“ไม่มีทางเลือกอื่น พวกเราทาได้เพียงปลุกเทพบรรพบุรุษขึ้นมาเป็นการป้องกันสุดท้ายของพวกเรา! เมื่อถ้าถล่มลง พวกเราแต่ละคนจะหนีไปพร้อมกับแต่ละส่วนของสมบัติวิเศษ!”
ในฐานะผู้ปกครองถ้านี่ คนของเผ่าเจี่ยวอี้สีทองล้วนเข้าใจดีกว่ากาลังเกิดอะไรขึ้นและได้วางแผนเอาไว้แล้ว
“ตูม!”
รูปหกเหลี่ยมขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนพื้น จุดศูนย์กลางคือหอเทพบรรพบุรุษของวัง
ทันใดนั้น รัศมีอันเยือกเย็นก็แผ่ออกมาให้สัมผัสได้ มันคล้ายมีบางอย่างที่หลับลึกอยู่นับหมื่น ๆ ปีจู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมา
“เทพบรรพบุรุษ ได้โปรดทาหน้าที่ครั้งสุดท้ายของท่านให้สมบูรณ์!”
เผ่าเจี่ยวอี้สีทองทั้งหกคุกเข่าลง น้าตาอาบหน้า ทันใดนั้น พวกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอุกกาบาตหกสายและพุ่งไปที่ขอบฟ้า
“อย่าได้คิดจะหนี!”
ทันใดนั้น ก็ราวกับโลกจะหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง
กระทั่งการทาลายล้างของถ้ายังราวกับจะหยุดไปด้วย
บนฟ้า รอยแตกมากมายรวมกันเกิดเป็นประตูบานหนึ่ง
มือหยกอันประณีตข้างหนึ่งยื่นออกมาจากประตูที่ใหญ่จนบรรยายไม่ได้บานนั้น
เพียงแค่ฝ่ามือนั้น ประตูก็ราวกับจะพังทลายลงเพราะไม่สามารถทนรับมันได้
มือหยกสีขาวชี้ออกไปและหนึ่งในอุกกาบาตสีทองก็หยุด เผ่าเจี่ยวอี้สีทองที่อยู่ในนั้นคารามออกมา “ปิศาจ!”
ตอนที่เขาคารามออกมา เปลวเพลิงสีทองมากมายจากในร่างก็ก่อตัวเป็นลูกกลมเล็ก ๆ
แต่ว่า แค่พริบตาเดียว มือหยกขาวข้างนั้นก็ทาลายมิติเวลาลงและปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ คนเผ่าเจี่ยวอี้สีทอง ไม่ว่าจะพยายามหนีหรือป้องกันตัวเองล้วนแล้วแต่ไร้ผล มือหยกขาวข้างนั้นแตะบริเวณระหว่างคิ้วของเขา
“ครืน! ครืน!”
เขาลอยขึ้นกลางอากาศ และทันใดนั้น ร่างของเขาก็แตกออกราวกับทาจากกระเบื้อง ระหว่างรอยแตก ของเหลวสีทองค่อย ๆ ซึมออกมาอย่างช้า ๆ
“ตูม!”
หลังจากเสียงระเบิด ร่างของเผ่าเจี่ยวอี้สีทองผู้นี้ก็ป่นเป็นผง
ประกายแสงเล็กน้อยผุดขึ้นจากร่างของเขาและถูกมือหยกขาวคว้าไปในทันที มือหยกขาวนี้ดูยินดีและมุ่งหน้าไปหาอุกกาบาตสีทองอื่น ๆ ในทันที
“พวกเจ้าคิดว่าจะหนีไปไหนได้!”
สายฟ้าสีเขียวผ่าแยกท้องฟ้าขณะที่แขนข้างหนึ่งที่มีสีเขียวแบบเดียวกันยื่นออกมา แขนสีเขียวนั่นคว้าเอาหนึ่งในอุกกาบาตไปและป่นมันเป็นผง
“เทพบรรพบุรุษ!!!”
