347: ภูเขาหลังเต่า
แม่น้าฮวยนั้นเป็นหนึ่งในแม่น้าหลักในแคว้นนี้ มันเหยียดยาวหลายพันลี้ข้ามดินแดนและยังอยู่ไม่ไกลจากดินแดนของเผ่าหยาง
‘พวกเราเจอร่างสิงสู่ของหัวหน้าองครักษ์มังกรซ่อน มันซ่อนอยู่ที่ภูเขาหลังเต่าในแม่น้าฮวย!’
ขณะเดินทาง เซี่ยฉีใช้น้าเสียงกังขาส่งข้อความให้ฟางหยวน “ภายในพื้นที่หนึ่งร้อยลี้จากที่นี่ น้าหลากทั้งหมดนี้อาจจะเกิดจากสัมปชัญญะของอู่จือฉี… นี่ยืนยันว่าปิศาจกาลังจะเป็นอิสระ พลังของสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดช่างเหลือเชื่อ!”
การเป็นผู้ที่ถูกมนุษย์เต๋าต่อต้าน พวกองครักษ์มังกรซ่อนย่อมต้องเผชิญกับความยากลาบากในตอนเข้ามาที่อาณาจักรนี้ พวกเขาต้องค่อย ๆ สะสมพลังธาตุจากฟ้าและดินอย่างช้า ๆ และยังต้องคอยระวังไม่ให้สมาพันธ์แห่งอาณาจักรหาตัวเจอได้
จ้าวแห่งฝันทั่วไปย่อมไม่สามารถสะสมพลังจากอาณาจักรได้มากนักต่อให้ผ่านไปหลายปี แต่นี่ต่างออกไปกับร่างจาลองของจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ด!
‘อู่จือฉีนั้นเป็นปิศาจอันทรงพลังที่ผนึกตัวเองเอาไว้ ดังนั้น เขาก็คงใช้พลังเล็กน้อยรักษาร่างกายเอาไว้และพลังปิศาจที่เขาสามารถสะสมได้ย่อมสามารถรองรับการมาถึงของจ้าวแห่งฝันสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดและสามารถใช้พลังออกได้ในทันที!’
ค่าสถานะของพวกเขานั้นจะลดลงกึ่งหนึ่งทันทีที่เข้าสู่อาณาจักร และนี่คือความกรุณาของสมาพันธ์แห่งอาณาจักร หากเป็นราชสานัก พวกเขาคงโชคดีแล้วหากยังสามารถรักษาค่าสถานะเอาไว้ได้สักเสี้ยวหนึ่ง
จ้าวแห่งฝันอื่น ๆ เหล่านี้ไม่ใช่ฟางหยวนและยังไม่ได้มีความสามารถพิเศษที่จะใช้ค่าสถานะคงที่ฟื้นฟูระดับการฝึกตนของตน พวกเขาต้องฝึกตนอีกหลายปีก่อนที่จะฟื้นคืนทุกอย่างได้
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย “เซี่ยฉี… ท่านไม่กลัวหรือ?”
“ไม่ต้องห่วง… สมาพันธ์ยืนยันแล้วว่ามีเพียงจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดจากองครักษ์มังกรซ่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น! ด้วยราชาเซี่ยปกครองเหนือดินแดนนี้ มันย่อมไม่ปรากฏตัวที่นี่ได้”
เซี่ยฉีตอบอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก “มันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมาที่นี่เพื่อเข้าครอบครองร่างของอู่จือฉี ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือจ้าวแห่งฝันผู้อื่นใช้ประโยชน์จากมัน หากเป็นเช่นนั้น นี่ย่อมหมายความว่าจ้าวแห่งฝันที่พวกเราจะต้องรับมือด้วยนั้นอยู่ที่ราว ๆ ระดับสวรรค์มายาขั้นที่ห้า นี่ย่อมไม่ใช่การประมืออันง่ายดาย!”
