Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 350

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 350

350: โลก
“หัวหน้าเผ่าทั้งสามล้วนพ่ายแพ้แล้ว? พวกสวะ!”
ที่ไม่ไกลจากเผ่าฉางจ้าง จิ้งจอกสามหางซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ มันจับตามองเหตุการณ์คลี่คลายด้วยดวงตาสีฟ้าที่หรี่แคบ
“ต้องมีจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรซ่อนตัวอยู่ในหมู่ผู้ส่งสารของเซี่ยเป็นแน่! เมื่อพวกเขารวบรวมเผ่าใกล้ ๆ และส่งคนนับหมื่นไปค้นหาทั่วเทือกเขาหลังเต่า ผนึกของอู่จือฉีนั้นย่อมถูกพบ! ไม่มีทาง! ข้าต้องลงมือแล้ว!”
ขณะที่จิ้งจอกกาลังคิด มันก็เปลี่ยนไปเป็นลาแสงสีขาวแล้วหายลับไปในพุ่มไม้
เทือกเขาหลังเต่า
ภูเขานั้นมีรูปร่างเหมือนเต่านอนอยู่บนพื้น มันลดทอนความรุนแรงของกระแสน้าและยังรวบรวมพลังงานล้าค่า
ตาแหน่งที่ใกล้กับขาเต่าข้างหนึ่ง น้าเป็นสีดา มีน้าวนกาเนิดขึ้นตรงนี้
จิ้งจอกสีขาวมาถึงที่ด้านข้างน้าวนแล้วก็กระโดดลงไปโดยไม่ลังเล
เสียงดังซ่าแล้วน้าก็แตกกระจายไปทั่วผิวน้าเกิดคลื่นแผ่ออกไป แล้วกระแสน้าวนสีดาก็สลายไปทันที
ลึกลงไปในแม่น้า มีตาน้า
ลาแสงสีทองขมุกขมัวมารวมกันและส่องไปที่เงาของลิงยักษ์ตัวหนึ่ง มันมีหัวสีขาว ตัวสีเขียว และเนตรเพลิงสีทองคาคู่หนึ่ง และยังกระดิ่งสีทองที่จมูก มันดูน่ากลัวและยังถูกโซ่เหล็กหลายเส้นพันธนาการเอาไว้
ถึงแม้ว่าดวงตาทั้งคู่ของมันจะหลับอยู่ แต่เส้นสายพลังวิญญาณอันลึกลับและลื่นไหลราวปรอทก็ยังมารวมตัวอยู่รอบร่างของมันและยังกระเพื่อมไปมา มันคือร่างของปิศาจธาตุน้าโดยธรรมชาติ
ช่างเป็นปิศาจที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง
“ร่างสวรรค์ของอู่จือฉี…”
ฟองอากาศฟองหนึ่งฝุดขึ้น ที่ด้านในฟองอากาศคือจิ้งจองสามหางที่คาบผลึกสีดาเอาไว้ในปาก
ผลึกสีดานั้นถูกบีบอัดแน่นหนา ที่ด้านในนั้นมีอักขระเวทย์สีทองเป็นประกายที่แผ่แสงอันลึกลับออกมาชั้นหนึ่ง
ด้วยผลึกนี้ พลังธาตุน้าอันลึกลับและยังแรงกดดันใต้น้าที่รอบ ๆ กลับสลายไปทันทีเปิดทางให้จิ้งจอกเข้าไปใกล้ได้
“อู่จือฉีนั้นเป็นปิศาจโบราณธาตุน้าผู้แข็งแกร่ง! ร่างของเขาเต็มไปด้วยอักขระเวทย์ธาตุน้าอันลึกลับ เขามีอานาจอย่างยิ่งและพลังเวทย์ของเขายังไร้จากัด…”
