิงถือเป็นมังกรในหมู่อัจฉริยะ เขาเป็น
คนที่รุ่งโรจน์ในยุคนี้!
โจวหยุนชานรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่มากกว่าความประหลาดใจ เขารู้สึก
เสียใจ เขาทำให้คนเช่นนี้ขุ่นเคืองโดยเปล่าประโยชน์ ซูผิงมีพื้นฐาน
ทางศีลธรรมที่สูงกว่าในการเริ่มต้น แม้ว่าเขาจะไม่มี แต่ก็จะไม่
นับว่าเป็นอะไรเลยหากซูผิงลงโทษนักเรียนเหล่านั้นด้วยความคิด
ของเขาเอง
นี่คือโลกของผู้มีอำนาจ
ซูผิงมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตมีโอกาสที่
เขาจะได้เป็นนักรบอสูรตำนาน!
หากวันหนึ่งโชคดีซูผิงกลายเป็นนักรบอสูรในตำนาน และเขาพยายาม
ที่จะเอาคืนสถาบันดาบคลั่งของพวกเขา คำพูดเพียงหนึ่งคำของเขา
สามารถลบล้างสถาบันออกไปจากโลกได้
การลบจะเสร็จสมบูรณ์และไม่มีใครกล้าพูดชื่อมันอีก!
เพียงแค่ความคิดนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้โจวหยุนชานปกคลุมไป
ด้วยเหงื่อเย็น เขาหลังค่อมและตัวสั่น
ลั่วเฟิงเทียน, ไต่หยานและนักเรียนคนอื่น ๆ รู้สึกมึนงงหลังจากได้รับ
แรงกระแทกมากมาย พวกเขาประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่านับตั้งแต่
พบกับซูผิงไม่นาน ในขณะที่ซูผิงกำลังเดินทางกลับ พวกเขากลัวว่า
เขาจะหาทางแก้แค้น
โดยเฉพาะไต่หยาน เขาหวังว่าเขาจะมุดอยู่ใต้ดินเพื่อไม่ให้ซูผิงเห็น
บรรดาผู้ที่อยู่ใกล้กับไต่หยานต่างจ้องมองเขาด้วยความโกรธ พวก
เขาไม่พอใจ ถ้าไต่หยานไม่ขวางทางซูผิง สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น พวกเขา
จะกลับอย่างรุ่งโรจน์หลังจากได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์!
ซูผิงไม่ได้มองไปที่ลั่วเฟิงเทียน และนักเรียนคนอื่น ๆ พวกเขาไม่ได้
มีความหมายสำหรับเขา
ข้อพิพาทของเขากับพวกเขาสิ้นสุดลงที่ประตูมหาวิทยาลัย เขาจะไม่
สืบสาวต่อ
“ผมคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องกลับแล้ว” ซูผิงพูดกับตงซง
หมิงและพยักหน้าให้ลั่วกู่เสวี่ย เขาต้องกลับเพราะเป็นห่วงร้าน เขา
ต้องเลือกอสูรเพื่อฝึกกับหุ่น
เขาดูเวลา เมื่อเขากลับไปถึงจะหนึ่งชั่วโมงพอดี ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม
สำหรับการฝึกอสูรชุดต่อไป
ตงซงหมิงพูดไม่ออกเมื่อเห็นซูผิงแสดงท่าทางสบาย ๆ หลังจากก่อ
ความไม่สงบนี้ “คุณสบายดี…” คำพูดดังก้องไปทั่วในปากของตงซง
หมิง แต่ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้สักประโยค
ซูผิงมีมากกว่า “อาจารย์” ที่ต้องพึ่งพา ความแข็งแกร่งของเขาเพียง
พอที่จะเอาชนะทุกคนในปัจจุบัน แม้แต่ตงซงหมิงก็ไม่มั่นใจว่าเขา
จะเอาชนะเขาได้
ลั่วกู่เสวี่ยกลับมามีสติ เธอแนะนำอย่างรีบร้อน “ฉันจะไปส่งคุณ”
“ไม่เป็นไร ผมรู้ทาง” ซูผิงเข้าใจดีว่าพวกเขามีเรื่องเล็กน้อยที่ต้อง
จัดการหลังการแข่งขัน เขาไม่อยากรบกวนเธอ เขาจึงโบกมือลาและ
