“ข้ามีอะไรที่ดึงดูดเจ้างั้นรึ?”
สีหน้าของฟางหยวนเปลี่ยนไปขณะเขาเรียกหา “ค่ายกลดาบสามสามารถ ตั้ง!”
“ชี่! ชี่!”
น้า ไฟ และสายฟ้ารวมกันเป็นค่ายกลดาบอยู่ภายในค่ายกลสี่สุดยอดปิศาจ
ปราณดาบนั้นทิ่มแทงเข้าใส่และสะกดข่มวิญญาณชั่วร้าย สัตว์ร้ายสีดาที่ล้อมอยู่ข้างในนั้นป่นเป็นผง
“ใช้ค่ายกลรับค่ายกล?”
อี้เซี่ยรู้สึกขาและแค่นเสียงออกมา “ค่ายกลครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่นนั้นเจ้ายังกล้าใช้ออกมา?”
“ฮี่ฮี่ฮี่!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
บนร่างของอี้เซี่ย พลังสีดาเก้าสายปรากฏขึ้นและเปลี่ยนไปเป็นวิญญาณร้ายของเด็กทารกพร้อมกับเสียงหัวเราะหลอกหลอนไม่หยุด วิญญาณทั้งเก้าผุดดาเข้าไปในหมอกสีดา
ทันใดนั้น ค่ายกลอันทรงพลังอีกหนึ่งก็ถูกร่าย มันคือค่ายกลมารดาเก้าภูติปิศาจ!
ถึงแม้อี้เซี่ยจะดูถูกฟางหยวน เขาก็ยังระแวงฟางหยวนอยู่มากและใช้กระบวนท่าสังหารออกมาทันที!
“ระวัง…” เยี่ยชูฮวาเตือน
ภายในฝูงผีเสื้อหลากสี น้าเสียงเด็ดเดี่ยวของเยี่ยชูฮวาดังมา “ค่ายกลนี้ชั่วร้ายและทรงพลัง มันสร้างขึ้นจากเก้าวิญญาณที่แปดเปื้อน! มันสามารถกัดกร่อนและทาลายของวิเศษได้!”
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!”
อี้เซี่ยหัวเราะเบิกบาน เส้นพลังสีเขียวดาปรากฏขึ้นและกัดกร่อนปราณดาบ มันยังกระจายไปยังตัวดาบด้วย
“ดาบตัดสายฟ้า!”
ฟางหยวนใช้เจตจานงเวทย์ของตนและดาบตัดสายฟ้าก็เป็นประกายไปด้วยสายฟ้าแลบปลาบ พลังสีเขียวดาถูกดาบตัดสายฟ้าทาให้บริสุทธิ์ แต่ว่า ดาบธาตุน้าและธาตุไฟนั้นไม่สามารถทนรับพลังสีเขียวดาได้
“ครั้งสุดท้าย ตอนที่ค่ายกลดาบสามสามารถทลายลงนั้น ตัวดาบเวทย์ก็ได้รับความเสียหายงั้นรึ? เช่นนั้น หากข้าระเบิดปราณดาบออกไป ความสกปรกเหล่านี้ก็จะสลายไปทันที…”
ฟางหยวนรู้ว่าดาบนั้นมีพลังแต่ก่อนหน้านี้มันต้านรับจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาถึงสิบคนและยังรับการโจมตีจากกรงเล็บมังกรมา ฟางหยวนรู้สึกได้ว่าพลังของดาบนั้นไม่ได้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดของมันแล้ว
ที่ชัดเจนที่สุดก็คือการที่พลังธาตุฝันในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขานั้นกาลังลดลงด้วยอัตราเร็วอันน่าตระหนก ตอนนี้ปริมาณพลังธาตุฝันนั้นตกมาอยู่ในระดับน่าเป็นห่วงมากแล้ว
“ไม่ว่าจะเป็นจ้าวแห่งฝันทั่วไป จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายา หรือจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์สูงสุด การฝึกตนหลักแล้วก็คือการขัดเกลาพลังเวทย์ผ่านการใช้พลังธาตุฝันจากอาณาจักรแห่งฝันเพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ… ในตอนนี้ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพลังธาตุฝันของข้าจะกลายเป็นขาดแคลนแล้ว!” ฟางหยวนคิด
แต่ในเมื่อเขาสู้กับผู้มีความสามารถเก่งกาจเท่า ๆ กันมาตั้งหลายคน ก็เป็นธรรมดาที่จะเกิดเช่นนี้ขึ้น
“หากข้าระเบิดดาบทั้งสามตอนนี้ ข้าสามารถทาลายค่ายกลเก้าภูติปิศาจและหนีไปด้วยพลังจากดาบลมสงบได้… ในขณะที่พี่น้องตระกูลเยี่ย พวกนางต้องพึ่งพาตนเองแล้ว! ฟางหยวนสรุปเรื่องการหนีหลังจากตรองอยู่ครู่หนึ่ง
“เมื่อข้าฟื้นตัวแล้ว อี้เซี่ยย่อมไม่ใช่คู่มือของข้า!”
