ทุกคนตกตะลึงเกินกว่าจะพูดได้…ปรมาจารย์ดาบและคนอื่น ๆ ก็จ้องมองเขาด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ กลัว มันเกินความคาดหวังของทุกคนที่ซูผิงจะกระโดดขึ้นไปบนเวที และพูดคำพูดบ้าๆเหล่านั้น! เขากำลังท้าทายทุกคนในสนาม! แน่นอนว่าหลายคนอยู่ที่นี่เพื่อคว้าแชมป์ แต่คงไม่มีใครดุเดือดถึงขนาดที่จะตะโกนในที่สาธารณะ ท้ายที่สุดอาจมีนักรบอสูรรุ่นเก๋าและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ซึ่งเกษียณไปนานแล้ว ไม่มีใครจะมีความมั่นใจอย่างแท้จริงที่จะชนะทุกคนได้ในปัจจุบัน! นัดสุดท้ายจะเป็นเหมือนการนองเลือดครั้งใหญ่! ราชาอสูรร้ายและทักษะในตำนานไม่สามารถหาได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในสองของรางวัลก็มากพอที่จะทำให้คนกลุ่มหนึ่งทะเลาะกัน!
แต่ในขณะนี้ซูผิงยืนอยู่เหนือเวทีโดยอ้างว่าเขากำลังจะเป็นแชมป์!
เขาอวดดีมาก!
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งผู้ตัดสินก็กลับมาได้สติ เขาพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า“ คุณครับ นี่คือลีกสูงสุด ผมเข้าใจว่าคุณต้องการที่จะชนะ แต่เรามีกฎของเรา และผมเชื่อว่าคุณก็เป็นคนที่มีสถานะสูงเช่นกัน ผมขอหมายเลขคุณหน่อยครับ เจ้าหน้าที่ของเราจะโทรหาคุณเมื่อถึงตาคุณ” ซูผิงหันหลังกลับไปมอง เขามองไปที่ผู้ตัดสิน
“ ผมรู้ว่านี่คือลีกสูงสุด!” ซูผิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม“ และผมรู้ว่าคุณมีกฎของคุณ แต่ในตอนท้ายของวัน กฎก็คือคุณจะต้องเลือกแชมป์อย่างยุติธรรม!”
ซูผิงมองไปที่ฝูงชน และมองไปยังสถานที่ที่รวบนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ไว้“ ฉันจะเป็นที่หนึ่ง! สำหรับอันดับสอง สาม และอื่น ๆ จะทำอะไรกันก็ได้ตามที่ต้องการ ฉันรีบ ฉันจะกลับทันทีที่ได้แชมป์!”
บ้าไปแล้ว!
ทุกคนที่สนามไม่มีใครพูดออกมา
กลับทันทีที่คว้าแชมป์?
รีบ?
นายคิดว่านายเป็นใคร? มีวีไอพีมากมายนั่งรออยู่ที่นี่ และนายบอกว่ากำลังรีบ?! ใบหน้าของผู้ตัดสินเริ่มขุ่นมัว “ คุณกำลังสร้างปัญหา ผมจะพาคุณลงจากเวทีถ้าเดี๋ยวนี้ถ้าคุณไม่ยอมออกไปดีๆ!” ผู้ตัดสินปลดปล่อยพลังดวงดาวของเขา เขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด! เขาเป็นสมาชิกขององค์การการค้าเสรี ผู้สนับสนุนลีก และผู้จัดหาสถานที่ ด้วยสถานะของเขาในฐานะสมาชิก ชายคนนี้จึงเป็นตัวแทนของพวกเขาในฐานะผู้ตัดสิน
ซูผิงดึงหน้า เขามองเข้าไปในดวงตาของผู้ตัดสิน “ ฉันพูดทั้งหมดไปแล้ว ฉันจะคว้าแชมป์ในวันนี้ ฉันไม่สนใจว่านักรบอสูรในตำนานจะอยู่ที่นี่หรือไม่!”
“ ฉันจะเป็นผู้ท้าชิงคนแรกของเขา!”
