Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 327

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 327

เยี่ยชูฮวาไม่ได้พูดอะไรตอนแรก ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่ทันได้สังเกต
แต่ว่า หลังจากมองให้ดี ๆ เขาก็อดพยักหน้ากับตัวเองไม่ได้ “ไม่เลว ไม่เลวเลย พวกนางล้วนมีขนาดเหมาะสม โดยเฉพาะพี่สาว… ข้าไม่เคยคิดเลยนะเนี่ย…”
“เจ้า…”
คราวนี้ เยี่ยชูฮวาโกรธจนไม่สนใจจะปิดบังความสามารถของตัวเองแล้ว นางเริ่มโคจรพลังเพื่อทาให้เสื้อผ้าแห้ง เมื่อนางมองไปรอบ ๆ ตัวที่อยู่ในสภาพยับเยิน นางก็ตกใจ “ท่านไล่อี้เซี่ยไปได้แล้ว?”
“ไม่ได้ไล่ ฆ่า!”
ฟางหยวนแบมือออกให้เห็นเชือกสีดา
“ข้าไม่เคยคิด… ข้าไม่คิดจริง ๆ…”
ดวงตาของเยี่ยชูฮวาเต็มไปด้วยความตกใจ “อี้เซี่ยผู้นี้มีชื่อเสียงทีเดียวในหมู่ผู้ที่อยู่ในระดับสวรรค์มายาขั้นที่สาม เขาสามารถสร้างค่ายกลได้เพียงแค่คิดและยังมีความช่วยเหลือจากมารดาเก้าภูติปิศาจ ที่ผ่านมา เขาเคยสู้กับผู้ที่อยู่ในระดับสวรรค์มายาขั้นที่และยังหนีมาได้สาเร็จ ใครจะรู้ว่าเขาจะมาตายในมือท่าน!”
“ข้าแค่โชคดีน่ะ!”
ฟางหยวนโบกมือ “พวกเราจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้เมื่อพวกเจ้าฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว จะมีความวุ่นวายใหญ่หลวงเกิดขึ้นที่นี่ มันจะอันตรายเกินไป!”
“อื้ม!”
ถึงแม้ว่าเยี่ยชูฮวาจะรู้ว่าพวกเขาได้จานวนเครื่องสังเวยเลือดครบแล้ว นางก็ยังจาได้ถึงการหลอกลวงที่นางเคยพ[เจอ ดังนั้น นางจึงไม่เชื่อในเหล่าจ้าวแห่งฝัน อาจจะเชื่อได้น้อยกว่าพวกเผ่าเจี่ยวอี้ด้วยซ้า!
“คราวนี้ข้าเก็บเกี่ยวได้มากทีเดียว ดังนั้นก็ถือได้ว่าดีพอแล้ว หลังจากนี้ ข้าจะหาถ้าสักหลังซ่อนตัวและรอให้พวกผู้มีพลังทั้งหลายเข้าจัดการถ้านี่!”
“เพ้ย!”
ทันทีที่ฟางหยวนพูดจบ เยี่ยชูฮวาก็ยั้งตัวเองไม่ได้พูดไม่ได้ “หาถ้าสักหลัง…ซ่อนตัว?”
“ต่อหน้าเหล่าผู้มีพลัง พวกเราก็แค่มด เพื่อให้มีชีวิตรอด ถ้าไม่หลบอยู่ในถ้าจะให้ทาอย่างไร? ข้ายังเกรงว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจะยังไม่สามารถหาถ้าซ่อนตัวได้มากว่า!”
เมื่อเขาพูดจบ ฟางหยวนก็จากไปพร้อมกับสีหน้าไม่พึงใจนัก
อีกด้านหนึ่ง ขนบนแขนของเยี่ยชูฮวาก็ลุกชัน นางมองขึ้นไปบนฟ้า
ท้องฟ้าปกคลุมด้วยสีแดงเลือดไปเกือบหมดแล้วขณะที่รอยแตกสีดาเล็ก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นและกระจายไปทั่ว
“นี่… นี่ไม่ใช่การเข้าครอบครองถ้ามิตินี่ มันคือการฉีกกระชากที่นี่ทิ้งแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ริมฝีปากของนางอ้าออกสีหน้าไม่อยากเชื่อ “เหตุจึงเป็นเช่นนี้ได้?”
“ข้าเกรงว่านี่คงช่วยไม่ได้แล้ว!”