เขาฟังมั่นใจและฟางหยวนก็สามารถเข้าใจได้ว่าทาไม
อย่างไรเสีย องครักษ์มังกรซ่อนก็ต้องรับมือกับทั้งห้าสานักยิ่งใหญ่ พวกมันเรียกว่าโชคดีแล้วที่ยังคงสภาพตอนนี้เอาไว้ได้
สมาพันธ์แห่งอาณาจักรนั้นส่งกาลังเสริมเข้ามาอย่างต่อเนื่องขณะที่องครักษ์มังกรซ่อนนั้นมีเพียงจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดเพียงผู้เดียว ดังนั้น มันจึงเป็นการฉลาดกว่าที่จะหาสถานที่เก็บตัวและฝึกวิชา
ถึงแม้ว่าการเข้าสิงร่างนั้นจะได้รับการปิดบังเอาไว้เป็นอย่างดี มันก็แค่ขึ้นกับเวลาว่าจะถูกหาเจอเมื่อใด แต่ว่า ปราชญ์นั้นยินดีที่จะเสี่ยงให้มากขึ้นเพื่อเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าโอกาสในการระบุตาแหน่งของร่างที่ถูกครอบครองนั้นจะน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง หากเขาทาได้ อย่างนั้นร่างนั้นก็จะถูกทาลายลงโดยไม่ต้องสงสัย ดังนั้น หัวหน้าขององครักษ์มังกรซ่อนจึงไม่ต้องการเสี่ยงเช่นนั้น!
“หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น…”
ฟางหยวนถอนหายใจ เขามองไปที่กลุ่มคนเบื้องหน้าแล้วก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก ‘ข้ารู้สึกเหมือน… เรื่องราวจะไม่ง่ายอย่างที่เห็น…’
…
บนเขาหลังเต่า
ภูเขานั้นอยู่บนหนึ่งในแม่น้าที่แตกแขนงออกจากแม่น้าฮวย แม่น้าสายนี้นั้นมีลักษณ์เหมือนเต่ายักษ์หมอบตัวอยู่ แม่น้าทั้งสายดูสงบ
สายน้าจะช้าลงเมื่อมันไหลมาถึงที่จุดนี้ ขณะที่ร่องน้าขยายกว้างออก สารอาหารสะสมมาตามตลิ่ง เกิดเป็นผืนดินอุดมสมบูรณ์ผืนใหญ่ติดกับลาน้า
เผ่าฉางจ้าง โต่วหลู ลี่โหลว… มากกว่าสิบเผ่าตั้งรกรากที่นี่และสะสมพลังและความแข็งแกร่ง
“อืม… ข้าได้รับคาสั่งให้สารวจเก้าแคว้นและค้นหาองครักษ์มังกรซ่อนผู้นั้น ข้าผ่านที่นี่ถึงสามครั้งและมักจะรู้สึกถึงร่องรอยความเย้ายวนสายหนึ่ง…”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เซี่ยฉีก็ถอนหายใจ “อย่างไรเสีย อู่จือฉีก็เป็นปิศาจวารีและเขาผ่านไปที่ใดก็ล้วนเกิดน้าท่วม ใครจะไปคิดว่าเขาจะผนึกตัวเองเอาไว้ในสถานที่ที่รุ่งเรืองและคนพลุกพล่านเช่นนี้? เขายังติดสินบนผู้คนในเผ่าและรับการปกป้องจากพลังของเผ่าพวกนั้น! ข้าจะขอเข้าพบหัวหน้าเผ่านี่ทีหลัง หากท่านเจอพวกเขาคนใดก็ให้สังหารเสียไม่ต้องยั้งมือไว้! อ้อ ใช่ ท่านฟื้นฟูระดับการฝึกตนได้เท่าใดแล้ว? ได้สักกึ่งหนึ่งของที่ท่านเคยมีหรือไม่?”
กึ่งหนึ่งของพลังของจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่นั้นเกินจะพอที่จะทาลายเผ่าสักเผ่า
“ไม่ต้องห่วง!”