“ โอ้ ฉันจะจัดการกับนายแน่” ผู้ตัดสินบินไปด้วยความโกรธ เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวออกมามากขึ้น ราวกับว่ามีภูเขาขนาดใหญ่ผุดออกมาจากด้านหลังเขา เขากำลังจะครอบงำซูผิง ซูผิงกำลังจะขยับตัวแต่มีคนใกล้เวทีตะโกนว่า“ เราไม่จำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสหยานจัดการกับคนบ้านี่ ฉันจะสอนบทเรียนให้นายเอง!”
เสียงของชายคนนี้ยังไม่ทันจางหายไป – ก็มีชายคนหนึ่งขึ้นมาบนเวที เขาคือผู้ชายที่สูง และแข็งแกร่ง เขายืนอยู่บนเวทีเหมือนหอคอยเหล็ก “ เฮ้นาย ฉันเห็นว่านายก็เป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ นายมาจากไหน? บอกชื่อและระดับมา ฉันราชาน้ำแข็งจะไม่เอาชนะใครก็ตามที่ไม่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์!”
“ นายต้องการที่จะท้าทายฉันใช่ไหม?” ซูผิงเหล่ “ นายอ่อนแอเกินไป!”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจผู้ชายตัวสูงที่มีใบหน้าเปลี่ยนสี ซูผิงมองข้ามไหล่ของชายคนนั้น ตะโกนไปที่บริเวณที่นั่งซึ่งรวบรวมนักรบอสูรกิตติมศักดิ์อยู่ “ มีใครอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดไหม? ใครก็ตามที่อยู่ต่ำกว่านั้นไม่ต้องมา มันเสียเวลาของฉัน!”
หยิ่งมาก! ความเงียบครอบคลุม
พวกเขาไม่เคยเห็นใครบ้าแบบนี้มาก่อน!
ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดไม่ต้องก้าวขึ้นมาบนเวที? ประโยคนั้นสร้างความโกรธแค้นให้กับนักรบอสูรทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในขั้นสูงสุด!
“ ไอ้หน้าโง่ แกอยากตายหรือไง!!” ชายร่างกายกำยำที่มีฉายาว่าราชาน้ำแข็งเม้มปาก เขาหันไปหาผู้ตัดสิน “ ผู้อาวุโสหยานกรุณาถอยออกไป ผมจะจัดการกับไอ้เด็กบ้านี่!”
“ ใช่ ผู้อาวุโสหยานปล่อยเขา!”
“ ผู้ชายคนนี้มาจากไหน? เขาไม่รู้สินะว่าท้องฟ้าสูงขนาดไหน!”
“ ราชาน้ำแข็งจัดการมันซะ ก่อนที่ฉันจะต่อยมันจนตาย!”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์มากมายคำราม
ผู้ที่ไม่ได้อยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดไม่มีคุณสมบัติที่จะขึ้นสู่เวที?
ผู้ชายคนนี้ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่ต่อสู้กับคนอื่นที่อยู่เหนือระดับของตัวเองหรือไง?
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายคนแม้ว่าจะไม่ถึงจุดสูงสุด แต่ก็มีความแข็งแกร่งของระดับนั้น! ซูผิงดูแคลนพวกเขาทั้งหมด!
อุกอาจเกินไป!
ซูผิงทำให้ประชาชนโกรธ ผู้ตัดสินพุ่งเข้ามาที่ซูผิงอย่างเยือกเย็น เขาจะช่วยผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ เมื่อพวกเขากำลังจะแพ้ แต่ซูผิง อืม เขาสาบานว่าเขาจะไม่ยุ่งแม้ว่าซูผิงจะตายอยู่ใต้จมูกของเขาก็ตาม!
พวกเขาอยู่ทีเมืองฐานสายรุ้ง!
นั่นคือสถานที่ภายใต้การควบคุมขององค์การการค้าเสรี!
ไม่มีใครสนใจว่าซูผิงมาจากไหน ใครก็ตามที่ต้องการสร้างปัญหาจะต้องเตรียมตัวตาย! “ แน่นอน!”
