Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 497 ไม่ไป

เรื่อง ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 497 ไม่ไป

จงหลิงถงไม่ยอม ชายชราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

มีบางสิ่งที่เขาไม่ต้องการพูดต่อหน้าซูผิง

การอยู่ในเมืองฐานหลงเจียงนั้นเหมือนกับการขุดหลุมฝังศพเขาเอง ชายชราไม่แน่ใจว่าซูผิงกำลังคิดอะไรอยู่ ราชาสวรรค์ต่างโลก เป็นราชาในบรรดาราชาอสูรร้าย แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ไม่สามารถจัดการกับราชาสวรรค์ตัวนี้ได้นับประสาอะไรกับซูผิงที่เป็นเพียงผู้ท้าทายโชะตา!

“ ถ้าเป็นทางเลือกของหลาน ปู่ก็จะอยู่ด้วย ผมหวังว่าผมจะสามารถช่วยคุณได้” ชายชรากล่าว

แน่นอนเขาอยู่เพื่อดูแลจงหลิงถง

เมื่อเมืองถูกบุกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อพาจงหลิงถงออกไป แม้ว่านั่นจะหมายถึงการทำให้ซูผิงไม่พอใจก็ตาม ด้วยพรสวรรค์ของจงหลิงถงเธอสามารถเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ไม่ว่าเธอจะมีใครเป็นอาจารย์ เธอเป็นความหวังในอนาคตของตระกูลจง เขาไม่สามารถยอมให้เธอตายเพราะซูผิงได้ ซูผิงไม่ได้พูดอะไร โทรศัพท์ของเขาเริ่มดัง สายจากนายกเทศมนตรีเซี่ยจินชุ่ย

“ คุณอยู่ที่ไหน?” ซูผิงถามทันที

“ผมกลับมาแล้ว”เซี่ยจินชุ่ยฟังดูสงบผิดปกติ

ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ เร็วมาก?

เขาไปเมื่อคืน และกลับมาแล้ววันนี้?

“ มีนักรบอสูรในตำนานมาด้วยกี่คน?” ซูผิงถาม คำตอบคือความเงียบ “คุณซูคุณมาที่นี่ได้ไหม? ผมต้องการที่จะประชุม มีหลายสิ่งที่เราต้องคุยกัน”

ทันใดนั้นซูผิงก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจากน้ำเสียงของเซี่ยจินชุ่ย จิตใจของเขาถูกรบกวน

“ แน่นอน ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ซูผิงกล่าว

เขาวางสายและพูดกับปรมาจารย์ดาบ และทั้งสามคนจากตระกูลจงว่า“ ผมมีเรื่องเร่งด่วน ทำตัวให้สบายเหมือนอยู่บ้าน”

ปรมาจารย์ดาบมองซูผิงพลางขมวดคิ้ว ปรมาจารย์ดาบได้ยินการสนทนานั้นเนื่องจากซูผิงไม่ได้ใช้ม่านพลังป้องกันเสียง “ ได้ ระวังตัวด้วย”

“คุณซูไม่ต้องห่วงพวกเรา” ชายชราจากตระกูลจงตอบ

ซูผิงพยักหน้าและออกจากร้านทันที

เขาเห็นว่าฉินตู้หวงและหลิวเทียนจงออกมาจากอาคารฝั่งตรงข้ามถนนเช่นกัน ดูเหมือนพวกเขาจะผงะหลังจากเห็นซูผิง “คุณซู เซี่ยกลับมาแล้ว”

“ใช่ เขาโทรหาผม และบอกให้ผมไปหา”

“ เป็นอย่างนั้นเหรอ? ผมกำลังเดินทางไปหาเขาเช่นกัน ผมถามว่ามีนักรบอสูรในตำนานมากี่คน แต่เขาไม่ตอบ ” คิ้วของฉินตู้หวงขมวดกัน หลิวเทียนจงยิ้มอย่างฝืน ๆ “ ผู้ชายคนนั้น เขาพยายามเตรียมเซอร์ไพรส์ให้เราหรือเปล่านะ?”

ซูผิงและฉินตู้หวงไม่สนุกกับเรื่องตลกนั้น มันไม่ตลกเลย

พวกเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะล้อเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องนี้

ปฏิกิริยาของเซี่ยจินชุ่ยเป็นเรื่องแปลก

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาหวังว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น!

