“ นั่นคืออสูรที่แข็งแกร่งกว่าของนายใช่มั้ย? นายจะทำยังไงถ้าราชาสวรรค์ต่างโลกมาถึง?” ถังยู่หรานถามซูผิงทันทีเมื่อสุนัขมังกรดำออกจากร้าน
“ เธอพูดถูก”
คำพูดของถังยู่หรานสะกิดใจจงหลิงถง เธอได้เรียนรู้จากการสนทนาระหว่างซูผิงและตัวแทนของรัฐบาลว่าเขากำลังแบกรับความรับผิดชอบอันหนักอึ้งบนบ่า ราชาสวรรค์น่ากลัวที่สุดในบรรดาทั้งหมด ซูผิงไม่เพียงแต่ต้องหยุดมันเท่านั้น เขายังต้องส่งอสูรของเขาออกไป สิ่งต่างๆดูไม่ค่อยดีสำหรับเขา
ผู้อาวุโสตระกูลจงไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ซูผิงไม่ตอบ
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งจระเข้สงคราม และสุนัขมังกรดำไปให้ยืม ด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือกำลังเจอสภาวะฉุกเฉิน หากเขานั่งเฉยๆไม่ทำอะไรเลย เมืองฐานหลงเจียงจะถึงวาระก่อนที่ราชาสวรรค์จะมาถึง!
โจแอนนาออกมาจากห้องอสูร และพูดกับซูผิงว่า“ ฉันช่วยได้ ถ้านายล่อราชาอสูรร้ายตัวนั้นมาได้”
ซูผิงมองไปที่เธอ เขาเองก็มีแผนนั้นเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่แน่ใจว่าราชาสวรรค์จะตกหลุมพรางนั้นไหม
ถังยู่หรานถามโจแอนนาทันทีว่า“ เธอไม่ใช่นักรบอสูรในตำนานหรอ? ทำไมเธอถึงไม่อยู่ในสนามรบ”
โจแอนนายังคงเงียบ
ทั้งจงหลิงถงและผู้อาวุโสในตระกูลจงต่างตกใจกับคำถามของถังยู่หราน ผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อโจแอนนาเป็นนักรบอสูรในตำนาน?!
“ ระบบนายสามารถปกป้องหลงเจียงได้ไหม” ซูผิงถาม ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เขาสามารถวางใจเฉพาะระบบที่มีอำนาจทุกอย่างเท่านั้น
ระบบตอบเสียงเบา“ ฉันปกป้องร้านได้เท่านั้น”
“ ไม่มีทางอื่นเลยหรอ?” ระบบตอบกลับด้วยความเงียบ
ไม่มีอะไรที่ระบบสามารถทำได้ จิตใจของซูผิงหนักอึ้ง เขาเห็นว่าโครงกระดูกน้อยยังคงอยู่ในรังไหมที่หดตัวลง มันบางพอที่ซูผิงจะมองเห็นโครงกระดูกน้อยที่อยู่ข้างใน มันน่าจะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า
แต่เขาไม่แน่ใจ
หากอสูรป่าเข้ามาโจมตีหลังวันนี้ เขาก็สามารถเข้าไปในสนามบ่มเพาะและอยู่ที่นั่นได้นานกว่าสิบวัน เมื่อถึงตอนนั้นโครงกระดูกน้อยจะต้องตื่นขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามในขณะนี้เขาไม่สามารถไปที่สนามบ่มเพาะได้ เขากลัวว่าราชาสวรรค์ต่างโลกจะปรากฏตัวทันทีที่เขาจากไป ทำให้เมืองฐานไม่เหลืออะไรเมื่อเขากลับออกมา
ซูผิงรู้สึกผิดหวังมาก เขายังอ่อนแอเกินไป ทุกอย่างจะแตกต่างไปจากนี้ถ้าเขาอยู่ในระดับตำนาน
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิด พวกเขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากภายนอก
พวกเขาบอกได้ว่าพื้นสั่นไม่ใช่แค่ในร้านเท่านั้น!
