Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 345

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 345

345: ประวัติศาสตร์
ตรงหน้าฟางหยวนนั้นเป็นเสือเขี้ยวดาบเป็น ๆ ตัวหนึ่ง
มันตัวใหญ่กว่าเสือทั่วไปและยังมีเขี้ยวที่คมราวกับดาบสองเขี้ยว มันคือราชาแห่งนักล่าอย่างไม่มีคาโต้แย้ง
แต่ว่า เมื่อเสือเขี้ยวดาบมองฟางหยวน มันกลับลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อย
ถึงแม้ว่ามันจะเคยกินมนุษย์มาก่อนหลายคน มันก็ยังสัมผัสได้ถึงอันตรายจากตัวฟางหยวน
“มาได้เวลาพอดี…”
ฟางหยวนกวัดแกว่งดาบสั้นที่ข้างเอวของเขา “ข้ากาลังจะทดสอบร่างใหม่นี่… เฮ้ เจ้าเหมียว! เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ!”
“โฮก! โฮก!”
ถึงแม้ว่ามันจะไม่เข้าใจภาษามนุษย์ ท่าทางของฟางหยวนก็ทาให้มันกระวนกระวาย มันคารามและกระโจนเข้าไป หากเป็นชาวบ้านแข็งแกร่งคนใดก็ล้วนยังต้องหวาดกลัวอย่างที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเช่นนี้
“สุดท้ายแล้วเจ้าก็ยังเป็นแค่สัตว์อยู่ดี!”
ฟางหยวนบิดร่างไปอีกด้านและแทงดาบออกไป
“กิ๊ง!”
ดาบในมือเขานั้นสั้นมาก มันยาวแค่ราว ๆ มีดสั้นสองเล่มเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะคม แต่ดาบก็ยังหักกลางเมื่อสัมผัสกับหนังของเสือเขี้ยวดาบ!
มันหัก…
“เจ้าอาวุธนี่พยายามล้อเล่นกับข้าอยู่หรือไง?”
หลังจากใช้ทหารเวทย์ของเขาอยู่หลายครั้ง ฟางหยวนก็ไม่เคยใช้อาวุธเช่นนี้เลย
หากไม่ใช่เพราะความเร็วและความคล่องแคล่วของเขา ฟางหยวนคงจะถูกเสือเขี้ยวดาบกัดไปแล้ว
ในฐานะจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่ มันคงเสียเปล่าแล้วหากถูกเสือกัดได้
“ตายซะ!”
ดวงตาของเขาเปล่งประกาย ปราณดาบสีแดงในมือระเบิดออกในพริบตา
“หยวน!”
ในเวลานี้เอง หญิงสาวผู้หนึ่งวิ่งเข้ามา เห็นเสือเขี้ยวดาบกาลังจะโจมตีฟางหยวน นางก็ตกใจ นางดึงธนูของตนมายิงลูกศรออกอย่างรวดเร็ว
“ฝุบ!”
ทักษะธนูของเว่ยนั้นค่อนข้างดีเยี่ยม ลูกศรพุ่งตรงเข้าดวงตาข้างขวาของเสือ มันคาราม หันกลับและเตรียมจะหนี
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
ฟางหยวนกระโจนออกไป คว้าลูกศรแล้วกดลงไป ขณะที่เขากดมันลงไป ปราณดาบเข้มข้นก็ระเบิดอยู่ในหัวของเจ้าเสือ เปลี่ยนหัวของมันเป็นเลือดเนื้อกองหนึ่ง
“ตุบ!”
เสือเขี้ยวดาบล้มลงพื้น ฝุ่นตลบขึ้นมา
“หยวน เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”
เว่ยตรงเข้ามาพร้อมสีหน้าเป็นห่วงไม่เหมือนแม่นางที่กล้าหาญและแน่วแน่เมื่อครู่นี้เลย
“ข้าไม่เป็นไร ขอบใจเจ้าด้วย!”
