Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 332

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 332

332: อุปสรรค
“ถึงแม้ว่าข้าจะมีหลักฐานอนุญาตให้ข้าเข้ารับตาแหน่งใหม่แล้ว ข้าก็ควรพักฟื้นเสียก่อน…”
การส่งต่อและรับตาแหน่งนั้นมีสมาพันธ์แห่งอาณาจักรรับรองอย่างเป็นทางการ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องผิดไปนั้นน้อยมาก ดังนั้น ฟางหยวนจึงตัดสินใจฟื้นฟูพลังของตัวเองก่อนเพราะพลังคือหนทางเดียวที่คนผู้หนึ่งจะสามารถหยัดยืนอยู่ในอาณาจักรต้าเฉียนได้!
ในโรงพักแรม ฟางหยวนจ่ายค่าห้องพักแยกที่มีสวนเล็ก ๆ เขานั่งขัดสมาธิดูซับพลังธาตุจากฟ้าและดินเพื่อฟื้นฟูร่างกายของตน
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขานั้น พลังเวทย์หลายสายแผ่กระจายและแทงเข้าไปที่จุดสีดาของพลังงานชั่วร้าย จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นพลังธาตุฝันที่ลื่นไหลเหมือนปรอท พลังธาตุฝันเริ่มฟื้นฟูดาบทั้งสามในค่ายกลดาบแปดประตู
“หลังจากดาบทั้งสามระเบิดไป มันก็ต้องการพลังธาตุฝันจานวนมากเพื่อฟื้นฟูพื้นฐานของมันขึ้นมา โชคดี ข้าไม่ได้รวบรวมพลังธาตุฝันได้ยากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าคงจะกระอักเลือดออกมาเป็นแน่…”
ฟางหยวนมองพลังสีเขียวที่แก่นกลางของค่ายกลดาบแปดประตูแล้วก็ส่ายหน้า
ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในทันทีหากใช้พลังนี้ แต่ว่านั่นมีเอาไว้สารองเพื่อให้เขาสามารถบรรลุขั้นที่สี่สวรรค์มายาได้ มันไม่สามารถใช้ออกได้โดยง่าย
นอกเสียจากว่าเขาจะเผชิญกับสถานการณ์เป็นตาย เขาจะไม่ใช้มัน มิเช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียเปล่าประโยชน์แล้ว
ดวงตาของเขากระตุกขณะมองหน้าต่างสถานะของตัวเอง
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 20 (42.0)
พลังลมปราณ: 20 (42.0)
พลังเวทย์: 33 (59.0)
สายวิชา: ผู้ป้องฝัน
การฝึกตน: สวรรค์มายา (ขั้นที่ 3), อู่จง (ชีพจรที่สี่)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 5) (50 ใน 100 ส่วน)], ร่างทองคาร้อยพิษ (ระดับการฝึกฝนที่ 1), [ค่ายกลดาบแปดประตู (ดาบที่ 4) (99 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
“ค่าสถานะของข้าตกลงไปอย่างมากเพราะการบาดเจ็บของข้า แต่ส่วนหนึ่งนั้นฟื้นคืนกลับมาแล้ว ตอนนี้การฟื้นฟูกลับสู่สภาพปกติของข้าก็จะ
เร็วขึ้น นอกจากนี้… การฝึกในหลายวันมานี้และยังความปั่นป่วนในมิติดูเหมือนจะเพิ่มระดับการฝึกวิชาอินทรียักษ์กายาเหล็กของข้า…”
ที่อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นฟูกลับมาได้เร็วเช่นนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะค่าสถานะถาวรของเขาเองก็มีส่วนเช่นกัน
เจตจานงเวทย์ของฟางหยวนขยับเมื่อรู้ว่าค่าสถานะของตนนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนักในตอนนี้และมองไปที่ไข่มุกมังกรน้า
ทรัพยากรที่เขาตกลงกับสมาพันธ์แห่งอาณาจักรก่อนหน้านี้ไม่นับว่าสาคัญอะไรเลย นี่สิคือกาไรที่แท้จริง!
“นอกจากนี้… ถึงแม้ว่าข้าวรวงทองจะปลูกได้ยาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ในกรณีของข้า!”