“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้อาวุโสตระกูลจงยืนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
ซูผิงหน้าซีด
เจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจสอบอุปกรณ์ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น หนึ่งในนั้นตะโกนด้วยความกลัว“ คุณซูทางใต้แตกแล้ว!”
“ แตก?” ซูผิงตื่นตระหนก
“ นั่น…ราชาสวรรค์ต่างโลก!” เจ้าหน้าที่มองอย่างน่ากลัว “ มันคือราชาสวรรค์ต่างโลก! มันกำลังมา!!”
ไม่มีเสียงอีกต่อไป
ราวกับว่าเวลาในร้านหยุดลง
ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นตามรูขุมขน
ราชาสวรรค์ต่างโลกมาถึงแล้ว!
พวกเขาภาวนาให้สถานการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น แต่มันก็มาถึง !!
ชื่อที่น่ากลัวของมันทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหยุดหายใจ
ซูผิงหอบ ราชาสวรรค์กำลังเข้ามาจากทางใต้! ตระกูลมู่และตระกูลหลิวอยู่ที่นั่น แต่พวกเขาไม่มีราชาอสูรร้าย ราชาสวรรค์เลือกจุดที่อ่อนแอที่สุดในการเข้ามา!
โห่!
ซูผิงลุกขึ้นยืน เขากำลังจะไป “นายจะไปไหน?” ถังยู่หรานหยุดเขา “ นายไม่ได้ตั้งใจจะไปที่นั่นหรอกใช่ไหม?”
ซูผิงจ้องมองเธอ เขาสลัดมือของเธอที่รั้งเขาไว้ออก “ ฉันเป็นคนเดียวที่รับมือกับมันได้ ฉันต้องไป!”
ถังยู่หรานจ้องมองเขา น้ำตาไหลอาบแก้ม
“ อาจารย์…” จงหลิงถงก็ไม่อยากให้เขาไปเช่นกัน
“รอฉัน!”
ซูผิงมองถังยู่หรานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกไป “ฉันจะกลับมา!”
เมื่อพูดอย่างนั้นเขาก็ก้าวออกจากร้าน และบินไป
ผู้คนรีบไปที่ประตู และเห็นว่าเขาไปไกลแล้ว
สถาณการณ์ที่กำแพงทิศใต้รายงานไปถึงหูเซี่ยจินชุ่ยทันที
เซี่ยจินชุ่ยรู้สึกว่าเขาแทบจะยืนไม่ได้เมื่อเขารู้ว่าราชาสวรรค์ต่างโลกปรากฏตัวขึ้นทำลายกำแพงด้านใต้ เขาเริ่มเวียนหัว
ราชาสวรรค์ต่างโลกอยู่ที่นี่แล้ว!
เซี่ยจินชุ่ยหน้าซีด เขาจ้องมองไปที่สนามรบ นักรบอสูรนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้กับอสูรป่า พวกเขากำลังได้เปรียบ
แต่ค่าใช้จ่ายคือเลือด! อย่างไรก็ตามหากทางใต้ถูกทำลาย ความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาสามารถบรรลุได้ก็จะไร้ความหมาย!
เซี่ยจินชุ่ยโทรหาซูผิง มือของเขาสั่นเทา
“คุณซู…”
เซี่ยจินชุ่ยเรียกความกล้าที่จะพูด เขาต้องถามซูผิง ไม่มีทางเลือกอื่น
“ ผมกำลังไปทางใต้ ตะวันออกเป็นยังไงบ้าง” เขาได้ยินเสียงของซูผิงดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเซี่ยจินชุ่ย เขาหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ “ ที่นี่ไปได้ดี ผมจะรักษาไว้ให้ได้แม้แลกด้วยชีวิตของผมก็ตาม!”