เขาโบกมือขวาแล้วปราณดาบธาตุลมสีเขียวก็ปรากฏขึ้น มันรวดเร็วและยังนุ่มนวล
“ดาบสามสามารถ ระเบิด!”
หากพวกมันเป็นเพียงทหารเวทย์ทั่วไป ฟางหยวนย่อมต้องระมัดระวังและกังวลพวกมันมากกว่านี้
แต่ว่า สาหรับผู้ป้องฝันแล้ว เมื่อทหารเวทย์ก่อร่างสาเร็จแล้ว ต่อให้พวกมันเสียหาย ก็ยังสามารถฟื้นฟูได้อย่างง่ายดายด้วยพลังธาตุฝัน ดังนั้น ฟางหยวนย่อมไม่ตระหนี่และใช้กระบวนท่านี้ออกไปอย่างยินยอมพร้อมใจ
“ตูม!”
“ตูม!”
“ตูม!”
ดาบทั้งสามเล่มระเบิดออก แสงสีแดงและน้าเงินอันน่าตระหนกก็ผสานเข้ากับสายฟ้าที่เต้นเร่าอยู่ พวกมันกระจายตัวออก
“อ๊าก… ข้าจะสู้ตาย มารดาเก้าภูติปิศาจ ปรากฏตัว!”
ผมของอี้เซี่ยยุ่งเหยิง เขากัดลิ้นตัวเองแล้วพ่นเลือดสดออกมาคาใหญ่
ในค่ายกล ปิศาจทารกสีเขียวทั้งเก้าปรากฏตัวขึ้นและรวมตัวเข้าเป็นหนึ่ง ก่อร่างอันน่ากลัวและเข้าไปล้อมฟางหยวนเอาไว้
“ฮี่ฮี่!”
เมื่อมารดาภูติปิศาจปรากฏตัวขึ้น พลังทาลายและอาฆาตแค้นก็สัมผัสได้ ปราณดาบอันน่าประหลาดพุ่งขึ้นฟ้า
เปลวไฟ น้าแข็ง สายฟ้า…
คลื่นพลังแผ่ออกไปรอบ ๆ และยังพลิกหน้าดินขึ้นมาชั้นหนึ่งด้วย
เมฆก่อตัวเป็นรูปดอกเห็ดและเมื่อฝุ่นสลายไป ก็ปรากฏหลุมใหญ่อยู่ตรงจุดที่ทั้งหมดยืนอยู่ในตอนแรก
ถึงแม้ว่าผีเสื้อของพี่น้องตระกูลเยี่ยจะมีพลังและยังไม่ใช่ศูนย์กลางของการระเบิด พวกนางก็ยังคงปลิวไปไกล เกราะผีเสื้อของพวกนางทลายลงและทั้งคู่ก็หมดสติไป
“ตายหรือ? ไม่เหมือนนะ!”
ฟางหยวนเหยียดริมฝีปาก เดินตรงไปสองก้าวและมองไปที่ก้นหลุม
“ปัง!”
