ตอนที่ 713 ความหวัง
เสวี่ยอวิ๋นเจินตกตะลึง
ทันใดนั้นเธอก็ได้สติขึ้นมา เธอขนลุกไปทั้งตัวหลังจากมองดวงตาที่โกรธและเศร้าของเซียงเฟิงหรั่น
พวกเขากลัวตายอย่างงั้นหรอ?
ใช่พวกเขากลัว แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเสียสละตัวเองได้ทุกเมื่อ!
พวกเขาทั้งหมดพร้อมที่จะตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ถูกส่งตัวไปที่ถ้ำลึกมานานหลายปี เบื้องหลังการต่อสู้ที่กล้าได้กล้าเสีย มันจะทำลายความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ!
สายเลือดต้องถูกส่งต่อ!
เสวี่ยอวิ๋นเจินกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงจนเลือดไหลออกมา เธอเงยหน้าขึ้นและมองดวงตาที่เร่าร้อนรอบตัวเธอ… จากนั้นเธอก็กัดฟันและพูดว่า “ขอโทษด้วย แต่ฉันต้องไป!”
ถ้าเธอต้องตาย เธอแค่หวังว่าการตายของเธอจะมีค่า เธอจะเป็นผู้พิทักษ์คนสุดท้ายของมนุษย์!
“ตำนาน ไปเถอะ!”
“ตำนาน เรามาที่นี่เพื่อคุ้มกันคุณ คุณไม่ได้ทรยศ คุณคือฮีโร่!”
“ใช่ ตำนาน คุณควรไป เราจะยื้อไว้ให้นานที่สุดด้วยเนื้อและเลือดของเรา!”
สิ่งที่ทำให้เสวี่ยอวิ๋นเจินตัวสั่นก็คือไม่มีใครตอบโต้ด้วยคำด่า ทั้งหมดล้วนเป็นเสียงของความจริงใจและความเข้าใจ นักรบอสูรคนอื่นๆ ได้ยินสิ่งที่เซียงเฟิงหรั่นและเย่อู่ซิวพูด และรู้ถึงความมุ่งมั่นของพวกเขา
พวกเขารู้ว่านักรบในตำนานไม่ได้วิ่งหนี แต่มันเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายสำหรับมนุษยชาติ!
ทำไมพวกเขาถึงจะต้องบังคับวีรบุรุษด้วย?
ดวงตาของเสวี่ยอวิ๋นเจินเปียกไปด้วยน้ำตา ทันใดนั้นเธอก็คิดว่าการต่อสู้หลายร้อยปีในถ้ำลึกนั้นคุ้มค่า!
เพื่อแผ่นดินและคนที่เธอรัก การอุทิศตนของเธอคุ้มค่า!
”ไปกัน!”
ไม่มีการอำลาหรือคำอื่นใด เสวี่ยอวิ๋นเจินกัดฟันและพุ่งไปด้านหลังแนวป้องกัน เธอดูเหมือนคนที่วิ่งหนี แต่เธอก็เหมือนฮีโร่ที่ไม่หันหลังกลับไปมอง
นักรบอสูรมากมายในบริเวณใกล้เคียงไม่ได้ขอให้นักรบในตำนานอยู่ต่อไป พวกเขากลับปลดปล่อยพลังดวงดาวและเรียกอสูรของพวกเขาออกมา พร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในชีวิต!
…
ในเมืองฐานหลงเจียงหลังแนวป้องกัน
ซูผิงมีอาการหน้าซีดเมื่อเขากลับมาที่ร้าน เขารีบมองไปรอบๆ และพบคนสองสามคนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของร้าน
ซูผิงก้าวเข้าไปและพูดกับถังยู่หรานและซูหลิงเยวี่ยอย่างรวดเร็ว “แจ้งฉินตู้หวงและคนอื่น ๆ ให้พวกเขาอพยพและย้ายเข้ามาที่นี่ทันที บอกตระกูลของเธอให้ส่งผู้หญิงและเด็กมา พวกเขาจะปลอดภัยที่นี่!”
ร่างกายของเขาสั่นเทา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาจะไม่ถูกฆ่าตายจากการปกป้องของระบบ แต่เขาก็สามารถจินตนาการถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ย!
นอกร้านจะกลายเป็นนรก!
ทั้งถังยู่หรานและซูหลิงเยวี่ยต่างตกใจกับสิ่งที่ซูผิงพูด พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ของระดับดวงดาวที่น่าตกใจข้างนอก หลังจากที่เห็นสภาพของซูผิงเมื่อเขามาถึง พวกเธอตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกอบกู้โลก
อย่างไรก็ตาม คำพูดของซูผิงทำให้พวกเธอสับสนอยู่บ้าง
ร้านนี้จะสามารถเป็นที่พักพิงได้อีกหรอเมื่อหายนะมาถึง?
เป็นเพราะโจแอนนาอยู่ในร้านหรือเปล่า?
แต่ถ้าโจแอนนาสามารถฆ่าเจ้าแห่งถ้ำลึกได้ ทำไมเธอไม่ออกไปฆ่ามันซะล่ะ?
