แม้ว่าถังยู่หรานจะประหลาดใจกับคำตอบของซูผิง แต่เธอก็เชื่อว่าเขามีแนวโน้มที่จะชนะสูงมาก เนื่องจากเขาเอาชนะผู้อาวุโสของตระกูลถังที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย
ถังยู่หรานรู้สึกอยากลอง “ พาฉันไปด้วยได้ไหม ร้านค้าก็จะปิดอยู่แล้วหากนายไม่อยู่ ฉันคงไม่มีอะไรทำที่นี่”
ซูผิงจ้องเธอด้วยสายตาดูถูกเธอ “ ใครบอกว่าฉันจะปิดร้าน? โจแอนนาคนเดียวคงยุ่งเกินไป เธอสองคนจะต้องช่วยเธอ”
ถังยู่หรานหน้ามุ่ย เธอไม่สามารถหาข้ออ้างในการโต้กลับได้
เธอหมดความสนใจอย่างรวดเร็ว เธอจำได้ว่ามีแนวโน้มที่เธอจะได้พบกับผู้อาวุโสจากตระกูลถังที่ลีกสูงสุด เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเห็นสมาชิกตระกูลของเธอในตอนนี้
จงหลิงถงยังคงเงียบ เธอกำลังอยากจะถามว่าเมื่อไหร่ที่ซูผิงจะเริ่มสอนทักษะการฝึกของเธอ แต่กลัวที่จะถาม เขินอายและขี้อายเหมือนที่เธอเป็น
ซูผิงเห็นว่าฉินตู้หวงและเพื่อนเก่าของเขากำลังเล่นหมากรุกอยู่หน้าประตูร้าน เขามองไปที่ประตูของอาคารอื่น เขาเห็นมู่เป่ยไห่นั่งอยู่ในโต๊ะทำงานใหม่เอี่ยมซึ่งไม่เหมาะกับอาคารเก่านั้น มู่เป่ยไห่กำลังตรวจสอบเอกสารบางอย่าง จัดการกับเรื่องตระกูล
พวกนี้ออกมาข้างนอกกันจริงๆ
ซูผิงส่ายหัว เมื่อนึกถึงลีกสูงสุด เขาตัดสินใจโทรหาฉินตู้หวง
ฉินตู้หวงรู้สึกประหลาดใจที่เห็นสายของซูผิง เขายิ้มกริ่มอยู่ข้างใน “ ครับ คุณซู?”
มู่เป่ยไห่ละสายตาจากเอกสารต่างๆ เขาจ้องมองซูผิงด้วยความประหม่า โจวเทียนหลินและหลิวเทียนจงต่างหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ พวกเขารู้สึกกดดันมาก ซูผิงกำลังจะขายอสูรอีกครั้งหรือเปล่า?
ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะวิ่ง
“ ผมได้ยินมาว่าลีกสูงสุดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว คุณจะไม่เข้าร่วมหรอ?” ซูผิงถาม ลีกสูงสุดเริ่มขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉินตู้หวง และคนอื่น ๆ จะยังไม่ไปที่นั่น
ทุกคนหายใจด้วยความโล่งอกในเวลาเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะผิดหวัง หลิวเทียนจงลุกขึ้นยืน และอธิบายว่า“ คุณซูคุณคงไม่รู้เรื่องนี้ แต่ลีกสูงสุดมีไว้สำหรับคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์อย่างคุณ คนแก่อย่างเราไม่ใช่ผู้สมัครที่เหมาะสมอีกต่อไป”
แม้ว่าซูผิงจะขอทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหลิว และเกือบจะทำให้พวกเขาย่อยยับ แต่หลิวเทียนจงก็ไม่เกลียดซูผิงอีกต่อไป สิ่งหนึ่งที่ซูผิงมีคือนักรบอสูรในตำนานที่คอยหนุนหลังเขา อีกอย่างซูผิงเองก็น่ากลัวพอสมควร เป็นไปได้ว่าเขาสามารถเติบโตจนกลายเป็นนักรบอสูรในตำนานได้ด้วยตัวเอง