จิ้งจอกสามหางเหยียดตัวอยู่บนไหล่ของอู่จือฉีและพึมพา “นอกจากนี้… นี่ยังเป็นร่างสิงสู่ของสิ่งมีชีวิตอันทรงพลัง มันสะสมพลังปิศาจเอาไว้นับร้อยปี เมื่อมันได้รับการปลดปล่อยออกมาและมีข้า
ควบคุมอยู่ มันกระทั่งสามารถเอาชนะจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่หกได้โดยง่าย! น่าเสียดาย… โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”
กระทั่งจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรยังมีระดับการฝึกตนที่ต่าลงเมื่ออยู่ในอาณาจักรนี้และไม่สามารถเรียกคืนพลังของตนได้อย่างเต็มที่
ร่างปิศาจของจิ้งจอกเองนั้นมีข้อได้เปรียบของมัน มันสามารถควบคุมกระแสน้าในอาณาจักรนี้ได้
“หัวหน้านั้นเกรงว่าร่างปิศาจของพวกเราจะถูกค้นพบ พวกเขายังเปลี่ยนแปลงมันจนเมื่อมันถูกละทิ้งไป มันก็จะตายในทันที น่าเสียดายนัก!” จิ้งจอกคิด
จิ้งจอกสามหางหมุนไปมาหลายรอบและในที่สุดก็ตัดสินใจ “ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเดียวในร่างนี้ แต่สามารถสัมผัสได้ถึงอาณาจักรอื่นและสัมผัสถึงกระแสน้าและอักขระเวทย์ธาตุน้าก็เป็นประโยชน์แก่ร่างกายนี้แล้ว!”
เมื่อคิดเช่นนี้ จิ้งจอกสามหางก็ละทิ้งร่างปิศาจของมันทันที
จิ้งจอกสีขาวตัวสั่น ชีพจรและกระแสเลือดหยุดไหลเวียนไปทันทีเมื่อมันตายลง
ร่างพลังหยินโปร่งใสผุดขึ้นจากมัน ปรากฏเป็นจ้าวแห่งฝันหญิงผู้หนึ่งในชุดกระโปรงหลากสีและสายรัดเอวที่มีหยกชิ้นหนึ่งห้อยเอาไว้ ยังมีแสงลึกลับสามสีส่องออกมาจากตัวนางและรูปลักษณ์ของนางจึงมองเห็นไม่ชัดเจน
นางถือผลึกสีดาเอาไว้แล้วตรงไปที่จมูกของอู่จือฉี
“วิ้ง! วิ้งงง!”
เมื่อนางเข้าไปใกล้ กระดิ่งสีทองก็เริ่มสั่นและปล่อยแสงสีทองออกมา เมื่อกระดิ่งทองสัมผัสกับผลึกสีดา มันก็หยุดสั่นทันทีและเส้นทางเดินเส้นหนึ่งก็ปรากฏ ร่างพลังหยินเข้าไปในเส้นทางนั้นและรอบด้านก็เงียบลง
ครู่ต่อมา มีเสียงลั่นเปรี๊ยะดังมา รอยแตกปรากฏขึ้นบนโซ่และกระดิ่งสีทองก็หลุดออกไปในไม่ช้า
อู่จือฉีลืมตาของมันขึ้น มีประกายเหี้ยมโหดส่องเรืองออกมาจากดวงตาของมัน
“ตูม!”
ที่ด้านนอก บนเทือกเขาหลังเต่า เมฆสีเทาปกคลุมท้องฟ้า พายุก่อตัวขึ้นแล้ว!

“เคล้ง!”
เซี่ยฉีทาถ้วยกระเบื้องใบหนึ่งตกลงพื้น
เขาไม่สนใจมัน เขาเดินออกไปด้านนอกมองไปที่ฝนที่กระหน่าลงมาอย่างแรงและถาม “เหตุใดจึงรวดเร็วเช่นนี้?”
“เปาะแปะ!”