ซูหลิงเยวี่ยที่สับสนกำลังจะถาม “พี่…” แต่เธอได้เห็นแล้วว่าร้านลึกลับนี้มีความสำคัญต่อพี่ชายของเธอมากแค่ไหน เธอไม่เคยรู้ว่าเขาไปหาอสูรมาขายจากที่ไหน
“ไม่ต้องถาม ทำตามที่บอกซะ!” ซูผิงคำราม
เวลาคือชีวิต คำนี้เข้ากันได้ดีในสถานการณ์นี้ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้หญิงทั้งสองคนตะลึงกับเสียงคำรามของซูผิง เป็นครั้งแรกที่พวกเธอเห็นเขากังวลใจ
พวกเธอไม่กล้าถามหรือคิดอะไรอีก พวกเธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและทำตามที่เขาสั่ง สถานที่นี้น่าจะปลอดภัยเพราะซูผิงบอกแบบนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่ แต่การรวบรวมพวกเขามาที่ร้านก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกเขาตายที่อื่น
ขณะที่พวกเธอคุยโทรศัพท์ ซูผิงรีบโทรหาเซี่ยจินชุ่ย เย่อู่ซิว หลี่หยวนเฟิงและคนอื่นๆ เพื่อขอให้พวกเขามาที่ร้านของเขา
โชคดีที่ร้านของเขาเพิ่งเลื่อนขั้น ซึ่งเพิ่มพื้นที่ร้านค้าเป็นสองเท่า อาณาเขตของร้านขยายไปถึงสองช่วงตึก!
พื้นที่เพียงพอสำหรับรองรับคนได้หมื่นคนแบบอัดๆหน่อย!
อย่าลืมว่าพื้นที่นี้เป็นสามมิติ อากาศภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรเหนือร้านก็ปลอดภัยเช่นกัน!
ดังนั้น หากซ้อนกันเหมือนสินค้า อย่างน้อยก็มีคนจำนวนหนึ่งแสนคนที่บรรจุในนี้ได้!
ผู้คนนับแสนคนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังแนวป้องกัน แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ซูผิงสามารถทำได้ในขณะนี้
บางคนไม่รับและบางคนก็รับสาย ซูผิงรีบบอกคนที่รับสายแล้ววางสายเพื่อโทรหาคนต่อไปทันที
เขาติดต่อทุกคนที่เขารู้จัก สำหรับคนที่เขาไม่รู้จัก เขาไม่มีเบอร์ที่จะไปเตือนพวกเขา
ไม่นานก็มีคนมา บางคนเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ และบางคนอยู่ในระดับตำนาน
”คุณซู!”
“น้องซู!”
เย่อู่ซิว,หลี่หยวนเฟิงและคนอื่นๆ มาถึงก่อน นักรบสภาวะว่างเปล่าสามารถเดินทางได้ด้วยการหายตัว ดังนั้นพวกเขาจึงมาถึงก่อน
เย่อู่ซิวถามอย่างรวดเร็ว “คุณเรียกพวกเรามาที่นี่เพราะว่าคุณมีทางหนีอย่างงั้นหรอ?”
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง เนื่องจากซูผิงได้แสดงความสามารถในการต่อสู้ที่สูงรองแค่เนี่ยฮั่วเฟิงเท่านั้น!
ถ้าซูผิงและพวกเขาช่วยกันเดินขบวนกันเป็นแถว ก็มีความหวังว่าพวกเขาจะแยกตัวออกไปตราบใดที่เจ้าแห่งถ้ำลึกไม่ไปถึงที่นั่นทันเวลา!
เขาเต็มใจที่จะเสียสละตัวเองแม้ว่าซูผิงจะเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต!
ซูผิงนั้นอ่อนแอกว่ายอดฝีมือระดับดวงดาวเท่านั้น เขาอาจเข้าสู่ระดับดวงดาวสักวันหนึ่งถ้าเขาฝึกฝนตัวเองในอาณาจักรลับ แล้วเขาจะสามารถล้างแค้นให้กับพวกเขาได้!
”น้องซู!”
เซียงเฟิงหรั่น เสวี่ยอวิ๋นเจินและคนอื่น ๆ มาถึง
ฉินตู้หวงและโจวเทียนหลินตามหลังมา พวกเขายังคงรวมเข้ากับอสูรของพวกเขาและใช้ความสามารถของพวกมัน
ถนนที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยรังสีอันทรงพลังในทันที
“เจ้าของร้านซู เราจะปกป้องคุณ! ต่อสู้เพื่อทางออกของเรา!”ฉินตู้หวงมองไปที่ซูผิงด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย กลิ่นอายอันทรงพลังและจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เขาปล่อยออกมาทำให้เขาดูอ่อนกว่าวัยหลายสิบปี
เขาหมายความตามที่พูดและพร้อมที่จะทำตามสัญญา!
อสูรของเขาเป็นของขวัญจากซูผิง และเขากลายเป็นนักรบในตำนานส่วนใหญ่เป็นเพราะความเข้าใจจากอสูรของราชาอสูรที่ซูผิงมอบให้เขา เขาเคยพูดเสมอว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณของซูผิง และให้คำมั่นไว้ในความทรงจำ
ตอนนี้…
ถึงเวลาต้องชดใช้!
”น้องซู!”โจวเทียนหลินก็เช่นกัน เขาจ้องไปที่ซูผิงด้วยความเสียใจและความมุ่งมั่นในสายตาของเขา เขาเพิ่งจะกลายเป็นนักรบในตำนาน เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่และสนุกกับระดับใหม่ อย่างไรก็ตามไม่มีเวลาหรือความหวัง เขาเพียงต้องการจะทำอะไรบางอย่างด้วยพลังที่เหลืออยู่ของเขา
ทุกคนจับตามองซูผิง
พ่อแม่ของซูผิงเดินมาที่ร้านด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ลูกแม่ ไม่ต้องห่วงเรา” หลี่ฉิงรู่ แม่ของเขากล่าว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรัก คิดถึง และสบายใจ
ข้างๆเธอ พ่อของเขาซูหยวนซานยังคงเงียบ แต่เขารู้สึกได้ถึงความรักลึกซึ้งที่พ่อมีต่อเขา!