เมื่อก่อนนี้นั้น ฟางหยวนเริ่มต้นจากการเพาะปลูกพืช ถึงแม้ว่าในต้าเฉียนมันจะไม่ได้มีประโยชน์มากนัก แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเองแล้ว เขาย่อมพัฒนาตนเองไปได้อีกไกล!
“แล้วก็ ยังมีของวิเศษชิ้นนั้นที่เผ่าเจี่ยวอี้สีทองผู้นั้นปกป้องด้วยชีวิต?”
ฟางหยวนมองเข้าไปในไข่มุกมังกรน้า
ถึงแม้ว่าไข่มุกจะมีปราณของมังกรอยู่ภายในนั้น ฟางหยวนก็ยังสัมผัสได้ว่าเขาไม่ได้ควบคุมเหนือไข่มุกนั่นอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้
ที่ด้านในไข่มุกนั้น มังกรน้าสีเขียวทองถูกเบียดอยู่ภายใน ประกายสีเทามัว ๆ นั้นครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไป
“ของวิเศษที่ปราชญ์ฉางหลีทิ้งเอาไว้คือสิ่งใดกันแน่? เคล็ดวิชา? มรดก? หรือว่าแผนที่สมบัติ?”
เมื่อสัมผัสถึงมังกรน้าที่ด้านใน ฟางหยวนก็รู้สึกได้ว่าในนั้นมีทะเลความรู้อันกว้างใหญ่ แต่ว่า เขาไม่สามารถมีส่วนร่วมกับมันได้ในตอนนี้
“ด้วยเจตจานงเวทย์และระดับการฝึกตนของข้าในตอนนี้ ข้าคงจะนับว่าเสียสติแล้วที่คิดว่าจะอ่านความรู้ที่อยู่ในความทรงจาของจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์สูงสุดได้! นอกจากนี้ ข้าอาจจะยังถูกครอบงาและกลายเป็นบ้าไปได้…”
มันไม่ใช่เรื่องเกินไปที่จะให้ค่าและประเมินจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์สูงสุดสูงถึงเพียงนี้
แต่ว่า ทิ้งเนื้อชิ้นงามเอาไว้โดยไม่แตะต้องก็ไม่ใช่วิถีของฟางหยวนเช่นกัน
ฟางหยวนคิด “ต้องขอบคุณที่ปราชญ์ฉางหลีผู้นี้นั้นมีความใกล้เคียงกับมังกรและความรู้ของเขาก็ถูกดึงดูดเข้าสู่ไข่มุกมังกรน้าของข้า ข้าสามารถใช้พลังของไข่มุกมังกรน้าที่ด้านในดูดซับความรู้นั้นทีละเล็กละน้อยทุกวัน ด้วยเกราะปกป้องนี่ ข้าจะเริ่มจากที่ด้านนอกและค่อย ๆ ดาดิ่งลึกเข้าไป… นี่ก็เทียบได้กับการมีอาจารย์คอยสอนสั่งข้าอยู่ทุกวัน…”
เส้นทางของฟางหยวนในฐานะจ้าวแห่งฝันนั้นส่วนใหญ่แล้วคือการศึกษาด้วยตนเอง ด้วยความรู้หายากชุดนี้ เขาย่อมยินดีที่จะสามารถเติมเต็มจุดบกพร่องของเขาได้

สานักสามตะวัน
“ตุบ!”
เด็กหนุ่มที่ดูล่าสันคิ้วหนาสวมชุดสีขาวโยนของมีค่าหลายชิ้นลงพื้นและแค่นเสียง “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเข้าสานักข้าได้ด้วยพื้นเพต่าต้อยเช่นนั้นของเจ้าได้หรือ? ฝันไปเถอะ!”
