Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 329

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 329

ตะวันตกดินแล้ว สายลมเย็นเยียบ
รอบด้านเริ่มสลัวลง กาหลายตัวร้องอยู่บนต้นไม้ขณะจ้องมายังผู้ที่นอนอยู่ใต้ต้นไม้เดียวกันราวกับรอให้ร่างกายมนุษย์เน่าเปื่อยเพื่อที่พวกมันจะได้กินเป็นอาหาร
คนผู้นั้นพลิกตัว ถึงแม้จะมีเลือดเปื้อนอยู่บนหน้า แต่ก็ยังดูออกว่าอายุเยาว์วัย ทันใดนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นและปล่อยพลังสีขาวเป็นเส้นออกจากปาก
“ฝุบ!”
“กา! กา!”
ฝูงกาสั่นเทิ้ม ขนหลายเส้นร่วงหล่น พวกมันรีบบินหนีด้วยความตกใจและไม่กล้าหวนกลับมา
“อืม… ถึงแม้ว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ข้าก็นับว่าโชคดีที่ไม่ได้ตายไป!”
คนผู้นี้ก็คือฟางหยวน ขณะเขาตรวจสอบร่างกายตัวเองก็พบว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ดาบเวทย์ทั้งสามถูกทาลายไปแล้วและข้าก็ต้องการพลังธาตุฝันจานวนมากเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่ ร่างกายที่ฝึกวิทยายุทธ์มาของข้าก็ได้รับบาดเจ็บขณะเดินทางผ่านมิติ ข้าไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้ด้วยซ้าในตอนนี้!”
เขารวบรวมพลังสุดท้ายที่เหลืออยู่และเริ่มดูดซับพลังธาตุจากรอบตัวเริ่มต้นฟื้นฟูตัวเอง
“ลืมค่ายกลดาบแปดประตูไปก่อน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะใช้พลังฟ้าที่ข้ามีอยู่เพื่อบรรลุระดับ ข้าสามารถค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเองช้า ๆ ต่อไป ที่นี่ดูจะไม่ไกลจากเมืองมากนัก ข้าควรจะให้ความสาคัญกับการฟื้นฟูร่างกายของข้าและมีแรงขยับตัวก่อนที่จะคิดเรื่องอื่นต่อ…”
ถึงแม้ว่าถ้ามิตินั่นจะอยู่บนอาณาจักรต้าเฉียน แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่นั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะไปจบลงที่ใดสักที่ที่ไม่ใช่อาณาจักรต้าเฉียนก็ได้
แต่ว่า จากพลังวิญญาณที่รอบ ๆ และสภาพแวดล้อมที่เขามองเห็น โอกาสที่เขาจะยังอยู่ในอาณาจักรต้าเฉียนนั้นก็สูงมากทีเดียว
“ปัญหาก็คือข้าไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน และข้ายังไม่รู้เรื่องการต่อสู้ที่ถ้าฉางหลีซาน…”
ด้วยความคิดอย่างนี้ เขานึกไปถึงการต่อสู้สุดท้ายระหว่างเผ่าเจี่ยวอี้สีทองและนิ้วหยกขาวและผลประโยชน์ที่เขาเก็บเกี่ยวได้มา
“ประกายปริศนานั่นอาจจะเป็นปราณของทั้งถ้านั่น มันโชคดีจริง ๆ ที่ข้าสามารถดูดซับมันมาได้… ทั้งสองฝ่ายนั้นสู้ตายกันและในความวุ่นวายนั้น กระทั่งจ้าวแห่งฝันสวรรค์สูงสุดก็คงไม่สามารถรู้ได้ และหากมีใครพยายามทานายว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็คงเป็นเรื่องน่าขาแล้ว เคล็ดวิชาของผู้ทานายฝันนั้นต้องการรายละเอียดอย่างมากก่อนที่จะสามารถทานายได้
อย่างแม่นยา ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความวุ่นวาย พวกเขาก็นับว่าโชคดีมากหากเริ่มต้นการทานายอย่างถูกทิศทาง…”
“แต่ว่า เพื่อความปลอดภัยของข้า หนทางเดียวก็คือรีบเพิ่มระดับการฝึกตนของข้า!”