มองจากภายนอก เขาได้รับการช่วยชีวิตจากแม่นางผู้นี้…
ฟางหยวนรู้สึกไม่ยินดีกับเรื่องนี้เล็กน้อยแต่ว่าไม่ได้แสดงออกไป “มาสิ เอาเจ้าเสือเขี้ยวดาบนี่กลับไปด้วยกัน พวกเราจะได้มีเนื้อกินมากขึ้นในคืนนี้!”
“ได้สิ!”
เว่ยตอบอย่างยินดี “ข้าได้ยินจากคนในเผ่าของเราว่ามีเสือเขี้ยวดาบร้ายกาจตัวหนึ่งดักซุ่มอยู่แถว ๆ นี้ ข้าอยากฆ่ามันมาตลอดเลย!”
‘อืม… นี่เป็นช่วงเวลาอันเก่าแก่และผู้คนก็ยังไม่ได้มองผู้หญิงเป็นคนดูแลบ้านและมารดา พวกนางสามารถเป็นนักรบเก่งกาจได้เช่นกัน หรืออาจจะเป็นหัวหน้าเผ่าที่มีทหารนับพันอยู่ภายใต้คาสั่ง… เพียงพอที่จะทาให้ผู้ชายอย่างพวกเราอับอายได้!’

สามวันให้หลัง ฟางหยวนนานักรบอีกสองคนไปรับผู้ส่งสารจากเผ่าเซี่ย
“พวกเรายินดีต้อนรับผู้มาเยือนจากแดนไกล ข้าเป็นนักรบของเผ่านามหยวน!”
ฟางหยวนประเมินกลุ่มคนที่เพิ่งมาถึง พวกเขาล้วนมีรูปร่างสูงใหญ่และยังถือหอกเอาไว้ในมือ สะพายธนูไว้บนหลัง เสื้อผ้ายังตัดเย็บอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะด้านใดพวกเขาก็แข็งแกร่งและเหนือกว่าคนของชางหยาง
“อืม ข้านามว่าฉี เจ้าสามารถเรียกข้าว่าเซี่ยฉี!”
ผู้ส่งสารตรงหน้านั้นดูอายุราวยี่สิบกว่าปี ผิวขาวมาก และยังมีหยกชิ้นหนึ่งห้อยอยู่ที่เอว เมื่อเห็นฟางหยวน เขาก็ยิ้มและขยิบตาขณะส่งข้อความมา ‘เจ้าเป็นคนใหม่จากสมาพันธ์ใช่หรือไม่?’
“เอ๋?”
ฟางหยวนมองคนที่อยู่หน้ากลุ่มและใช้วิธีการเดียวกันส่งข้อความตอบคนผู้นั้น “ท่านคือ…”
“ไม่ต้องสงสัยหรอก ข้ารับคาสั่งมา— ที่นี่น่ะดีงามและยังสงบสุข!”
“ข้าคือฟางหยวน! ข้ามาที่นี่หลังจากรับภารกิจผู้ช่วย!”
หลังจากยืนยันตัวตนของพวกเขาแล้ว ฟางหยวนก็แนะนาตัวเอง
สมาพันธ์ไม่ได้อนุญาตให้จ้าวแห่งฝันเข้ามาสารวจอาณาจักรเช่นนี้โดยอิสระ จ้าวแห่งฝันต้องใช้คะแนนภารกิจซื้อตาแหน่งของอาณาจักรนี้หรือรับภารกิจเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้ามาที่นี่
ฟางหยวนนั้นยังต้องใช้คะแนนภารกิจของตัวเองไปกับการฝึกร่างทองคาร้อยพิษ ดังนั้นจึงต้องประหยัดคะแนนเอาไว้ ดังนั้น เขาจึงเลือกเข้ามาที่อาณาจักรนี้ด้วยการรับภารกิจ
“เป็นเจ้านั่นเอง จ้าวแห่งฝันที่เพิ่งบรรลุขั้นที่สี่สวรรค์มายา! เจ้าคือผู้มีพรสวรรค์ของสมาพันธ์ของเรา!”
ดวงตาของเซี่ยฉีเป็นประกาย “เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข้ามีภาระงานต้องทามากมาย ตอนนี้เจ้ามาที่นี่แล้ว เจ้าก็สามารถแบ่งงานกับข้า และทุกคนก็จะได้สบายขึ้น!”
