ตอนที่ 298: สันติ
เหล่าทหารจับกลุ่มละห้าคนและคอยเสริมกันและกัน นอกจากนี้ ด้วยเกราะหนังที่สวมอยู่ พวกเขาก็สามารถทะลวงการป้องกันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
โจรสลัดกลุ่มใหญ่ถูกสังหารทันที เลือดและเนื้อของพวกมันเปรอะอยู่บนพื้นกระดาน บางคนยังตระหนกจนกระโดดลงน้าเพื่อหลบหนี
เมื่อเรือลาที่สองตกอยู่ในมือของทหาร หัวหน้าและโจรสลัดลูกเรือก็รีบตะโกน “ท่าไม่ดีแล้ว! รีบไป… ถอยและไปรวมตัวกันที่หมู่บ้าน!”
ตัวหัวหน้านั้นมีรูปร่างล่าสัน เสียงดัง และทักษะยังไม่ด้อย มันเหวี่ยงดาบกรีดผ่านเกราะหนังของทหาร ทาให้ทหารผู้นั้นร้องออกมาเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสที่แขน
“พวกเจ้าสองคน สังหารเขาซะ!”
เมื่อเห็น ซูถิงก็สั่งองครักษ์ที่ด้านหลังของตนโดยไม่ลังเลสักนิด
“ขอรับ!”
องครักษ์ทั้งสองตอบก่อนจะพุ่งไปข้างหน้า ใบหน้ามีรอยยิ้มเหี้ยมโหดขณะเหวี่ยงดาบเข้าใส่ “ตายซะ!”
“เคล้ง!”
หัวหน้าโจรสลัดยกดาบขึ้นประมือ ดาบสองเล่มกระทบกันเกิดเป็นประกายไฟ
คลื่นพลังพุ่งสูงทาให้มันต้องถอยขณะที่แขนเริ่มชาหนึบ มันรู้สึกเหมือนดาบของตนเกือบจะลอยหลุดจากมือ และสีหน้าของมันก็เปลี่ยนทันที “นี่มัน… กลุ่มทหารระดับสูง!”
มันอ่านสถานการณ์ไม่ออก องครักษ์เหล่านี้ ที่สามารถรับมือกับสิบคนได้พร้อมกัน ควรจะมีตาแหน่งถึงแม่ทัพ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวอยู่แถบนี้เพื่อสู้กับโจรสลัดไม่กี่คน?
แต่ว่า มันก็คิดต่อไม่ได้แล้ว
องครักษ์ทั้งสองนั้นร่วมมือกันอย่างดี หนึ่งในนั้นสู้กับตัวหัวหน้าซึ่งหน้าขณะที่อีกหนึ่งนั้นค่อย ๆ มองหาโอกาสโจมตี ด้วยการโจมตีกะทันหัน แสงสะท้อนจากโลหะ องครักษ์อีกคนฝังดาบของตนเข้าที่เอวของตัวหัวหน้าทาให้เลือดสด ๆ พรั่งพรูออกมา
เขาหัวเราะเสียงเย็น ตัดหัวของตัวหัวหน้าออกมาด้วยดาบเดียว
“นี่คือการปฏิบัติงานของทหาร มีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะเล่นตามกฎของแก!”
ในสงคราม ทุกอย่างนั้นล้วนทาได้ตราบใดที่สามารถบรรลุจุดประสงค์ได้ ดังนั้น กับแค่เสียชื่อเสียงไปกับการลอบแทงข้างหลังเพียงเล็กน้อยเพื่อสังหารศัตรูจะนับเป็นอะไรได้?
มันคงเป็นเรื่องตลกแล้วหากจะมัวอ้างถึงกฎและเกียรติยศ!
“เกือบสาเร็จแล้ว!”
เมื่อเขาเห็นจิตวิญญาณการสู้มอดไหม้ลงไปแล้ว ซูถิงก็เผยรอยยิ้มและพยักหน้า
“ฟังให้ดี หัวหน้าของพวกเจ้าตายแล้ว! เหตุใดพวกเจ้าทั้งหมดจึงไม่ยอมแพ้เสียโดยดีเล่า?”