ผู้ตัดสินพยักหน้า “ทั้งคู่รู้กฎดีใช่มั้ย? ไม่มีใครสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ โดยการฆ่าแบบเจตนา!” ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “เปิดใช้งานม่านพลัง!” ราชาน้ำแข็งแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว และกล่าวว่า“ ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ทำอย่างนั้นโดยเจตนา!” ฉันจะไม่ทำอย่างตั้งใจ… แต่ฉันจะฆ่าไอ้เด็กเหลือขอนี่! มันทำให้ฉันอับอายต่อหน้าสาธารณชน ไม่มีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่สมควรจะต้องอับอายขายหน้า!
“ ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานม่านพลัง ฉัน…บอกว่า…อย่าเสียเวลา!!” ซูผิงระเบิดด้วยความโกรธ ในขณะที่จ้องใบหน้าดุร้ายของราชาน้ำแข็ง ซูผิงก็ระดมพลังดวงดาวมาที่มือของเขา!
แผนภูมิดวงดาวโกลาหลหมุนวน! แกนในเซลล์ของเขาหมุนอย่างรวดเร็ว พลังดวงดาวพุ่งออกมา! หลังจากการทดสอบของบททดสอบสวรรค์ พลังดวงดาวของเขามีน้ำหนักเบา แต่ทรงพลัง!
ปริซึมดวงดาว!
ปัง!
ซูผิงก้าวไปข้างหน้า การเหยียบนั้นทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจา!
เวทีสั่นสะเทือน เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า โดยมีสายฟ้าล้อมรอบเท้าของเขา!
ทันใดนั้นซูผิงก็มาถึงราชาน้ำแข็ง ราชาน้ำแข็งไม่อยากจะเชื่อ! มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป! ซูผิงเร็วมากจนสายตาและสติของเขาตามความเร็วนั้นไม่ทัน!
เมื่อซูผิงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดที่ราชาน้ำแข็งเห็นก็คือดวงตาคู่หนึ่งที่เหมือนกับหมาป่า!
โล่ดวงดาว!!
ความตายกำลังจะมาถึง สัญชาตญาณของเขาดึงราชาน้ำแข็งออกจากความงุนงงที่กินเวลาน้อยกว่า 0.1 วินาที พลังดวงดาวเพิ่มขึ้นภายในตัวเขา มีโล่ดวงดาวปรากฏขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มใช้ทักษะน้ำแข็งอย่างหนึ่งที่เขาเรียนรู้มา
อากาศเย็นแผ่ออกมาจากตัวเขา อุณหภูมิลดฮวบ! อากาศแข็งตัว มีกำแพงน้ำแข็งที่มีหนามแหลมรุนแรงมากมาย!
“ ไสหัวไป !!” ซูผิงร้องลั่น
เขาชก ปัง!! กำแพงน้ำแข็งแตกออก โล่ดวงดาวจำนวนมากที่อยู่ด้านหลังกำแพงน้ำแข็งร่วงหล่นเป็นชิ้น ๆ
ราชาน้ำแข็งไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลังของเขาค่อมและบินออกไปยังสถานที่ที่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์นั่งอยู่
หวีด!
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์สองคนบินไปจับราชาน้ำแข็ง
อย่างไรก็ตามผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ทำลายทั้งสองคนเช่นกัน พวกเขาตกลงตรงที่หลายคนกระจายตัวหนี และจบลงด้วยท่าที่น่าอับอาย ทั้งสองคนที่ขึ้นไปช่วยอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง พวกเขารีบยืน และพยายามช่วยราชาน้ำแข็งที่กองอยู่ที่เท้าของเขา คนที่เหลือไม่สามารถจินตนาการได้ว่าผลกระทบนั้นรุนแรงแค่ไหน!
ทั้งสองพุ่งไปที่ราชาน้ำแข็ง พบว่าเขาหมดสติ
หมัดเดียวทำให้ทุกคนประหลาดใจ! ราชาน้ำแข็งโดนต่อยตกเวที?! ราชาน้ำแข็งไม่ได้อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด แต่เขาอยู่ในขั้นกลาง และทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามซูผิงเอาชนะเขาได้ภายในพริบตา! หลายคนตัดสินว่าพวกเขาต้องมองซูผิงใหม่ ผู้ตัดสินที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหยานยืนด้วยความงุนงง เขาไม่เคยคิดเลยว่าซูผิงจะชนะ!