“เอ๋? ไม่ใช่ว่ามีข่าวลือว่าหลังจากเผ่าเซี่ยรุ่งเรืองขึ้น โลกนี้ก็พัฒนาไปอย่างสงบสุขงั้นหรือ? เหตุใดท่านถึงวุ่นวายจนถึงกับต้องร้องขอผู้ช่วย?”
ฟางหยวนถามอย่างสงสัย
“อืม…อันที่จริง ข้าไม่ควรพูดเรื่องนี้ออกไป แต่ว่าในเมื่อเจ้าก็เป็นหนึ่งในพวกเรา ข้าเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังได้!”
เซี่ยฉีพูดต่อ “ครั้งสุดท้าย ตอนที่ปราชญ์ของสมาพันธ์ของเราเข้ามาที่อาณาจักรนี้ เขาสังหารอู่จากเผ่าจิ่วลี่ เริ่มต้นอารยธรรม ปกป้องมนุษย์เต๋าและได้รับกรรม เพราะอย่างนี้ จึงมีตานานว่าเขาสามารถบินขึ้นสู่สรวงสวรรค์ แต่ว่า เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกลับมาเกิดเป็นเซี่ย และเข้าสู่อาณาจักรนี้อีกครั้ง เป็นเหตุให้ตาแหน่งของโลกนี้เล็ดรอดออกไป!”
“ตาแหน่งเล็ดรอดออกไป? ไปที่สานักใดรึ?”
ฟางหยวนอึ้งไป เขารู้ว่าถ้ามีผู้อื่นรู้ตาแหน่งนี้ พวกเขาย่อมสามารถข้ามฝันเข้าสู่อาณาจักรนี้ได้เช่นกัน นี่นับเป็นการคุกคาม
“เป็นต้าเฉียน! องครักษ์มังกรซ่อน!”
เซี่ยฉีพูดต่อด้วยน้าเสียงเยือกเย็น “มีคนทรยศอยู่ในสมาพันธ์ ถึงแม้คนทรยศผู้นั้นจะได้รับการลงทัณฑ์ตามสมควรแล้ว แต่ปัญหาที่เขาสร้างขึ้นก็ใหญ่โตมากพอ เผ่าดั้งเดิมของปราชญ์ถูกทาลาย องครักษ์มังกรซ่อนนั้นเปลี่ยนไปเป็นปิศาจวารี และไปกระตุ้นให้เกิดภัยพิบัติไปทั่วอาณาจักรนี้ ทาให้เกิดน้าท่วมและสังหารคนมากมาย! ในพวกเขามีสองคนที่โดดเด่น และท่านน่าจะได้ยินชื่อพวกเขามาบ้าง”
“ท่านกาลังพูดถึง…”
ฟางหยวนรีบตรวจดูความทรงจาของหยวนผ่าน ๆ จนพบตานานบางอย่างและเผยสีหน้างุนงงออกมา “อู่จือฉี? กับ เซียงลิ่ว?”
อู่จือฉีนั้นมีดวงตาแห่งไฟและรูปลักษณ์ของวานร เขามีพลังอย่างยิ่งและยังควบคุมหลายธาตุได้!
เซียงลิ่วนั้นเป็นงูเก้าหัว เขากินมนุษย์ไปมากมายนับไม่ถ้วนและทุกที่ที่เขาผ่านไปล้วนถูกกวาดล้างเรียบ เลือดของเขานั้นเป็นพิษอย่างยิ่งและยังงอกหัวที่บาดเจ็บขึ้นมาใหม่ได้!
นี่เป็นปิศาจร้ายกาจสองตนในตานานของอาณาจักรนี้ ถึงแม้ว่าเซี่ยจะหนีมาได้หลายครั้ง เขาก็ยังถูกปิศาจทั้งสองจับได้
“สองตนนั้นแหละ!”
