ตอนที่ 199 การตายของนักรบอสูรกิตติมศักด์ิ
โดยไม่เสียเวลาเล่นคำ ซูผิงสั่งอสูรเขาให้ฆ่า
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของซูผิง มังกรเพลิงนรกก็ก้าวไปข้างหน้า
แสดงกลิ่นอายมันเต็มที่
มังกรเพิ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ไม่นานมานี้ แต่ตอนนั้น ความกระหายเลือด
ที่แผ่จากมันรุนแรงพอกับมังกรโบราณ
ในทำนองเดียวกัน สุนัขมังกรดำยังจดจ่อเต็มที่ โดยไม่รอให้ซูผิง
บอกมัน มันใช้เกราะป้องกันห้าชั้นกับมังกรเพลิงนรก
สิ่งเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้ากับเกล็ดของตัวมังกรเพลิงนรกเอง ก่อให้เกิด
การป้องกันที่ใกล้เคียงกับอสูรประเภทมังกรระดับเก้าขั้นสูง
จัวเฟิงชุนและผู้อาวุโสเฟิงสะดุดเล็กน้อยหลังเห็นตัวของมังกรเพลิง
นรกแทบจะส่องแสงเหมือนสายรุ้ง
นักรบอสูรจะไม่สอนทักษะป้องกันให้อสูรตนมากนัก เว้นแต่อสูรจะ
เป็นสายสนับสนุน อสูรป้องกันไม่สามารถพ่นชั้นป้องกันห้าชั้นได้
พร้อมกันแน่ มันยากมาก “หมาตัวนั้นมันอะไร?”
มังกรเพลิงนรกร้องคำราม ส่งเจตจำนงคุกคามใส่ศัตรูมัน นี่ทำให้
สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าสั่นกลัว
ผู้อาวุโสเฟิงและจัวเฟิงชุนสะดุ้งอีกครั้ง พวกเขาตกใจกับเสียงคำราม
ของมังกร เดิมพวกเขาเชื่อว่ามังกรตัวนี้ยังไม่โตพอจะทำร้ายนักรบ
อสูรอย่างพวกเขา
ถังยู่หรานเป็นเด็กที่กล้าหาญมาตลอด เธอเป็นคนที่ได้รับการเลี้ยงดู
มาแบบพิเศษซึ่งเธอเคยจัดการกับคู่ต่อสู้ประเภทมังกรและพวกกึ่ง
ราชาอสูรมาแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกสั่นกลัวกับกลิ่นอายคุกคามของ
มังกรเพลิงนรก
องครักษ์บางคนก้าวออกไปพร้อมขาที่สั่นระริก
“หอคอยมังกร…นั่นรู้สึกเหมือนเจตจำนงภายในหอคอยมังกร”
แน่นอนว่าใช่ ต้องขอบคุณซูผิง มังกรเพลิงนรกได้ใช้ชีวิตวัยเด็ก
ส่วนใหญ่ภายในห้อคอยมังกรขณะที่ถูกวิญญาณราชามังกรโบราณ
ข่มตลอด มันไม่สามารถคัดลอกกลิ่นอายราชามังกรได้หมด แต่ก็
ใกล้เคียง
มังกรเพลิงนรกยิงลำแสงไฟออกมา
ผู้อาวุโสเฟิงปล่อยคลื่นวิญญาณ
“ตื่นกันได้แล้ว!”
คลื่นวิญญาณทำให้ทุกคนหลุดจากสภาวะตกตะลึงได้
จัวเฟิงชุนรีบก้าวไปตรงหน้าถังยู่หรานเพื่อปกป้องเธอ แต่ทันทีที่เขา
ขยับ เขาก็เห็นอะไรบางอย่างสีดำพุ่งผ่านหน้าเขา
“อะไร”
การรับรู้ดวงดาวเขาจับตามองโดยรอบอยู่ตลอด ซึ่งหมายความว่าไม่
มีสิ่งใดจะเล็ดลอดการตรวจจับของเขาได้ แต่ทว่า..
“สิ่งนี้สามารถเทเลพอร์ตได้!”