อุกกาบาตรที่เหลืออีกสี่กรีดร้องเสียงโหยหวน
“โฮก!”
วังที่ด้านล่างถล่มลงขณะลาแสงสีทองระยิบระยับพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเปลี่ยนไปเป็นมังกรสีทอง
เขาของมังกรคล้ายเขากวาง คอเหมือนงู ท้องเหมือนเปลือกหอย และเกล็ดเหมือนปลาหลี ที่ใต้ท้องของมันมีกรงเล็บสี่ข้าง แต่ละข้างมีห้านิ้ว ที่ใต้คอมีเกล็ดย้อน มันคือมังกรห้านิ้ว มังกรที่แท้จริง!
เมื่อมันเห็นถ้ากาลังถล่มและเปลี่ยนไปเป็นเถ้า และยังการตายอย่างน่าสยดสยองของคนในเผ่าเจี่ยวอี้สีทองสองคน มันก็คารามออกมา
“วิ้ง! วิ้งงงง!”
พลังมหาศาลจากในถ้ารวมตัวกันที่รอบตัวมันเกิดเป็นเมฆศักดิ์สิทธิ์ก้อนใหญ่
มังกรนั้นเป็นตัวเชื่อมกับที่รอบข้าง
เมื่อมังกรสีทองห้านิ้วปรากฏขึ้น ทั้งถ้าก็กลับไปสู่สภาพปกติ เผยให้เห็นพลังอันน่าตระหนกของมัน
ในตอนนี้ ดวงตาของมังกรที่แท้จริงนั้นมีประกายสีแดงเลือดแฝงอยู่ขณะมันมองไปที่เจ้าของมือทั้งสองนั่น
“หึ… ก็แค่ร่างวิญญาณของถ้านี่! มีอะไรน่ากลัวกัน?”
มือยักษ์ทั้งสองนั้นส่งคลื่นพลังออกมา แต่ไม่สามารถทาอะไรมังกรที่แท้จริงได้
วิญญาณของถ้านั้นมีสิทธิ์เหนือถ้านี่โดยสมบูรณ์ มันสามารถใช้พลังของถ้ากดข่มคนนอกได้ กระทั่งจ้าวแห่งฝันสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดก็ยังต้องระวังตัวเมื่ออยู่ในพื้นที่ของวิญญาณนี้
“พลังของวิญญาณคุ้มครองนี่จากัดอยู่เพียงแค่ในนี้ หากถ้านี่ถล่มลงมา เช่นนั้นจะเหลืออะไร?”
พลังอันน่ากลัวจากภายนอกกาลังฉีกทึ้งถ้านี่ ถ้าฉางหลีซานกาลังถล่มลงมาด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น
“โฮก!”
มังกรที่แท้จริงนั้นช่างสง่างาม ร่างของมันได้รับการปกป้องจากเมฆศักดิ์สิทธิ์ มันขวางมือทั้งสองเอาไว้ปล่อยให้คนจากเผ่าเจี่ยวอี้สีทองหนีไปได้
“เทพบรรพบุรุษ… ถ้า… คนในเผ่า…”
คนในเผ่าเจี่ยวอี้สีทองทั้งสี่คนที่เหลืออยู่นั้นเต็มไปด้วยน้าตาขณะทาได้เพียงหนีไปให้ไกลขึ้น
“ตูม!”
ทันใดนั้น หมอกสีดาก็มารวมตัวกันที่จุดหนึ่งตรงขอบฟ้าและเปลี่ยนไปเป็นมือยักษ์สีดา นิ้วของมันนั้นราวกับภูเขาและคว้าเอาคนหนึ่งในเผ่าไว้ได้ “พวกเจ้าทั้งคู่ล้วนชักช้าเกินไปแล้ว! ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะฉีกถ้านี่ให้เป็นชิ้น ๆ!”
“ตูม!”