เซี่ยฉียิ้ม “หากพวกมันเป็นปิศาจทั่วไป ท่านคิดหรือว่าพวกมันจะหยุดปราชญ์ได้? ปิศาจทั้งสองตนนี้เป็นระดับหัวหน้าในกลุ่มองครักษ์มังกรซ่อน พวกเขาตั้งใจที่จะขัดขวางแผนการของหัวหน้าสมาพันธ์ของเราดังนั้นจึงเข้ามาในอาณาจักรนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกฆ่าไป พวกเขาก็ได้รับผลสะท้อนเพียงเล็กน้อย และยังสามารถกลับเข้ามาในอาณาจักรนี้อีกครั้งเมื่อฟื้นฟูตัวเองแล้วและฟื้นฟูระดับการฝึกตนของตน นี่จึงเป็นที่มาของตานานที่บอกว่าอู่จือฉีนั้นฆ่าไม่ตายและเซียงลิ่วสามารถฟื้นคืนชีพได้…”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
ได้ยินดังนี้ฟางหยวนก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่เป็นประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนี้ น่าสนใจที่ว่าสัมปชัญญะของอาณาจักรนั้นกลับไม่ทาอะไรและยังปล่อยให้องครักษ์มังกรซ่อนซึ่งเป็นผู้รุกรานก่อความวุ่นวายไปทั่วอาณาจักร
“เดี๋ยวก่อนนะ! ระดับหัวหน้าขององครักษ์มังกรซ่อน? นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวหัวหน้าขององครักษ์มังกรซ่อนอยู่ที่นี่เองหรอกหรือ?”
ฟางหยวนคาดเดาไปอีกก้าวหนึ่ง “หรือว่าภารกิจของพวกเราเกี่ยวข้องกับพวกเขา?”
“ไม่!”
เซี่ยฉีปฏิเสธ “เหตุผลที่องครักษ์มังกรซ่อนมาที่นี่ก็เพราะการที่หัวหน้าสมาพันธ์ของเรานั้นได้ผลประโยชน์จากอาณาจักรนี้อย่างงาม ข้าได้ยินมาว่ากระทั่งหัวหน้าขององครักษ์มังกรซ่อนยังเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ว่า สุดท้ายแล้ว ก็เป็นหัวหน้าสมาพันธ์ของเราที่เหนือกว่า! ตั้งแต่นั้น กองกาลังของราชสานักก็ออกไปจากอาณาจักรนี้ ต่อให้พวกเขายังแอบซ่อนตัวอยู่ พวกเขาก็ต้องปิดเป็นความลับและเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ”
อย่างไรเสีย รางวัลใหญ่ที่สุดจากอาณาจักรนี้นั้นก็ถูกฉวยเอาไปแล้ว ในเมื่อไม่มีรางวัลตอบแทนอื่นแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้ราชวงศ์ต้องเอากาลังคงมาอยู่ที่นี่ต่อกรกับสมาพันธ์แห่งอาณาจักร
“แต่ว่า สถานการณ์ตอนนี้นั้นต่างไป!”
เซี่ยฉีพูดต่อ สีหน้าเคร่งขรึม “ห้าสานักยิ่งใหญ่ตกลงร่วมมือกันกาจัดสานักอื่น ๆ ที่ภักดีต่อราชวงศ์ เจ้าคิดว่าราชสานักจะเขลาพอที่จะไม่ตอบโต้หรือ?”
“พวกเขาลงมือโต้ตอบด้วยการรวบรวมอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ รวมทั้งโจมตีพวกเราในอาณาจักรอื่น ๆ ด้วย ไม่ต้องห่วง ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่เรามีอยู่ตอนนี้คือจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดผู้หนึ่ง ดังนั้น ผู้
อาวุโสของพวกเราย่อมเป็นผู้ที่รับมือกับเขา พวกเราก็แค่คอยให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขาเท่านั้น!”
ในเมื่อพวกเขาข้ามฝันสู่อาณาจักรอื่น ต่อให้ตายลง พวกเขาก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ดังนั้น เซี่ยฉีจึงดูค่อนข้างผ่อนคลาย
‘ความคิดของเขาเรื่องนี้ง่ายเกินไป หากพวกเราต้องรับมือกับศัตรูแข็งแกร่งหรือว่าตายตกลงหลายครั้งเกินไป ร่างจริงของพวกเราในต้าเฉียนย่อมต้องได้รับผลกระทบเช่นกัน…’
เมื่อคิดดูแล้ว ฟางหยวนก็ตอบ “พวกท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลืออย่างไร?”