ยิ่งมีระดับการฝึกตนสูง ก็จะยิ่งสามารถต่อต้านการทานายของผู้ทานายฝันได้ต่อให้ไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาลับหรือว่าอาวุธเวทย์ นอกจากนี้ พูดตามเหตุและผลแล้ว หากมีระดับการฝึกตนสูงกว่าแล้วผู้ทานายฝันยังพยายามพยากรณ์ถึง เขาย่อมได้รับการสะท้อนกลับด้วย!
“กุบกับ!”
บนถนน มีเสียงควบม้าดังมา ขบวนเดินทางเคลื่อนตรงมาทางฟางหยวนช้า ๆ
“หัวหน้า มีคนนอนอยู่ข้างถนน!”
ผู้ที่ลาดตระเวนอยู่ด้านหน้ารีบตะโกนแจ้งสิ่งที่พบ “เขายังหายใจอยู่ รอบตัวมีรอยแผลถลอกเต็มไปหมด เขาอาจจะตกลงมาจากหน้าผา?”
“เขาก็แค่คนจรจัดคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องสนใจเขาหรอก!”
หัวหน้าขบวนเดินทางเข้ามาดูแมองฟางหยวนราวกับเป็นคนที่ตายไปแล้ว
ฟางหยวนก็ไม่ได้สนใจเขาเช่นกัน
อย่างไร ในโลกใบนี้ ก็มีคนดีและคนเลวเพียงไม่มาก คนส่วนใหญ่แล้วเป็นกลาง ในเมื่อพวกเขาล้วนแปลกหน้าต่อกัน หัวหน้าขบวนเดินทางจึงไม่ได้มีหน้าที่ต้องช่วยเขา และยังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้วย นี่เป็นเรื่องธรรมดา
‘ข้าอยู่ที่นี่ นอนอยู่ริมถนนต่อไปไม่ได้…’
ฟางหยวนคิดกับตัวเองขณะประกายประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตา เขาเตรียมจะหย่อนเงื่อนงาบางอย่างให้คนตรงหน้าเขาเปลี่ยนใจ
“เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อรถม้าคันหนึ่งมาถึง เด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าปีเดินออกมา เขาสวมชุดผ้าไหมและใบหน้ายังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นหลักฐานว่าเขามาจากตระกูลที่มีฐานะ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
เห็นฟางหยวนแล้วเขาก็รีบพูด “พวกเราควรช่วยเขา อย่างไรก็นับเป็นการช่วยชีวิตคน เป็นการช่วยตระกูลของเราสะสมกรรมดี!”
“นายน้อยช่างมีจิตใจดีงาม!”
ทันทีที่นายน้อยของพวกเขาพูด ก็ไม่มีใครคัดค้าน ชายสองคนตรงเข้าไปหาฟางหยวน “โอ้… เขายังขยับตัวได้?”
“ข้าเกรงว่าอวัยวะภายในของข้าจะได้รับบาดเจ็บและข้าคงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สักระยะ!”
ฟางหยวนตอบพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ
“เอาของลงจากรถม้าให้เขานอนไป! พวกเราจะให้เหล่าจางคอยดูแลเขา!”
ที่ปรึกษาสั่งชายหลายคนให้ลงมือทาตามขณะเขาเองกลับมีสีหน้าประหลาด
เมื่อขบวนเดินทางพักครู่สั้น ๆ พวกเขาก็รีบออกเดินทางต่อ ฟางหยวนนอนอยู่ในรถม้าและรู้สึกมึนงงนิด ๆ จากการต้องอยู่ในพื้นที่อันคับแคบ เมื่อเขาตั้งสมาธิ เขาก็ได้ยินบทสนทนาที่ด้านนอกรถม้าโดยคร่าว
“นายน้อย ครั้งนี้ท่านวู่วามเกินไป… หากเขาเป็นคนผ่านทางที่ตกหน้าผาแล้วเจ็บตัวเอง เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ว่า เหล่าจางตรวจแล้วว่าแขนขาของเขาเป็นปกติดีแต่เขากลับได้รับบาดเจ็บภายใน! นี่หมายความว่าเขาน่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่ง! ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีอู่จงอยู่ในตระกูล แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะเอาปัญหาเข้าตัวโดยไม่จาเป็น…”
ที่ปรึกษาพูดด้วยน้าเสียงแผ่วเบาเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่าฟางหยวนจะสามารถได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งพูด
“ท่านลุงเหอ ข้าเองก็คิดเช่นนี้เช่นกัน… แต่ว่า มันเป็นโชคชะตาที่พวกเราได้พบเขาเข้า! ใครจะอธิบายเรื่องชะตาฟ้าดินได้? ใครจะรู้ ต่อไปภายหน้า พวกเราอาจจะต้องการความช่วยเหลือของเขาก็ได้!”