หลังจากเห็นพวกเขามาถึง ซูผิงก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “เราจะไม่ไปไหน ร้านนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด!”
ทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกคนก็ตระหนักได้ว่าเขาหมายถึงอะไร และมองไปที่ซูผิงด้วยความตกใจ
พวกเขาจะอยู่ที่นี่?
เย่อู่ซิวอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้าของร้านซู พูดจริงเหรอ? เราจะอยู่ที่นี่เพื่อรอความตายหรอ?”
ในทางกลับกันฉินตู้หวงและโจวเทียนหลินมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขารู้จักซูผิงนานและรู้จักมากกว่า และพวกเขารู้ว่าร้านของเขาน่ากลัวแค่ไหน
เพราะมันอาจเป็นร้านเดียวในโลกที่มีอสูรสภาวะว่างเปล่าอยู่ตลอดเวลา
พวกเขายังจำได้ว่าร้านของซูผิงถูกดูแลโดยผู้หญิงผมบลอนด์ระดับตำนาน!
เธอสามารถปกป้องพวกเขาได้อย่างงั้นหรอ?
แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็มีคำถามเดียวกันกับถังยู่หรานและซูหลิงเยวี่ย: ถ้าผู้หญิงคนนั้นสามารถต้านทานเจ้าอสูรถ้ำลึกได้ ทำไมเธอถึงไม่ออกไปสู้ข้างนอกล่ะ?
ในขณะที่ทุกคนดูประหลาดใจ ซูผิงรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอธิบาย เขารีบหาข้อแก้ตัวว่า “ใจเย็นๆ มีค่ายกลศักดิ์สิทธิ์โบราณในร้านของผม ซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีของระดับดวงดาวได้ ไม่มีอสูรป่าหน้าไหนมาบุกร้านผมได้!”
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์โบราณสามารถป้องกันศัตรูของระดับดวงดาวได้?
พวกเขาสังเกตร้านด้านหลังซูผิงอีกครั้ง ไม่คิดว่ามันจะมีความสามารถมหัศจรรย์เช่นนี้
เสวี่ยอวิ๋นเจินคิดอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างและกล่าวว่า “อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะซ่อนและพวกมันไม่สามารถฆ่าเราได้ แต่พวกมันก็ยังสามารถล้อมรอบเราได้ เราจะไปไหนไม่ได้…”
แม้ว่าเธอจะดูเหมือนเสือโคร่งที่ประมาท แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนรอบคอบ
รอยยิ้มของคนอื่นหุบลงทันที
นั่นเป็นเรื่องจริง
แม้ว่าอสูรป่าจะบุกเข้ามาไม่ได้ มนุษย์ก็ไม่สามารถออกไปได้ ในที่สุดความอดอยากก็จะโจมตีพวกเขา!
แม้ว่านักรบในตำนานจะมีตัวเลือกเพราะสามารถดำรงตนด้วยพลังดวงดาวเพียงอย่างเดียว จะเกิดอะไรขึ้นหากเจ้าแห่งถ้ำลึกแย่งชิงพลังดวงดาวทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียง?
จากนั้นนักรบในตำนานก็จะแก่ตาย!
วิธีการนั้นเป็นเพียงวิธีการตายที่ช้ากว่าเท่านั้น!
ซูผิงกำลังจะพูด แต่ระบบพูดในหัวของเขาทันทีว่า “มันไม่มีประโยชน์”
ซูผิงมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ระบบแอบเข้ามาในความคิดของเขาอีกแล้ว! เขากำลังจะปลอบทุกคนโดยบอกพวกเขาว่าเขาสามารถเคลื่อนย้ายร้านออกจากที่นี่ได้!
“ทำไมมันถึงไม่มีประโยชน์” ซูผิงเรียกร้องอย่างฉุนเฉียวในใจ
อย่างไรก็ตาม ระบบไม่ตอบตามนิสัยของมัน มันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แม้ว่านายจะได้รับโอกาสในการย้ายร้านหลังจากเลื่อนขั้นเป็นระดับ 4 แล้ว แต่กฎก็คือสามารถย้ายไปยังสถานที่ที่มีลูกค้าเพียงพอเท่านั้น มีเพียงหลังแนวป้องกันที่ตรงตามข้อกำหนดในขณะนี้ ดังนั้นต่อให้นายย้าย นายก็ทำได้แค่ย้ายที่อยู่ในระยะของแนวป้องกันเท่านั้น!”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
มันเป็นกฎที่ห่วยแตกไปไหมt?
เขาอารมณ์เสีย
“มันเป็นไปได้ที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นถ้านายมีผู้อยู่อาศัยเพียงพอ อย่างไรก็ตามประชากรโลกทั้งหมดกระจุกตัวอยู่ที่นี่” ระบบตอบโดยไม่สนใจความโกรธของซูผิง
ซูผิงพูดด้วยความโกรธในใจ “ทำไมนายไม่เตือนฉันให้เร็วกว่านี้? นายไม่ได้อ่านความคิดของฉันตลอดเวลาหรือยังไง? ทำไมนายไม่บอกฉันว่าแผนของฉันใช้ไม่ได้ นอกจากนี้นายไม่อยากได้เงินหรือไง? ผู้คนจำนวนมากกำลังจะตาย ตามที่นายบอก มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่จะเป็นลูกค้า!