สิ่งที่หลิวเทียนจงต้องการทำในตอนนี้คือการทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับซูผิงดีขึ้น หากซูผิงเพิ่มตระกูลหลิวลงในบัญชีดำ และจงใจหลีกเลี่ยงตระกูลหลิว เมื่อเขาขายอสูรในอนาคตตระกูลหลิวก็จะถึงวาระจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วตระกูลหลิวจะถูกตระกูลอื่น ๆทำลาย และในที่สุดก็จะถูกบังคับให้ออกจากเมืองฐานหลงเจียง
ฉินตู้หวงจ้องมองหลิวเทียนจงที่แย่งตอบคำถามก่อน เข้าใจพูดจังนะ! “คุณซูคุณเข้าร่วมไหม?”ฉินตู้หวงถามด้วยรอยยิ้ม“ ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ผมคิดว่าการคว้าแชมป์คงเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับคุณ ผมได้ยินมาว่าของรางวัลสำหรับแชมป์นั้นค่อนข้างน่าอัศจรรย์ มันเป็นสิ่งที่ทำให้อสูรสามารถเลือกรับพรสวรรค์ได้! อสูรที่มีความสามารถพิเศษนั้นได้มายาก คุณซูนี่เป็นโอกาสที่คุณไม่ควรพลาด!”
“ ผมจะไปเร็ว ๆ นี้” ซูผิงถามอีกว่า“ คุณจะได้ที่เท่าไหร่ถ้าคุณเข้าร่วม?”หลิวเทียนจงคว้าโอกาสอีกครั้ง “คุณซูไม่ต้องกังวล คุณจะได้ที่ 1 และแน่นอนสำหรับเรา การเข้าสู่10 อันดับแรกน่าจะมากพอ ท้ายที่สุดแล้วคนชราที่ไร้ยางอายจากเมืองฐานอื่น ๆ จะเข้าร่วมการแข่งขัน ผู้ชนะ 10 อันดับแรกทั้งหมดจะอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด”
ฉินตู้หวงโกรธมาก แกไม่เห็นเหรอว่าคุณซูกำลังคุยกับฉันอยู่ ทำไมถึงแทรกล่ะ?!
“ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด …” ซูผิงพยักหน้า
ซูผิงเดินไปที่ร้านและเปิดประตูโดยไม่กังวลใจอีกต่อไป
ลูกค้าเองก็ได้ยินการสนทนาด้วยซึ่งทำให้พวกเขางุนงง ลีกสูงสุด? ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด? ไม่มีคำใดที่พวกเขาเข้าใจ
ถังยู่หรานและจงหลิงถงเริ่มงานของพวกเธอในฐานะพนักงานต้อนรับทันทีที่ประตูเปิดออก
“ ฉันมาเพื่อรับอสูรของฉัน”
สวี่หยิงเสวี่ยยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อรับอสูรที่เธอทิ้งไว้เมื่อวันก่อน ซูผิงยังจำเธอได้ เขาเรียกดูบันทึก พบอสูรของเธอและบอกให้โจแอนนาไปเอาอสูรออกมา
ในไม่ช้าอสูรระดับเจ็ดของสวี่หยิงเสวี่ยก็ถูกพาตัวมาที่หน้าร้าน
อสูรนั้นแตกต่างจากก่อนหน้านี้มากจนสวี่หยิงเสวี่ยแทบจะจำมันไม่ได้ การเชื่อมต่อและความผูกพันบอกเธอว่ามันคืออสูรของเธอ ถึงกระนั้นความรุนแรงในดวงตาของมัน และเจตนาฆ่าที่หลุดออกมาจากอสูรทำให้เธอหวาดหวั่น!
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรภายในวันเดียว!
