ตอนที่ 182 กึ่งราชาอสูร
ศพต้องถูกทิ้งไว้นานแล้วเพราะมันกลายเป็นกระดูกไปแล้วและ
กระดูกก็ยังดูเน่า
จากการมอง ซูผิงสามารถเห็นศพได้อย่างน้อยร้อยศพในหลุม ผสม
กับโครงกระดูกมนุษย์เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ยังมีศพมนุษย์สด ๆ
บนกอง ซึ่งเลือดยังไม่แข็งตัว ไม่ไกลจากพวกเขา ศพของมังกรปีก
เงินถูกทิ้งอย่างน่าอนาถ ปีกข้างหนึ่งของมันขาด คอมันหัก มันมี
หลุมขนาดยักษ์ที่หัวใจมัน แต่หัวใจมันหายไป
ซูผิงรู้สึกว่าขนทั้งตัวเขาตั้งชันราวกับมีสัตว์ประหลาดแสนอันตราย
หายใจรดต้นคอเขา
“คนเหล่านี้ต้องเพิ่งตาย พวกเขาลอบเข้ามาขณะที่เราจัดการกับมังกร
ไฟ?” บางคนถาม
ทุกคนขมวดคิ้ว ตระหนักว่าพวกเขาอาจถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ ใครมา
ก่อนก็จะได้รับสมบัติชิ้นสุดท้ายไปง่าย ๆ
“งั้นต้นไม้นั่นก็คือสมบัติลับ?” ทั้งเฒ่าโมและเฉินมองต้นไม้ที่ดู
เหมือนจะเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์
“หัวหน้า หัวหน้า!” เย่เฉินชานบอกจิ้งจกฟ้าให้แบกเนี่ยเฉินกงมาใกล้ ๆ
“ผล-ผลไม้..” เนี่ยเฉิงกงพึมพำด้วยเสียงอ่อนแรง ดวงตาของเขาไม่
ตอบสนองต่อแสงอีก
งั้นเขาก็รู้เรื่องผลไม้มาก่อน? ซูผิงคิด
“เขาตายแล้ว!” เฒ่าโมตรวจสอบอาการเนี่ยเฉิงกงก่อนพูด “เราควร
ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ก่อนสิ่งนั้นจะมา! เราไม่ควรมาที่ที่สามารถ
ฆ่าหัวหน้าได้ง่ายขนาดนี้เลย!”
เฉินรีบสั่งมังกรดินให้ใช้ทักษะป้องกันทั้งหมด “ทุกคน เข้าปาก
มังกร!”
เย่เฉินชานวางเนี่ยเฉิงกงลงด้วยท่าทางเจ็บปวด ในฐานะนักสำรวจ
ความเจ็บปวดจากการเสียคนรักไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เขาสามารถ
รวบรวมจิตวิญญาณและทำตามคำแนะนำของเฉินได้ มันเป็นเรื่อง
มหัศจรรย์อยู่แล้วที่เฉินกับเฒ่าโมไม่คิดทิ้งพวกเขาไว้ เขาควรจะ
ขอบคุณ
คล้ายกัน สมาชิกทีมคนอื่นเริ่มได้สติ
มังกรดินลดหัวมันลงเพื่อให้ทุกคนเข้าปากมัน แต่ทว่า หนามแหลม
หลายอันพุ่งออกจากผนังถ้ำอีกครั้ง ในเวลาเดียวกัน ผนังก็กลายเป็น
สีแดงสดราวกับพวกมันกำลังหลอมละลาย “พระเจ้า…” เมื่อเห็น
อย่างนี้ เฒ่าโมก็ล้มเลิกแผน บอกให้เคียวแห่งความตายพาเขาไป
ทางออก
แต่ทว่า เขาก็ถูกหยุดด้วยหัวขนาดใหญ่ของมังกรที่กำลังจับจ้องพวก
เขา ขณะขวางทางเข้าเดียวที่ใช้ได้ มันคือมังกรไฟ แต่นี่ใหญ่กว่าตัวที่
พวกเขาฆ่าไปถึงสองเท่า
ซูผิงขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอ่อน ๆ ของราชาอสูรจาก
เป้าหมาย ตามประสบการณ์ เขาบอกได้ว่านี่ไม่ใช่ราชาอสูร แต่ก็
ใกล้เคียง
โฮก!
มังกรเปิดปากมัน พ่นลำแสงไฟใส่กลุ่ม
เฒ่าโมอยู่ใกล้กับมังกรสุด เขาเรียกอสูรระดับแปดสองตัวมาเป็นโล่
อย่างสิ้นหวัง อสูรแทบตายทันทีจากการโจมตีนี้
“มา! มาฝ่ามันไปด้วยกัน!”