ที่ตรงข้ามเขา ใบหน้าของเหอชิงเต็มไปด้วยความโกรธ เขาโมโหมากและกัดฟันแน่น
เด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเป็นศิษย์คนโตของเจ้าสานักและยังเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับแยกธาตุ! ตาแหน่งและสถานะของเหอชิงตอนนี้นั้นสู้เขาไม่ได้
นอกจากนี้เหอชิงยังมองเห็นว่ามีประกายของความริษยาแฝงอยู่ลึกในดวงตาของเด็กหนุ่มผู้นี้
“ในฐานะที่เขาเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ เขาย่อมไม่สามารถรับมรดกวิชาของเจ้าสานักสามตะวันได้ ดังนั้น เขาจึงทาตัวเป็นก้างและยังตั้งแง่กับข้าตั้งแต่ข้ามารับการฝึกฝน… น่ารังเกียจนัก!” เหอชิงคิด
ถึงแม้ว่าเหอชิงจะโมโห เขาก็ยังคงเงียบและไม่พูดอะไรสักคา เขาคารวะลงและเดินออกไป
“น่าเสียดาย… หากเขาท้าทายข้าอีกครั้ง ข้าจะทาให้แน่ใจว่าเขาจะลืมวันนี้ไม่ลงไปเลย!”
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นเหอชิงกลับไปแล้ว เขาก็อารมณ์เสีย
ถึงแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ เขาก็ไม่สามารถเป็นจ้าวแห่งฝันได้ และดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับสืบทอดมรดกของอาจารย์ของเขาได้
เมื่อเขาเห็นผู้อื่นที่มีคุณสมบัติที่จะทาได้ผ่านเข้ามา เขาย่อมรู้สึกไม่ยินดีและจงใจขัดขวางเหอชิงไว้
“อย่างไรเสีย… ข้าก็เป็นหลานในสายเลือดของอาจารย์ ต่อให้ข้าทาเกินไปสักครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร… ถึงแม้เหอชิงผู้นี้จะมีความสามารถ แต่พื้นฐานของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่ง นี่ก็ยังเป็นวิธีที่ข้าใช้ทดสอบเขาแทนอาจารย์”
ขณะที่เด็กหนุ่มพึมพากับตัวเองและมองเข้าไปในความมืด เขาก็ใช้เหตุผลนี้อ้างกับตัวเอง
ในห้องเงียบ ๆ ห้องหนึ่งลึกเข้าไปในสานักสามตะวัน
กรอบแสงสว่างปรากฏอยู่เบื้องหน้านักพรตผู้หนึ่งแสดงภาพของสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น
นักพรตผู้นั้นมีแก้มระเรื่อเลือดฝาด เครายาวแบ่งเป็นสามส่วนปลิวไปตามกระแสลม เขาสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายนอกอย่างใกล้ชิด และยังรวมถึงสิ่งที่อยู่ในใจของหลานชายของเขาด้วย
“มรดก… เหอเหอ จ้าวแห่งฝันนั้นมีชีวิตยาวนานและนั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเข้าใจได้! บางที อาจจะเป็นข้าที่ได้ไปร่วมงานศพของเจ้าก็ได้!”
สาหรับจ้าวแห่งฝัน ไม่ว่าเขาจะรับศิษย์หรือว่าหลานชายผู้นี้จะดิ้นรนเพียงใดล้วนไม่ใช่เรื่องสาคัญสาหรับพวกเขา
นี่คือความรู้สึกของพวกเขาที่นั่งอยู่เหนือกว่าและมองลงไปที่การต่อสู้กันของเหล่าผู้ไร้ความสาคัญ
ถึงอย่างนั้น นักพรตผู้นี้ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยยินดีนัก
เพียงเพราะศิษย์คนโตเป็นหลานชายของอาจารย์ แล้วก็สามารถทาเรื่องข้ามเส้นได้งั้นหรือ…

“นายน้อย พวกเราควรจะทาอย่างไรต่อไป?” ที่ปรึกษาผู้หนึ่งถามอย่างเป็นกังวลขณะตระกูลเหอทั้งหมดเดินออกจากสานักสามตะวัน
จ้าวแห่งฝันนั้นลึกลับและยังไม่ยอมพบใครโดยง่าย พวกเขาน้อยนักที่จะติดต่อสื่อสารกับคนธรรมดา สานักสามตะวันนั้นเป็นการติดต่อที่ตระกูลเหอได้รับมาหลังจากพยายามอย่างหนัก
แต่ว่า เพราะการกีดกันจากศิษย์ของสานัก พวกเขากลับไม่สามารถกระทั่งเข้าพบนักพรตของสานักสามตะวันได้ ดังนั้น พวกเขาย่อมไม่สบายใจ
“พวกเราจะยังทาอันใดได้? พวกเราก็ต้องรอโอกาสอื่นมาถึงอย่างไรเล่า! เด็กหนุ่มคนนั้นก็แค่คนเดียว สานักสามตะวันมิใช่ของคนผู้เดียว! เมื่อข้าได้เข้าพบเจ้าสานัก ข้าก็ยังคงมีโอกาส!”
