Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 179

เรื่อง ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 179

ตอนที่ 179 เริ่มแผนการ
“คุณเอามังกรเพลิงนรกตัวนี้มาจากไหน”
เฒ่าโมและเฉินจ้องไปที่ซูผิงด้วยความประหลาดใจมาก ซูผิงร่ำรวย
และมีอำนาจมากแค่ไหนถึงจะสามารถซื้ออสูรที่ดีขนาดนี้ได้?
เนี่ยเฉิงกงก็ตกใจเช่นกัน เขาคิดว่าซูผิงจะเรียกโครงกระดูกพิเศษตัว
นั้นออกมา เขาไม่รู้ว่าซูผิงมีมังกรเพลิงนรกที่หายากนี่ด้วย!
กั่วเยวี่ยหลิน, โจวจิ่งและเย่เฉินชานต่างก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อ
ซูผิงไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขายังเรียกโครงกระดูกน้อยออกมา
เมื่อโครงกระดูกน้อยเข้ามาทุกคนก็เงียบกริบ ถ้ามังกรเพลิงนรก
เปรียบเสมือนการโยนอุกกาบาตลงในทะเลสาบทำให้คลื่นและ
กระแสน้ำปั่นป่ วน โครงกระดูกน้อยก็เหมือนก้อนกรวดที่โยนลงไป
ในน้ำเท่านั้น
เมื่อมองไปที่โครงกระดูกน้อยซึ่งสูงกว่าหนึ่งเมตรทุกคนก็พูดไม่
ออก
เนี่ยเฉิงกงรู้สึกประหลาดใจ “นี่คือโครงกระดูกตัวนั้นใช่ไหม?”
“ใช่”ลั่วกู่เสวี่ยพยักหน้า โครงกระดูกน้อยตัวนี้เคยฆ่าอสูรศพเวทใน
อดีต และสามารถเอาชนะอสูรร้ายระดับเก้าได้อย่างง่ายดาย โครง
กระดูกน้อยตัวนี้ช่างประหลาด!
จากนั้นซูผิงก็เรียกอสรพิษม่วงออกมา
อสรพิษม่วงมีความยาวมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร ตัวใหญ่พอ ๆ กับ
อสรพิษกระหายเลือดและมังกรเลือด ซูผิงไม่ได้เรียกอสรพิษม่วงมา
ต่อสู้ แต่เรียกมาเพื่อเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องตัวเอง
ซูผิงไม่มั่นใจว่ามังกรดินจะสามารถป้องกันได้เพียงพอ
ขนาดของอสรพิษม่วงน่าแปลกใจ มันดูเหมือนจะใหญ่กว่าอสรพิษ
ม่วงทั่วไป
อย่างไรก็ตาม อสรพิษม่วงเป็นอสูรที่มีสายเลือดขั้นกลาง พวกมันถูก
ดูถูกและไม่ได้รับการต้อนรับ คนอื่น ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมซูผิงถึงเก็บ
อสูรธรรมดาอย่างอสรพิษม่วง ในเมื่อเขามีมังกรเพลิงนรก มันไม่
จำเป็นต้องมีอสรพิษม่วงเลย
“ในเมื่อซูเรียกอสรพิษม่วงออกมา ฉันไม่ควรกั๊กเหมือนกัน” เนี่ยเฉิง
กงมองไปที่อสูรที่ซูผิงเรียกมา และดวงตาของเขาก็หยุดลงตรงมังกร
เพลิงนรก เนี่ยเฉิงกงยกมือขึ้น เรียกอสูรต่อสู้อีกสองตัวระดับแปด
ขั้นกลางและขั้นสูงตามลำดับ
ในทางทฤษฎี การต่อสู้กับอสูรร้ายระดับเก้า อสูรต่อสู้ทั้งสองนี้จะ
ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือมากนัก อย่างไรก็ตามเนื่องจากซูผิงได้เรียก
อสรพิษม่วงระดับหกออกมา เนี่ยเฉิงกงก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บ
อสูรสองตัวของเขาเอาไว้ได้ พวกเขาต้องไม่ลดละความพยายาม!