หน้าดินระเบิดออกและอี้เซี่ยก็พุ่งขึ้นมา ที่มุมปากของเขามีเลือดไหล เสื้อของเขาขาดวิ่น เขาดูยับเยินอย่างที่สุด
“ไม่ดีแล้ว…”
ฟางหยวนตึงเครียดเมื่อเห็นอี้เซี่ย
ถึงแม้ว่าอี้เซี่ยจะดูเหมือนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ฟางหยวนใช้กระบวนท่าทั้งหมดออกไปแล้ว
“ต้องหนีแล้ว!” ฟางหยวนคิดขณะสายลมสีเขียวปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ และนาเขาจากไป
“อย่าได้คิดจะหนี!”
ดวงตาของอี้เซี่ยแดงก่า เขาเปลี่ยนไปเป็นลาแสงสายหนึ่งและพุ่งตรงไป เพียงแค่โบกมือ เชือกสีดาก็ปรากฏขึ้น อี้เซี่ยไม่ออมมือแล้ว เขาตัดสินใจแล้วว่าฟางหยวนต้องตาย
“หากพวกเรายังสู้กัน ถึงแม้พลังธาตุฝันของข้าจะเกือบหมดแล้ว เคล็ดวิชาอินทรียักษ์กายาเหล็กของข้าก็ยังไม่ได้ใช้ออกเลย…”
ฟางหยวนหรี่ตาและออกปากท้าทาย “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าได้ตาย!”
ถึงแม้ว่าเขาจะถูกบีบให้เข้าสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาก็ยังคงสามารถบรรลุสู่สวรรค์มายาขั้นที่สี่ได้ในระหว่างการต่อสู้ด้วยการใช้พลังฟ้าที่เขาสะสมเอาไว้ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของตน!
นี่เป็นไพ่ใบสุดท้ายของเขาแล้ว มิใช่ว่าจะใช้ออกได้โดยง่าย
แต่ในเมื่ออี้เซี่ยนั้นรนหาที่ตาย ฟางหยวนก็ตัดสินใจจะสังหารเขาเสีย
“มอบออกมา!”
อี้เซี่ยคาราม “ข้าสัมผัสได้… ว่ามีบางอย่างที่ข้าต้องการอยู่ในตัวเจ้า! ตอนนี้มันยังชัดเจนขึ้นมาอีกด้วย! เมื่อข้าได้มันมา ข้าก็จะก้าวเข้าสู่ระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่ได้อย่างแน่นอน!”
“ก้าวเข้าสู่ระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่… หรือว่าจะเป็น…”
ฟางหยวนรู้สึกไม่ดีนักและมองไปที่ร่างตนเอง
เขาเพิ่งรู้สึกได้ว่ามีประกายสีแดงดาอยู่บนร่างชั้นหนึ่ง
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขา ขณะที่พลังธาตุฝันเกือบจะหมดไปแล้วนั้น พลังชั่วร้ายหลายสายก็ปรากฏขึ้นและยิ่งแข็งแกร่งขึ้น พวกมันเป็นพลังคล้ายพลังธาตุฝัน
“พลังชั่วร้ายจากโลกมายาของเทือกเขาสามโลก!”
สีหน้าของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นย่าแย่ทันที “หลังจากข้าใช้พลังธาตุฝันของข้าจนหมดและสูญเสียพลังของดาบเวทย์ของข้าไป มันก็เกิดขึ้น?”
“ผัวะ!”
ฟางหยวนไม่คิดนาน กรงเล็บอินทรีของเขาคว้าเชือกสีดาเอาไว้และฝ่ามือของเขาก็ร้อนแทบลวก มันเหมือนกับถูกไฟเผาฝ่ามือ
“ส่งของนั่นมาเดี๋ยวนี้!”
อี้เซี่ยร้องอย่างบ้าคลั่งขณะสะบัดเชือกสีดา
พลังชั่วร้ายอันตะกรามก็ไปถึงฝ่ามือของเขาและกัดกร่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
“อาวุธชั่วร้ายอะไรเช่นนี้!”