ฟางหยวนนึกถึงว่าเทือกเขาเทียนมู่ที่อยู่ไม่ไกลและความจริงจังก็แวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเขา

โลกต้าเฉียน เทือกเขาเทียนมู่
ยอดเขาลูกใหญ่เดิมนั้นตอนนี้ถูกผ่ากลางออกแล้วราวกับถูกบางอย่างบดขยี้จนแทบจะพังทลายลงมา
บนฟ้า รอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นและขยายออกไป สะท้อนถึงสถานการณ์ในถ้า
“ท้องฟ้าเริ่มแตกร้าว ท้องฟ้าเริ่มแตกร้าวแล้ว!”
ที่เมืองใหญ่ใกล้ ๆ ผู้คนรีบกล่าวลากันและแยกย้าย และเมื่อมองไปบนฟ้า บางคนถึงกับคุกเข่าลงสวดภาวนาขณะที่อีกหลายคนรีบเดินทางไปยังเมืองอวี้ ใบหน้ามีความหวาดกลัวฉายชัด
ในกลุ่มนั้นยังมีเหล่าผู้ฝึกตนด้วย
ทุกคนรู้ว่าผู้ฝึกตนนั้นมีความรอบรู้มากว่า แต่ถึงตอนนี้ พวกเขากระทั่งยังหวาดกลัวกว่า
ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้มีพลังระดับสูงบางคนยังไม่เห็นด้วยกับคนอื่น ๆ ไม่ต้องมองไปไกลถึงตัวอย่างอันน่ากลัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นกับลัทธิบัวสวรรค์ อย่างนั้นแล้วใครจะกล้าเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยง?
ดังนั้น พวกเขาจึงนาคนทั้งตระกูล ไม่ว่าชราหรือเยาว์วัย มุ่งหน้าสู่เมืองอวี้

ลาแสงสามเส้นปรากฏขึ้นเหนือเมฆ และพวกเขาก็มองไปทางเงาร่างใหญ่โตจนน่ากลัว สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดเกรง “มังกรซ่อน? เจ้าตั้งใจจะเริ่มสงครามกับพวกเรา?”
เจ้าแม่เทียนมู่ถาม สีหน้าไม่น่าดูนัก
“เจ้าไม่สามารถเป็นตัวแทนของห้าสานักยิ่งใหญ่ได้หรอก!”
จ้าวมังกรซ่อนนั้นเพียงปรากฏตัวเป็นเงาแต่กลับปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า ปิดบังดวงอาทิตย์ และยังมีรัศมีอันกดข่ม เสียงของมันยังแฝงแววดึงดูดอย่างไม่ปกติ “สาหรับผู้ที่มีระดับการฝึกตนเช่นข้า จะโกหกเจ้าไปเพื่ออันใด? พวกเจ้าห้าสานักยิ่งใหญ่ก็แค่ละโมบในของคนอื่นรวมพลังกันก็เพื่อมิติถ้านี่ และจ้าวแห่งฝันสวรรค์สูงสุดก็ทาเพียงแค่นั่งรออยู่เบื้องหลังไม่กระทั่งจะมาที่แนวหน้า!”
“จริงเสียด้วย… หลังจากที่เจ้าหนีไปสวามิภักดิ์กับราชสานัก เจ้าก็กลายเป็นไร้ยางอายยิ่งกว่าแต่ก่อน!”
ผู้อาวุโสนักหลอมและเหล่าเซว่มองหน้ากันอย่างพูดไม่ออก
จ้าวมังกรซ่อน หัวหน้าองครักษ์มังกรซ่อนนั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับสวรรค์สูงสุดตัวจริง! สาหรับผู้อื่นแล้ว เขาอาจจะได้รับการเรียกขานเป็นผู้สร้าง! จอมปราชญ์!
แต่ว่า เพื่อถ้านี่แล้ว เขาเพียงแค่ส่งร่างจาลองเวทย์มาเท่านั้น
หากรู้เช่นนี้ก่อนหน้านี้ พวกเขาย่อมขอให้ผู้ฝึกตนระดับสูงของพวกตนมาช่วยรับมือแล้ว!
แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว!
‘ถึงแม้ว่าข้าจะมีความสามารถในการข้ามโลก แต่ตอนลงมือนั้นข้าก็ไม่สามารถถูกรบกวนได้… ตอนนี้จ้าวมังกรซ่อนมาที่นี่ด้วยตนเอง การปล่อยปล่อยพลังจากระยะไกลย่อมเป็นไปไม่ได้!’