เหอชิงยิ้มอย่างไม่ร่าเริงนัก
เขาไม่คิดที่จะหาอาจารย์คนอื่น
จ้าวแห่งฝันนั้นไม่ได้หาพบได้โดยง่าย และยังไม่รับศิษย์โดยง่าย หากเหอชิงไม่ได้เข้าสานัก ก็ยังคงมีอย่างอื่นที่เขาทาได้ด้วยพรสวรรค์ของเขา
ทั้งกลุ่มกลับคฤหาสน์ในเมืองจินหยางอย่างหดหู่
“นายน้อย!”
เสี่ยวจูรออยู่ที่ประตูและตรงเข้าไปหาพวกเขาอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นพวกเขามาถึง แต่ว่า ตอนที่นางกาลังจะอ้าปากพูด นางก็เห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนทั้งกลุ่มและตัดสินใจไม่พูดอะไร
“เกิดอะไรขึ้น?” เหอชิงสงบท่าทีแล้วถาม
“เกี่ยวกับฟางหยวนเจ้าค่ะ! เขาเข้าพักที่โรงพักแรมชิงอวิ๋นและเขียนจดหมายหาพวกเรา!”
“เป็นเขารึ?!”
ถึงแม้ว่าเหอชิงจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ขยับตัวทันที “ได้ เตรียมของขวัญให้ข้า ข้าจะไปพบเขา! สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว บางทีเขาอาจจะมีความคิดดี ๆ ใด!”
ถึงแม้ว่าเหอชิงจะคิดว่าฟางหยวนนั้นเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์แต่ก็ไม่แน่ใจในแนวทางการฝึกตนของเขานัก เขารู้แค่ว่าฟางหยวนอาจจะสามารถเปิดประตูบางบานให้เขาได้
นอกจากนี้ ฟางหยวนยังฉลาดและมีประสบการณ์ บางทีเขาอาจจะมีความคิดเห็นอื่นใดมอบให้เขาก็ได้?

ในสวนเล็กในโรงพักแรมชิงอวิ๋น
ต้นไม้เขียวชอุ่มยืนต้นอยู่ด้านในสวน
ฟางหยวนสวมชุดผ้าป่านทอ กาลังดื่มน้าชาอย่างอารมณ์ดีอยู่ใต้ต้นไม้
“ท่านช่างดูผ่อนคลายเสียจริง ข้าอิจฉานัก!”
ด้วยกลิ่นหอมของชา ความหงุดหงิด ความกลัว และความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ที่เหอชิงมีอยู่ก่อนหน้านี้กลับสลายไปในทันที
เขากระทั่งรู้สึกนับถือฟางหยวนและเรียกเขาอย่างยกย่อง
“ไม่ถึงเพียงนั้นหรอก…”
ฟางหยวนจิบน้าชาและยิ้ม
ในฐานะจ้าวแห่งฝัน เขาย่อมสนใจกับจิตวิญญาณและการฝึกตนของตนเอง วรรณกรรม สุรา และชา และยังวิธีอื่น ๆ ในการกลั่นความคิดของตนให้บริสุทธิ์
พิธีชงชาสมาธินั้นก็ให้ผลเช่นเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นวิธีการฝึกตนของเขา เทียบกับวิธีของจ้าวแห่งฝันอื่น ๆ นี่เหมาะสมกับเขามากกว่า
“เพียงแต่… คนตรงหน้าข้าผู้นี้เป็นคนธรรมดาผู้หนึ่ง ข้าจะไม่มอบชาชาระจิตให้เขาหรอก…” ฟางหยวนคิดขณะยกถ้วยชาขึ้น
ในอาณาจักรต้าเฉียน ของวิเศษที่สามารถเพิ่มพลังเวทย์ได้นั้นหายากมาก ถึงแม้ว่าฟางหยวนจะไม่เกรงที่จะเปิดเผยออกไป มันก็ยังสามารถนาความยุ่งยากมาหาเขาได้หากจู่ ๆ จะเผยตัวตนออกไป
“แล้วก็… เพียงแค่ชาชาระจิตเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ให้ประโยชน์นัก มันต้องใช้ร่วมกับพิธีชงชาสมาธิเพื่อให้มันแสดงผลได้ดีที่สุด!” ฟางหยวนคิด
ขณะความคิดต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในใจฟางหยวน เขาก็ยิ้มและถาม “เรื่องที่สานักสามตะวันไม่สาเร็จสินะ?”