“ดี! ผมจะจัดการทางใต้เอง!” ซูผิงสัญญา
เขาวางหูโทรศัพท์ ในขณะที่เขาพูดคำสัญญานั้น เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า เขาพูดอย่างนั้นเพราะเขากลัวว่าเซี่ยจินชุ่ยระดมคนจากทางตะวันออกมาช่วยทางใต้ อย่างไรก็ตามนั่นจะส่งผลให้ทางตะวันออกแตกเช่นกัน ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้ในตอนนี้
ราชาสวรรค์ต่างโลกอยู่ … ทางใต้!
เขาจะชนะได้ไหม?
เขาจะสามารถหยุดมันได้หรือเปล่า?
ซูผิงไม่แน่ใจ เขาไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองมากขนาดนั้น แต่ไม่มีใครอีกแล้วที่เขาจะพึ่งพาได้ ตามความเป็นจริงเขาเป็นผู้พิทักษ์
เช่นเดียวกับที่เซี่ยจินชุ่ยพูด…เขาจะขัดขวางราชาสวรรค์ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!
ไม่ใช่คำถามว่าเขาจะทำได้ไหม เขาต้องทำให้ได้ !!
…
ด้านทิศใต้
กำแพงด้านนอกสูงตระหง่าน แต่มีรูขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง!
รูกว้างกว่าร้อยเมตร รอยแตกจำนวนมากขยายออกไปบนผนัง อสูรป่าจำนวนมากปีนเข้ามาในเมืองฐาน
หลิวเทียนจงและมู่เป่ยไห่รู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด ขณะที่พวกเขายืนอยู่บนกำแพงด้านนอก มีร่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นยืนอยู่ท่ามกลางอสูรป่า
มันเป็นอสูรร้ายสีแดงคล้ายกับดอกบัวเพลิงที่มีหนวดจำนวนนับไม่ถ้วนบานสะพรั่งในสนามรบในนี้ หนวดแต่ละเส้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบสองร้อยเมตร แม้แต่ราชาอสูรร้ายก็ยังดูตัวเล็กเหมือนลูกแมวเมื่ออยู่ข้างๆสิ่งนั้น
“ ราชาสวรรค์ต่างโลก…”
“ ทำไมมันถึงมาที่นี่?!”
ผู้นำตระกูลทั้งสองรู้สึกสิ้นหวัง อย่างที่พวกเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
โฮก !!
ถัดจากราชาสวรรค์ ราชาอสูรสามตัวก้าวมาข้างหน้าและร้องเสียงหลง พวกมันนำอสูรป่าเข้าโจมตีที่กำแพงด้านนอก
นักรบที่ยืนอยู่บนกำแพงด้านนอกหมดหวัง
พวกเขาสูญเสียความตั้งใจที่จะพยายามด้วยซ้ำ พวกเขายืนอยู่บนกำแพงด้านนอก พวกเขาลืมว่าจะต้องเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ
“ขอความช่วยเหลือ! ขอกำลังเสริม!”
นายพลที่เซี่ยจินชุ่ยบอกให้มาที่นั่นเพื่อช่วยทั้งสองตระกูลกำลังตะโกนใส่โทรศัพท์ นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขากลัวน้อยลง
แต่เขาไม่ได้รับคำตอบใด ๆ “ช่วยด้วย…”
“ เราทำไม่ได้ !!”
นักรบของทั้งสองตระกูล รัฐบาล และอาสาสมัครจากเมืองฐานอื่น ๆ กำลังทุกข์ใจ พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนครั้งแล้วครั้งเล่า
โฮก !!
ราชาอสูรร้ายที่ดูเหมือนเสือเป็นตัวแรกที่กระโดดขึ้นมาบนกำแพงด้านนอก มันพ่นไฟที่หลอมละลายโล่ดวงดาวของนักรบอสูรจำนวนมาก พวกเขาเสียชีวิตและหายไปโดยไม่เหลือร่องรอย!