ความคิดของผู้อาวุโสนักหลอมหมุนเร็วจี๋ “ก็แค่ถ้าแห่งเดียว เหตุใดจึงดูเหมือนว่าราชสานักทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา?!”
การสร้างจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์สูงสุดสักคนหนึ่งนั้นต้องการทั้งความเหมาะสม ความมุ่งมั่น และยังต้องมีโชค เพียงแค่สร้างจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดได้จากมรดกฉบับสมบูรณ์ของปราชญ์ฉางหลีก็นับว่าดีมากแล้ว ต่อให้มีถ้านี่แต่ไม่มีมรดกนั่นก็เท่านั้น
ถึงตอนนี้ เจ้าแม่เทียนมู่และคนอื่น ๆ ล้วนมองหน้ากันและได้ข้อสรุปเหมือนกัน “ไม่ว่าอย่างไร ราชสานักก็ต้องไม่ได้ครอบครองถ้ามิตินี่! ต่อให้ต้องทาลายมันทิ้งก็ตาม!”
“ข้าเกรงว่าจะมีความลับที่พวกเรายังไม่รู้อยู่ในถ้าฉางหลี!”
ผู้อาวุโสนักหลอมคาราม “โจมตีพร้อมกัน ศัตรูของพวกเราเป็นแค่ร่างจาลองเวทย์ ข้าไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่ด้วยตนเองหรอก!”
“พวกเจ้า… ต้องการสู้กับข้าจริง ๆ น่ะหรือ? เจ้าไม่กลัวว่าจะต้องตายตกลงที่นี่หรือ?”
จ้าวมังกรซ่อนแสยะยิ้ม “อย่าลืมนะว่า พวกเราอยู่ใกล้กับเมืองอวี้มาก! ต่อให้เจ้าขอให้พรรคพวกมาช่วยตอนนี้ ฝ่ายใดจะมาถึงเร็วกว่ากันนะ?”
นี่เป็นข้อได้เปรียบในด้านพื้นที่
เจ้าแม่เทียนมู่และคนอื่น ๆ ต่างอึ้งไป พวกเขาต่างรังเกียจนักที่ถ้าฉางหลีกลับมาปรากฏอยู่ ณ ตาแหน่งนี้
“สหายมังกรซ่อน… เหตุใดท่านจึงจะมาจัดการเรื่องการต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเหล่าผู้น้อยด้วยตนเองเล่า? นั่นจะไม่น่าละอายไปสักหน่อยหรือ?”
ถึงตอนนี้ น้าเสียงสดใสเสียงหนึ่งก็ดังมาจากบนฟ้า เมฆสีรุ้งปรากฏเหนือศีรษะพวกเขาพร้อมกับเงารถม้าสีเขียวของราชสานัก
มังกรและเฟิ่งหวงเริงระบา ข้ารับใช้ทั้งหญิงชายเรียงตัวเป็นแถวทั้งตีกลองและเป่าปี่ พลังสีม่วงพุ่งตรงขึ้นฟ้าไปนับพันจั้ง
“ร่างจาลองเวทย์ของปราชญ์อีกท่าน!”
ผู้อาวุโสนักหลอมและเหล่าเซว่จ้องไปที่ผู้ซึ่งเพิ่งมาถึง สายตาสงสัย
“เป็นจ้าวอินนั่นเอง!”
จ้าวมังกรซ่อนหัวเราะ “ราชสานักของข้าอาจจะมีเขตปกครองกว้างใหญ่และยังมีการค้าขายใหญ่โต แต่ก็มีการใช้จ่ายก็สูงมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถทาสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างเจ้าได้และยังต้องจับจ่ายอย่างรอบคอบด้วยเล็กน้อย… เจ้าต้องการแย่งชิงผลประโยชน์น้อยนิดเพียงนี้กับข้างั้นหรือ?”
“เดิมที… ข้าก็ว่าจะปล่อยถ้านี่ไป ไว้หน้าเจ้าเสียหน่อย แต่ว่า คนฉลาดกลับดูโง่งม ดูผิวเผิน เจ้าดูจะตัดพ้อตนเอง แต่อันที่จริง เจ้ากาลังดูหมิ่นผู้อื่น ดังนั้นข้าจึงจะมาสู้กับเจ้าเพราะเรื่องนี้!”