ฟางหยวนเหลือบมองหน้าต่างสถานะของตน
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 48.0
พลังลมปราณ: 48.0
พลังเวทย์: 60.0
สายวิชา: ผู้ป้องฝัน
การฝึกตน: สวรรค์มายา (ขั้นที่ 4), อู่จง (ชีพจรที่ 5)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 6)(1 ใน 100 ส่วน)], ร่างทองคาร้อยพิษ (ระดับที่ 1), [ค่ายกลดาบแปดประตู (ดาบที่ 5)(1 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขาจะสามารถฟื้นฟูระดับการฝึกตนทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน!
เนื่องจากความแตกต่างของอาณาจักร กระทั่งจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรยังต้องเผชิญกับการลดลงกว่าครึ่งของระดับการฝึกตนปกติของตน พวกเขายังเพิ่มระดับการฝึกตนได้มากที่สุดเพียงแปดส่วนของที่พวกเขาเคยมี
แต่การฟื้นฟูให้ถึงแปดส่วนนั้นก็ต้องใช้เวลาฝึกตนเป็นระยะเวลานาน
แต่ว่า นี่ไม่ใช่ความกังวลที่ฟางหยวนต้องมี ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เขาก็สามารถฟื้นฟูระดับการฝึกตนเดิมของตนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นความสามารถอันแท้จริงของเขาและยังได้เปรียบเหนือผู้อื่นเมื่อข้ามฝันสู่อาณาจักรอื่น ๆ
“ดี เมื่อพวกเราสองคนร่วมมือกัน ต่อให้พวกเขามีกองกาลังกว่าหมื่นต่อต้านพวกเรา พวกเราก็ยังเอาชนะได้!”
เซี่ยฉีดูโล่งอก เขาเดินไปที่เผ่าตรงหน้า ให้คนของเขาเข้าไปแจ้งคนเผ่านั้น “ข้าคือผู้ส่งสารจากเซี่ย และข้าก็มาเพื่อจัดการกับเรื่องแม่น้าตามบัญชาของราชาซี!”
ด้วยข้อมูลนี้ พวกเขาจึงเข้าไปถึงกลางเผ่าได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือเผ่าฉางจ้าง มีคนราวหนึ่งหมื่นและหัวหน้านั้นก็รู้จักในนามจ้าง เมื่อได้ยินข่าวนี้ จ้างก็ลังเลไป
“บิดา…”
ด้านข้างเขา ชายหนุ่มผู้หนึ่งพยายามพูดแต่ก็หยุดกลางคัน สุดท้ายแล้วเขาก็ก้าวออกมา “ประเทศเซี่ยนั้นเป็นผู้นาของพวกเขาอย่างถูกต้องที่พวกเราทั้งหมดเห็นด้วย! หลายปีก่อนพวกเรายอมรับเซี่ยในฐานะราชา ในเมื่อผู้ส่งสารของเขามาถึงที่นี่แล้ว พวกเราก็ควรต้อนรับ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้อาวุโสสองสามคนก็มองสบตากันและมีสีหน้าประหลาด
“ถูกต้อง!”
จ้างเดินออกมาอีกสองสามก้าว ท่าทีตัดสินใจแล้ว “เจ้าจะเป็นตัวแทนข้าต้อนรับพวกเขา บอกคนในเผ่าให้เตรียมสุราดีที่สุดและให้หญิงสาวในเผ่ามาต้อนรับผู้มาเยือนให้เหมาะสม!”
“หัวหน้าเผ่า!”
ขณะที่ชายหนุ่มเดินออกไปอย่างยินดี นักบวชรูปร่างผอมในชุดคลุมสีดาก็พูดขึ้น “พวกเราควรจะทาอย่างไร?”
ถึงแม้ว่าคนในเผ่าจะไม่รู้เรื่อง แต่ระดับสูงเหล่านี้ล้วนตระหนักชัดแจ้งว่าสถานะของเผ่าฉางจ้างบนเขาหลังเต่านี้นั้นเป็นเพราะการปกป้องที่พวกเขาได้รับจากปิศาจทรงพลังผู้นั้น
“รอฟังว่าพวกเขาจะว่าอย่างไรก่อน พวกเขาอาจจะยังไม่รู้เรื่องนั้นก็ได้!”