“ใครอีกไหม?” ซูผิงวางมือลง “ฉันรีบ มาเร็วๆ!” เสียงของซูผิงเป็นเสียงเดียวที่ดังก้องในสนาม
บ้า!
บ้าไปแล้ว!
นักรบอสูรที่มาเพื่อชมการแข่งขันต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก
หนึ่งหมัดเพื่อเอาชนะนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ ผู้ชายคนนี้มาจากไหน? หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งซูผิงก็ได้ยินเสียงเย็นชาดังมาจากด้านล่างเวที“ อย่าไร้สาระ มาลองกับฉัน!”
ชายที่อายุมากกว่าสามสิบขึ้นไปบนเวที เขาถือหอกพิเศษด้ามหนาที่มีรูปมังกรแกะสลัก “ นั่นมันปรมาจารย์หอก!”
“ เขาอยู่ที่นี่”
หลายคนจำผู้ชายคนนั้นได้ ในเขตอนุทวีปทั้งหมดมีหอกมังกรเพียงเล่มเดียว และเจ้าของของมันคือปรมาจารย์หอกซึ่งอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง!
ครั้งหนึ่งเขาสังหารอสูรร้ายระดับเก้าขั้นสูงสุดด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เขาสร้างชื่อหลังจากนั้น!
นั่นคือที่มาของฉายาเขา!
ซูผิงมองไปที่ชายคนนั้น ความเย็นชาฉายผ่านดวงตาของเขา “ ฉันพูดแล้วมีเพียงคนที่อยู่ระดับสูงสุดเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขึ้นมาบนนี้!”
หวีด!
สายฟ้าหมุนวนอยู่ที่เท้าของเขา เขาก้าวไปข้างหน้า ราวกับว่าเขายืนอยู่บนพื้นแข็ง ผู้คนสามารถมองเห็นโพรงอากาศได้!
เวทีสั่นสะเทือน มีรอยเท้าลึกปรากฏขึ้น ในขณะเดียวกันซูผิงก็พุ่งเข้าหาปรมาจารย์หอก!
ปรมาจารย์หอกไม่คาดคิดว่าซูผิงจะลงมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ แน่นอนปรมาจารย์หอกจะไม่ดึงหมัด เขาชักหอกออกมา และเปิดวังวนสามวังวนด้านหลังเขา!
โฮก!
โฮก !!
เสียงร้องด้วยความโกรธสองเสียงพุ่งออกมาจากวังวนสองวังวน ทั้งสองเป็นอสูรที่ค่อนข้างดุร้าย หนึ่งคือมังกรระดับเก้า มังกรเกราะเพลิง! อีกตัวหนึ่งเป็นอสูรปีศาจที่ดูเหมือนปลาหมึกตัวใหญ่มีหนวดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน
อสูรทั้งสองดิ้นออกมาจากวังวน ส่งเสียงร้องขู่
ในทางกลับกันอสูรตัวที่สามสวยงาม มีร่างกายเกือบโปร่งใส มีลมพัดอยู่รอบ ๆ ทันทีที่มันออกมา อสูรก็ร่ายวงแหวนใส่ปรมาจารย์หอก เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น อสูรอีกสองตัวก็ถ่ายโอนพลังงานของพวกมันไปยังปรมาจารย์หอก ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในพริบตา ยิ่งนักรบอสูรมีพลังมากเท่าไหร่ การอัญเชิญก็จะเร็วขึ้นเท่านั้น อสูรที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจะพร้อมที่จะปลดปล่อยทักษะของพวกมัน ทันทีที่พวกมันออกมาจากวังวน
ปิ้ว!
ผมสีเข้มของปรมาจารย์หอกปลิวไสว ในไม่ช้าความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด!
ลำแสงพุ่งออกมาจากหอกของเขา เขาจ้องมองซูผิงอย่างฉับพลัน ซูผิงมาถึงตัวเขาแล้ว เขาไม่สนใจหอก และมองเข้าไปในดวงตาของปรมาจารย์หอก“ ไสหัวไป!”
เขาเหวี่ยงหมัดอีกครั้ง!