เมื่อมีปราชญ์ทั้งสองเข้ามาในแผนการขณะที่พวกเขาไม่ได้รู้ที่มาที่ไปโดยชัดแจ้ง พวกเขาก็ทาได้เพียงไหลตามสถานการณ์ไปเท่านั้น
แผนการหลอกล่ออีกฝ่ายด้วยการเผยจุดอ่อนออกมาย่อมไม่ได้ผล
จ้าวมังกรซ่อนยังคงเงียบ คนผู้นี้เพิ่งรู้สึกได้ว่าทุกอย่างนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาแล้ว
“ท่านจ้าว?”
สองคนที่ด้านหลังเขาถาม จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดอย่างทั้งสองคนยังเป็นได้เพียงเด็กรับใช้ที่ไม่สลักสาคัญเท่านั้น
“แจ้งองค์ราชาเฉียนให้ส่งคนมาเพิ่มและเตรียมรับสงคราม!”
จ้าวมังกรซ่อนส่งข้อความออกไปโดยตรง “ถ้าแห่งนี้สาคัญเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจ้าวแห่งฝันทั้งหมดล้วนค้นหาความลับของแหล่งที่มาของพวกเรา แต่ปราชญ์ฉางหลีนั้นไม่เคยเผยความรู้ของตนเองในด้านนี้ออกมาเลย
มันเป็นไปได้ว่าคนผู้นี้จะเข้าใกล้ความจริงอย่างที่สุดแล้ว ข้อมูลพวกนั้นย่อมปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือศัตรูไม่ได้!”
“ต้นกาเนิด… แหล่งที่มาของพลังของจ้าวแห่งฝัน โลกในตานานนั่น?! ปราชญ์ฉางหลีพบร่องรอยของมันจริง ๆ น่ะหรือ?”
ทั้งสองร่างเพิ่งเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรและความเย็นสายหนึ่งก็แล่นลงไปตามสันหลังของพวกเขา “พวกเราเข้าใจแล้ว!”

ครืน!
ภูเขาถล่มและพื้นดินแยกออก น้าไหลบ่ามาสบเข้ากับหินหนืดที่ไหลปะทุออกมาจากปล่องภูเขาไฟ!
ที่ด้านในถ้าฉางหลี พื้นดินแยกออก แผ่นดินไหว พายุ ภูเขาไฟระเบิด… ภัยธรรมชาติทุกอย่างระเบิดออกมาในพริบตา ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนว่าจุดจบของโลกกาลังจะมาถึง
อันที่จริงแล้ว ในถ้าเล็กแห่งนี้ มันคือการสู้รบครั้งใหญ่และถึงที่สุดแล้วจริง ๆ!
“ไป!”
ก้อนหินขนาดราวกับเขาลูกย่อม ๆ ก้อนหนึ่งตกลงมาและพี่น้องตระกูลเยี่ยก็มองไปที่ก้อนหินนั่นด้วยสายตาว่างเปล่าไม่กล้าก้าวเท้าสักก้าว
ในช่วงเวลาอันสาคัญเช่นนี้ ร่างของฟางหยวนเปลี่ยนไปเป็นลาแสงสายหนึ่ง คว้าตัวพวกนางทั้งคู่เอาไว้ขณะพุ่งออกไปจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
โครม!
ที่ด้านหลังเขา เสียงดังลั่นดังมา เศษหินปลิวไปทั่วทุกที่ แต่ละก้อนนั้นไม่ได้หนักน้อยไปกว่าหินร้อยชั่งที่ใช้ในการก่อกาแพงเมืองเลย
“ฆ่า!”
ดวงตาของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบขณะคานวณว่าควรจะวางเท้าที่ตรงไหน เขาโบกมือแล้วปราณดาบธาตุน้าและไฟสองสายก็ก่อเกิดขึ้นตัดก้อนหินยักษ์เป็นสองส่วน
แคร่ก!
รอยแตกร้าวราวกับใยแมงมุมปรากฏขึ้นบนพื้นและที่ใต้นั้นเป็นหินหนืดสีแดงเข้มร้อนจนเดือดปุดราวกับธารฟองอากาศ
ทันใดนั้น เสาเพลิงต้นหนึ่งก็พุ่งขึ้นฟ้า กลายเป็นน้าพุหินหนืดเผาพืชพรรณที่รอบ ๆ เกิดเป็นป่าเพลิงกินบริเวณกว้าง
“นี่… เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
เมื่อทั้งสามลอยมาถึงริบทะเลสาบใหญ่แห่งหนึ่ง เยี่ยชูฮวาก็ถามอย่างยังตกใจอยู่
“ถ้านี่กาลังจะถล่ม พวกเจ้าไม่เห็นเลยหรือ มันออกจะชัดเจน?”
