ตอนที่ 170 ยืนยัน
ทางเข้าปิดด้านหลังซูผิงทันทีที่เขาเข้าสู่ชั้นแรกของหอคอยมังกร
เขาตรวจสอบพื้นที่มืดว่างเปล่าซึ่งดูคุ้นเคยมาก
“นี่คือที่เดียวกัน…”
จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้เขาขยับไปตรงกลาง สัมผัสได้ถึงบาง
สิ่งน่าขนลุกใกล้เข้ามา มันไม่ได้พยายามที่จะซ่อน แต่ทำให้แน่ใจว่า
เขาสามารถตรวจจับได้
และสิ่งนี้ทำให้ซูผิงสบายใจขึ้นมาก
“ออกมาแล้ว”
จุดแสงปรากฏขึ้นในความมืดซึ่งขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนซูผิงสามารถ
มองเห็น มันเป็นส่วนหัวที่ดุร้ายของมังกร ร่างยักษ์ของมังกรนั้นถูก
ปกปิดอย่างดีในความมืด กำลังรอที่จะเผยให้เห็น
แน่นอนว่ามังกรไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ กับคำพูดของซูผิง มันแสดง
พลังแสนเอ่อล้นของมันใส่ซูผิงราวกับว่ามันจะกัดกินเขาในไม่กี่วินาที
ซูผิงใช้ทักษะพลังจิตดวงดาวและเส้นเล็ก ๆ ของพลังของดวงดาวก็
ยื่นออกไปที่หัวมังกรเช่นเดียวกับที่เขาคาดไว้ พลังนั้นไม่ได้กระทบ
อะไรเลย
“หึ.. ภาพลวงตา” ซูผิงถอนหายใจอย่างโล่งอก คนส่วนใหญ่น่าจะ
กลัวภาพลวงตานี้ตั้งแต่แรกเห็น
เขายังคงเดินหน้ากระตุ้นให้หัวมังกรพุ่งเข้าใส่เขาในทันใด ภาพนั้น
ผ่านร่างของเขาไปโดยไม่ก่อให้เกิดผลใด ๆ
เขาพบ “ทางเข้า” และพุ่งไปที่ชั้น 2 โดยตรง อย่างที่เขาจำได้ชั้นนี้มี
ไว้เพื่อทดสอบความอดทนของเขาโดยมังกรส่งปล่อยแรงกดดันใส่
จิตใจโดยตรง
ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงคำรามของมังกรที่ดังอึกทึก
ก็ส่งภาระหนักอึ้งมาให้เขา
จากนั้นเขาก็แน่ใจว่าหอคอยมังกรนี้เหมือนกับหอคอยที่อยู่ในเมนู
ของระบบ… ไม่แตกต่างกัน
ผู้ที่ดูอยู่ด้านนอกหอคอยต่างก็ซุบซิบกัน พวกเขาเฝ้าดูในขณะที่ชั้น
แรกหยุดเรืองแสงซึ่งตามมาด้วยชั้นสองที่สว่างขึ้นอย่างกะทันหัน
“เขาอยู่ชั้นสองแล้ว เร็วมาก!”
“เขาเดินผ่านชั้นหนึ่ง โดยไม่หยุดเลยหรอ?”
“เรื่องใหญ่ตรงไหน มันเป็นแค่ภาพลวงตา แค่ไม่สนใจมันและทุก
อย่างก็จบ”
“พูดเหมือนง่าย แต่สิ่งนั้นก็น่ากลัวมาก นายจะทำยังไงถ้าไม่รู้ว่ามัน
เป็นของปลอม?”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงกลับจากที่นั่นช้า คนงี่เง่า”
ชั้นที่สองของหอคอยก็หยุดส่องแสง
“แต่ได้ยังไง? ชั้นสองคือการทดสอบวิญญาณ จะเดินผ่านไปเฉย ๆ
ได้ยังไง!”
ผู้คนมองชั้นสูงขึ้น แต่ชั้นสามไม่สว่างอย่างที่คาดไว้
พวกเขามองลงมาอีกครั้งและเห็นชายหนุ่มปรากฏตัวที่ทางเข้า
“อ่า เขาแพ้แล้วหรอ?”
“เขาเอาชนะได้แค่ชั้นแรกเท่านั้นแหละ แม้จะเป็นเด็กที่มีความกล้า
พอก็ไม่ได้ทำให้ฉันแปลกใจเลย”
“เขาทำให้ฉันกลัว ฉันคิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่อีกคนหรือ
อะไรสักอย่าง ปรากฏว่าเขาเป็นแค่คนอวดดี”
ผู้คนพึมพำด้วยความผิดหวังและเลิกสนใจ
ถังยู่หรานค่อนข้างสงบ ในขณะที่เธอตระหนักว่าชายหนุ่มที่เธอ
กังวลนั้นเป็นคนธรรมดา ซึ่งหมายความว่าเธอไม่มีความจำเป็นต้อง
กังวลเรื่องเขา
ชายชราข้างเธอก็เลิกสนใจเช่นกัน เขาแอบคิดแผนสกปรกเอาไว้ แต่
เขาพบว่าพวกเขาไม่จำเป็นหลังจากที่รู้ว่าซูผิงเป็นพวกกระจอก การ
เหยียบมดนั้นไม่สนุกเลย
..