น้าเสียงของเด็กหนุ่มดังมา เขาไม่ได้ช่วยเหลือฟางหยวนเพราะแค่ใจดี แต่ถึงแม้ว่าเขาจะคาดคิดถึงการได้รับความช่วยเหลือจากฟางหยวนในภาย
หน้า การกระทาของเขาก็นับว่าดีพอ ฟางหยวนยังมีท่าทีเฉยเมยและเพ่งสมาธิไปกับการโคจรลมปราณ
“ในเมื่อข้าได้รับความช่วยเหลือแล้ว ข้าก็ไม่จาเป็นต้องรีบร้อนฟื้นฟูตัวเอง ข้าควรจะค่อย ๆ ฟื้นฟูรากฐานของข้าก่อนเพื่อกาจัดการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นซึ่งข้าอาจจะไม่รู้ตัว…”
จากการต่อสู้ทั้งหมดที่เขาเอาตัวเองเข้าไปพัวพัน ความวุ่นวายก่อนหน้าที่ถ้ามิติจะถล่ม ทั้งหมดนั้นล้วนไม่สาคัญสาหรับฟางหยวน เขาได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนี้ก็เพราะการประมือระหว่างสองฝ่ายตอนข้ามมิติและความกดดันที่เขาได้รับจากการขืนกลับเข้ามาในอาณาจักรต้าเฉียน
“ท่านเจ้าคะ ได้เวลารับอาหารแล้ว!”
หลังจากนั้นครึ่งวัน ประตูรถม้าก็เปิดออก สาวใช้คนหนึ่งที่ยังมวยผมเป็นก้อนกลมบนหัวยกกล่องอาหารเข้ามา “ข้าคือเสี่ยวจู! นายน้อยสั่งให้ข้านาอาหารมาให้ท่านเจ้าค่ะ!”
เมื่อนางเปิดกล่องออก กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยเต็มอากาศ เป็นข้าวต้มกับเนื้อสับ และเพียงแค่กลิ่นก็เพียงพอให้น้าลายสอ
“ท่าน… ขยับมือไม่ได้จริง ๆ หรือ?”
เสี่ยวจูมองฟางหยวนและยังระวังตัวอยู่
“ไม่เชิง ข้าเพียงรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อข้าขยับมือ และยังรู้สึกเจ็บไปทั้งร่างด้วย…”
ฟางหยวนมีสีหน้าจนปัญญา
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร!”
ได้ยินที่เขาพูด เสี่ยวจูก็ไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยเขา นางหยิบช้อนตักข้าวต้ม เป่าให้เย็นและป้อนให้ฟางหยวน
“ขอบคุณมาก!”
ถึงแม้จะเป็นการฝืนใจแต่ฟางหยวนก็ยังยิ้ม เขาบอกนางไม่ได้จริง ๆ ว่าทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือพลังธาตุจากรอบตัวและไม่ได้ต้องการอาหาร อย่างไร เขาก็ยังคงต้องการอาหารจริง ๆ เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายเพื่อฟื้นฟู ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินลงไป
‘ถึงแม้ว่านี่จะเป็นข้าวธรรมดา ไม่ใช่ข้าววิญญาณ เนื้อก็ยังมีสารอาหารอย่างยิ่งและก็ไม่เลวเลย…”
หลังจากกินข้าวต้มไปสองถ้วย เขาก็รู้สึกอุ่นที่กระเพาะอาหารขึ้นมา เขาเริ่มรู้สึกสบายขึ้น “ยังมีอีกหรือไม่?”
“เหอเหอ… นี่เป็นเนื้อของสัตว์วิญญาณและยังเตรียมเอาไว้ให้นายน้อยเป็นพิเศษ ท่านได้ประโยชน์แล้ว และยังต้องการอีกงั้นหรือ?”