เฒ่าโมและเฉินเม้มริมฝีปาก
พวกเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นแต่ละคนก็เรียกอสูรรองทั้งสองระดับ
แปดขั้นกลางออกมา
“อสูรช่วยเหลือ และอสูรต่อสู้ระดับเก้า”
เนี่ยเฉิงกงมองไปที่ทีม ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นหลังจากได้เห็น
อสูรที่เพิ่มเข้ามา สิ่งเดียวที่ทำให้เขารำคาญก็คือมังกรเพลิงนรกของ
ซูผิงที่ดูเหมือนเพิ่งจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ดังนั้นความสามารถของมัน
อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ ถ้ามังกรเพลิงนรกอยู่ในระดับเก้า มันอาจจะ
เอาชนะมังกรสายพันธุ์ย่อยในถ้ำได้ด้วยตัวมันเอง อสูรตัวอื่น ๆ จะ
ไม่จำเป็นที่จะเข้าร่วม เฒ่าโมและเฉินรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินกลยุทธ์ของ
เนี่ยเฉิงกง หากอสูรพวกเขาถูกส่งไปต่อสู้กับมังกรสายพันธุ์ย่อย
ระดับเก้าขั้นสูง มันก็น่าจะเหมือนฆ่าตัวตาย
“คุณคิดว่าเราควรวางกับดักไว้ข้างนอกเพื่อล่อมังกรตัวนั้นออกมา
ไหม?” โจวจิ่งถาม เขามีสติปัญญา ว่องไวและมีวิธีที่แปลกใหม่
เนี่ยเฉิงกงมีความคิดแบบกัน “ใช่”
ในทางกลับกันซูผิงพยายามที่จะปฏิเสธ เพราะเขาคิดว่านี่เป็นการ
เสียเวลา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขาต้องการความปลอดภัย ซูผิง
จึงต้องกลืนความไม่เห็นด้วยของเขาลงไป การอยู่อย่างปลอดภัยไม่ใช่
เรื่องเลวร้าย
ในไม่ช้าพวกเขาก็เตรียมแผน
พวกเขาเลือกหุบเขาใกล้เคียงเป็นที่ตั้งสำหรับการซุ่มโจมตี ด้านบน
ของหุบเขามีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มังกรดินได้เตรียมไว้ ก้อนหิน
ขนาดใหญ่เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากธาตุเหล็กที่สกัดจากดิน พวกมัน
เหมือนลูกบอลเหล็กขนาดมหึมาแทนที่จะเป็นก้อนหิน
เนี่ยเฉินกงและอสูรของคนอื่น ๆ ซุ่มซ่อนอยู่ที่ด้านข้างของหุบเขา
กับดักที่มีคือเปลวไฟ ลาวาและน้ำแข็ง ถูกวางเตรียมไว้
กับดักพร้อมแล้ว คำถามใหญ่คือ
ใครควรไปล่อมังกรไฟออกมา?
ซูผิงทำตัวเฉยเมย โดยปกติเขาไม่ต้องการโดดเด่น เขามั่นใจว่าเขา
สามารถฆ่ามังกรไฟได้ด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้เขาใช้ชีวิตจริงเป็นเดิม
พัน ใครจะบอกได้ว่ามีจะอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
บางทีความแข็งแกร่งของมังกรไฟอาจได้รับการพัฒนา จะเกิดอะไร
ขึ้นถ้ามังกรไฟไม่ได้อยู่ในระดับเก้าขั้นสูงเหมือนที่เขาเคยเห็นใน
สนามบ่มเพาะ? ในกรณีนี้การล่อมังกรไฟออกมาจะทำให้เขาตกอยู่
ในอันตราย