ในทำนองเดียวกัน ซือถูเฟิงก็มองไปที่อื่นด้วยความไม่พอใจ
ซูผิงเห็นว่าเนี่ยเฉิงกงรออยู่ตรงไหนและมุ่งหน้าไปที่นั่น การตรวจสอบ
ชั้นสองของหอคอยก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะตัดสินได้ว่าที่นี่คือ
ที่เดียวกับ “สนามสืบทอดราชามังกร” ในขณะนี้การล่าสมบัตินั้น
สำคัญกว่า หอคอยรอได้
ปรมาจารย์ดาบขมวดคิ้วเมื่อเห็นซูผิงออกมาในไม่ช้า เขาสามารถ
บอกได้ว่า “การโจมตีเข็ม” มีสำหรับนักรบอสูรกิตติมศักด์ิเท่านั้น
ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มคนนี้มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่าถัง
ยู่หราน
แต่ผลที่ได้แสดงให้เขาเห็นเป็นอย่างอื่น
“ฉันคิดผิดเกี่ยวกับเขาเหรอ? แปลก…”
“คุณเสร็จแล้วหรอ ??” ทีมของเขายังประหลาดใจกับการกลับมาของ
ซูผิงโดยเฉพาะลั่วกู่เสวี่ยที่รู้ชัดว่าซูผิงแข็งแกร่งขนาดไหน เธอคาด
หวังให้ซูผิงสร้างความประหลาดใจให้กับคนโดยการไปที่ชั้นสูง ๆ
ผู้ช่วยอีกสองคนต่างดูหมิ่นซูผิง พวกเขาคิดว่าชื่อเสียงของซูผิงนั้น
ไม่มีมูลความจริง
เนี่ยเฉิงกงตรวจสอบท่าทางแปลก ๆ ของสมาชิกในทีมและตระหนัก
ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายเลย
“ขอโทษที่ให้รอหัวหน้า” ซูผิงพูด “ไปกันได้แล้ว”
“คุณ…ไม่ผ่านชั้นสองหรอ?”
“เราต้องไปทำภารกิจให้เร็วที่สุดไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นผมจึงหยุดให้
เร็ว ๆ”
“หือ? แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ตั้งแต่แรก?”
“แค่ตรวจสอบบางอย่าง”
แน่นอนว่าซูผิงไม่เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาในตอนนี้
“ไปกันเถอะ” เนี่ยเฉิงกงตัดสินใจไม่ถามความตั้งใจของซูผิง ใน
ขณะเดียวกันลั่วกู่เสวี่ยและเย่เฉินชานก็จะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาทุกคนเชื่อมั่นว่าซูผิงเลือกที่จะออกมาเองด้วยเหตุผลบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยเหลือพิเศษที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับซูผิงไม่คิดแบบ
เดียวกัน ในมุมมองของพวกเขา ซูผิงทำให้ทุกคนเสียเวลาและทำให้
กลุ่มอิทธิพลสองกลุ่มขุ่นเคือง นี่เป็นเรื่องน่าหัวเราะมาก
ตามหัวหน้าเนี่ยเฉิงกง ทีมมาถึงวงเวทย์ที่ออกแบบมาเพื่อส่งผู้คนไป
ยังเขตต่าง ๆ โดยมีค่าธรรมเนียม
“ครั้งละสิบคน หนึ่งล้านต่อครั้ง!” ผู้ดูแลพูดและขอให้ทุกคนเข้าแถว
ถึงคิวของพวกเขาในไม่ช้า เนี่ยเฉิงกงจ่ายเงินโดยไม่คิด เงินหนึ่งล้าน
อาจเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับครอบครัวทั่วไป แต่เป็นค่าใช้จ่าย
ที่ยอมรับได้สำหรับทีมหลักที่มีประสบการณ์อย่างพวกเขา
วงเวทย์สว่างขึ้น ในขณะที่มันถูกชาร์จใหม่ด้วยพลังงาน มันสว่าง
ไสวซึ่งทำให้ผู้คนมองไม่เห็น
ตามแผน เนี่ยเฉิงกงเลือก “g-9 92”
ซูผิงรู้สึกว่าอากาศรอบตัวเขาเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้น เห็น
พื้นดินที่ลุกเป็นไฟและมีกลิ่นกำมะถัน องค์ประกอบเหล่านี้เพียง
พอที่จะบอกได้ว่าเขาอยู่ใน “ดินแดนเกล็ดมังกร” แล้ว