จัวเฟิงชุนรู้สึกถึงเหงื่อเย็นทั่วผิวหนังตอนเขาเห็นโครงกระดูกขนาด
เล็กเข้าใกล้หน้าเขา ด้วยสัญชาตญาณ เขาเคลือบร่างกายด้วยพลัง
ดวงดาว ในเวลาเดียวกันยังชักดาบออกมา แต่โครงกระดูกน้อยเร็ว
กว่า เสริมด้วยพลังงานมืด ดาบกระดูกมันฉีกผ่านอาวุธส่วนตัวของ
จัวเฟิงชุนได้ง่าย ๆ
จัวเฟิงชุนเบิกตากว้าง
ม่านพลังดวงดาวเขาไร้ผล ดาบกระดูกจมเข้าไปในกะโหลกเขา แยก
ศีรษะของเขาออกเป็นสองส่วน
ทุกคนรอบเขาจ้องเขม็ง เลือดที่กระฉูดยังเป็นการประกาศถึงการตาย
ของหนึ่งในสมาชิกที่แข็งแกร่งสุด
นักรบอสูรกิตติมศักด์ิ ถูกฆ่าในไม่กี่วินาที
จัวเฟิงชุนเป็นแค่นักรบอสูรระดับเก้าขั้นต่ำ แต่เขาก็ยังเป็นระดับเก้า
ถังยู่หรานเห็นหัวที่ถูกผ่าตกลงแทบเท้าเธอ เธอล้มลงด้วยความกลัว
แม้ว่าเธอจะยังสามารถบังคับให้ตัวเองสงบได้ก็ตาม
โดยปราศจากการยั้งคิด เธอรีบเปิดพื้นที่อสูรเธอ เรียกอสูรทั้งหมดที่
เธอนำมาด้วย ซึ่งรวมถึงอสูรระดับแปดขั้นสูงสองตัวและอสูรระดับ
เก้าขั้นต่ำหนึ่งตัว เหล่านี้คืออสูรหายากของตระกูลเธอ ด้วยอสูร
ระดับเก้าเป็นผู้โจมตีหลัก
ทูตตกสวรรค์ ประเภทปีศาจ
สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนทูตสวรรค์กลับมีหมอกสีดำมืดวนรอบตัว และ
ยังมีปีกสีดำ
ทูตตกสวรรค์กระพือปีกสี่คู่บนหลัง ค่อย ๆ ลอยลงตรงหน้าถังยู่
หราน ขณะจับจ้องมังกรเพลิงนรกด้วยดวงตาสีดำสนิท มันถืออาวุธ
สองอันในมือ อันหนึ่งเป็นดาบ และอีกอันเป็นโซ่ความมืด
สมบัติเหล่านี้มีค่าพอ ๆ กับอสูรดวงดาวประเภทมังกรระดับเก้า ทูต
ตกสวรรค์มีค่าใช้จ่ายอย่างมากสำหรับถังยู่หราน แน่นอน มันเป็น
คู่หูที่ดีสุดของเธอ ด้วยการใช้สมบัติที่มีอยู่ อสูรตนนี้สามารถป้องกัน
อสูรระดับเก้าขั้นกลางได้ หรืออาจหนีได้ตราบเท่าที่มันไม่เจอราชา
อสูร
การเป็นเจ้าของอสูรตัวนี้ทำให้ถังยู่หรานกล้าโอ้อวดไปทั่ว ทูตตก
สวรรค์แข็งแกร่งพอจะลอบสังหารนักรบอสูรกิตติมศักด์ิได้ถ้า
จำเป็น มันต้องขอบคุณระดับจิตวิญญาณที่เหนือกว่าของเธอซึ่งช่วย
ให้เธอควบคุมอสูรที่ระดับสูงกว่าเธอได้ ทุกคนในตระกูลเธอต่าง
ยอมรับว่าเธอเป็นอัจฉริยะตัวจริง
ข้างเธอ ผู้อาวุโสเฟิงเพิ่งฟื้นจากอาการตกใจและรีบเรียกอสูรยักษ์
สามตัวออกมา รวมถึงหนอนมังกรที่ดูเหมือนหนอนดินยาวกว่าร้อย
เมตร
หนอนจมลงสู่พื้น ขยับอยู่ตำแหน่งของถังยู่หรานและกลืนเธอเข้าไป
เมี่อเห็นว่าถังยู่หรานได้การปกป้อง ผู้อาวุโสเฟิงก็สั่งอสูรอีกสองตัว
อสูรดรายแอดระดับเก้าขั้นสูง และอสูรโจรปล้นนรกระดับเก้าขั้น
สูงสุด เพื่อพัวพันกับมังกรเพลิงนรก