คนอื่น ๆ มองไปที่ซูผิงเพราะต้องการให้เขาเป็นผู้นำ ท้ายที่สุด ดู
เหมือนว่าซูผิงจะคุ้นเคยกับสถานการณ์ภายในถ้ำดี อย่างไรก็ตามการ
เสนอสิ่งนี้ออกมาเป็นเรื่องยาก
“ไม่เป็นไร ฉันจะทำเอง” เนี่ยเฉิงกงมองไปรอบ ๆ และทุกคนหลีก
เลี่ยงที่จะสบตา เขารู้ว่าไม่มีใครเต็มใจที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ ซูผิงคุ้นเคย
กับถ้ำ แต่เขาเป็นคนที่ให้ความรู้ ตลอดการเดินทาง ซูผิงได้ทำผลงาน
มากมายนับไม่ถ้วน เนี่ยเฉิงกงไม่มีหน้าไปขอให้ซูผิงรับความเสี่ยงนี้
ได้
นอกจากนี้มังกรเพลิงนรกของซูผิงดูเหมือนเพิ่งจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
เนี่ยเฉิงกงคิดว่ามังกรเพลิงนรกอาจไม่ทรงพลังเท่าสุนัขมังกรดำ
ความแข็งแกร่งหลักของซูผิงอยู่ที่โครงกระดูกน้อย…จากรูปลักษณ์
ของมัน มันมีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับ สุนัขมังกรดำ เนี่ยเฉิงกงไม่ได้
มีความหวังมากนักสำหรับโครงกระดูกน้อย
ทุกคนรู้สึกโล่งใจที่เนี่ยเฉิงกงเป็นคนอาสา
เนี่ยเฉิงกงถามซูผิงเกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะในถ้ำ ซูผิงให้คำแนะนำสั้น ๆ
เกี่ยวกับภูมิประเทศ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากมาย ท้ายที่สุดก็
ไม่พบรายละเอียดบางอย่างในการสอดแนมปกติ การพูดมากเกินไป
อาจทำให้เกิดความสงสัยที่ไม่จำเป็นได้
เนี่ยเฉิงกงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยหลังจากได้รับข้อมูลจากซูผิง เขาหายใจ
เข้าลึก และบอกให้คนอื่น ๆ รอ คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
เขาไว้ใจเพื่อนร่วมทีม
โจวจิ่งและคนอื่น ๆ พยักหน้าและบอกให้เนี่ยเฉิงกงระวังตัว
ในไม่ช้าเนี่ยเฉิงกงก็ให้นักบุญปีศาจและอสรพิษกระหายเลือดนำ
ทาง เข้าไปในถ้ำอย่างช้า ๆ
ครู่ต่อมาเนี่ยเฉิงกงก็หายไปจากสายตาของทุกคน
ผู้คนรออยู่ด้านนอกอย่างเงียบ ๆ เมื่อเวลาผ่านไปบางคนก็เริ่มกังวล
ซูผิงสงบนิ่ง เขากำลังนับเวลาตามความเร็วของการเคลื่อนไหวของ
เนี่ยเฉิงกง หลังจากนั้นประมาณเจ็ดนาที ซูผิงก็จับตาดูที่ปากถ้ำและ
พูดว่า “เขาควรจะออกมาภายในหนึ่งนาที”
คำพูดของซูผิงทำให้ทุกคนประหลาดใจ พวกเขามุ่งความสนใจไปที่
ถ้ำอย่างรวดเร็ว
ตูม!
มีบางอย่างพังทลายลงภายในถ้ำ
เสียงดังทำให้ทุกคนตกใจ พวกมันกำลังมา!
ในช่วงเวลาต่อมาเนี่ยเฉิงกงเป็นคนแรกที่ปรากฏตัวต่อสายตาของทุก
คน เขากำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมทีม เขาพูดกับพวก
เขาด้วยความเร่งรีบว่า “ไปที่หุบเขา!”
โฮก !!