องครักษ์ผู้หนึ่งยกหัวของหัวหน้าโจรสลัดขึ้นมาและประกาศ “ถ้าพวกเจ้าทั้งหมดยังลงมือตอบโต้เหล่าทหารของราชสานัก พวกเจ้าทั้งตระกูลจะถูกสังหาร!”
“นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเรา พวกเรายอมแพ้แล้ว!”
เป็นธรรมดาในการจับกุมเหล่าโจรของทหาร เมื่อกาจัดตัวหัวหน้าได้ โจรสลัดที่เหลือย่อมไม่มีใจจะสู้ต่อ พวกมันทิ้งอาวุธและคุกเข่าลงอย่างยอมจานน
“ดี! เตรียมเรือ มัดพวกมันเอาไว้ นับจานวนอาวุธและผู้บาดเจ็บ…”
เมื่อเขามองไปที่มือธนูที่ตามสังหารโจรสลัดที่กระโดดหนีลงน้ากลับมาและยังโจรสลัดกลุ่มใหญ่ที่จับตัวได้ ซูถิงก็ออกคาสั่ง หัวใจเต็มไปด้วยความยินดี
ไม่นานหลังจากนั้น ผลลัพธ์ก็ออกมา
“นายท่าน ครั้งนี้ พวกเราสังหารไปทั้งหมด 37 คนและจับตัวได้ห้าสิบคน กาลังรบของเกาะเฮยกวนถูกกวาดล้าง…”
นายกองผู้หนึ่งรายงาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี
“นายท่าน ข้าระบุตาแหน่งหมู่บ้านได้แล้ว โจรสลัดที่หนีไปก่อนหน้าล้วนรวมตัวกันอยู่ในหมู่บ้าน ดูเหมือนจะพยายามปกป้องที่นั่นเอาไว้…”
นักบวชเต๋าก้าวเข้ามาและรายงาน
มันไม่มีวิธีการแก้ไขที่แท้จริง อย่างไร ก็ไม่มีกลุ่มกองกาลังใดสามารถทนอยู่ได้นานในหมู่บ้านเล็ก ๆ เบียดเสียด เมื่อมี่ผลประโยชน์แล้ว พวกมันก็จะถอนตัวไปเอง
“โอ้!”
ซูถิงไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง กลับกัน เขาลุกขึ้นยืนบนพื้นและมองไปที่ผิวทะเลสาบที่ยังเป็นสีแดง มีศพลอยอยู่พร้อมกับลูกศรปักอยู่บนร่าง เขาถาม “คนของเราได้รับบาดเจ็บหรือถูกสังหารไปเท่าไหร่?”
“ถูกสังหารสามคน อีกห้าคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังมีที่บาดเจ็บเล็กน้อยอีกจานวนหนึ่ง ไม่ส่งผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากทาแผลแล้วยังสามารถเข้ารับหน้าที่ได้ตามปกติ!”
ในฐานะบุตรชายของข้าราชสานักผู้หนึ่ง กองทหารจึงมีความสามารถสูงและยังมีหมอผู้มีประสบการณ์ที่คอยช่วยชีวิตในสนามรบ กองกาลังย่อมมีขวัญกาลังใจสูงเทียมฟ้า
“พวกมันรู้ตัวแล้ว พวกเราจะโจมตีเลยหรือไม่?”
ไม่ว่ากาแพงและคูน้าจะเตี้ยและตื้นเพียงใด แต่ฝ่ายบุกก็ยังต้องประสบความสูญเสียในการจู่โจมพื้นที่ป้องกัน
“เหตุใดต้องยุ่งยาก การต่อสู้ครั้งนี้มันจบลงแล้ว!”