ที่ศาลากลางเมือง

ในห้องประชุม

นอกเหนือจากซูผิง ฉินตู้หวง และหลิวเทียนจงที่มาด้วยกันแล้ว มู่เป่ยไห่และโจวเทียนหลินก็อยู่ที่นี่เช่นกัน พวกเขาอยู่ที่อื่นแต่รีบมาหลังจากที่พวกเขาได้รับสายจากเซี่ยจินชุ่ย

ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องประชุม

“เซี่ยเกิดอะไรขึ้น? พูดอะไรสักอย่างสิ!” ผู้นำตระกูลเย่ซึ่งเป็นควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ เขาใจร้อนมากตอนนี้

เซี่ยจินชุ่ยก้มหน้า ฉินตู้หวงถาม “เซี่ยเกิดอะไรขึ้น? บอกพวกเรามา นักรบอสูรในตำนานจากหอคอยมาที่นี่หรือเปล่า?”

นั่นคือคำถามที่ทุกคนอยากถามเซี่ยจินชุ่ย ฉินตู้หวงพูดความในใจของพวกเขา พวกเขาจ้องมองเซี่ยจินชุ่ยด้วยความกังวล

เซี่ยจินชุ่ยตัวสั่นเมื่อได้ยินคำถามของฉินตู้หวง เขาเงียบต่ออีกครู่หนึ่งและเซี่ยจินชุ่ยก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นการแสดงออกที่ไม่มีคำใดสามารถอธิบายได้

ความเหนื่อยล้า ผิดหวัง สิ้นหวัง เจ็บปวด และรู้สึกผิด

จิตใจของทุกคนชั่งใจหลังจากเห็นใบหน้านั้น

เซี่ยจินชุ่ยกล่าวอย่างช้าๆ“ หอคอยบอกว่า…ถ้ำลึกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน และไม่สามารถส่งใครมาช่วยได้” เสียงของเขาแหบ

ฉินตู้หวงและคนอื่น ๆ หน้าซีดจนน่ากลัว พวกเขาไม่ช่วย?

“ ไม่มีนักรบอสูรในตำนานมาแม้แต่คนเดียว?” โจวเทียนหลินตะโกน โกรธและตะลึง “ มีนักรบอสูรในตำนานหลายสิบคนในหอคอยไม่ใช่หรอ? หอคอยมักจะส่งนักรบอสูรในตำนานมาช่วยเมื่อเมืองฐานที่ถูกอสูรป่าโจมตี ทำไมคราวนี้ถึงไม่ล่ะ บัดซบเอ้ย!”

“ พวกเขากลัวราชาสวรรค์ต่างโลกหรือเปล่า?”

โจวเทียนหลินได้พูดในสิ่งที่คนอื่นคิด พวกเขาทั้งหมดต้องการถามคำถามเดียวกัน มู่เป่ยไห่ดึงหน้านิ่ง “เซี่ยเกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้? เมืองฐานจ่ายเงินภาษีจำนวนมากให้กับหอคอยทุกปี เป็นภาระหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องช่วยเรา เราต้องการพวกเขาในตอนนี้ ทำไมนักรบอสูรในตำนานถึงไม่มาแม้แต่คนเดียว?”

ฉินตู้หวงกำลังคิดแบบเดียวกัน เขาจ้องไปที่เซี่ยจินชุ่ย“เซี่ยคุณรู้ดีอยู่แล้วว่าเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เมืองฐานหลงเจียงจะถึงวาระถ้าไม่มีนักรบอสูรในตำนานมา ผมเต็มใจที่จะสละชีวิตของผมให้กับหลงเจียง แต่มันโง่มากที่ต้องเสียสละแบบนี้!”

“ ใช่” ผู้นำตระกูลเย่กล่าวเสริม“ ทำไมพวกเขาถึงไม่มา?”

“เซี่ยคุณไม่แสดงเคารพเหรอ?”หลิวเทียนจงขมวดคิ้ว

เซี่ยจินชุ่ยจ้องมองหลิวเทียนจง และริมฝีปากของเขาก็สั่น “เคารพ? คุณจะเชื่อไหมว่าผมคุกเข่าขอ? ผมคุกเข่าต่อหน้าพวกเขาทุกคน! ไม่เคารพพอ? ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้อีก ผมไม่ได้แค่ขอพวกเขา ผมขอร้องพวกเขาอย่างน่าสมเพช!”

หลิวเทียนจงพูดไม่ออก และคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน

เซี่ยจินชุ่ยคุกเข่า?