“ถ้าอย่างนั้น นายควรช่วยเหลือฉันและช่วยฉันช่วยชีวิตพวกเขาไม่ใช่หรอ?”
ระบบกล่าวอย่างจริงจังว่า “การดูแลลูกค้าเป็นความรับผิดชอบของนาย ไม่ใช่ของฉัน”
เลว!
ซูผิงกัดฟันและรักษาความสงบไม่ได้
แต่เขารู้ว่าไม่ใช่ความผิดของระบบ เขาแค่ใจร้อนเกินไป
เซียงเฟิงหรั่นขมวดคิ้วและเรียกเขาเบาๆ “เจ้าของร้านซู?”
ซูผิงดูเหมือนกำลังจะพูด จากนั้นท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาดูโกรธ ซึ่งทำให้คนอื่นๆ รู้สึกสับสนและไม่สบายใจ
ซูผิงกลับมารู้สึกตัวและในที่สุดก็พูดว่า “ผมโอเค แม้ว่าเราจะออกไปไม่ได้ แต่มันก็เข้ามาไม่ได้เช่นกัน เราสามารถฝึกฝนที่นี่ได้จนกว่าเราจะแข็งแกร่งพอที่จะออกไปเอาชนะพวกมันได้!”
เซียงเฟิงหรั่นและคนอื่นๆ ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขามองซูผิง มั่นใจว่าเขาเป็นคนที่มีความหวังสูงสุดที่จะไปถึงระดับดวงดาว
”ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนที่นี่ หากเจ้าอสูรแห่งถ้ำลึกดูดซับพลังดวงดาวในบริเวณใกล้เคียง”เสวี่ยอวิ๋นเจินกล่าวขณะส่ายหัว
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไป นั่นเป็นปัญหาจริงๆ
อย่างไรก็ตามฉินตู้หวงกล่าวหลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที “ในกรณีนั้น เราสามารถปลดปล่อยพลังดวงดาวในร่างกายของเราให้คุณซูได้”
ทุกคนตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น
ปลดปล่อยพลังดาวของเราให้ซูผิงบ่มเพาะที่นี่?
นั่น… เป็นทางออกจริงๆ!
หลังจากพิจารณาแนวคิดนี้เสวี่ยอวิ๋นเจินมองไปที่ฉินตู้หวงด้วยความชื่นชมในดวงตาที่เปล่งประกายของเธอ
อย่างไรก็ตาม ซูผิงตัวสั่นและรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหลออกมา
การปลดปล่อยพลังดาวในร่างกายของพวกเขาจะหมายความว่าพวกเขาจะสูญเสียการบ่มเพาะ!
เขากัดฟัน เขารู้ว่าเขาไม่ต้องการพลังดวงดาว ไม่ใช่ตอนที่เขามีสนามบ่มเพาะ แต่เขาพบว่าความเสียสละของพวกเขามันมากเกินไป!
ผู้คนจำนวนมากขึ้นรวมตัวกันพูดคุย
จี้หยวนเฟิงและรองหัวหน้าต่างก็อยู่ที่นี่
ซูผิงเป็นความหวังเดียว พวกเขาต้องการเข้าร่วมกับซูผิงและออกจากที่นี่ด้วยกัน!
พวกเขารู้ว่าพวกเขามาถูกที่แล้วเมื่อเห็นเย่อู่ซิว เซียงเฟิงหรั่นและนักรบในตำนานคนอื่นๆ ในร้านของซูผิง
หยวนเทียนเฉินและกลุ่มนักรบในตำนานอีกกลุ่มก็มาเข้าร่วมกับพวกเขา พวกเขาอยู่รวมอยู่กับคนอื่นและไม่ได้ทักทายซูผิง แต่พวกเขาก็มาแล้ว
ความหวังเดียวของพวกเขาคือซูผิง!
ทุกคนรู้สึกมั่นใจหลังจากได้เห็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมารวมตัวกัน พวกเขาได้พบกลุ่มนักรบที่เก่งที่สุดแล้ว!
“น้องซู!”
”คุณซู!”
จี้หยวนเฟิงทักผิงและกล่าวว่า “อยากให้เราทำอะไรบอกได้เลย ก้าวผ่านมันไปด้วยกัน”
ซูผิงกำลังจะพูด แต่ได้ยินเสียงลมพัดมา นักรบกิตติมศักดิ์ขี่อสูรบินมาถึง ด้านหลังของอสูรทั้งหมดเต็มไปด้วยผู้หญิงและเด็กมากมาย
ทั้งหมดเป็นคนตระกูลถัง
ซูผิงและตระกูลถังได้สงบศึกกันแล้ว อันที่จริงความขัดแย้งของพวกเขาไม่ได้รุนแรงนัก ตระกูลถังท้าทายซูผิงเพราะตั้งใจที่จะนำคุณหนูของพวกเขากลับคืน
อย่างไรก็ตามซูผิงได้ฆ่านักรบกิตติมศักดิ์ไปหลายคน และกำจัดกองทัพนักรบอสูรไปกว่าสองพันคน ตระกูลถังเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่
ตระกูลถังขอโทษและชดเชยให้ซูผิงหลังจากนั้น แล้วทุกอย่างก็จบ
ซูผิงไม่ใช่คนใจแคบ
เมื่อมีถังยู่หรานเป็นคนกลาง และเนื่องจากเธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำตระกูล ซูผิงจึงเลิกคิดเรื่องตระกูลถัง
ร้านของเขาเป็นที่พักพิง แต่ไม่มีใครรู้ เขาต้องการให้คนมาเพิ่มอีก มันจะเสียเปล่าถ้าปล่อยให้ร้านว่าง
“พวกเขามาแล้ว” ถังยู่หรานกล่าวอย่างโล่งอกหลังจากเห็นสมาชิกตระกูลถัง
เธอสนิทกับซูผิง และเชื่อเรื่องค่ายกลโบราณเมื่อซูผิงกล่าวถึง เพราะเธอเชื่อว่าชายคนนี้จะไม่พูดถ้าไม่มีอยู่จริง
หวืด! หวืด! หวืด!