“ง่ายมาก ข้านาคาสั่งของซี ผู้นาคนใหม่ของเซี่ย พวกเราจะเติมเต็มระบบน้าของทั้งเก้าแคว้น และรวบรวมความช่วยเหลือจากทุกเผ่า จากนั้น ท่านก็สามารถมาช่วยเหลือได้อย่างเปิดเผย!”
“เติมระบบน้าในเก้าแคว้น?”
ฟางหยวนกลอกตา “นี่หมายความว่า… องครักษ์มังกรซ่อนนั้นยังอยู่ในร่างของปิศาจวารี? ช่างไร้ความคิดสร้างสรรค์!”
“ที่สาคัญก็คือแผนการของพวกเขายังใช้การได้ นอกจากนี้… อาณาจักรนี้ยังคงเป็นของพวกเราและยังคงเป็นเช่นนั้นเพราะปราชญ์! ดังนั้น หากองครักษ์มังกรซ่อนเข้าครอบครองร่างเพื่อเข้าสู่อาณาจักรนี้ มันก็ยากยิ่งที่พวกเขาจะเข้าครอบครองร่างมนุษย์ พวกเขาทาเพียงเข้าร่างสัตว์เท่านั้น!”
เซี่ยฉีอธิบายอย่างภาคภูมิใจ ราวกับพึงพอใจกับการที่พวกนั้นต้องใช้ร่างของสัตว์
‘นี่ยังหมายความว่า… ปราชญ์ได้เปลี่ยนแปลงกฎแห่งอาณาจักรนี้ นอกจากจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักร จ้าวแห่งฝันอื่น ๆ ที่เข้ามาที่นี่ล้วนถูกสวรรค์ตรวจพบ? และพวกเขาก็ต้องรับภัยพิบัติหากโจมตีมนุษย์?’
ฟางหยวนอึ้งไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอานาจราวเทพเจ้าของปราชญ์
ทันทีที่ปราชญ์กาหนดให้ที่นี่เป็นพื้นที่ของเขา หากใครต้องการเข้ามา ย่อมต้องทาตัวเช่นสัตว์!
‘แต่ว่า… อาณาจักรนี้กว้างใหญ่เพียงใดกัน? นี่ไม่ใช่แค่ถ้ามิติพื้น ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วปราชญ์คงจะสามารถปฏิเสธไม่ให้จ้าวแห่งฝันชั่วร้ายอื่น ๆ เข้ามาที่นี่ได้โดยตรงไปแล้ว!’
ฟางหยวนคิดกับตัวเองเงียบ ๆ
พลังของจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายานั้นไม่น่ากังขา แต่ว่า มันก็ยังคงเป็นความฝันที่จะสามารถควบคุมทั้งอาณาจักรใหญ่โตได้!
ตอนนี้ พวกเขาเพียงแค่ใช้พลังชะตาของมนุษย์และเก้าหม้อหลอมโอสถเพื่อให้ได้เปรียบ บีบให้องครักษ์มังกรซ่อนต้องหลบออกไปจากเขตแดน
‘องครักษ์มังกรซ่อนเหล่านี้ชอบรูปลักษณ์ของปิศาจ ก่อภาวะน้าท่วมโลกและกลืนกินมนุษย์ นี่เป็นเพราะมนุษย์ในอาณาจักรนี้นั้นนับเป็นอิทธิพลภายนอกของสมาพันธ์แห่งอาณาจักร และราชสานักย่อมต้องการทาให้สมาพันธ์อ่อนแอลง!’
ขณะที่ทั้งคู่พูดคุยกัน ก็มาถึงที่เผ่าชางหยาง
“ข้าคือหัวหน้าเผ่า นามว่าหยาง! ยินดีต้อนรับผู้ส่งสารจากแดนไกล!”
หยางนั้นรออยู่ที่หน้าหมู่บ้านนานแล้วและสั่งให้เตรียมงานฉลอง “เชิญท่านพักผ่อนให้สบาย เรื่องอื่นค่อยคุยกันพรุ่งนี้!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