เกี่ยวกับชะตากรรมของเผ่าแล้ว จ้างก็ลังเล “บอกพวกนักรบของเผ่าเราให้เตรียมตัว! แล้วก็… รีบแจ้งหัวหน้าเผ่าโต่วหลูและลี่โหลว! ถึงแม้ว่าพวกเขาจะขัดแย้งกับพวกเราอยู่ตลอด แต่พวกเราก็ต้องร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเวลาเช่นนี้แล้ว”
“จัดการกับแม่น้างั้นหรือ? เหอเหอ…”
นักบวชและผู้อาวุโสพยักหน้าและหัวเราะขา
รอบ ๆ ภูเขาหลังเต่านั้นไม่มีน้าท่วม ดังนั้นจะมาจัดการอะไรที่นี่กัน? การมาเยือนของผู้ส่งสารจากเซี่ยนั้นย่อมต้องมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงอื่น
พวกเขานั้นฉากหน้าเป็นพันธมิตร แต่ก็เพียงแค่ในนามเท่านั้น
หากผู้ส่งสารนาข่าวอันชักนาให้เกิดความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์มา เช่นนั้นก็สังหารเขาเสีย! พวกเขาจะสู้หากตกลงกันไม่ได้!
ในช่วงนี้ มีสัญญาณว่าเทพวารีกาลังจะกลับมา ตราบใดที่พวกเขาสามารถรอให้เทพวารีตื่นขึ้นได้ พวกเขาย่อมได้รับการปกป้องและไม่จาเป็นต้องหวาดกลัวสิ่งใดอีก!
…
“ยินดีต้อนรับ ผู้ส่งสารจากเซี่ย! ข้าคือฟาจากเผ่าฉางจ้าง!”
ที่ด้านนอกเผ่า ฟางหยวนและพวกรออยู่ครู่หนึ่งกว่าจะเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งออกมาเชื้อเชิญพวกเขา “บิดาของข้า จ้าง เป็นหัวหน้าเผ่านี้ เชิญพวกท่านเข้าไปข้างในก่อน!”
“ขอบคุณท่าน!”
เซี่ยฉีพยักหน้านิ่ง ๆ ขณะตามฟาเข้าไปในเผ่า
ระหว่างทาง พวกเขาถูกมองด้วยสายตาใคร่รู้จากในกระท่อมฟางที่อยู่รอบ ๆ น่าจะเป็นพวกผู้หญิงและเด็ก ๆ ในเผ่า
เห็นอย่างนี้แล้วฟางหยวนก็คิด ‘อันที่จริงแล้ว เผ่าที่อยู่บนที่ราบเขาหลังเต่านั้นก็ไม่สามารถเทียบได้กับเมืองเหมือนเผ่าเซี่ย หัวหน้าเผ่าจ้างนั้นควบคุมเหนือคนของเขา มีกฎและกองทัพของตนเอง และถึงแม้ว่าเขาจะรับรู้ว่าเซี่ยนั้นเป็นผู้นาพันธมิตร แต่เขาจะต่อต้านเซี่ยเมื่อใดก็ได้เช่นกัน!’
หากเขาลงมือต่อต้านเซี่ย เผ่าฉางจ้างย่อมสามารถกาจัดกองกาลังหนึ่งร้อยคนได้อย่างง่ายดาย— หากไม่คิดถึงจ้าวแห่งฝันทั้งสองคนในกลุ่มนั้น
พระอาทิตย์เริ่มตก และที่กลางลานกว้างมีกองไฟกองใหญ่
แม่นางน้อยหลายคนออกมารับรองคนทั้งกลุ่ม ยกจานเนื้อย่างและผลไม้มาให้ผู้มาเยือนทั้งหลายได้รับประทาน
“ยินดีต้อนรับผู้ส่งสารจากเผ่าเซี่ยอันยิ่งใหญ่!”
ตรงหน้าพวกเขานั้นเป็นชายวัยกลางคนร่างผอมสูง เขากางแขนออกและพูดต่อ “ข้าคือหัวหน้าเผ่าฉางจ้าง นามว่าจ้าง ไม่ทราบว่าราชาแห่งเซี่ยมีอันใดให้เรารับใช้?”