ในตอนนี้ กระทั่งพลังธาตุจากวิทยายุทธ์ของฟางหยวนก็ไม่สามารถปกป้องฝ่ามือของฟางหยวนเอาไว้ได้ ภายใต้พลังกัดกร่อนของเชือกสีดา ฝ่ามือทั้งคู่ของเขาก็เริ่มเปื่อยยุ่ยและมีเลือดซึมออกมา
“ฮี่ฮี่… เชือกกร่อนวิญญาณนั้นได้รับพลังจากพลังธาตุฝันของข้า เมื่อมันจับเหยื่อได้แล้ว เหยื่อย่อมไม่อยู่รอดไปได้!”
อี้เซี่ยหัวเราะชั่วร้าย “หากเจ้าไม่อยากเหลือแค่น้าเลือดหย่อมเดียว ก็รีบส่งของที่ข้าต้องการนั่นมา!”
“เจ้าอยากได้? ได้ ข้าจะยกให้เจ้า!”
ความเหี้ยมโหดพลุ่งขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของฟางหยวนทาให้เขาล้มเลิกความพยายามที่จะหนี เขากดความคิดที่จะบรรลุด่านลงไปและประกายสีแดงเลือดบนร่างของเขาก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พลังชั่วร้ายนี้เป็นเหมือนภาระของข้า แต่ในเมื่อเจ้าต้องการมันนัก เช่นนั้นข้าก็มอบให้เจ้าแล้ว!” ฟางหยวนหัวเราะดังลั่น น้าเสียงเปลี่ยนเป็นชั่วร้าย
ทันใดนั้น ประกายสีเลือดก็พุ่งออกจากฝ่ามือของฟางหยวนและพลังธาตุฝันของอี้เซี่ยก็แตกสลายไปในทันที ประกายสีแดงเลือดไต่ไปตามเชือกสีดาจนถึงฝ่ามือของอี้เซี่ย
“นี่คือ… พลังชั่วร้ายล้าเลิศ! เจ้ามีธาตุฝันชั่วร้ายล้าเลิศอยู่ในตัว?! อ๊าก…”
อี้เซี่ยกรีดร้องด้วยน้าเสียงโหยหวนขณะที่ฝ่ามือทั้งคู่นั้นเหี่ยวแห้งไปในทันที มันเหมือนเลือดและเนื้อของเขาหายไปในพริบตา
“ปล่อย… ปล่อยเดี๋ยวนี้!” อี้เซี่ยกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก
ขณะที่ฟางหยวนสัมผัสได้ชัดเจนถึงความยินดีของพลังชั่วร้ายนี่ มันเหมือนกับว่าในที่สุดมันก็พบเหยื่ออันโอชะและกลืนกินทุกอย่างของศัตรูลงไปอย่างตะกละตะกราม
“ไว้ชีวิตข้า… ไว้ชีวิตข้าเถอะ…”
ดวงตาของอี้เซี่ยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่สามารถปล่อยมือทั้งสองออกได้แต่กลับกลายไปเป็นเครื่องสังเวยของเชือกกร่อนวิญญาณ แขนของเขา หัวไหล่ หน้าอก และส่วนอื่น ๆ ค่อย ๆ แห้งเหี่ยวลงช้า ๆ
เมื่อกล้ามเนื้อที่แก้มของเขาหายไป เขาก็กลายไปเป็นโครงกระดูกสีแดงเลือด
“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!”
เปลวไฟสีแดงสดกลืนกินศพของเขา ทันใดนั้น ร่างของจ้าวแห่งฝันทั้งร่างก็หายไป กระทั่งถ้าเองก็ไม่สามารถฉวยเอาไว้ได้ทันเวลา
“พลังชั่วร้ายล้าเลิศ? ธาตุฝันชั่วร้ายล้าเลิศแข็งแกร่งขึ้น?”
ก่อนที่อี้เซี่ยจะตายตกไป ฟางหยวนอยากจะหยุดมือ แต่ว่า พลังชั่วร้ายนั้นแข็งแกร่งมากและยังยึดติดแน่นจนไม่สามารถปลดออกได้
ในตอนนี้ เมื่อเปลวไฟดับไป ฟางหยวนก็รู้สึกว่าพลังชั่วร้ายแข็งแกร่งกว่าเดิมและกลับเข้าสู่ร่างของเขา นอกจากนี้ มันยังรู้สึกเต็มอิ่มอย่างยิ่ง พลังชั่วร้ายเข้าสู่โลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขาแล้วก็สงบลง พลังธาตุฝันที่ไหลหนืดหลายสายปรากฏขึ้นและสายพลังสีดาแดงก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีก
“น่ากลัวนัก!”