ซูถิงสั่งมัดโจรสลัดและหัวเราะ
หลังจากเค้นถามง่าย ๆ ก็ได้รายงานหลายฉบับ พวกเขาพบว่าในหมู่บ้านเหลือคนราว ๆ หกหรือเจ็ดร้อย ส่วนมากแล้วเป็นคนแก่ ผู้หญิงและเด็กเล็ก หัวหน้าของพวกมัน ลู่เจีย ก็อยู่ที่นั่นด้วย
นอกจากนี้ หัวหน้าโจรสลัดที่ถูกตัดหัวไปนั้นเป็นรองหัวหน้าของเกาะเฮยกวน เขาย่อมกล้าหาญ แน่นอนว่า ยังเคยตัดหัวหลายคนเพื่อเป็นที่ระลึกความกล้าหาญของตนด้วย
หลังจากได้ฟังรายงาน ซูถิงก็สั่งทหารจัดกาลังใหม่และพักผ่อน เขาทิ้งคนราว ๆ ยี่สิบคนคอยระวังท่าเรือเอาไว้ขณะนาทหารและนักโทษที่เหลือไปที่หมู่บ้านนั่น
ในตอนนั้น ในหมู่บ้านนั้นกาลังวุ่นวาย ผู้หญิงหลายคนและคนแก่นั้นยืนอยู่บนกาแพงสีหน้าวิตกกังวล
อย่างไรเสีย กองทัพของซูถิงนั้นก็ตั้งแถวในแบบทัพทหารและแผ่รัศมีความถูกต้องเที่ยงธรรมออกมา
และพวกเขายังเอาชนะเหล่าโจรสลัดและสังหารพวกนั้นไปตั้งมาก
“ลู่เจียมีพรสวรรค์จริง ๆ!”
ซูถิงเดินไปที่ด้านหน้าและมองไปที่หมู่บ้าน กาแพงนั้นไม่สูงมาก แค่ราวสองจั้งและยังดูทรุดโทรม ตรงหน้าหมู่บ้านนั้นขุดคูเอาไว้ แม้ว่าจะเพิ่งขุดใหม่และยังไม่เสร็จดีนัก มันก็เพียงพอที่จะใช้งานตามจุดประสงค์
เช่นนี้ หากกองทัพบุกเข้าหมู่บ้าน พวกเขายังต้องมีการสูญเสียแน่นอน
“น่าเสียดาย… เขาพลาดโอกาสเสียแล้ว!”
หากเหล่าโจรสลัดเก่งกล้ายังอยู่ปกป้องหมู่บ้าน ทหารพื้น ๆ ของราชสานักเพียงร้อยคนย่อมไม่สามารถเข้ายึดหมู่บ้านนี่ได้
ถึงแม้ซูถิงจะสั่งให้องครักษ์ของตนเป็นหัวหอกในการโจมตี การสูญเสียก็คงยังมากมายนัก และเมื่อเหล่าทหารไม่พอใจ ก็คงจะต้องสังหารทิ้งทั้งหมู่บ้านเพื่อทาให้เหล่าทหารสงบลง ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาย่อมไม่สามารถเกณฑ์เหล่าโจรสลัดมาทางานให้ได้
แต่ว่า สมาชิกในครอบครัวของคนในหมู่บ้านอยู่ในมือเขา ดังนั้น เขาจึงมีไพ่ตายที่ทาให้ตนเองได้เปรียบ
“นายท่าน พวกเราจะลงมือหรือไม่?”
ผู้ช่วยของเขาก้าวออกมาและถามเมื่อเห็นกาลังรบที่เหลืออยู่ของโจรสลัดอาจหาญตรงมาที่กาแพง เหลือโจรสลัดอยู่เพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้น
องครักษ์ทั้งห้านั้นมีทักษะสูงส่งและยังสามารถสังหารหัวหน้านั่นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทาเช่นนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ก็จะจบลง
“เหตุใดต้องลาบากเอาคนของเราไปเสี่ยง?”
ซูถิงโบกมือ “นานักโทษออกมา! บอกให้หมู่บ้านยอมแพ้ซะ บอกพวกเขา… ถ้าไม่ยอมแพ้ ข้าจะใช้นักโทษเหล่านี้ถมคูน้าเสีย!”