ทันทีที่เสียงนั่นพูดจบ พลังมหาศาลจากภายนอกก็ทาให้ส่วนหนึ่งของถ้าแตกสลายไปในทันที ราวกับถูกกัดกินไป
“โฮก!”
หนึ่งในเมฆศักดิ์สิทธิ์บนร่างมังกรสีทองห้าเล็บหายไป
ขณะที่มันเผชิญหน้ากับมือขนาดยักษ์ทั้งสามที่ปิดแผ่นฟ้า พลังของมันก็อ่อนลงเล็กน้อย
“ฮ่าฮ่า… มังกรน้อย ทางที่ดีเจ้าจงยอมแพ้และเรียกข้าว่านายท่านเสียเถิด! แล้วข้าจะไว้ชีวิตน่าสมเพชของเจ้า!”
ทันใดนั้น ดวงตาของมังกรสีทองห้าเล็บก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงเลือดทั้งดวง มันเลื้อยเป็นวงกลมล้อมมือยักษ์ทั้งสามเอาไว้ ก่อบรรยากาศทาลายล้างขึ้นที่กลางอากาศ
“บ้าชะมัด! วิญญาณของถ้านี่ยินดีจะทาลายตัวเอง!”
น้าเสียงแฝงแววเกรี้ยวกราดเล็ก ๆ ดังมา ทันใดนั้น ก็เกิดการระเบิดรุนแรงขึ้น
การระเบิดนั่นพุ่งขึ้นฟ้า คลื่นพลังทาลายและรอยแตกรุนแรงปรากฏขึ้นบนช่องมิติ มีเพียงอุกกาบาตไม่กี่ลูกนั่นที่ได้รับการปกป้องอย่างตั้งใจขณะถูกส่งออกจากพื้นที่ไปยังขอบฟ้า
เมื่อถ้าสั่นสะเทือน ฝนเลือดตกจากฟ้าราวกับเป็นการร่าไห้ของผืนดิน
ทันใดนั้น ก็ราวกับถ้าสูญเสียแก่นกลางที่ยึดมันเอาไว้ด้วยกัน ร่องแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นขณะทั้งถ้าเริ่มแตกเป็นชิ้น ๆ และสลายไป
…
“นี่… เกิดอะไรขึ้น?”
กระทั่งฟางหยวนและพี่น้องตระกูลเยี่ยก็ได้รับแรงกระแทกรุนแรง
ฝนเลือดยังนาความรู้สึกของลางร้ายมาด้วย
“ฝนเลือดตกจากฟ้า ความโศกเศร้าของผืนดิน… วิญญาณของถ้านี่ตายแล้ว…”
ใบหน้าของเยี่ยชูฮวาซีดเผือดทันที “หากเขาเพียงแค่ถูกกดข่มเอาไว้ ย่อมไม่เกิดเรื่องเช่นนี้… มันเป็นการต่อสู้ระหว่างปราชญ์ด้วยกันอย่างแท้จริง…”
ผู้ที่อยู่ต่ากว่าระดับสวรรค์สูงสุดย่อมไม่นับว่าสลักสาคัญ นางไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถรอดชีวิตไปได้
“พวกเจ้าลืมสิ่งสาคัญที่สุดไป! เมื่อวิญญาณนั่นตายลง จะเกิดอะไรขึ้น?”
ฟางหยวนกัดฟัน
“ถ้าจะสลายไป?!”
เมื่อเยี่ยชูฮวาพูด ก็รู้สึกได้ว่าแผ่นดินไหวรุนแรงเป็นสิบเท่าของครั้งก่อนหน้า
นอกจากนี้ ตอนนี้ ไม่เพียงแค่ผืนดินกาลังถล่มลง แต่ช่องมิตินี้ก็ด้วย!
พายุล้างโลกกาลังก่อตัวอยู่ในถ้าแห่งนี้
มิติถ้าเริ่มแตกเป็นชิ้น ๆ ผืนดินถูกดูดเข้าไปในพายุร้ายแรงนั่น
“ตาย พวกเราตายแน่!”