จงหลิงถงที่กำลังคุยกับลูกค้าก็สะดุ้ง เธอค่อนข้างเป็นคนช่างสังเกต เธอยังจำอสูรตระกูลธาตุได้ ท้ายที่สุดแล้วอสูรตัวนั้นเป็นอสูรหายาก และผู้หญิงคนนั้นก็เลือกแพ็คเกจฝึกฝนมืออาชีพ เธออยากรู้ว่าการฝึกฝนมืออาชีพเป็นยังไง สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอเกิดคำถามว่าตาเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
หลังจากการฝึกฝนมืออาชีพ?
มันเป็นอสูรที่แตกต่างกันจริงๆ!
วันหนึ่งและการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเช่นนี้ … การฝึกนั้นจะต้องครอบคลุมลักษณะธรรมชาติ ความแข็งแรง และพลังงานของอสูร และ … ทุกอย่าง! มันจะทำได้ยังไงในวันเดียว!
“ ความแข็งแกร่งของอสูรคุณสามารถเปรียบเทียบได้กับอสูรร้ายระดับเก้าโดยเฉลี่ย คุณสามารถหาคำตอบได้ในห้องทดสอบผมเขียนชื่อของทักษะใหม่ลงในบันทึกนี้” ซูผิงกล่าว เขามีความเชี่ยวชาญในงานมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เขาจะเขียนความสำเร็จของการฝึกอสูรแต่ละตัวไว้ในกระดาษโน้ต ด้วยวิธีนี้เจ้าของอสูรจะพบได้ทันทีว่าอสูรของตนมีความแตกต่างอย่างไร สวี่หยิงเสวี่ยไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ “ อสูรร้ายระดับเก้า?”
อสูรของเธออยู่ในระดับ 7 และหลังจากผ่านไปเพียงวันเดียว เขาบอกเธอว่าอสูรของเธอเปรียบได้กับอสูรร้ายระดับเก้า?!
เป็นไปไม่ได้!
เธอเคยได้ยินมาว่าการฝึกในร้านของซูผิงนั้นยอดเยี่ยมมาก และเธอก็รู้สึกประหม่าเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าอสูรของเธอ “ งั้นฉันขอทดสอบความก้าวหน้าของอสูร…ได้ไหม?” เธอพูดอย่างลังเล“เชิญ”
ซูผิงพยักหน้า และบอกถังยู่หรานให้พาสวี่หยิงเสวี่ยไปที่ห้องทดสอบ
หลังจากสวี่หยิงเสวี่ยจากไป จงหลิงถงก็ไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้อีกต่อไป เธอรวบรวมความกล้าเดินไปที่เคาน์เตอร์ และถามซูผิงว่า“ อาจารย์นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าการฝึกจริงๆหรอ? คุณทำสำเร็จได้อย่างไรในเวลาเพียงวันเดียว”
เท่าที่เธอสามารถบอกได้ แม้แต่ผู้ฝึกสอนระดับสูงก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
ซูผิงไม่ได้ตำหนิที่เธอถาม เขาให้คำตอบที่กระตุ้นความคิดกับเธอว่า“ สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ว่าเธอมีเวลามากแค่ไหน แต่เธอใช้เวลายังไง!”
จงหลิงถงพยักหน้า แต่ยังคงสับสนอยู่ครึ่งหนึ่ง
ซูผิงบอกให้เธอกลับไปดูลูกค้า เขาต้องจัดการธุรกิจของวันนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะได้มุ่งหน้าสู่ลีกสูงสุด
ไม่นานหลังจากนั้นสวี่หยิงเสวี่ยก็มาจากห้องทดสอบ เธอยังคงรู้สึกว่าเธอกำลังฝัน และเท้าของเธอก็อ่อนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเพิ่งเห็นมันด้วยตาของเธอเอง เธอคงไม่เชื่อคำที่ซูผิงพูด!
อสูรของฉันเทียบได้กับอสูรร้ายระดับเก้า!
น่าทึ่งมาก!
ทักษะขั้นสูงที่อสูรของเธอได้เรียนรู้นั้นน่าประทับใจมาก เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถทำได้ภายในวันเดียว
เงินหนึ่งร้อยล้าน…ถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า!