“ ตายซะ !!” ปรมาจารย์หอกเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน แม้แต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดก็ยังปฏิบัติกับเขาอย่างดี อย่างน้อยที่สุดก็ในที่สาธารณะ
หอกสั่นสะท้าน เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับหอก ลำแสงจากหอกหมุนวนในขณะที่มันพุ่งเข้าหาซูผิง! นักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายคนที่อยู่ใกล้เวทีหน้าซีดจากอาการตกใจ “ นั่นมัน หอกสังหารมังกร!”
“ ปรมาจารย์หอกตั้งใจที่จะเอาชีวิตเขา!”
หลายคนจำได้ว่าปรมาจารย์หอกกำลังใช้ทักษะที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาได้รับฉายา ซึ่งเป็นทักษะที่เขาใช้ฆ่ามังกรระดับเก้าขั้นสูงสุด!
ผู้คนไม่ทราบชื่อที่แท้จริงของทักษะนี่ แต่พวกเขาได้คิดชื่อขึ้นมาเอง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นทักษะนี้บนเวที! ผู้อาวุโสหยานก็หน้าซีดเช่นกัน ด้วยสัญชาตญาณเขาต้องการหยุดการเคลื่อนไหวนี้ แต่เขาลังเล และหยุดไม่ทำอะไร
ซูผิงเหวี่ยงหมัดพร้อมกัน!
“ หมัดขับไล่วิญญาณ!”
จิตสังหารระเบิดจากดวงตาของซูผิง
เขารู้สึกได้ว่าคู่ต่อสู้ของเขามุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา ความคิดดั้งเดิมของซูผิงคือการทำให้คู่ต่อสู้คนนี้หลุดออกเวที แต่ในขณะนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว! มาเลย!
ปัง!! หมัดและหอกปะทะกัน ได้ยินเสียงดังเกิดจากการปะทะกันของพลังดวงดาว! สิ่งต่อไปที่ผู้คนเห็นก็คือหอกที่กำลังลอยกลับหลัง การรวมกันของปรมาจารย์หอกและอาวุธของเขาได้ถูกทำลายลง เขาบินไปยังที่นั่งด้วยความเร็วที่เร็วกว่าตอนที่บินขึ้นเวที!
เพียงแต่คราวนี้ไม่มีใครเข้าไปช่วยเขา ด้วยเสียงโครมคราม และการสั่นสะเทือน ปรมาจารย์หอกตกลงบนพื้น โชคดีที่เขาตกลงบนที่นั่งว่าง ที่นั่งถูกทุบจนเละ ยุบลงไปเป็นหลุม หอกตกลงข้างๆเขา
ผู้คนมองใกล้ ๆ หอกซึ่งทำให้พวกเขาตกใจ ปลายหอกแตก !!
ด้ามจับงอ!
หอกเป็นทุกอย่างในชีวิตของปรมาจารย์หอก หลายคนเข้าใจว่าเขาใช้เงินจำนวนมาก และลงทุนวัสดุหายากจำนวนมากเพื่อหล่อหอก เราสามารถจินตนาการได้ว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด เนื่องจากมันสามารถแทงทะลุมังกรระดับเก้าขั้นสูงสุดได้!
แต่วันนี้ปลายหอกแตก!
สำหรับปรมาจารย์หอก นักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายคนสามารถบอกได้ว่าแม้เขาจะยังมีชีวิตอยู่แต่เขาแทบไม่หายใจ!
น่ากลัวมาก!
ด้วยความหวาดกลัวผู้คนจึงหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางอากาศเหนือเวที ชายหนุ่มยังคงหยิ่งผยอง และผู้คนต่างรู้ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น!
หวีด!
ซูผิงค่อยๆร่อนลงบนเวที “ นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั่วไปยังไม่มีสิทธิ์ได้เห็นอสูรของฉันในตอนนี้ ฉันบอกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ที่ขั้นสูงสุดไม่ต้องขึ้นมา มันทำให้ฉันเสียเวลา!”