คนอื่น ๆ กลัวจนหมดปัญญา พวกเขากลัวอยู่แล้วที่จะต้องต่อสู้กับอสูรร้ายระดับเก้า นับประสาอะไรกับราชาอสูรร้าย! พวกเขาวุ่นวายกันมาก
“วิ่ง!”
“วิ่ง!!”
“เราทำไม่ได้!” ทุกคนโยนชุดเกราะ และหนีไปอย่างระส่ำระสาย
หลิวเทียนจงและมู่เป่ยไห่ตกใจกลัว พวกเขาสั่งให้สมาชิกในตระกูลถอนตัว!
ในขณะที่พวกเขาเผชิญกับการมาของราชาสวรรค์ต่างโลก การอยู่นิ่งหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น ความตาย!
พวกเขาต้องวิ่ง!
ทุกคนกำลังวิ่ง ไม่มีใครต่อสู้!
แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงคนบินลัดเลาะไปบนท้องฟ้า!
เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดเสียงก็ดังจนหูหนวก!
หลายคนมองไปที่ท้องฟ้าด้วยความกลัว พวกเขาคิดว่ามันเป็นอสูรร้ายที่บินมาโจมตีพวกเขา!
แต่พวกเขาเห็นว่ามันเป็นมนุษย์!
กำลังเสริม!
มู่เป่ยไห่และหลิวเทียนจงซึ่งกำลังวิ่งหนีอยู่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า คนที่มาถึงทำให้ทั้งคู่ตกตะลึง
นั่นคือเขา!
เขามาแล้ว!
“ไปลงนรกซะ!!!”
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ซูผิงสร้างเสียงโซนิคที่ทำให้หูหนวก ขณะที่เขาบินข้ามท้องฟ้า หมัดของเขาระเบิดออกมาพร้อมกับแสงอันเจิดจ้ าซึ่งเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสะสมไว้ในร่างกาย!
หมัดขับไล่วิญญาณ !!
ตูม !!
พร้อมกับเสียงระเบิด ซูผิงทิ้งตัว เหวี่ยงหมัดใส่ราชาอสูรเสือที่กำลังปีนกำแพงด้านนอก!
ราชาอสูรร้ายนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกถึงการคุกคาม มันพ่นไฟที่ผสมกับสายฟ้าออกมา!
ปัง!!!
ท้องฟ้าและพื้นดินสั่นสะเทือน!
เสียงดังนั่นทำให้คนจำนวนมากหูดับ พวกเขาสามารถมองเห็นเพียงลำแสงที่ส่องแสง และไฟที่ราชาอสูรร้ายพ่นออกมาก็สลายไป!
ซูผิงยังคงพุ่งไปข้างหน้า หมัดของเขาไปถึงราชาอสูรร้าย!
ตูม !!
กำแพงด้านนอกทั้งหมดสั่นสะเทือน ท่ามกลางเสียงร้องที่น่าสังเวช ผู้คนต่างเห็นว่าราชาอสูรร้ายกำลังกลิ้งลงจากกำแพงด้านนอก!
ราชาอสูรร้ายตัวใหญ่ล้มลงกับพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้อีก
นักรบอสูรตะลึง
หมัดเดียวเอาชนะราชาอสูรร้าย?
หลิวเทียนจงและมู่เป่ยไห่ต่างก็ตกตะลึงเหมือนคนอื่น ๆ
พวกเขาทราบดีว่าซูผิงทรงพลัง แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนั้น!
นั่นคือราชาอสูรร้าย !!
ร่างของซูผิงปรากฏชัดเมื่อฝุ่นหายไป เขายืนหันหลังให้คนอื่น ๆ ทั้งที่อายุยังน้อย แต่เขาเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งสามารถปกป้องทุกคนได้
ผู้คนที่กำลังหนีหยุดวิ่งหนี
เรา…ยังมีความหวังอยู่ใช่ไหม?