ฟางหยวนข้องใจขณะถามกลับ
“เป็นไปไม่ได้!”
เยี่ยชูฮวาส่ายหน้า “ต่อให้พวกเขาเริ่มสู้กับราชวงศ์อยู่ที่ด้านนอกนั่น พวกเบื้องบนย่อมไม่มีพลังพอที่จะทาลายถ้านี่… นอกเสียจากว่า…”
“นอกเสียจากว่าเป็นผู้สร้าง เป็นการลงมือของจอมปราชญ์!”
ฟางหยวนตอบอย่างเยือกเย็น
“พี่… ข้ากลัวจังเลย!”
ที่ด้านข้าง เยี่ยชูหมินคว้าแขนเสื้อพี่สาวของตนไว้แน่นท่าทางกระวนกระวาย
“ในเมื่อถ้านี่กาลังจะถล่ม ภัยพิบัติเหล่านี้น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น… การทดสอบที่แท้จริงยังมาไม่ถึง! ไม่ว่าจะเป็นพายุล้างโลกหรือถ้ามิติฉีกขาด ไม่ว่าเจอเข้ากับสิ่งใดพวกเราล้วนตายตกได้!”
ฟางหยวนถอนหายใจยาวและเสริม “ตอนนี้ความหวังเดียวของพวกเราก็คือจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์สูงสุดสักฝ่ายจะเอาชนะได้อย่างรวดเร็วและเข้าควบคุมถ้านี่โดยสมบูรณ์ เช่นนั้นบางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสรอดชีวิตไปได้!”
“เป็นไปไม่ได้!”
เยี่ยชูฮวามองผิวทะเลสาบที่เป็นฟองผุดขณะยิ้มขื่น ๆ “ถ้าฉางหลีนี่อยู่ใกล้กับเมืองอวี้มาก ดังนั้นราชสานักย่อมได้เปรียบในด้านพื้นที่ขณะที่กอง
กาลังร่วมของห้าสานักยิ่งใหญ่นั้นคงไม่สามารถรักษาความสงบเบื้องหน้าเอาไว้ได้นานนัก บางทีพวกเขายังอาจจะขัดแย้งกันเอง ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่อย่างนั้นจะยังมีปัญหาใดกับราชสานักได้อีกเล่า?”
“นั่นก็แย่แล้ว!”
ฟางหยวนหัวเราะ “ปราชญ์นั้นก็เหมือนจระเข้ยักษ์และหากมันได้กินเนื้อชิ้นงามโดยการเข้าควบคุมถ้าแห่งนี้ พวกเราก็คงถูกป่นเป็นผงเป็นแน่!”
“นั่นคือกรณีที่เลวร้ายที่สุด ดังนั้นสิ่งที่พวกเราประสบอยู่ตอนนี้ย่อมไม่นับว่าเลวร้ายใช่หรือไม่?”
เยี่ยชูฮวาถามอย่างขา ๆ ถึงแม้จะไม่ได้มั่นใจในคาพูดของตนเองนักก็ตาม

“ปิศาจ!”
ที่ใจกลางถ้า ในหมู่ตึกที่สง่าและงดงามมากกว่าหมู่ตึกก่อนหน้าเป็นร้อยเท่า คนเผ่าเจี่ยวอี้หกคนถูกปลุกตื่นขึ้นมา พวกเขามองไปบนท้องฟ้าที่แตกร้าวแล้วก็คารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
พวกเขารูปร่างสูง มีปีกสี่คู่ที่แผ่นหลัง ขนปีกนั้นมีประกายสีทองจาง ๆ และเขาของพวกเขานั้นยังราวกับทามาจากทองคาบริสุทธิ์
เมื่อคลื่นเสียงแผ่ออกไป พลังอันน่าตระหนกก็แผ่กระจายออกไปข้างนอก ทาให้บริเวณโดยรอบนับร้อยลี้สงบลง
“ถ้านี่กาลังจะทลายลงแล้ว หายนะภัยครั้งใหญ่ที่จอมปราชญ์พยากรณ์เอาไว้มาถึงแล้ว!”
พวกเขามองหน้ากันเองและทั้งหมดก็มีท่าทางเด็ดเดี่ยว “สมบัติล้าค่าที่จอมปราชญ์ทิ้งเอาไว้เบื้องหลังต้องมิให้ปิศาจจากภายนอกเหล่านั้นนาไปได้!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