จากไป
โจวหยุนชานอยากจะพูด แต่หยุด เขาอยากจะคุยกับซูผิง แต่ซูผิงไม่ได้
มองเขาด้วยซ้ำ โจวหยุนชานล้มเหลวในการหาโอกาสที่จะเริ่มพูดคุย
ก่อนที่ซูผิงจะหายไป
ทุกคนมองไปที่ซูผิง เนิ่นนานไม่มีใครพูดอะไรสักคำ
จิตใจของโจวหยุนชานชั่งใจ เขาเป็นคนแรกที่พูด เขาพูดกับตงซงหมิง
ว่า “ตง ขอโทษสำหรับทุกอย่างในวันนี้ ฉันขอโทษอย่างจริงใจ
สถาบันดาบคลั่งจะยังคงเป็นมิตรกับสถาบันฟีนิกส์ตลอดไป”
ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงโค้งให้ตงซงหมิง
ตงซงหมิงไม่เชื่อคำพูดของโจวหยุนชาน แต่เป็นเรื่องยากสำหรับคน
รุ่นหลังที่จะนำทัศนคติเช่นนี้มาใช้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมาก ตงซง
หมิงขมวดคิ้วและตอบว่า “ไม่เป็นอะไร สถาบันฟีนิกส์พ่ายแพ้อย่าง
ชัดเจน และเรายินดีที่จะยอมรับสิ่งนั้น”
โจวหยุนชานฝืนยิ้ม เขายืนตัวตรงแล้วเดินต่อไป “ตง ถ้ามีโอกาส
นายช่วยได้ไหม…ขอโทษคุณซูในนามของฉันได้ไหม ? หรือบางที
นายสามารถแนะนำฉันกับเขา?”
ตงซงหมิงเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่าโจวหยุนชานกังวลเรื่องอะไร ข้าง
ในตงซงหมิงกำลังเย้ยหยัน โจวหยุนชานที่ก้าวร้าวก่อนหน้านี้ได้ร้อง
ขอความเมตตา อย่างไรก็ตาม คนที่ถูกยั่วยุจะไม่ให้อภัยหลังจาก
คำพูดที่สวยงาม ทุกคนมีความภูมิใจของตัวเอง!
“นายก็เห็นว่าฉันแทบไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณซูเลย ฉันรู้สึกลำบาก
ใจมากที่ต้องเชิญเขามาที่นี่” ตงซงหมิงตอบ
โจวหยุนชานถอนหายใจที่ตงหมิงซงไม่สามารถช่วยเขาได้ โจวหยุน
ชานรู้ว่าเขาไม่พอใจ เขาไม่ได้คุยต่อในหัวข้อนี้ เนื่องจากตงซงหมิง
ไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือและแนะนำเขาให้รู้จักกับซูผิง โจวหยุนชาน
จึงต้องอาศัยสายสัมพันธ์ของเขาเพื่อถามเกี่ยวกับซูผิง แล้วค่อยไปที่
นั่นเพื่อขอโทษด้วยตนเอง
ซูผิงเดินไปตามทางเดิน อาจารย์ที่กำลังดูการแข่งขันอยู่ด้านข้างหัน
ไปมองซูผิงขณะที่เขาเดินผ่าน อาจารย์เหล่านั้นรู้สึกตื่นเต้นและ
ตกใจกับเขา พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าและทักทายซูผิง
อาจารย์อาวุโสบางคนไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าซูผิงแข็งแกร่งมาก่อน
พวกเขาทุกคนคิดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นอาจารย์กิตติมศักด์ิ
ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตามหลังจากการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขา
ไม่มีข้อร้องเรียนใด ๆ เกี่ยวกับการเป็นอาจารย์ของซูผิงอีกต่อไป
ถ้าซูผิงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นอาจารย์กิตติมศักด์ิก็ไม่มีใคร
มีสิทธ์ิเป็นอาจารย์
ซูผิงพยักหน้าเป็นการตอบกลับสำหรับคำทักทายเหล่านั้น
ซูผิงไปที่ทางเข้าฉุกเฉิน เห็นเฉิงซวงหลินและซูหลิงเยวี่ยที่นั่น เขา