เสี่ยวจูเริ่มเก็บจานชามและใช้ผ้าเช็ดหน้าให้ฟางหยวน หลังจากเช็ดตัวเขาแล้ว ใบหน้าของนางก็แดงขึ้นอย่างอาย ๆ “ใครจะคิดว่า… ท่านจะหน้าตาดีอย่างนี้?”
‘สาวใช้ผู้นี้คิดมากเกินไปหรือเปล่า?’
ฟางหยวนแอบกลอกตา รูปลักษณ์ของเขานั้นนับว่าพื้น ๆ และยังเป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง แต่ว่า เขาผ่านประสบการณ์มากมายมายจนดูโตกว่าอายุจริง เป็นสิ่งที่นายน้อยผู้นั้นไม่มี
“น่าเสียดาย…”
เสี่ยวจูดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ นางถอนหายใจก่อนจะนากล่องอาหารกลับออกไป
‘น่าเสียดายที่ข้าไม่ใช่นายน้อยของเจ้า? นั่นก็จริง… สาวใช้ย่อมต้องการโอกาสที่จะปีนขึ้นเตียงของนายน้อยและตั้งครรภ์เพื่อจะได้อาศัยพึ่งพาลูกของตนเมื่อเติบโตขึ้น…’
ฟางหยวนรู้สึกว่านี่ค่อนข้างน่าสนใจเมื่อคิดถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของสาวใช้คนนั้น
ตั้งแต่ที่เขาฝึกวิทยายุทธ์และเริ่มเดินทางสู่เส้นทางการเป็นจ้าวแห่งฝัน เขาก็ทาตัวเหินห่างจากการใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป
“เฮ่ย… ให้ข้าบอกพวกเจ้านะ คนผู้นั้นที่นายน้อยช่วยเอาไว้น่ะหน้าตาหล่อเหลาทีเดียว…”
“เจ้าตกหลุมรักเขาหรืออย่างไร เสี่ยวจู!”
“เพ้ย! ไม่จริงเสียหน่อย… ข้าว่าเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!”
ที่ด้านนอกรถม้า มีเสียงพูดคุยดังมา เหล่าสาวใช้พูดจาตรงไปตรงมาเสียจนฟางหยวนพูดไม่ออก

ตกกลางคืน ขบวนเดินทางเงียบสงัด
ฟางหยวนนอนเหมือนตายอยู่ในรถม้า ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังธาตุที่รวมตัวกันอยู่ในจุดตันเถียนของเขา ทาให้เขารู้สึกดีใจ “ข้าต้องการเวลาอีกแค่วันเดียวเพื่อฟื้นฟูพลังให้มากพอให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้า!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหบ ๆ เสียงหนึ่งดังมา ฟางหยวนนิ่งขึงไปก่อนจะเริ่มหัวเราะ
เมื่อประตูรถม้าเปิดออก เงาร่างดา ๆ ก็เข้ามา เงาร่างนั้นมีท่าทางคล้ายลิงและยังดูอายุราวสามสิบปี
เงาร่างนั้นขยับไปมาในตอนแรง แต่ว่า เมื่อมันสบตาเข้ากับฟางหยวน มันก็นิ่งขึงไป
‘ข้าต้องขโมยจากเขาก่อนตอนที่เขายังขยับตัวไม่ได้ พี่จางบอกฉันว่าถึงเสื้อผ้าเขาจะดูรุ่งริ่ง เขาดูจะมีของมีค่าติดตัวอยู่หลายอย่าง… ใครจะคิดว่าเขาจะตื่นอยู่กัน’
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เงาร่างนั้นก็ยิ้ม “แล้วอย่างไร? ทาไมไม่ลองขยับตัวดูล่ะ? หรือว่าตะโกน? ขบวนเดินทางของเราสมควรได้ค่าตอบแทนที่ช่วยเจ้าเอาไว้ มันก็สมเหตุสมผลที่ข้าควรจะมาเอาส่วนแบ่งของข้า…”
ตอนเขาข่มขู่ฟางหยวน เงาร่างนั้นก็ยื่นมือออกมา
“เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”
ฟางหยวนหัวเราะเสียงนุ่มนวล คิดว่าเขาจะทาอะไรไม่ได้เพียงเพราะว่าขยับร่างกายไม่ได้อย่างนั้นรึ?