ถึงแม้ว่ามันจะเอาชนะศัตรูทรงพลังของเขาและยังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาด้วยฟางหยวนก็ไม่ได้รู้สึกยินดีกับมันเลยสักนิด
“พลังธาตุนี่ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของพลังธาตุฝัน พลังปิศาจล้าเลิศ? แย่หน่อยที่อี้เซี่ยตายตกไปแล้ว ไม่อย่างนั้นข้าก็สามารถถามเอาจากเขาได้…”
เขารู้สึกว่าพลังนี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทาของเขาและมันมีความคิดเป็นของตนเอง
แน่นอนว่า ฟางหยวนย่อมไม่ยอมให้พลังที่ควบคุมไม่ได้เช่นนั้นปรากฏอยู่ในโลกแห่งความฝันของเขา โดยเฉพาะพลังที่ได้มาจากคนที่ตายไปแล้ว!
“เมื่อข้าออกไปได้ อันตรายซ่อนเร้นนี่ต้องถูกจัดการในทันที!”
เขามองไปที่บริเวณที่สู้กัน อี้เซี่ยนั้นไม่อยู่แล้ว เลือดเนื้อและพลังธาตุของเขาล้วนถูกกลืนกินไปหมดสิ้นและยังไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้าสักชิ้นไว้เบื้องหลัง สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเชือกสีดา
ที่ด้านข้างบริเวณต่อสู้ พี่น้องตระกูลเยี่ยยังคงไม่ได้สติ คนพี่นั้นกาหยกชิ้นหนึ่งเอาไว้แน่น หยกนั่นเปล่งประกายใสเป็นเกราะบางปกป้องสองพี่น้องเอาไว้
“หมดสติจนถึงตอนนี้? ก็ถือว่าเป็นโชคดีในรูปแบบหนึ่ง!”
เมื่อไปดูใกล้ ๆ ฟางหยวนถึงได้พบว่าทั้งคู่นั้นหมดสติจริง ๆ เขาถอนหายใจขณะที่ความคิดที่จะสังหารทั้งคู่นั้นจางหายไป
สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นั้นประหลาดเกินไป หากแม่นางทั้งสองเห็น เขาย่อมต้องสังหารทั้งคู่ทิ้งเสีย แต่ว่า ในเมื่อพวกนางหมดสติอยู่ เขาก็ไม่จาเป็นต้องทา
“อืม… ทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่ทะเลแห่งจิตสานึกของพวกนางถูกรบกวนตอนที่ข้าระเบิดพลังของทหารเวทย์ออกมาตอนนั้น หากพวกนางอยู่ด้านนอกนั่น ข้าคงเพียงแค่ต้องปล่อยให้พวกนางหลับและฟื้นฟูตนเอง แต่ที่ด้านในนี่…”
ฟางหยวนดึงหยกออกมาและสร้างดอกไม้สองดอกจากน้าสะอาด เขาพรมน้าใส่สองพี่น้องขณะที่พลังธาตุฝันสองสายถูกส่งให้พวกนาง
แม่นางทั้งสองนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงเท่านี้ย่อมเพียงพอ
“อ้ะ!”
เยี่ยชูฮวาร้องออกมาแล้วลืมตาขึ้น นางลูบหัวตัวเองแล้วพูด “ข้าเจ็บหัว… อี้เซี่ยไปไหนแล้ว?”
“พี่!”
เยี่ยชูหมินกอดตัวเองเอาไว้แล้วพูด “ทาไมข้าถึงตัวเปียกได้? หนาวมากเลย!”
“เจ้า…”
เยี่ยชูฮวากลอกตาไปทางฟางหยวน นางพบว่าพวกนางล้วนถูกฟางหยวนเห็นเข้าแล้ว นางรีบเอาตัวเข้าไปบังน้องสาวเอาไว้แล้วร้องออกมา “ห้ามมองนะ!”