มู่เป่ยไห่และหลิวเทียนจงมองหน้ากัน พวกเขาสามารถเห็นร่องรอยของความลังเลในดวงตาของกันและกัน ซูผิงไม่เพียงเผชิญหน้ากับราชาอสูรร้าย แต่ยังเป็นราชาสวรรค์ด้วย! สิ่งที่ราชาสวรรค์ต่างโลกสามารถทำได้นั้นเหนือจินตนาการ ด้วยหมัดเดียว ราชาสวรรค์ได้เจาะทะลุกำแพงด้านนอก!
ซูผิงลงมาแล้ว ในขณะที่พวกเขาสงสัยว่าพวกเขาควรจะออกไปหรืออยู่ เขาตะโกนบอกทุกคนว่า“ ฟังให้ดี จงปกป้องทิศใต้ เราจะไม่ถอย !!”
นักรบอสูรที่หลบหนีหยุดนิ่ง
ทุกคนมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยความสงสัย ราชาสวรรค์อยู่ที่นี่ ราชาอสูรร้ายอยู่ที่นี่…แล้วเราจะอยู่ทำไม!
มู่เป่ยไห่และหลิวเทียนจงก็สับสนเช่นกัน
ทำไม?
พวกเขาไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้
ทำไมซูผิงถึงพยายามขนาดนี้?
เขาสามารถออกจากเมืองฐานหลงเจียงได้ ทำไมเขาถึงต้องอยู่เสี่ยงชีวิตที่นี่?
มู่เป่ยไห่กำหมัดแน่น “ ทุกคนในตระกูลมู่ บุกไปกับฉัน !!” เมื่อพูดอย่างนั้นมู่เป่ยไห่ก็วิ่งออกไปข้างนอกโดยใช้รูที่กำแพง
หลิวเทียนจงยิ้มอย่างขมขื่น “ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กคนหนึ่งจะเอาชนะใจฉันได้ หลังจากที่ฉันมีชีวิตที่ยืนยาวเช่นนี้ ไม่เป็นไรฉันจะทำแบบนี้สักครั้งในชีวิต!”
ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงสั่งให้สมาชิกในตระกูลหลิวกลับไปที่สมรภูมิกับเขา
หลายคนที่หลบหนีตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง เมื่อพวกเขาเห็นมู่เป่ยไห่และหลิวเทียนจงออกคำสั่ง
ซูผิงพูดกับมู่เป่ยไห่และหลิวเทียนจงว่า“ ผมจะจัดการราชาสวรรค์ คุณสองคนเฝ้าทางเข้าไว้ อย่าให้อสูรป่าเข้ามา!”
มู่เป่ยไห่ให้สัญญาว่า“ ตระกูลมู่สาบานว่าจะอยู่ที่นี่!”
“ ตระกูลหลิวก็เช่นกัน!”หลิวเทียนจงตะโกน
ซูผิงพยักหน้า เขามองไปด้านนอกที่ซึ่งราชาสวรรค์อยู่ มันโดดเด่นในฝูงอสูร เป็นราชาอสูรร้ายตัวใหญ่ ไม่มีอสูรร้ายใดกล้าเข้าใกล้ราชาสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ
นั่นคือราชาสวรรค์ต่างโลก ซูผิงสามารถบอกได้ว่ามันมีพลังครอบงำมากกว่าราชาอสูรร้ายทั่วไป ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ราชาสวรรค์ ราชาอสูรร้ายทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็พุ่งเข้าหาซูผิงราวกับโกรธแค้น หนึ่งในนั้นมาจากตระกูลปีศาจ มันดูเหมือนมนุษย์ แต่มีปีกสี่ปีก มันถือดาบยาวสีดำ ราชาอสูรมีผมปิดหน้า ภายใต้ผมนั้นเป็นใบหน้าที่เน่าเฟะ ดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นจับจ้องมาที่ซูผิงขณะที่มันถือดาบกระโจนใส่เขา