สมาชิกตระกูลถังกระโดดลงจากอสูรบิน และทุกคนตกใจเมื่อเห็นนักรบในตำนานมากมายในร้านของซูผิง
“สมาชิกตระกูลถังทำความเคารพคุณ คุณซู!”
ทั้งหมดคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เคารพเขาอย่างสุภาพที่สุด
ซูผิงแข็งแกร่งพอที่จะทำให้พวกเขาคุกเข่าโดยสมัครใจ ท้ายที่สุดเขาเป็นนักรบระดับตำนานที่สมควรได้รับความเคารพจากพวกเขา!
“ถังหลินจ้านอดีตผู้นำตระกูลถังขอโทษคุณซู!”
“ถังหยวนชิงผู้อาวุโสตระกูลถังขอโทษคุณซู!”
ผู้ชายหลายคนพุ่งออกจากฝูงชน พ่อของถังยู่หรานหรืออดีตผู้นำตระกูลถังคุกเข่าและก้มหน้าลง
ข้างหลังเขาคือผู้อาวุโสตระกูลถังที่เคยโจมตีซูผิง
แม้ว่าซูผิงจะไม่สนใจเรื่องราวในอดีตแล้ว แต่คนเหล่านี้ก็มักจะกังวลว่าเขาอาจจะยังรู้สึกขุ่นเคือง
“ถังยู่หยูตระกูลถังขอโทษคุณซู!”
หญิงสาวตัวเตี้ยซึ่งอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์แล้วก็ออกมาจากฝูงชน คุกเข่าข้างหนึ่งและก้มหน้าลง
เป็นฉากที่น่าตกใจมาก จี้หยวนเฟิง เย่อู่ซิว และคนอื่นๆ สับสน ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ซูผิงมองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคย หลังจากขจัดความคับข้องใจแล้ว เขาก็โบกมือแล้วพูดว่า “ลุกขึ้นเถอะ เราอยู่ท่ามกลางวิกฤต เข้ามาในร้านเดี๋ยวนี้เลย”
ในช่วงเวลาต่อมาถังหลินจ้าน ถังยู่หยู และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้ ซึ่งทำให้พวกเขาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
สิ่งนี้เพิ่มความรู้สึกเกรงขามเช้าไปอีก สิ่งที่ซูผิงพูดต่อไปทำให้พวกเขามั่นใจ ดูเหมือนว่าซูผิงจะไม่สนใจความผิดก่อนหน้านี้ของตระกูลถังอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาทั้งหมดตื่นเต้น ราวกับว่าเงาในหัวใจของพวกเขาคืบคลานออกไปแล้ว
“เร็วเข้า รีบไป!”ถังหลินจ้านโบกมืออย่างรวดเร็วและบอกผู้หญิงและเด็กๆ ในตระกูลของเขาหาที่ของตัวเอง
จี้หยวนเฟิงสับสนกับการกระทำของพวกเขา และถามแค่ว่า “น้องซูกำลังทำอะไรอยู่?”
“เราจะไม่ไปไหน” ซูผิงมองไปที่จี้หยวนเฟิง คนที่เขาไม่ชอบ “มีค่ายกลโบราณในร้านของผม ที่แม้แต่เจ้าอสูรแห่งถ้ำลึกก็ไม่สามารถทำลายได้ คุณจะปลอดภัยตราบใดที่คุณอยู่ในร้านของผม เข้ามาเถอะ”
จี้หยวนเฟิงค่อนข้างตกใจ
หยวนเทียนเฉินและนักรบในตำนานคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ซูผิงเชี่ยวชาญการสร้างค่ายกลที่น่าสยดสยองแบบนี้ตอนไหน?
หยวนเทียนเฉินมองไปที่ร้านด้านหลังซูผิง เขาเกือบถูกสาวผมบลอนด์แทงทะลุในการมาเยือนครั้งก่อนของเขา เขาพบว่าร้านของซูผิงดูสวยงามกว่าเดิม
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาจำหญิงสาวผมบลอนด์ได้ เนื่องจากความกลัวยังคงหลอกหลอนเขาอยู่
สิ่งที่ทำให้เขาสับสนก็คือเขาไม่เห็นหญิงผมบลอนด์ในการต่อสู้ เป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่ซูผิงเข้าร่วมการต่อสู้แต่ไม่ได้ส่งเธอออกไป
เขาถือว่าความปลอดภัยของผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าความปลอดภัยของเขาหรอ?