ออกมาจากถ้ำ ด้านหลังเขามีเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว มีบางอย่าง
กระแทกกับผนังด้านในของถ้ำ นั่นเป็นการบ่งบอกถึงการต่อสู้ที่
ดุเดือด
ทุกคนหันหลังกลับและรีบไปที่หุบเขา
เนี่ยเฉิงกงตามพวกเขา กลับไปที่หุบเขาพร้อมกัน ไม่นานหลังจากที่
พวกเขามาถึง นักบุญปีศาจและอสรพิษกระหายเลือดก็เข้ามาในหุบ
เขาอย่างรวดเร็ว ตลอดทาง อสรพิษกระหายเลือดได้ใช้ทักษะของ
มันทุบพื้นด้วยหางหลายครั้ง พื้นดินพังทลายลงและทำให้อสูรร้ายที่
อยู่ตามหลังพวกเขาช้าลง
เบื้องหลังพวกเขาคือมังกรไฟที่ยาวเกือบสองร้อยเมตร บิดตัวไปมา
ราวกับถนนบนภูเขาคดเคี้ยว มังกรไฟถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดง
เข้มที่ลุกไหม้ มังกรไฟส่งเสียงร้องและการเคลื่อนไหวของมันก็
รวดเร็วมาก แม้ว่ามันจะช้าลงเพราะหลุมบนพื้น แต่มังกรไฟก็เข้าใกล้
อสูรต่อสู้ทั้งสองอย่างรวดเร็วจนเนี่ยเฉิงกงกังวล เขากำหมัดแน่น
ในไม่ช้ามังกรไฟก็มาถึงหุบเขา อยู่ห่างจากนักบุญปีศาจเพียงร้อย
เมตร “จัดการมัน!” เนี่ยเฉิงกงตะโกนด้วยน้ำเสียงรีบร้อน
กับดักพร้อมแล้ว ทั้งหมดถูกเปิดใช้งานในเวลาเดียวกัน จากเหนือ
หุบเขา ลูกเหล็กหนักเริ่มตกลงมาหลายสิบลูก! ลูกเหล็กแต่ละลูก
สามารถทุบและถล่มอาคารสิบชั้นเพื่อสร้างหลุมขนาดใหญ่บนพื้น
ได้ ในขณะเดียวกันนกเพลิงศักด์ิสิทธ์ิซึ่งได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้
ได้เริ่มปล่อยลาวาที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้จากด้านข้างของหุบเขา
ลาวากำลังลงไปยังมังกรไฟ
หนามแหลม ดาบน้ำแข็ง พายุและทักษะอื่น ๆ ที่คนอื่น ๆ เตรียมไว้
ได้ถูกปล่อยออกมาทันที โดยพุ่งเป้าไปที่มังกรไฟ โดยปกติแล้ว
หนามแหลมและดาบทั้งหมดเหล่านี้จะไม่สามารถใช้กับเป้าหมายได้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทักษะเตรียมพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว พวกมัน
ทั้งหมดจึงโดนเป้าหมายหมด
“ทะเลหิน!” ดวงตาของเฉินเปล่งประกายขณะที่เขาตะโกน เขาใส่
พลังดวงดาวให้กับอสูรของเขา มังกรดินส่งเสียงร้องและความ
แข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มังกรดินยืนอยู่ในอากาศ
เหนือหุบเขา ส่งพลังจากเท้าของมันไปยังกำแพงหินที่ด้านข้างของ
หุบเขาซึ่งเริ่มสั่นไหว
ตูม!
กำแพงหินกำลังปิดลงอย่างรวดเร็วรอบ ๆ มังกรไฟ มันจะถูกบีบให้
ตาย!
“ดาวตกหิน!”
เนี่ยเฉิงกงให้อสรพิษกระหายเลือดปลดปล่อยทักษะระดับเก้าของ
ตระกูลหินเช่นกัน ธาตุดินรวมตัวกันในอากาศจากนั้นก็ก่อตัวเป็น
ก้อนหินสี่เหลี่ยม ก้อนหินทุบลงปิดกั้นเส้นทางของมังกรไฟ
ปัง!
เสียงดังสนั่นมาจากหุบเขาราวกับว่ามันถูกถล่ม
ฝุ่นคละคลุ้ง แต่เนี่ยเฉิงกงได้บอกนักบุญปีศาจของเขาลงมือต่อ
อากาศที่มืดและเหม็นอย่างลึกซึ้งถูกปล่อยออกมาจากนักบุญปีศาจ
อากาศมีฤทธ์ิกัดกร่อนและอาจทำให้เกิดภาพหลอนได้ เมื่ออสูรร้าย
ขั้นต่ำสัมผัสอากาศเหม็นนี้แม้เพียงเล็กน้อย อสูรร้ายก็จะสูญเสีย
จิตใจทันที เลือดของพวกมันจะไหลย้อนกลับและอสูรร้ายจะเลือด
ไหลจนตาย!