ทันทีที่ไดรแอดถึงพื้น มันก็สร้างเถาวัลย์และแส้นับไม่ถ้วนเพื่อจับ
มังกรเพลิงนรก
โจรปล้นนรกเป็นอสูรประเภทปีศาจรูปร่างมนุษย์ ขณะที่อยู่ภายใต้
เพลิงนรกรุนแรง มันก็ยังพุ่งใส่มังกรเพลิงนรกด้วยหอกอันแหลมคม
สุนัขมังกรดำสร้างม่านพลังรอบตัวมัน เปลวไฟสีดำรอบตัวมันและ
ลูกไฟหลายลูกที่มันเรียกมาเผาผลาญเถาวัลย์อย่างรวดเร็ว
พืชย่อมแพ้ไฟอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าสุนัขมังกรได้เรียนวิธีปล่อย
เพลิงนรกดำ ซึ่งอันตรายกว่าไฟทั่วไปหลายเท่า
ผู้อาวุโสเฟิงหน้าดำทันทีที่เห็น เขาจำลูกไฟเหล่านี้ได้ มันคือทักษะ
ประเภทไฟหายากของอสูรประเภทไฟ แต่เท่าที่เขาเห็น สุนัขตัวนี้
เป็นประเภทปีศาจ
“อสูรของเขาแปลกเกินไป ฆ่าเจ้าของก่อน!” ผู้อาวุโสเฟิงนึกถึง
ทางเลือกที่ดีสุดและส่งคำสั่งให้เงาปีศาจ
เงาปีศาจรับคำสั่ง หายไปในเงามันเพื่อเตรียมลอบสังหาร ด้วยการทำ
เช่นนี้ มันสามารถเข้าประชิดเป้าหมายและทำลายหัวหน้าศัตรูได้ใน
พริบตา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทั่วไปของผู้อาวุโสเฟิง
แต่ทว่า เมื่อเงามันมาถึงอสรพิษม่วง เงาขนาดเล็กก็พลันปรากฏขึ้น
กระแทกลงกับพื้น
จุดกระทบระเบิด หลังจากนั้นเงาปีศาจก็ถูกบังคับให้ต้องหนีจากจุด
ซ่อนตัว มีเลือดไหลทั่วแผ่นหลังมัน
กรามของโครงกระดูกน้อยเปิดออกราวกับมันกำลังยิ้ม อากาศ
รอบตัวมันเริ่มพร่ามัว เงาขนาดใหญ่ปรากฏด้านหลังมัน
โฮก!
มันคือทักษะเสียงคำรามแห่งความตายที่ได้รับการขยายผลเป็นสอง
เท่าโดยโครงกระดูกน้อย
คนเหล่านี้รู้สึกได้ถึงความดำมืดที่รุกรานจิตใจพวกเขา ซึ่งดูเหมือน
จะรุนแรงกว่าของมังกรเพลิงนรก แม้กระทั่งอสรพิษม่วงเองก็ยัง
สะดุ้งเล็กน้อยตอนได้ยิน มันใช้เวลากับโครงกระดูกน้อยสักพักแล้ว
แต่มันก็ยังไม่ชิน
เงาปีศาจรู้สึกได้ถึงวิญญาณของมันที่สั่นสะท้านด้วยความกลัว มัน
หมุนตัวหนีทันที
ก่อนเงาปีศาจจะได้ซ่อนตัวในเงามันอีกครั้ง โครงกระดูกน้อยก็มา
ปรากฏข้างมัน ฟันอีกครั้ง ครั้งนี้ เงาขนาดยักษ์ด้านหลังโครงกระดูก
น้อยขยับตาม ปลดปล่อยคลื่นดาบรุนแรงที่ดูเหมือนจะเฉือนผ่านมิติ
เวลา
เงาปีศาจตัวแข็งทื่อ
ฉึก!
ไหล่ทั้งไหล่มันหลุดออก ความเจ็บปวดมหาศาลไหลขึ้นสมองมัน
มันตะเกียกตะกายกลับไปด้านข้างผู้อาวุโสเฟิงด้วยความกลัว
ผู้อาวุโสเฟิงไม่แสดงปฏิกิริยาใดหลังเห็นอสูรของเขาหนี เพราะเขา
เองก็ตกใจเหมือนกัน เมื่อเห็นโครงกระดูกของซูผิง เขาก็นึกถึงวันที่
เขาพบราชาอสูรเป็นครั้งแรก
ไม่ นี่เลวร้ายยิ่งกว่า
“สิ่งนั้นคืออะไร..?”