ในขณะนั้นผู้คนจำนวนมากพุ่งเข้ามา
พวกเขาคือลู่ฉิว ชือหาวจื่อ และคนอื่นๆ จากสมาคมผู้ฝึกสอน นอกจากนี้ยังมีนายกสมาคมผู้ฝึกสอนซึ่งมีชายชราสองคนมาด้วย หนึ่งในนั้นเป็นคนผมสีฟ้าสดใสจากทวีปสายฟ้าคำราม และอีกคนมาจากทวีปบึงมังกรมีผมสีทองสดใส
ซูผิงสามารถบอกได้อย่างง่ายดายจากความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะเหมือนกับประธานสมาคมผู้ฝึกสอน!
”คุณซู”
“ตำนานซู”
พวกเขาทั้งหมดดีใจที่ได้เห็นนักรบในตำนานในร้าน โดยคิดว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะรวบรวมกำลังเพื่อออกปจากที่นี่!
“ช่วยผมดูแลคนที่นี่และเรียกคนมาเพิ่ม” ซูผิงบอกกับฉินตู้หวงและคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปบนฟ้าและรวบรวมเปลวไฟบนปลายนิ้ว เขายกมือขึ้นขณะที่มองลงไปที่ร้านค้า
พุฟ!
เปลวไฟที่ถูกบีบอัดบนปลายนิ้วของเขาถูกยิงออกไปราวกับเลเซอร์ วาดวงกลมที่ทำเครื่องหมายพื้นที่ปลอดภัย
หลังจากวาดเสร็จ ซูผิงก็บินลงมาและพูดว่า “ขอให้ทุกคนเข้าไปในพื้นที่ภายในวงกลมและอย่าก้าวออกมา!”
ฉินตู้หวงและเย่อู่ซิวฟังคำสั่งของเขา และเรียกคนมาเพิ่ม
“อยู่ในร้าน” ซูผิงพูดกับซูหลิงเยวี่ยและพ่อแม่ของเขา จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไป ยังมีคนไม่ถึงแสนคน เขาต้องการคนเพิ่ม
บี๊บ…
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของซูผิงก็ดังขึ้น
เขาเห็นว่าเป็นเซี่ยจินชุ่ยที่ไม่รับสายเขาก่อนหน้านี้ เขารับสายและพูดว่า “ผู้อาวุโสเซี่ยมาที่ร้านของผมเดี๋ยวนี้เลย แล้วแจ้งให้คนอื่นมาด้วย ร้านของผมได้รับการคุ้มครองโดยค่ายกลโบราณและสามารถต้านทานกระแสอสูรร้ายได้”
“ซู…”
เซี่ยจินชุ่ยเพิ่งพูดคำเดียวและกำลังจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับสายของซูผิง แต่พอได้สิ่งที่ซูผิงบอกเขา เขาก็ตกใจ
”เข้าใจแล้ว!” เขาตอบรับอย่างรวดเร็ว
ซูผิงรีบออกไปหลังจากวางสาย
ไม่นานหลังจากนั้น เขาเห็นรถขับผ่านมา มีคนที่เขารู้จักหลายคน สวี่คัง—คนที่เรียกเขาว่าอาจารย์ตลอดเวลา—และพี่ของเขาอยู่ในนั้นด้วย
ผู้โดยสารคนอื่นๆ ดูแก่กว่า พวกเขาดูเหมือนพ่อแม่และญาติของพวกเขา
สวี่คังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นซูผิงบนท้องฟ้า เขาตะโกนทันที “อาจารย์!!”
”ไปที่ร้านของฉัน!” ซูผิงตะโกนกลับไป
จากนั้นเขาก็บินไปไกล
สวี่คังที่ยังคงอยู่ในรถก็ตกตะลึงสักครู่จากนั้นชายวัยกลางคนข้างหลังก็ถามด้วยความตกใจ “เขาเป็นอาจารย์ของลูกหรอ?”
สวี่คังพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่! ผมเรียกเขาว่าอาจารย์ตลอด! ”
”แล้วเขายอมรับนายเป็นศิษย์ไหม?”
สวี่คังรีบตะโกนว่า “เฮ้พี่เลิกถามเลย รีบไปที่ร้านของผม เขาขอให้เรารอให้เขาอยู่ที่นั่น เขาจะพาเราออกไป! ”
สวี่ หยิงเสวี่ยกลอกตา ซูผิงไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับการพาใครไปไหน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เธอหวังว่าสิ่งที่น้องชายที่ไม่น่าเชื่อถือของเธอพูดจะเป็นจริง
…
ซูผิงบินไปไกลสิบสองกิโลเมตรและบอกทุกคนที่เขาเจอให้ไปที่ร้านของเขา
หลังจากนั้นเขาก็พบว่าร้านค้าเกือบเต็มแล้วเมื่อเขากลับมา
จากนั้นผู้รอดชีวิตคนอื่นจะต้องอยู่ด้านบน!
บูม !!
ถูกต้องตอนที่ซูผิงขอให้เย่อู่ซิวและฉินตู้หวงเตรียมของ คือที่อุดหู การแสดงออกของนักรบในตำนานทั้งในและนอกร้านของซูผิงเปลี่ยนไป
พวกเขารู้แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่น่าตกใจลงเลยเมื่อมันเกิดขึ้นจริง ๆ
กำแพงด้านนอกของถูกทำลาย!
เจ้าแห่งถ้ำลึกได้ข้ามกำแพงด้านนอกทั้งสองและผ่านแนวป้องกันมาแล้ว!