เขาไม่ใช่นักรบอสูรในตำนาน แต่เขาอยู่ในระดับกิตตมศักดิ์ขั้นสูงสุด!

เขาเป็นนายกเทศมนตรี! เขาจะคุกเข่าให้ใครได้ยังไง?

แม้ว่าจะได้พบกับนักรบอสูรในตำนาน แต่มารยาทสูงสุดที่จำเป็นสำหรับนักรบอสูรกิตตมศักดิ์คือการโค้งคำนับ!

คุกเข่า! นั่นไม่ใช่วิธีที่ควรปฏิบัติต่อนักรบอสูรในตำนาน!

ซูผิงหน้าตึงมาก เขานึกภาพออกว่ามันเป็นยังไงตอนที่จินชุ่ยคุกเข่าอ้อนวอน

“ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? นี่มันเกี่ยวกับถ้ำลึกเหรอ? ผมได้ยินมาว่านักรบอสูรในตำนานหลายคนเสียชีวิตในถ้ำลึก เซี่ยคุณเจอนักรบอสูรในตำนานกี่คนในหอคอย?”ฉินตู้หวงถาม

เซี่ยจินชุ่ยไม่ได้พูดอะไร

ครู่ต่อมาในที่สุดเขาก็พูด “ ผมรีบไปที่หอคอย และเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้พวกเขาฟัง พวกเขาบอกให้ผมรอ ผมก็รอผมรอ … สองชั่วโมง พวกเขาบอกว่าหัวหน้าของพวกเขาเรียกตัวผมแล้วผมก็เข้าไป ได้พบกับนักรบอสูรในตำนานที่ดูแลหอคอย”

“ ผมบอกเขาทุกอย่าง เขาบอกว่าถ้ำลึกต้องการนักรบอสูรในตำนาน และเราควรจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็อพยพออกจากเมืองก่อนที่ราชาสวรรค์ต่างโลกจะมาถึง ผมบอกว่าผมไม่สามารถอพยพคนทั้งเมืองได้ ประชากรของเรามีจำนวนมาก นอกจากนี้เรายังต้องการการปกป้องในระหว่างการอพยพ ผมขอนักรบอสูรในตำนานเพื่อช่วยในการอพยพ แต่ผมถูกปฏิเสธ”

“ จากนั้นผมก็ไปตามหานักรบอสูรในตำนานที่เคยมาเมืองฐานหลงเจียง หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองฐาน

“ มีหลายคน และพวกเขาปฏิเสธผม

“ ผมหาจนทั่วหอคอย และพบนักรบอสูรในตำนานมากกว่าสิบสองคน แต่ไม่มีใครตอบว่าตกลงจะช่วย…”

เซี่ยจินชุ่ยพูดต่อหลังจากหยุดชั่วคราว ‘ผมบอกได้ว่าพวกเขาหวาดกลัว พวกเขากลัวที่จะเจอกับราชาสวรรค์ต่างโลก หากพวกเขามาช่วยที่นี่”

ฉินตู้หวงรู้สึกมึนงง

ซูผิงก็เช่นกัน แต่เขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ

“ ผมรู้จักนักรบอสูรในตำนานที่ฉายาว่าราชาแดนเหนือ คุณพบเขาหรือไม่?” ซูผิงถาม เซี่ยจินชุ่ยรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าซูผิงรู้จักนักรบอสูรในตำนาน เขาพยักหน้า. “ ผมพบเขา และผมร้องขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เขาบอกว่าเขามาที่นี่ไม่ได้เพราะเขามีงานอื่น”

ซูผิงไม่พูดอะไร

ลูกบอลเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในตัวเขา

คนอื่น ๆ กลับมาได้ โจวเทียนหลินร้อง“ คุณบอกว่าคุณขอร้องนักรบอสูรในตำนานมากกว่าสิบสองคน? ถ้าพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่นทำไมพวกเขาถึงกลัวราชาสวรรค์แค่ตัวเดียว? การเดินทางจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน พวกเขาไม่ต้องทำอะไรมากอสูรป่าก็ไปแล้ว ทำไมถึงไม่มา?”