เยี่ยชูฮวาหมดหวังเมื่อเห็นภาพนั่น
“อันที่จริงก็ยังมีทางรอด…”
ฟางหยวนมองไปที่ความว่างเปล่าเกินหยั่งถึงแล้วความคิดหนึ่งก็ผุดออกมา “พวกเราไม่สามารถรอให้ที่นี่ถูกพายุนี่ฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ ได้! พวกเราต้องออกไปให้ได้ก่อน!”
“ท่านกาลังพูดถึง… การข้ามฝันด้วยร่างจริง?”
เยี่ยชูฮวานั้นฉลาด นางเข้าใจในทันที
“ถูกต้อง… หากเป็นเหมือนปกติแล้ว เมื่อเราข้ามฝันไปด้วยร่างจริงของเรา หากไม่มีตาแหน่งของอาณาจักรอื่นหรือว่ามีการปกป้องจากของวิเศษ พวกเราอาจจะถูกป่นเป็นผงได้! ขณะที่ถ้าฉางหลีนี่ต่างออกไป ในเมื่อมันไม่ใช่อาณาจักรอื่นแต่เป็นส่วนหนึ่งของต้าเฉียน จึงมีความเป็นไปได้มากว่าพวกเราจะถูกส่งไปที่ต้าเฉียน ข้าคิดว่ามีโอกาสถึงสองในสามส่วนที่จะประสบความสาเร็จ มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง!” ฟางหยวนพูดเร็ว ๆ
ถ้านี่กาลังจะถล่ม พวกเขาย่อมตายแน่หากยังอยู่ที่นี่ หากพวกเขาเสี่ยง ก็ยังมีโอกาสที่จะรอดไปได้
“ข้าคิดว่านี่เป็นเพียงหนทางเดียวแล้ว!”
เยี่ยชูฮวากัดฟัน “พวกเราลงมือด้วยกันเถอะ!”
“อืม…”
ด้วยการปกป้องจากปราณดาบ ฟางหยวนยังใช้ร่างทองคาของตัวเองเต็มที่ที่สุดขณะเผชิญกับพายุและไปถึงที่ริมเขตแดนน
ในตอนนี้ หินหนืดเดือด ๆ ก็หายไปแล้ว ที่เหลืออยู่มีเพียงพายุสีเงินเท่านั้น
ก้อนหิน แม่น้า และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ล้วนถูกดูดเข้าไปในพายุ ความเสียหายที่เหลืออยู่นั้นเงียบอย่างน่ากลัว
“พวกเราต้องหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พายุและพาตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่สงบไกลออกไป!”
เยี่ยชูฮวากอดน้องสาวเอาไว้แล้วกัดฟัน
ขณะที่นางพูด เสียงระเบิดก็ดังมาขณะพื้นดินที่พวกนางยืนอยู่ก็สั่นอย่างรุนแรงและถูกดึงไปทางพายุ
“ไม่มีเวลาแล้ว รีบเข้า!”
ฟางหยวนสะบัดดาบออกไปแล้วผ่าก้อนหินก้อนหนึ่งออก เขากับเยี่ยชูฮวาขึ้นไปอยู่บนนั้น
“ซู่! ซู่!”
หินก้อนใหญ่หลอมละลายไปเมื่อสัมผัสเข้ากับพายุ
ฟางหยวนจับสองพี่น้องเอาไว้แน่นขณะจู่ ๆ ก็กระโดดและเปลี่ยนตัวเองเป็นรัศมีดาบสายหนึ่ง เขาพุ่งผ่านพายุไปอย่างรวดเร็วเข้าสู่พื้นที่มืดดา
ทันใดนั้น แรงมหาศาลก็พุ่งขึ้นฉีกกระชากพวกเขาสามคม มันเหมือนกระแสพลังสายหนึ่งทาให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้
เพียงพริบตา พวกเขาทั้งสามคนก็แยกออกจากกันที่ด้านในกระแสปั่นป่วน
“การบิดตัวของมิติน่ากลัวยิ่งนัก ความรู้สึกนั้นต่างไปจากที่ร่างพลังธาตุเคยพบ…”
ฟางหยวนรู้สึกถึงความไร้น้าหนักและขณะที่รู้สึกไร้พลังอยู่ในช่องมิติ มันก็ทาให้เขากาหมัดแน่นและคิด “สักวันหนึ่ง… ข้าจะต้องทาให้แน่ใจได้ว่ามิติเช่นนี้ก็ไม่สามารถควบคุมข้าได้!”