สภาวะชะตากรรมหลายตัวและสภาวะสมุทรบางตัวปรากฏในส่วนอื่น ๆ ของแนวป้องกัน
ราชาอสูรมีมาไม่จำกัด เนื่องจากนักรบในตำนานถอยทัพ
ไกลออกไปซูผิงและคนอื่น ๆ ได้ยินเสียงกรีดร้อง
พวกเขาสั่นเพราะอสูรร้ายพุ่งเข้ามา พวกเขาไม่อยากรับรู้ว่าสนามรบในแนวหน้านั้นเป็นนรกแล้ว
ร่างกายของซูผิงนั้นแข็งแกร่งเท่ากับสภาวะชะตากรรม สายตาของเขาดีมากมำให้เขาสามารถมองเห็นนักรบอสูรบนกำแพงได้
แม้ว่าบนกำแพงจะมีหลุมเต็มไปหมด แต่นักรบอสูรหลายคนกำลังต่อสู้อยู่ ทักษะที่พวกเขาปล่อยออกมานั้นอ่อนแอมาก พวกเขาดูเหมือนหิ่งห้อยที่ไม่สร้างความเสียหายใดๆให้กับศัตรูเลย …
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างซูผิงหลั่งน้ำตา
ถัดจากเขาเย่อู่ซิวและตำนานอื่น ๆ ก็เงียบ พวกเขากำมือจนเลือดออก
โฮกก! โฮกกกก!
โฮกก !!
เสียงคำรามแสบหูสะท้อนไปทุกทิศทาง แนวป้องกันถูกครอบงำ !
กระแสอสูรโจมตีทั้งสี่ทิศทางและแนวป้องกันถูกฉีกขาดอย่างง่ายดายราวกับว่าทำจากกระดาษ!
หวืด!
ในระยะไกลทำให้เงาหลายสิบเงาเข้าใกล้ ทั้งหมดกำลังต่อสู้กับนักรบอสูร
ซูผิงและคนอื่น ๆ ก็ตกใจ พวกเขากระพริบตาอย่างรวดเร็วและมองนักรบอสูรที่ขวางทางพวกมัน
อสูรบางตัวมาถึงเมืองฐานหลงเจียง แล้ว!
ราชาอสูรสภาวะชะตากรรม ที่มีความสูงหลายร้อยเมตรสามารถบดขยี้กำแพงเมืองและโจมตีได้อย่างง่ายดาย
เสียงร้องไห้และเสียงกรีดร้องดังมาจากทุกทิศทาง!
หายนะได้มาถึงแล้ว!
ในขณะที่อสูรร้ายกำลังโจมตี ซูผิงเห็นนักรบอสูรจำนวนมากขี่อสูรและช่วยเหลือประชาชน
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะมาที่ร้านของซูผิง
พวกเขามาถึงในไม่ช้า และผ่อนคลายลงได้เมื่อเห็นซูผิงจี้หยวนเฟิงและนักรบในตำนานอื่น ๆ
บางคนเข่าอ่อนเมื่อเห็นซูผิงและร้องขอด้วยความกลัว “โปรดช่วยเราด้วย!”
ไม่ใช่ทุกคนที่มาจากเมืองฐานหลงเจียง; บางคนมาจากที่อื่น
เซี่ยจินชุ่ยได้กระจายข่าวซึ่งจากนั้นส่งไปยังศูนย์บัญชาการ จากนั้นผู้คนที่ได้รับข้อความในพื้นที่อื่น ๆ ก็รีบมาที่ร้านของซูผิง
ผู้รอดชีวิตจากทวีปอื่น ๆ ที่ไม่รู้ว่าร้านค้าอยู่ที่ไหนก็ถามคนอื่นๆมา
ซูผิงขอให้จี้หยวนเฟิงและคนอื่น ๆ ช่วยคนที่มาใหม่หาที่พัง
อสูรตระกูลหินปรากฏขึ้นหลังจากเสียงระเบิดดังสนั่น มันเป็นอสูรของเซียงเฟิงหรั่น ดินเริ่มเคลื่อนที่ทันที แผ่นหินบาง ๆ เพิ่มขึ้นภายในวงกลมที่ซูผิงวาดและครอบคลุมร้านของเขา จากนั้นแผ่นหินถูกแยกออกเป็นชั้นๆที่แตกต่างกันและสร้างลูกบาศก์ขนาดใหญ่
ลูกบาศก์ดูเหมือนภาชนะขนาดใหญ่ที่มีกล่องเยอะๆ ทั้งหมดเพื่อรองรับผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
”เร็วเข้า! ทุกคนเข้าไปข้างใน! ” ซูผิงพูดอย่างเร่งรีบ
ผู้ที่เพิ่งมาถึงถูกส่งไปยังกล่อง ผู้มาใหม่บางคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแค่ตามคนอื่น ๆ มา ท้ายที่สุดพวกเขายินดีที่จะทำตามที่นักรบในตำนานสั่ง
โฮกก !!
เสียงดังระเบิดออกมา ในระยะไกลกลุ่มคนหลายสิบคนที่กำลังเดินทางมาที่พักพิงถูกกรงเล็บหินที่โผล่ออกมาจากดินตบตบจนตาย!
ซูผิง จี้หยวนเฟิงและคนอื่น ๆ หวาดกลัว
เสียงอึกทึกดังขึ้นอีก ราชาอสูรร้ายอยู่ที่นี่ ในเมืองฐาน!
”หยุดเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้นเสวี่ยอวิ๋นเจินที่ลาดตระเวนอยู่บนท้องฟ้าก็ระเบิดความโกรธ และรีบเข้าไปช่วย มีกลุ่มคนธรรมดากลุ่มหนึ่ง—มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก—บนถนนห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร และพวกเขากำลังเผชิญกับอสูรป่าระดับแปด
สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนหิวโหยนั้นแลบลิ้นยาว และมีเสมหะปะปน
มนุษย์เหล่านั้นกำลังลำบาก
บูม!!