รู้สึกโล่งใจที่เห็นซูหลิงเยวี่ยฟื้นตัว เขาพยักหน้าให้เธอแล้วพูดว่า
“แบ่งเนื้อไว้ให้ฉันบ้างนะคืนนี้”
ซูหลิงเยวี่ยมองซูผิง ทุกอย่างรู้สึกเหมือนฝัน เธอไม่อยากจะเชื่อด้วย
ซ้ำว่านี่คือพี่ชายขี้แพ้ของเธอ
อย่างไรก็ตาม คำพูดของซูผิงดึงเธอออกจากความรู้สึกแปลก ๆ ทำ
ให้เขาดูคุ้นเคยอีกครั้งในทันที เธอกัดปาก คำถามมากมายอยู่ในใจ
เธอและเธอต้องการหาคำตอบจากซูผิง ถึงกระนั้นนี่ก็ไม่ใช่เวลาหรือ
สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับสิ่งนั้น
“นาย…” เธอกัดริมฝีปาก “นายบาดเจ็บไหม?”
ในขณะที่เธอถาม เธอก็รู้ทันทีว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นห่วงซูผิง เธอ
หน้าแดง เธอรู้สึกว่าเธอไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ทำไมเป็นแบบนี้!
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเธอห่วงใยเขา เขามีความสุขกับเรื่อง
นี้ เขาลูบหัวเธอแล้วพูดว่า “ดี เธอไม่ชอบแบบนี้หรือไง? แค่พยายาม
เป็นน้องสาวที่น่ารัก พี่ชายของเธอจะปกป้องเธอเองถ้าเธอทำตัวดี ๆ”
ผมที่หวีเรียบร้อยของซูหลิงเยวี่ยยุ่งเหยิงไปหมด
เฉินซวงหลินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกตะลึงจนกรามหลุด
ซูหลิงเยวี่ยไม่คาดหวังว่าซูผิงจะตีสนิทกับเธอในที่สาธารณะ เธอ
รู้สึกอายจึงตบมือเขา “เอามือเหม็น ๆ ออกไป”
เธอกลายเป็นเธอคนเดิมอีกครั้ง ซูผิงยิ้ม โบกมือลาและจากไป
ซูหลิงเยวี่ยกัดปาก ขณะที่เธอเฝ้าดูซูผิงจากไป เธอเต็มไปด้วยความ
รู้สึกหลากหลาย เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งซูผิงจะบรรลุสิ่งที่เธอฝันไว้
ได้ สิ่งนี้ทำให้มุมมองของเธอที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เธอยังสงสัยว่าซูผิงซ่อนความจริงที่ว่าเขาปลุกพลังขึ้นมาตั้งแต่แรก
เกิด ครอบครัวของพวกเธอไม่ได้ร่ำรวยเพียงพอและต้องมีเพียงคน
เดียวเท่านั้นที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดี ดังนั้นเขาจึงให้โอกาสเธอ…
นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ
ยิ่งเธอไตร่ตรองเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเชื่อมั่นในเรื่องนี้มากขึ้น
เพียงแค่ถามแม่ของเธอ เธอก็จะได้คำตอบ
ในขณะที่เธอยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับความคิดเหล่านั้น เฉิงซวงหลินก็
ยื่นกระจกให้เธอแล้วชี้ไปที่ผมของเธอ บ่งบอกว่าเธอต้องจัดผมใหม่
ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกสับสน เธอมองไปที่กระจกแล้วเห็นผมยุ่ง ๆ
“ซูผิง !!!”
ทันใดนั้นเสียงร้องก็ดังก้องไปทั่วสนามกีฬา ผู้ที่ไม่รู้ตัวถึงขั้นคิดว่า
อสูรร้ายอีกตัวปรากฏ
คนที่อยู่ใกล้กับทางออกรีบวิ่งหนีไปทันที

อ่านตอนอื่นๆของ ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store คลิกเลย

แฟนเพจ