“ พวกเขาไม่ได้บอกว่าถ้ำลึกต้องการนักรบอสูรในตำนานหรอ? ทำไมคุณถึงพบนักรบอสูรในตำนานมากกว่าสิบสองในหอคอย?”ฉินตู้หวงรู้สึกสับสน เขาเคยได้ยินจากฉินชูไห่เกี่ยวกับถ้ำลึกและสถานการณ์เร่งด่วน และความจริงที่ว่าแม้แต่ลีกสูงสุดก็ยังถูกใช้เป็นโอกาสในการล่อนักรบอสูรในตำนานออกมา แต่เซี่ยจินชุ่ยได้พบกับนักรบอสูรในตำนานมากกว่าสิบสองคน เซี่ยจินชุ่ยมองไปที่ฉินตู้หวงแล้วมองไปที่โจวเทียนหลิน มู่เป่ยไห่ กับคนอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาฝืนยิ้ม

เขาได้ไปที่หอคอย และได้เห็นนักรบอสูรในตำนาน เขารู้คำตอบดีที่สุด

เขาไม่ได้พูดหลายๆอย่าง เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดในเวลานี้

เขาโตแล้วเป็นนายกเทศมนตรี เขาได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆมากมาย และเห็นสิ่งต่างๆมากมายทั้งดีและไม่ดี เขาสามารถเข้าใจความหมายพื้นฐานของการปฏิเสธนี่ได้

แต่เข้าใจแล้วยังไง?

มันมีแต่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

“ มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาคิดถูก”เซี่ยจินชุ่ยลดเสียงลง “ ผมโทรหาพวกคุณเพื่อมาคุยเรื่องนี้ เนื่องจากนักรบอสูรในตำนานจากหอคอยไม่มา การต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองฐานหลงเจียงด้วยการพึ่งพาตัวเราเองจึงเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ดังนั้นผมกำลังวางแผนที่จะอพยพออกจากเมือง”

นั่นเป็นข้อเสนอที่น่าตกใจ เซี่ยจินชุ่ยสงบลง และน้ำเสียงของเขาก็จริงจัง ทุกคนสังเกตเห็นว่าเขาดิ้นรนอยู่ข้างในก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

“ อพยพ” ผู้นำตระกูลเย่รู้สึกขุ่นมัว “ รถไฟใต้ดินที่เชื่อมต่อเมืองฐานหลงเจียงกับเมืองฐานอื่น ๆ ปิดให้บริการ เราจะอพยพยังไง? เรามีประชากรมากกว่ายี่สิบล้านคนในเมืองฐาน คุณเข้าใจไหมว่าตัวเลขนั้นหมายถึงอะไร? การอพยพออกจากเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย แม้รถไฟจะเปิดปกติก็ตาม” มู่เป่ยไห่คิดอย่างรวดเร็ว “ ผมคิดว่าเราสามารถโทรไปยังเมืองฐานรอบ ๆ และขอให้พวกเขาเปิดรถไฟใต้ดินอีกครั้ง นอกจากนี้เราไม่จำเป็นต้องอพยพทุกคน เราสามารถทิ้งคนแก่ คนป่วย คนพิจารไว้ข้างหลังเป็นเหยื่อล่อ และเอาคนอื่นออกไป”

ซูผิงไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน

คนอื่น ๆ มองไปที่มู่เป่ยไห่ด้วยสายตาไม่เชื่อ

ช่างเป็นข้อเสนอที่โหดร้าย!

ทิ้งกลุ่มคนไว้เพื่อเป็นเหยื่อล่ออสูรป่า?

เหยื่อเท่ากับอาหาร!

คนเหล่านั้นจะอยู่ข้างหลังเพื่อถูกอสูรป่ากิน เมื่ออิ่มแล้วอสูรป่าจะไม่ถูกกระตุ้นให้ไล่ล่าคนอื่นอีกต่อไป!

ในทางทฤษฎีมันเป็นไปได้ แต่มันป่าเถื่อนเกินไป!

ไม่มีใครอยากถูกสังเวยแบบนั้น!

ใครจะอยู่เพื่อเป็นอาหารให้อสูรป่า?

โจวเทียนหลินและฉินตู้หวงยังคงเงียบ สถานะผู้นำตระกูลของพวกเขาทำให้พวกเขาเข้าใจว่า แม้มันจะโหดร้าย แต่พวกเขาก็ไม่เหลือทางเลือกมากมายในสถานการณ์แบบนี้

สงครามเป็นเรื่องที่โหดร้าย และหัวใจที่โหดร้ายเป็นผลมาจากการทำสงคราม โดยธรรมชาติเมื่อเสือกำลังไล่ตาม คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วกว่าเสือ คุณเพียงแค่ต้องวิ่งให้เร็วกว่าเพื่อนของคุณ นั่นคือการเอาตัวรอด!