เสวี่ยอวิ๋นเจินหายตัวอย่างต่อเนื่อง ปรากฏตัวขึ้นเหนืออสูรป่าระดับแปดและเหยียบบนตัวมัน พื้นดินระเบิด และอสูรร้ายก็ถูกบดขยี้เป็นละอองเลือด!
เสวี่ยอวิ๋นเจินมองไปที่มนุษย์ที่กำลังตกตะลึง จากนั้นจึงอุ้มพวกเขาด้วยพลังดวงดาวและประกาศว่า“ตามฉันมา!”
เธอกำลังจะพาพวกเขาไปที่ร้านของซูผิง
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นกรงเล็บแหลมคมก็ยื่นออกมาจากความว่างเปล่า บดขยี้คนธรรมดาที่เธอเพิ่งช่วยออกเป็นชิ้นๆ
เด็ก ๆ ก็ถูกทุบเป็นเศษเนื้อเช่นกัน!
ดวงตาของเสวี่ยอวิ๋นเจินเบิกกว้าง จากนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่าเลือดของเธอพุ่งขึ้นหัว เธอคำรามด้วยดวงตาแดงก่ำ “อ๊ากกกกก!”
พลังดวงดาวของเธอระเบิดออกมา และเธอก็โจมตีกรงเล็บยักษ์
ร่างที่อยู่หลังกรงเล็บยักษ์ถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่ มันเป็นราชาปีศาจสภาวะชะตากรรม มันมีขนสีขาวและดูเหมือนหมีขั้วโลก
อสูรร้ายมองลงมาที่เสวี่ยอวิ๋นเจินและยิ้ม “ไม่เลว เจอของอร่อยแล้ว”
วินาทีต่อมาเสวี่ยอวิ๋นเจินรู้สึกว่ามิติรอบตัวเธอถูกกัก รูม่านตาของเธอหดตัว แต่เธอก็ปล่อยเสียงคำรามโกรธจัด วังวนปรากฏขึ้นข้างๆ เธอ และเธอก็รวมเข้ากับอสูรต่อสู้ของเธอ จากนั้นเธอก็ปล่อยสายฟ้าออกไป ร่างกายอันทรงพลังของเธอเป็นของตระกูลสายฟ้า
ในขณะนั้นเธอได้ใช้เทคนิคโบราณเพื่อเสริมสร้างร่างของเธอ เธอปล่อยแสงนับพันที่ทำให้เกิดรอยร้าวบนมิติที่ถูกกัก
เมื่อเธอกำลังจะวิ่ง กรงเล็บยักษ์ก็ตกลงมาขวางทางเธอ
อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเอง รังสีดาบอันเจิดจ้าปรากฏขึ้นและฟันกรงเล็บยักษ์ออกจากกัน
ซูผิงมาถึงตรงที่เสวี่ยอวิ๋นเจินอยู่ ผมสีดำของเขาพริ้วสะบัด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าและความโกรธ
ราชาปีศาจสภาวะชะตากรรม ตกตะลึงอย่างมากเมื่อเห็นซูผิง มันคาดไม่ถึงว่าเมืองฐานที่บุกเข้ามาจะเป็นสถานที่ที่ซูผิงอยู่
ด้วยความตื่นตระหนก มันจึงฉีกช่องว่างออกจากกันอย่างรวดเร็วและหนี
ซูผิงตั้งใจจะฆ่ามัน แต่มันสามารถหลบหนีไปได้ เขาไม่พยายามไล่ตามต่อ เขาพูดกับเสวี่ยอวิ๋นเจินว่า “กลับไปที่ร้าน”
เสวี่ยอวิ๋นเจินมองเขา ในไม่ช้าซูผิงก็เปลี่ยนท่าทางและหายตัวออกไปก่อนที่เธอจะขอบคุณเขา
บูม!
ราชาอสูรสภาวะสมุทรทั้งสองกำลังไล่ตามกลุ่มนักรบกิตติมศักดิ์อยู่บนถนน ซูผิงไปถึงที่นั่นแล้วฟันดาบใส่พวกมัน
รังสีดาบพุ่งออกมา และเขาได้ฆ่าราชาอสูรสภาวะสมุทรทั้งสองทันที เขาไม่ได้ใช้ดาบแห่งความว่างเปล่าเนื่องจากไม่จำเป็น
ซูผิงพาเหล่านักรบกิตติมศักดิ์กลับไปที่ร้าน และพบว่ามันเกือบเต็มแล้ว!
ผู้รอดชีวิตจากระยะไกลกำลังเข้ามาใกล้ร้านของเขามากขึ้น
สีหน้าซูผิงดูไม่ดีเลย
จี้หยวนเฟิง เย่อู่ซิว และคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาถามซูผิงว่า “เราจะทำยังไง?”
เขาควรทำอย่างไร?
ซูผิงรู้คำตอบ แต่เขาไม่สามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้
เขาจะทำอะไรได้อีก? มีพื้นที่ไม่เพียงพอ!
พวกเขาทำได้แค่ทอดทิ้งคนที่เหลือ!
อย่างไรก็ตาม…
”ช่วย! ช่วยฉันด้วย…”
ในระยะไกล นักรบอสูรหลายคนร้องขอความช่วยเหลือขณะขี่อสูรของพวกเขา แต่ในไม