“…”
ข้าราชสานักผู้นั้นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกมา เขารู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่เย็นเยียบก่อนจะเอ่ยชื่นชมซูถิง “ท่านฉลาดยิ่งนัก โจรสลัดเหล่านี้ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้!”
นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ พวกเขาจะลงมือต่อคนที่รักได้อย่างไร?
กระทั่งลู่เจียก็ยังไม่สามารถรับได้หากเกิดความผิดพลาดใดขึ้นแล้วทาให้คนในหมู่บ้านแค้นเคือง! บอกโดยสัตย์จริง โชคของเขาถูกจบลงแล้วเมื่อท่าเรือถูกโจมตีและทางหนีถูกตัด
เป็นชัยชนะที่คิดคานวณเอาไว้แล้ว!
ข้าราชสานักผู้นั้นยังไม่ได้ชรานัก แต่ยังเก่งกาจในเรื่องการรบ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ต่อซูถิง
ผู้ช่วยผู้นี้สงสัยอยู่เงียบ ๆ ขณะมีความคิดหนึ่งขึ้นมา
…
หลังจากออกคาสั่ง ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในหมู่บ้านมากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นคนสิบกว่าคนเดินออกมา เมื่อเห็นซูถิง พวกมันก็คุกเข่าลงทันที
“อืม ลุกขึ้น!”
ซูถิงมองหัวหน้าโจรสลัดแห่งเกาะเฮยกวน
เขาอายุราวสามสิบปี แต่ว่าดูกร้านแดดและผมยังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว
ซูถิงรู้ว่าคนตรงหน้านี้ไม่ยินยอมนัก แต่ลู่เจียจะยังทาอันใดได้? เขาไม่สามารถปล่อยให้ชาวบ้านต่อต้านและตราหน้าว่าเป็นคนทรยศได้ ดังนั้น จึงไม่มีสิ่งใดที่เขาทาได้นอกจากยอมจานน
แน่นอนว่า รักษาเนื้อรักษาตัวเอาไว้นั้นสาคัญที่สุด!
แต่ว่า ตามวิธีการที่ราชสานักจัดการกับเหล่าโจรสลัดเมื่อครั้งก่อน ๆ เชื่อได้ว่าจะมีเพียงหัวหน้าโจรสลัดที่จะถูกประหารขณะที่โจรสลัดอื่น ๆ นั้นจะถูกเนรเทศ
ลู่เจียขนลุกขณะลุกขึ้นยืนอย่างไม่ยินดีนักและมองไปที่ทหารดุร้ายรอบ ๆ
“เจ้าตั้งกลุ่มโจรสลัดและฝ่าฝืนกฎ เจ้ายังเข้าปล้นเมืองและบุกรุกคฤหาสน์ ความผิดของเจ้าไม่อาจอภัยได้…”
ซูถิงพูดต่อ น้าเสียงนุ่มนวลของเขากลับทาลู่เจียขาสั่นแล้วคุกเข่าลงอีกครั้ง “นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตข้า! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าเพียงแค่พยายามหาเลี้ยงปากท้องเท่านั้น… อาหารบนเกาะขาดแคลนและหลายคนก็หิวตาย…”
เขาพูดไปโขกศีรษะไป
ไม่นาน หน้าผากของลู่เจียก็แดงไปด้วยเลือด
ซูถิงยินดีที่เห็น “… อย่างไรก็ตาม ข้าเห็นใจเจ้า ดังนั้น ข้าจะย้ายประวัติของเจ้าเข้ามาอยู่ในกองทัพของข้าและช่วยข้ากาจัดโจรสลัดอื่น ๆ!”
ลู่เจียนั้นมีความสามารถมากและมีประโยชน์ต่อซูถิง แต่ว่า เขายังต้องผ่านการฝึกเพื่อแก้ไขนิสัยกักขฬะเสียก่อน
ส่วนเรื่องการใช้ประโยชน์จากลู่เจีย ซูถิงนั้นคิดเอาไว้แล้ว
“ขอบพระคุณนายท่าน! ขอบพระคุณ!”