เฉินรีบสั่งมังกรดินให้เพิ่มชั้นป้องกันบนตัวมัน ก่อนจะกระแทก
ผนังถ้ำ เขาไม่รอให้ทุกคนขึ้นมา
ผนังแตก แต่แทนที่จะเป็นทางหนี ผู้คนกลับพบลำตัวของมังกรเลือด
ไฟที่ฝังอยู่
เนื่องจากทางนั้นใช้ไม่ได้ มังกรดินจึงกระทืบพื้น กระโดดขึ้น
กระแทกเพดาน
โชคดี เพดานถ้ำไม่แข็งมาก มังกรดินจึงสร้างหลุมและพุ่งต่อโดยไม่
เหลียวหลังได้
บนพื้น ลั่วกู่เสวี่ยกระโดดขึ้นนกไฟของเธอและกวักมือเรียกเย่เฉิน
ชานกับซูผิง “มาเร็ว!”
เธอรู้ว่าซูผิงสามารถบินเองได้ แต่มนุษย์ไม่ควรแข่งขันกับอสูรบิน
พวกเขาไม่มีทางชนะ
“ไสหัวออกไป!”
ก่อนซูผิงกับเย่เฉินชานจะได้ขึ้นนก เคียวแห่งความตายของเฒ่าโมก็
กระแทกนกออกไปเพื่อให้เขาสามารถบินผ่านทางออกใหม่ได้ก่อน
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ เคียวแห่งความตายก็ได้ส่งนกไปทางมังกร
เลือดไฟ
ลั่วกู่เสวี่ยร้องเสียงหลงขณะตกจากอสูรเธอ และตกลงไปในหลุมศพ
มังกร ด้านบนเคียวแห่งความตาย เฒ่าโมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็น
รูเพดานอยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่ทว่า หางหนามยักษ์ก็พลันเข้ามาในวิสัยทัศน์เขา ฟาดลงใส่เขา
เขาตกลงมาพร้อมกับเคียวแห่งความตาย หัวของมังกรเลือดไฟโฉบ
เข้ามา กัดเคียวแห่งความตายไว้กลางอากาศ
เคียวแห่งความตายดิ้นรนอยู่ได้ไม่กี่วินาทีก่อนตัวมันจะขาดเป็นสอง
ส่วน
ซูผิงคว้าโอกาสนี้ บอกอสรพิษม่วงให้เปิดปากเพื่อให้เขาเข้าไป ใน
ขณะเดียวกัน เขาก็ใช้พลังจิตลากเย่เฉินชานที่ยืนตัวแข็งมาด้วย
สำหรับจิ้งจกฟ้าของเย่เฉินชาน มันต้องพึ่งพาตัวมันเอง “ไป!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของซูผิง อสรพิษม่วงก็ทะยานขึ้นเพดาน ขณะที่โครง
กระดูกน้อยกับสุนัขมังกรดำทำหน้าที่คุ้มกัน อสรพิษไม่สามารถบิน
ได้ มันจึงต้องเลื้อยไปตามผนังถ้ำร้อน ทำให้ตัวมันส่งกลิ่นคล้ายเนื้อ
ย่าง ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้ช้าลงเลย
เมื่อเห็นเหยื่อมันกำลังหนี มังกรเลือดไฟก็คายศพของเคียวแห่งความ
ตายทิ้ง รีบไล่ตามซูผิง
โครงกระดูกน้อยวางตัวมันไว้ระหว่างอสรพิษม่วงและมังกร ยกดาบ
มันขึ้น
มังกรเลือดไฟตอบสนองทันเวลาด้วยการเคลือบตัวมันด้วยไฟ
ท้ายที่สุด ดาบกระดูกของโครงกระดูกน้อยก็ทิ้งไว้ได้เพียงรอยแผลสี
ขาวตื้นบนตัวมังกร
มังกรเลือดไฟขยับตัวมันออกจากผนังถ้ำจนหมด มันพุ่งเข้าประชิด
อสรพิษม่วงด้วยความเร็วสูง
โครงกระดูกน้อยพยายามหยุดมัน แต่ร่างกายอ่อนแอของอสูรระดับ
หกไร้พลังต่อการโจมตีเต็มที่ของอสูรระดับเก้าที่เกือบเป็นราชาอสูร
โครงกระดูกน้อยแหลกเป็นชิ้น ๆ มันต้องใช้เวลาเพื่อประกอบใหม่
มังกรเลือดไฟมาถึงเป้าหมายแล้ว มันแยกเขี้ยวเปื้อนเลือดและขบลง
ที่คอของอสรพิษม่วง
ด้วยความอดทนพิเศษที่ได้รับจากการฝึกทั้งหมด ซูผิงยังคงใจเย็น
บังคับให้สมองคิดหาวิธีแก้ปัญหา
เขานึกถึงบางอย่างที่อาจช่วยได้