“คุณซู…”สวี่หยิงเสวี่ยเข้าหาซูผิงโดยยังคงรู้สึกว่าสถานการณ์เหนือจริง เธอโค้งหัวแสดงความขอบคุณ“ ขอบคุณมาก ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของคุณ!”
ซูผิงไม่รู้ว่าเธอจะตื่นเต้นขนาดนี้ แน่นอน เขารู้ว่าลูกค้าคนอื่น ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์เช่นกัน
“ คุณก็พูดเกินไป จำไว้ว่าคุณจ่ายเงินให้ผม” ซูผิงช่วยยุงเธอขึ้นมา
ลูกค้าที่ยืนต่อแถวไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาแบบนี้ ลูกค้าใหม่บางรายแม้กระทั่งผู้ที่เพิ่งเข้ารับการฝึกทั่วไปก็จะรู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาอยากจะมอบของขวัญให้ซูผิงเสียด้วยซ้ำ แต่เขาไม่รับ
สวี่หยิงเสวี่ยยิ้มฝืน ๆ
เงิน? เมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วหนึ่งร้อยล้านไม่ถือว่าเยอะเลย
“ ฉันจะไม่มีวันลืม”สวี่หยิงเสวี่ยยืนยัน เธอก้มหัวให้เขาอีกครั้ง และจากไป
ซูผิงไม่รู้จะพูดอะไร ช่างเป็นผู้หญิงที่ดื้อ
หลังจากสวี่หยิงเสวี่ยจากไปแล้ว ซูผิงก็รับลูกค้าคนอื่น ๆ ต่อ เขาบอกกับลูกค้าที่มาเพื่อรับการฝึกฝนมืออาชีพว่าพวกเขาจะต้องรออสูรสักสองสามวัน และเขาจะแจ้งให้ทราบเมื่อการฝึกเสร็จสิ้น
ท้ายที่สุดเขาจะต้องออกไปเพื่อรับหินพรสวรรค์
ลูกค้าเหล่านั้นยอมรับด้วยความยินดี ร้านค้าอื่น ๆ จะต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึก แต่ซูผิงขอเวลาสองสามวัน
ในไม่ช้าก็ไม่มีที่ว่าง
ลูกค้าที่ยังรออยู่ ต้องเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง
ซูผิงหันหน้าไปทางโจแอนนา และบอกให้เธอตั้งค่าหุ่นฝึกซ้อม
“ อาจารย์จะกลับมาเมื่อไหร่?” จงหลิงถงถาม เธออยู่ในสถานที่แปลก ๆ และเธอไม่มีเพื่อนที่นี่ ซูผิงเป็นคนเดียวที่เธอคุ้นเคยมากกว่าคนอื่นเล็กน้อย เธอไม่ค่อยสบายใจที่เขากำลังจะจากไป
“ ไม่ต้องกังวล ฉันไปไม่นาน”
ซูผิงลูบหัวเธอ การทำให้ผมเธอยุ่งทำให้เขาอารมณ์ดี
เธอไม่ใช่ผู้หญิงขี้หงุดหงิด ต่างจากถังยู่หราน จงหลิงถงไม่ได้โกรธเรื่องผมของเธอ เธอจ้องมองซูผิงด้วยดวงตาที่เอ่อคลอ
ซูผิงไม่เคยชอบความรู้สึกของการบอกลา เขาโบกมือทำท่าไม่ใส่ใจ หลังจากคิดได้แล้ว เขาก็เรียกจระเข้สงครามออกมา เขากังวลว่าจะต้องเจอกับนักรบอสูรในตำนานในช่วงลีกสูงสุด โครงกระดูกน้อยยังคงปลุกสายเลือดของมัน และไม่สามารถช่วยเขาได้ในขณะนี้ อสูรที่ทรงพลังเพียงตัวเดียวที่เขามีคือมังกรเพลิงนรกที่มีความแข็งแกร่งเกิน 10 การพึ่งมังกรเพลิงนรกนั้นไม่ปลอดภัยพอ