“อันที่จริง… ถึงแม้ตระกูลของข้าจะถางทางไว้ให้ข้าแล้ว พวกเราก็ยังถูกศิษย์คนโตของเจ้าสานัก หยางจ้านถัง กีดกันอยู่ดี!”
เหอชิงถอนหายใจ ขณะนึกถึงเรื่องโชคร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เข้าไปรบกวนในเรื่องส่วนตัวของเจ้า แต่ในเมื่อพวกเรามีชะตาต้องกัน ข้าก็จะช่วยเจ้าโน้มน้าวเขา!”
ฟางหยวนมีวิธีของตนเองในการจัดการสิ่งต่าง ๆ
ของวิเศษนั้นไม่สามารถมอบให้โดยง่าย แต่ว่า การส่งข้อความถึงผู้อื่นนั้นแตกต่างออกไป มันเพียงต้องการให้เขาทาหน้าหนาขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ มันยังสามารถช่วยเขาคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งฝันในรัฐอวิ๋น
“อ้ะ! ขอบคุณท่านมาก!”
เหอชิงยินดีเป็นอย่างยิ่งและคารวะลงให้ฟางหยวน
“ไม่เป็นไร สวรรค์ลิขิตไว้แล้ว…”
ฟางหยวนหลับตาและร่างจาลองเวทย์ของเขาก็เข้าไปที่เทือกเขาของสมาพันธ์แห่งอาณาจักรในอาณาจักรแห่งฝัน
“ค้นหา… นักพรตสามตะวัน!”
“ติ๊ง! เขาเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ของเรา เขาเป็นผู้ฝึกตนบรรณที่สาม ท่านสามารถติดต่อกับเขาได้!”
ป้ายหินตอบสนองกลับมาในทันที
“นักพรตสามตะวัน?”
“ถูกต้อง เจ้าคือ?”
ใช้แผ่นป้ายประจาตัวของเขา แล้วเจตจานงเวทย์ก็ตอบรับ
“ข้าชื่อฟางหยวน หลังจากได้รับการแนะนาจากผู้อาวุโสนักหลอม ตอนนี้ข้าเป็นอารักษ์แห่งดินแดนมั่งคั่งจินหยาง!”
ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะใช้ชื่อของผู้อาวุโสนักหลอม อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นหนึ่งในประโยชน์ของการเข้าร่วมสมาพันธ์
“โอ้ ก็คือฟางหยวนผู้นั้น พวกเราเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกัน!”
เจตจานงเวทย์แสดงท่าทีชิดเชื้อขึ้นมาทันที
“อ้า แล้วก็ ข้ามีธุระเรื่องหนึ่ง…”
ฟางหยวนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็ตอบกลับมา “ในเมื่อนี่เป็นคาแนะนาจากเพื่อนร่วมสมาพันธ์ เช่นนั้นข้าก็จะพบเขาสักครั้ง!”
“ยอดเยี่ยมทีเดียว!”
ที่ด้านในโรงพักแรม ฟางหยวนโบกมือและบอกเหอชิง “เรียบร้อยแล้ว! หากเจ้าขอเข้าพบเขาอีกครั้ง เจ้าจะได้ตามที่ปรารถนา!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