ทักษะการเสริมพลังจำนวนมากถูกใช้กับนักบุญปีศาจซึ่งมีขนาดใหญ่
ขึ้น นักบุญปีศาจกำลังได้รับแรงผลักดันมากขึ้น
หวีด!
เงาของพลองขนาดใหญ่ของนักบุญปีศาจสร้างขึ้นกว่าร้อยเงา
นักบุญปีศาจได้ทุบพลองลงและเงานับร้อยก็กลายเป็นหนึ่งเดียว
แผ่นดินสั่นสะเทือน มีเมฆฝุ่นมากกว่าเดิม
โฮกกก !!
ท่ามกลางฝุ่นละอองมีบางสิ่งระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงคำราม
อย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธ
เปลวไฟที่รุนแรงพัดออกมาทันที ปัดฝุ่นและหมอกออกไป มังกรไฟ
ลุกขึ้นยืนในเปลวไฟ ร้องและหายใจด้วยไฟ
นักบุญปีศาจพยายามต่อสู้กลับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นมังกร
ไฟระดับเก้า พลองจึงถูกเผาไหม้เป็นสีแดงทันทีและนักบุญปีศาจก็
ถูกทุบออกไป
นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่ามังกรไฟจะแสดงพลังเช่นนี้
ได้หลังจากได้รับการโจมตีมากมาย
ดังที่พูดไว้ ความพยายามก่อนหน้านี้ได้ผล ลูกเหล็กจำนวนมากถูก
มังกรดินผลักลงมา สร้างความเสียหายอย่างมาก มีหลายจุดที่ได้รับ
บาดเจ็บด้านหลังของมังกรไฟ เกล็ดของมันแตก เลือดไหลออกมา
ท่ามกลางเปลวไฟ เลือดเหือดแห้งทิ้งรอยไว้ที่ด้านหลังของมังกรไฟ
ซูผิงรู้สึกโล่งใจหลังจากมองไปที่มังกรไฟ นี่คือสิ่งที่เขาได้เห็นใน
สนามบ่มเพาะ มันเป็นมังกรไฟระดับเก้าขั้นสูง เพียงแค่ว่ามังกรไฟ
ตัวนี้ผอมกว่า เย็นกว่าและมืดมนกว่า นี่อาจจะเป็นมังกรไฟตัวอื่น ซึ่ง
เป็นลูกของตัวที่เขาเคยเห็นในสนามบ่มเพาะ
“ไปกันเถอะ!”
เนี่ยเฉิงกงกัดฟัน กับดักใช้งานได้ แต่ล้มเหลวในการสร้างความ
เสียหายในระดับที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ ทางเดียวที่เหลืออยู่สำหรับ
พวกเขาคือการต่อสู้กับมังกรไฟในระยะประชิด
โชคดีที่หลังจากการต่อสู้ครั้งก่อน พวกเขาทุกคนมีความรู้สึกที่ดีใน
การทำงานเป็นทีม พวกเขาสามารถช่วยอสูรของพวกเขาในการต่อสู้
ได้อย่างเต็มที่
เฒ่าโมฝืนยิ้ม เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกให้เคียวแห่งความ
ตายเข้าร่วม
โดยไม่ลังเล เฉินบอกให้มังกรดินของเขาลงมาในหุบเขาเพื่อเพิ่ม
เกราะดินให้กับเคียวแห่งความตาย นักบุญปีศาจอสรพิษกระหาย
เลือดและตัวเขาเอง ในเวลาเดียวกันมังกรดินใช้ โล่มังกร เกล็ดมังกร
และทักษะอื่น ๆ ที่แข็งแกร่งกว่าเกราะดิน อย่างไรก็ตาม ทักษะหลัง
ไม่สามารถใช้กับใครหรือสิ่งอื่นใดนอกจากมังกรดินได้ แม้แต่เฉินก็
ไม่สามารถเพลิดเพลินกับผลประโยชน์นี้ได้
หลังจากสร้างโล่ทั้งหมดเสร็จแล้ว มังกรดินก็ร้องคำราม มันเป็นผู้นำ
และพุ่งเข้าหามังกรไฟที่โกรธแค้น

อ่านตอนอื่นๆของ ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store คลิกเลย

แฟนเพจ