ถึงแม้ว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง ลู่เจียก็ยังขอบคุณเขาซ้า ๆ
“อืม กัวกุ่ยซิง นาคนห้าสิบไปตรวจดูในหมู่บ้าน เอานักโทษเข้าไปด้วย…”
แม้ว่าซูถิงจะรู้ว่าไม่มีการต่อต้านใดนักแล้ว เขาก็ยังไม่ปล่อยให้ตัวเองวางใจนัก สั่งให้คนของตนเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมนักโทษ
เขายิ้มออกมาได้ก็หลังจากทุกบ้านถูกพาตัวออกมาและขึ้นบัญชี
เขาสั่งให้ทหารเริ่มปรุงอาหารหม้อใหญ่ ใส่สมุนไพร เนื้อ และสิ่งต่าง ๆ พวกเขายังเพิ่มปลาเค็ม ทาเป็นข้าวต้มรวมแล้วแจกจ่ายออกไป จากนั้นทหารก็เริ่มกินบ้างและพักผ่อน
ความวุ่นวายภายในหมู่บ้านเริ่มสงบลงเมื่อได้รับส่วนแบ่งอาหารด้วยเช่นกัน
ขณะที่คนอื่น ๆ กาลังพัก ซูถิงกลับวุ่นวายจนไม่มีกระทั่งเวลาดื่มน้า เขาฟังรายงานจานวนคนจากกัวกุ่ยซิง “พวกเราจับคนได้ประมาณเจ็ดร้อยห้าสิบ ดาบและหอ และอาวุธอื่น ๆ เจ็ดสิบ ชุดเกราะหนักสามชุด เงินและทองห้าร้อยตารึง และเหรียญทองแดงอีกหลายหีบ… แต่ว่า มีเสบียงน้อยมาก ยาและเสื้อผ้าก็ขาดแคลนเช่นกัน!”
“อืม โจรสลัดทั้งหมดที่อายุเกินสิบห้าสามารถเข้าเกณฑ์ทหารได้และให้จับตาดูใกล้ชิด ชาวบ้านที่เหลือให้แบ่งออกไปเป็นกลุ่มละห้าบ้านเพื่อจับตาดูกันและกัน ลงโทษทุกคนที่พยายามหนี!”
ซูถิงเดินไปอีกสองสามก้าวก่อนพูด “หลังจากพวกเจ้ากินเสร็จแล้ว ก็ลงเรือ แล้วเผาบ้านเรือนทั้งหมดทิ้งเสีย!”
“ส่วนเหล่าทหาร ให้ตกรางวัลทันที ผู้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ได้หนึ่งตาลึงเงิน ผู้ที่สังหารหัวหน้าโจรสลัดได้สิบตาลึงเงิน รางวัลสาหรับหัวหน้าใหญ่ให้แบ่งกัน… ข้าไม่ลืมว่ายังมีเจ้าหน้าที่ที่สั่งการทัพด้วยเช่นกัน”
“นายท่าน ช่างชาญฉลาดนัก!”
กัวกุ่ยซิงและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ยินดียิ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้
ซูถิงกลับเพียงหัวเราะขื่น ๆ ให้ตัวเอง
บอกตามตรง หากยังต้องใช้ทรัพยากรมากถึงเพียงนี้ในการให้ทหารเข้าโจมตีเกาะเล็ก ๆ ก็นับเป็นการสูญเสียมากกว่าได้แล้ว
‘พวกมันไม่รู้ว่ารางวัลที่แท้จริงคือนักโทษเหล่านี้ต่างหาก!”
ซูถิงมองไปที่นักโทษนับร้อย ใบหน้าเผยรอยยิ้มกว้าง
TL note: เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ลงจนหมดสต๊อกแล้ว ดังนั้นช่วงวันหยุดยาวนี้เรื่องนี้อาจจะลงได้ไม่สม่าเสมอเท่าเดิมต้องขออภัยล่วงหน้าแก่ผู้อ่านทุกท่านด้วย //โค้ง