ครู่ต่อมา พลังรุนแรงก็สัมผัสได้
เขาลืมตากว้างและเห็นอุกกาบาตสีทองลูกหนึ่งเข้าไปในมิติอย่างรวดเร็ว
“นั่น…”
ที่ด้านในรัศมีสีทองมีคนเผ่าเจี่ยวอี้สีทองที่มีปีสีทองสี่คู่
“ปีสองคู่เทียบเท่ากับจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่… เช่นนั้นผู้นี่เล่า?”
ฟางหยวนขนลุก
แต่ว่า คนเผ่าเจี่ยวอี้สีทองผู้นี้นั้นไม่ได้สังเกตเห็นฟางหยวนสักนิด เขากาลังใช้พลังทั้งหมดในการกระพือปีกเพื่อหนีไปให้ไกล เขากาลังหนีจากการถูกสังหาร
“เจ้า… หนีไม่พ้นหรอก!”
ทันใดนั้น ฟางหยวนก็เห็นนิ้วหยกขาวไล่ตามเข้ามาในมิติด้วย
มีเพียงแค่นิ้วเดียว แต่ว่า มันก็ราวกับเป็นรูปสลักแกะจากหยกงดงาม มันน่ากลัว ทาให้ความปั่นป่วนของมิติถดถอยลง
มือหยกข้างนี้มีเพียงแค่นิ้วเดียวเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเหลือเพียงนิ้วเดียว
“สมบัติวิเศษที่จอมปราชญ์ทิ้งเอาไว้นั้นจะปล่อยให้ปิศาจชั่วร้ายเอาไปไม่ได้!”
ขณะที่คนในเผ่าเจี่ยวอี้สีทองคาราม สีหน้าของเขาก็ยิ่งมุ่งมั่น
“ไร้ประโยชน์!”
นิ้วหยกขาวสั่นเล็กน้อยและไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา
“ตายซะ!”
กระทั่งความปั่นป่วนของมิติยังถูกผลักไปด้านข้างเมื่อพลังแรงกล้าแผ่ออกมา
“อ๊าก… ข้าจะสู้ให้ถึงที่สุด!”
คนของเผ่าเจี่ยวอี้สีทองร้องลั่น เขาบนหัวของเขานั้นมีเปลวไฟสีทองเรืองขึ้นและทั้งร่างก็เปลี่ยนเป็นโปร่งใสขณะลาแสงกระจายออกมา
“เจ้า…”
ทันใดนั้น ก็เกิดการระเบิดรุนแรงขึ้น
กระทั่งฟางหยวนที่ไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางยังกระอักเลือดออกมาคาหนึ่ง “ตายตกไปพร้อมกัน? เดี๋ยวนะ…”
เขาคิดบางอย่างและทันใดนั้นก็ดึงเอาไข่มุกมังกรน้าออกมา ขณะที่เขาเพ่งพลังธาตุของตนเข้าไปในนั้น มังกรน้าสีเขียวก็ปรากฏขึ้น
หลังจากระเบิด ประกายปริศนาที่ปรากฏขึ้นพยายามจะหนีออกไปจากช่องมิติ แต่ว่า เพราะอิทธิพลของไข่มุก มันเข้าไปอยู่ในไข่มุกมังกรและนิ่งอยู่ในนั้น
“สาเร็จ!”
ฟางหยวนโล่งอก แต่ว่า เขาก็กลับถูกโยนเข้าไปในความปั่นป่วนของมิติลึกขึ้นไป…