การฝึกตนเป็นจ้าวแห่งฝันนั้นมุ่งไปที่จิตใจ หากขบวนเดินทางมีจิตมุ่งร้ายต่อเขา ถึงที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้จนหนทางเสียทีเดียว
ถึงตอนนี้ ลาแสงสองสายพุ่งออกจากดวงตาของเขาเข้าไปในดวงตาของชายร่างผอมตรงหน้าเขา
คนผู้นั้นนิ่งไปและมีสีหน้าไม่ชอบใจนัก
เมื่อต้องรับมือกับเคล็ดวิชาสะกดของจ้าวแห่งฝัน ถึงจะเป็นแค่ระดับพลังธาตุ คนทั่วไปก็ยังต้องสะกดได้ง่าย
“ชื่อของเจ้า?”
“ซุนเอ้อร์โกว!”
“เจ้าอายุเท่าใด?”
“33!”
“ผู้ใดเป็นเจ้าของขบวนเดินทางนี้? จุดหมายของพวกเจ้าคือที่ใด? และ… พวกเรากาลังอยู่ในรัฐอะไร?”

ในเมื่อมีเหยื่ออาสามาหาเขาเอง ฟางหยวนย่อมเต็มใจรับความช่วยเหลือจากซุนเอ้อร์โกวเอาไว้อย่างใจกว้างและยังเค้นถามเขาต่อ
ซุนเอ้อร์โกวคายทุกอย่างออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟางหยวนก็โบกมือและปล่อยให้ซุนเอ้อร์โกวออกไปได้ เขายิ้มกับตัวเอง “จริงด้วย พวกเรากลับมาที่ต้าเฉียนแล้ว!”
จากข้อมูลที่เขาได้มานั้น ตอนนี้ฟางหยวนรู้แล้วว่าเขาอยู่ในรัฐอวิ๋นของต้าเฉียน มันห่างจากเมืองอวี้มานับพัน ๆ ลี้ เขาโชคดีพอที่จะไม่ตกลงไปในทะเลหรือว่าทะเลทรายร้าง
นอกจากนี้ นี่ยังขบวนเดินทางของตระกูลเหอ เป้าหมายที่แท้จริงของขบวนเดินทางก็คือส่งนายน้อยไปฝึกวิทยายุทธ์ พวกเขายังเตรียมทาการค้าไปด้วยในระหว่างทางเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองจินหยาง
“หรือว่านายน้องของตระกูลเหอ… มีคุณสมบัติและศักยภาพที่จะเป็นจ้าวแห่งฝัน?”
นี่นับเป็นเรื่องใหญ่ของตระกูล ทั้งตระกูลย่อมต้องให้การสนับสนุน ขบวนเดินทางนี้และยังอีกหลายร้านค้าในเมืองจินหยางนั้นล้วนลงขันกันเพื่อการฝึกฝนของนายน้อยของพวกตน
ฟางหยวนยังเงียบอยู่ เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับศักยภาพของนายน้อยผู้นั้นมาก่อนเลยสักนิด
“สรุปแล้ว… ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”
เขาถอนหายใจแล้วก็นึกถึงถ้ามิติที่ถล่มลงมา
“ชิ้นส่วนของถ้าที่ถล่มลงมานั้นเป็นประโยชน์แก่จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ด แน่นอนว่า… ความรุนแรงของการทาลายล้างนั้นดูจะไม่น่าเกิดจากการแบ่งสรรปันส่วนกัน แต่น่าจะเป็นการทาลายตัวเองของถ้านั่นมากกว่า! กระทั่งปราชญ์ยังไม่สามารถเข้าครอบครองถ้าได้… ด้วยชิ้นส่วนที่ได้จากการระเบิดของถ้าออกไปทุกทิศทาง อาจจะมีบางส่วนหลุดเข้ามาที่ต้าเฉียน และน่าจะก่อให้เกิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือแดนมรณะ หรือเกิดมิติเช่นเดิม ข้าสงสัยว่าจะมีคนโชคดีหรือว่าโชคร้ายคนใดเจอเข้ากับดินแดนเหล่านั้น…”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