“ข้ามาตามคาสั่งของผู้นาพันธมิตร ราชาซี เพื่อนาข่าวชิ้นหนึ่งมาให้ท่าน!”
เซี่ยฉียกหยกชิ้นหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะของตนและมีท่าทางเคร่งขรึม “ตามการทานายของนักบวชของพวกเรา ปิศาจทรงพลังที่ครั้งหนึ่งเคยทาให้เกิดภัยพิบัติเก้าแคว้นและยังทาลายระบบน้า— อู่จือฉี นั้นซ่อนตัวอยู่ที่นี่ พวกเราต้องการค้นหาตัวเขาและสังหารทิ้งเสีย!”
ฟางหยวนสัมผัสได้เลยว่าพวกระดับสูงของเผ่าล้วนแต่ตกใจเมื่อได้ยินอย่างนี้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเก็บอารมณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังความรู้สึกแท้จริงต่อหน้าจ้าวแห่งฝันทั้งสองคนนี้
“งั้น ก็คืออู่จือฉี…”
จ้างตัวแข็งไปก่อนที่จะยิ้มอ่อนออกมา “มีภูเขาหลังเต่าทาให้สายน้าสงบ พวกเราไม่ได้เจอกับเหตุการณ์น้าท่วมมากว่าหนึ่งร้อยปี… ข้อมูลชิ้น
นี้นั้นยากที่จะเชื่อ แต่ว่า ในเมื่อพวกท่านพูดเช่นนี้ พวกเราก็ย่อมต้องให้การสนับสนุน คืนนี้อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเลย มา… ดื่มสุรากันก่อน!”
เขาปรบมือ แล้วหญิงงามหลายคนก็เข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้ พวกนางดึงฟางหยวนไปยังที่นั่ง จับมือของเขาเอาไว้ ยิ้มให้ขณะรินสุราให้เขา
“เอ๋?”
ฟางหยวนชิมสุรา “สุรารสไม่จัดนักและคล้ายจะเป็นสุราผลไม้… พวกท่านมีสุราเช่นนี้ได้อย่างไร? ดัดแปลงมาจากสุราของเผ่าเซี่ยงั้นหรือ?”
อย่างไรเสีย นี่ก็ไม่ใช่ประวัติศาสตร์จริงก่อนราชวงศ์ฉิน เมื่อสมาพันธ์แห่งอาณาจักรนาจ้าวแห่งฝันมากมายเข้ามาในอาณาจักรนี้ มันก็ไม่น่าประหลาดใจที่เรื่องราวต่าง ๆ ดูจะไม่ปกติ
ร่างที่ฟางหยวนเข้ามาครอบครองนั้นสูงใหญ่และยังมีรูปลักษณ์ใจกว้างมีเมตตา ฟางหยวนนั้นดูเป็นบัณฑิตผู้ศึกษาเล่าเรียนที่สุดแล้วในกลุ่มพวกเขา
เพียงครู่เดียว แม่นางหลายคนรอบ ๆ ตัวฟางหยวนก็เริ่มมีใบหน้าระเรื่ออย่างเขินอายและไม่ยอมผละไปจากข้างกายเขา
กระทั่งในยุคโบราณเช่นนี้ การมีตัณหาก็นับเป็นบาปแล้วเช่นกัน
“ฮึ่ม!”
ฟางหยวนนั้นไม่ได้สนใจแม่นางเหล่านี้ แต่ว่า ในไม่ช้า เขาก็ได้ยินเสียงดังจากด้านหลังและรู้สึกเย็นวาบไปตามสันหลัง
เขาหันกลับไปมองพร้อมรอยยิ้มเฝื่อนและเห็นเว่ยที่กาลังโมโห นางดูราวกับนักล่าที่กาลังโกรธเกรี้ยวเมื่อเหยื่อของนางถูกฉกไปต่อหน้าต่อตา และยังแผ่รังสีอันตรายออกมา