การเอาชีวิตรอดเป็นสิ่งที่โหดร้าย

พวกเขาเป็นผู้กำหนดชีวิต และความตายของประชาชนทั่วไป

เซี่ยจินชุ่ยยังคงเงียบ มู่เป่ยไห่ฟังดูเหมือนปีศาจ ปฏิกิริยาแรกของเซี่ยจินชุ่ยคือความโกรธ แต่ในไม่ช้าความโกรธนั้นก็หายไปในอากาศที่เบาบาง เขาไม่สามารถด่ามู่เป่ยไห่ได้ เขายังเข้าใจว่าการจะอพยพออกจากเมืองฐานทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้!

เมื่อพวกเขาเริ่มวิ่ง อสูรร้ายก็จะวิ่งเร็วขึ้น!

ผู้คนจะเสียชีวิตมากขึ้น หากผู้คนในเมืองฐานหลงเจียงหนีไปคนละทิศละทาง ท้ายที่สุดแล้วนอกกำแพงก็เป็นป่า ผู้คนจะเจอกับอสูรร้ายที่นั่น ขณะที่พวกเขาวิ่งไปยังเมืองฐานอื่น ๆ มีเพียงนักรบอสูรเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดในป่า และปกป้องตัวเองได้ ประชาชนทั่วไปจะต้องตายอย่างแน่นอน!

ห้องประชุมเงียบลงชั่วครู่

มู่เป่ยไห่มองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เขารู้ดีว่าข้อเสนอของเขานั้นโหดร้าย แต่เขาก็ไม่คิดแก้ตัว เขายินดีที่จะจากไป อย่างไรก็ตามตระกูลมู่ก็มีสิทธิ์ที่จะออกไปได้ คนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังจะเป็นผู้ชายทั่วไปที่ไม่มีอำนาจ เงิน หรือภูมิหลังใด ๆ

เซี่ยจินชุ่ยสังเกตเห็นว่าซูผิงกำลังคิดอะไรบางอย่าง “คุณซูคุณคิดว่าไง?” เขาถามทำลายความเงียบ

คนอื่น ๆ หันไปหาซูผิง ซูผิงยังหนุ่มเกินไป โดยสัญชาตญาณพวกเขาไม่สนใจซูผิงเมื่อพวกเขาพูดถึงเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ เขามีพลังแต่นั่นเป็นข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของเขา เขาอาจไม่ได้ตั้งใจ หรือมีวิสัยทัศน์เหมือนผู้นำตระกูล

ซูผิงมองไปที่ทุกคน “ ผมจะไม่ชักชวนให้คุณอยู่ถ้าคุณต้องการไป แต่…ผมจะไม่ไป”

คำตอบของเขาทำให้คนอื่นตกตะลึงในความนิ่ง

พวกเขาจ้องไปที่เขา สิ่งที่พวกเขาต้องการพูดแสดงอยู่บนใบหน้าของพวกเขา “คุณมีหนทางยังไงถึงพูดอย่างนั้น?!”

อยู่?

เขาคิดที่จะต่อสู้กับราชาสวรรค์ต่างโลกหรือไว?

พวกเขาจะรู้สึกมีความหวังหากนักรบอสูรในตำนานบางคนจากหอคอยสามารถมาสนับสนุนพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามหอคอยไม่ส่งใครมาช่วยพวกเขา พวกเขามีกันแค่นี้!

ซูผิงทรงพลังและมีนักรบอสูรในตำนานอยู่ในร้านของเขา แต่สิ่งนั้นจะทำอะไรได้?

มีราชาอสูรร้ายห้าตัว!

ซูผิงสามารถฆ่าราชาอสูรร้ายทั้งห้าได้ แต่จะเป็นยังไงถ้าราชาอสูรร้ายทั้งห้าโจมตีคนละจุด?

ซูผิงมีแค่คนเดียว แม้จะมีนักรบอสูรในตำนานคอยหนุนหลังเขา แต่พวกเขาจะก็สามารถปกป้องเมืองฐานได้แค่สองด้านเท่านั้น ใครจะปกป้องด้านอื่น ๆ ?

เมืองฐานจะอยู่ระหว่างค้อนกับชั่ง แม้ว่าฝ่ายที่ได้รับการปกป้องจากซูผิงจะไม่ได้รับผลกระทบ แล้วยังไง? ด้านอื่นของเมืองฐานจะหายไปอยู่ดี!

อ่านตอนอื่นๆของ ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store คลิกเลย

แฟนเพจ