โครงกระดูกน้อยไม่ให้ผู้อาวุโสเฟิงมีเวลาถาม วินาทีต่อมา มันก็
ปรากฏข้างเขา ยกดาบกระดูกมันขึ้น
กระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั้งตัวเขา ทำให้ผู้อาวุโสเฟิงได้สติ ด้วยความสิ้น
หวัง เขาสั่งให้เงาปีศาจแบกเขาและหลบการโจมตี
ผู้อาวุโสเฟิงไม่โน้มน้าวตัวเองให้มองโครงกระดูกน้อยอีก
การโจมตีชั่วพริบตานั่นเตือนเขาให้นึกถึงทักษะลอบสังหารของ
ราชาอสูรบางตัว แม้เขาจะรู้ว่าโครงกระดูกตัวนี้ไม่ใช่ราชาอสูรก็ตาม
ผู้อาวุโสเฟิงจ้องจุดที่ซูผิงยืนอยู่ด้วยความกลัว โกรธและเกลียด
“ฉันไม่รู้ว่าแกมาจากไหน …แต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้แกรอดไป
ได้ วันนี้ ไม่ว่าฉันหรือแกก็ต้องตาย”
ด้วยการใช้พลังดวงดาว เขาปล่อยหนามพลังงานแหลมใส่ซูผิง
ซูผิงซ่อนตัวอยู่หลังเกล็ดงู เขาย้ายไปจุดปลอดภัยตั้งแต่เริ่มการต่อสู้
แล้ว
หนามกระแทกกับเกล็ดและทำให้เกิดรูเล็ก ๆ ได้สำเร็จ แต่มันก็เสีย
โมเมนตัมส่วนใหญ่ไป เมื่อมาถึงซูผิง มันก็ถูกหยุดโดยม่านพลังของ
สุนัขมังกร
ผู้อาวุโสเฟิงแสยะยิ้มเมื่อรู้ถึงผลของการโจมตีเขา เขาตระหนักว่าเขา
ประเมินความแข็งของเกล็ดงูต่ำไป โดยปราศจากพวกมัน ซูผิงคง
บาดเจ็บสาหัส
หลังตัดสินใจ ผู้อาวุโสเฟิงก็เตรียมใช้วิชาลับที่มีแค่ลูกหลานสายตรง
ของตระกูลถังถึงรู้
“สูบฉีดวิญญาณ!”
จากตาเขา ควันดำพวยพุ่งออกมา มุ่งตรงไปทางซูผิง
“วันนี้แกต้องตาย!” ผู้อาวุโสเฟิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “แกไม่สามารถ
เป็นนักรบอสูรระดับเก้าขั้นสูงได้ ไม่งั้นทั้งโลกคงรู้ไปแล้ว และถ้า
แกมีระดับต่ำกว่านั้น ฉันก็สามารถฆ่าวิญญาณแกได้!”
ควันไหลผ่านเกล็ดงู และม่านพลังของสุนัขมังกรก่อนจมลงเข้าหัว
ซูผิง
แต่ทันทีที่มันเข้าไป มันก็ชนกับม่านพลังสีทอง ด้วยการใช้พลังงาน
ส่วนใหญ่ ควันพุ่งชนกับมัน ติดอยู่ในตะเกียงแปลก ๆ สักพัก
หลังจากนั้น ควันก็หลุดออกจากตะเกียงได้สำเร็จ เห็นแกนวิญญาณ
ของซูผิงด้านหน้า
แต่ทว่า ก่อนมันจะไปถึง ภาพสว่างของนกสีทองก็พลันปรากฏขึ้น
และกู่ร้อง
เสียงแหลมของนกรวมกับแสงสว่างทำให้ควันที่เหลือสลายหายไป
“อึก อ้ากกก”
ด้านนอก ผู้อาวุโสเฟิงเริ่มมีเลือดไหลออกทางตาและจมูก เขาข่วน
ใบหน้าตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะเดียวกัน โครงกระดูกน้อยก็มาถึงตัวเขาอีกครั้ง ส่วนอสูรเขา
เงาปีศาจกลัวเกินจะลงมือ
ฟุ่บ!
หัวของผู้อาวุโสเฟิงหลุดจากตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อเสียสัญญาอสูร สัญชาตญาณเอาตัวรอดของเงาปีศาจก็ส่งให้มัน
หลบหนีไปไกล
ดรายแอดเห็นศพนายมัน มันร้องโหยหวน จากนั้นก็สร้างดอกไม้
โอบกอดร่างผู้อาวุโสเฟิงไว้ก่อนจมลงพื้น หายไป
สุนัขมังกรดำไปช่วยมังกรเพลิงนรกสู้กับโจรปล้นนรก ขณะที่โครง
กระดูกน้อยหันไปเผชิญหน้ากับองครักษ์ที่เหลือของตระกูลถัง