ทุกคนได้ยินเสียงของเขาดังก้องทั่วสนาม
หลายคนเพิ่งสังเกตว่าซูผิงยังไม่ได้เรียกอสูรของเขา! เขาอาศัยความแข็งแกร่งทางกายภาพเอาชนะปรมาจารย์หอกได้ในทันที! น่าสะพรึงกลัวมาก! บางคนที่อยู่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดคงสังเกตเห็นแล้ว ในขณะที่ปรมาจารย์หอกพ่ายแพ้พวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับซูผิงมากขึ้น บนเวทีผู้อาวุโสหยานถูกแช่แข็งทันที เขาดูแย่มาก เขาคิดว่าเขาควรจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไร มันสายเกินไปที่จะหยุดซูผิง ก่อนที่ทั้งสองจะทะเลาะกัน เขาอาจจะให้ซูผิงลงจากเวทีโดยกล่าวหาว่าเขารบกวนการแข่งขัน อย่างไรก็ตามซูผิงได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด
ระดับสูงสุดอยู่ห่างจากระดับในตำนานแค่ก้าวเดียว! นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดคือคนที่มีแนวโน้มที่จะคว้าแชมป์ แน่นอนว่ามีความแตกต่างระหว่างนักรบอสูรเหล่านั้นแน่นอน พวกเขาจะต้องเก่งในการใช้ทักษะ อสูร สมบัติ และประสบการณ์ ผู้ตัดสินไม่สามารถหาเหตุผลที่จะกำจัดซูผิงได้อีกต่อไป
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งผู้คนก็เริ่มวุ่นวาย บางคนในกลุ่มผู้ชมจะชี้ไปที่เวที และกระซิบกัน
ใคร ๆ ก็ยินดีที่จะดูละครดีๆ ผู้ชมหลายคนหันไปหานักรบอสูรกิตติมศักดิ์ และสงสัยว่าจะมีใครมาท้าทายชายหนุ่มอีกครั้ง
สำหรับกฎ? กฎที่สำคัญที่สุดคือการต่อสู้เพื่อที่หนึ่ง เนื่องจากมีคนปกป้องเวทีอยู่ในขณะนี้ จึงเป็นการประหยัดเวลา เขาจะกลายเป็นแชมป์ เว้นแต่จะมีใครสามารถเอาชนะเขาได้! ถัดจากเวทีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์มองหน้ากันโดยไม่พูด ผู้ที่เพิ่งขึ้นสู่ระดับกิตติมศักดิ์ หรือแม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นที่สูงกว่านั้นก็กลัวที่จะลุกขึ้นยืน พวกเขาโกรธซูผิง แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้! สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือซูผิงยังไม่เคยเรียกอสูรของเขาออกมา! เขาไม่ได้ยืมพลังงานจากอสูร! นั่นเป็นสิ่งที่คุกคามมากที่สุด
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์หน้าใหม่หันไปหาผู้ที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด
มีเพียงคนเหล่านั้นเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับคนบ้าบนเวทีได้
ตระกูลถัง ถังหมิงชิง และผู้อาวุโสของตระกูลถังคนอื่น ๆ กำลังจ้องมองไปที่เวทีอย่างว่างเปล่า มันไม่เป็นไปตามที่ใคร ๆ คาดคิดว่าการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นนี้ ซูผิงเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้สองครั้งติดต่อกัน เขาทำให้ทุกคนประหลาดใจ “ เขา…มันบ้า…” ถังหมิงชิงยิ้มอย่างฝืน ๆ
เขาได้เห็นว่าซูผิงบ้าคลั่งแค่ไหนในร้าน ในโลกนี้ซูผิงต้องเป็นคนเดียวที่กล้ายั่วยุตระกูลถัง และองค์กรดวงดาวพร้อมกัน ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างหวาดกลัว พวกเขาเคยได้ยินจากถังหมิงชิงว่าซูผิงน่ากลัวขนาดไหน ปรากฎว่าชายหนุ่มไม่เพียงแต่มีพลังเท่านั้น แต่ยังมีจิตใจที่ไม่มั่นคงอีกด้วย
คนที่ขึ้นเวทีท้าทุกคนไม่ได้หยิ่ง แต่บ้า! ถังยู่หยูนั่งอยู่ระหว่างพวกเขา เธอจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังดูถูกทุกคน เป็นครั้งแรกที่มีแววตาประหลาดใจในดวงตาของเธอที่มักจะไร้ความรู้สึกอยู่ตลอดเวลา