น้าในแม่น้าเปลี่ยนเป็นสีดาและไหลเชี่ยวกราก มันท่วมขึ้นมาบนเทือกเขาหลังเต่าและไหลไปสู่พื้นราบ
ไม่ว่าจะเป็นนักรบแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อเห็นหายนะเช่นนี้อยู่ตรงหน้า สีหน้าย่อมเปลี่ยนไปทันทีและยังตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว
“ดูเหมือนว่าผนึกของอู่จือฉีจะแตกออกเร็วกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้!” ฟางหยวนพูดอย่างสงบขณะมองออกไป ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับจะลุกเป็นไฟ
“อันที่จริง นี่ก็เป็นธรรมดามาก หลังจากเอาชนะเหล่าผู้สนับสนุนของพวกมัน พวกเราในไม่ช้าต้องค้นทั่วเทือกเขาหลังเต่า ผนึกย่อมต้องถูกพบอย่างแน่นอน! ในเมื่อพวกมันไม่ต้องการรอให้ถูกพบเจอ พวกมันย่อมต้องคลายผนึกก่อน!” ฟางหยวนคิด
“หยวน! เจ้าตามข้ามา!” เซี่ยฉีหันหลังกลับและพูด
มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีเคล็ดวิชาระดับสูงและสามารถเอาชนะปิศาจธาตุน้าได้ นักรบอื่น ๆ นั้นตะลึงตัวแข็งไปและยังสงสัย พวกเขาจะยังมีประโยชน์ใด?
“ไม่ ข้าก็ต้องการตามท่านไปด้วย!”
เว่ยกาคันธนูเอาไว้แล้วตามฟางหยวนไป
“ไม่ได้! พวกเจ้าทั้งหมดต้องอยู่ที่นี่และปกป้องเผ่านี้เอาไว้! ใช้กาแพงเหล่านั้นเป็นเกราะป้องกัน!”
ฟางหยวนส่ายหน้าและชี้ไปที่ด้านนอก
เว่ยสงสัย นางเพิ่งตระหนักได้ว่าภายในระดับน้าที่สูงขึ้นนั้นมีเงาของปิศาจหลากชนิด
ภูติไม้ วิญญาณธาตุน้า ปิศาจภูเขา ปิศาจก้อนหิน และวิญญาณอื่นอันเหนือจินตนาการปรากฏขึ้นเป็นจานวนมาก มีพวกมันกว่าพันตนพุ่งเข้ามาในเผ่า
“นี่ล้วนเป็นเพราะอู่จือฉี… สังหารพวกมันทั้งหมด!”
เซี่ยฉีคารามและมองไปที่ฟางหยวน พวกเขาทั้งคู่มีคันธนูและลูกศรอยู่บนหลังและมีมีดสั้นทองแดงเล่มหนึ่งอยู่ในมือ พวกเขาพุ่งออกไปราวกับเป็นพยัคฆ์ร้าย
“หยวน!”
เว่ยทาได้เพียงกรีดร้องเสียงดังเมื่อเห็นทั้งสองคนห่างออกไปอย่างรวดเร็ว นางได้แต่กัดฟันมองไปที่วิญญาณที่กาลังพุ่งเข้ามาโจมตีพวกตน จากนั้นนางก็ตะโกนอย่างดุร้ายใส่ชายหนุ่มชื่อฟาที่อยู่ด้านข้าง “ฟา! หากเจ้าไม่ต้องการให้เผ่าของเจ้าพ่ายแพ้ต่อปิศาจเหล่านี้และทุกคนในเผ่าถูกจับกินจนหมด ทางที่ดีเจ้าควรจะทาตัวให้น่าเชื่อถือและสั่งให้คนของเจ้าทั้งหมดร่วมมือกับพวกเรารับมือพวกมัน!”

“โอ้… จริงแท้ นี่มันช่างดีเกินไปแล้ว! ในเมื่ออู่จือฉียินดีปรากฏตัวขึ้น พวกเราก็ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเขาแล้ว!”
“นอกจากนี้ ยังมีข้อจากัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในเมื่อไม่มีใครอยู่ที่รอบ ๆ นี่!”
เซี่ยฉีขยับนิ้วไปมาขยุกขยิกราวกับกาลังเล่นดนตรี ปิศาจที่รอบ ๆ รัศมีสิบจั้งนั้นก็ตัวแข็งไปในทันทีและถูกฉีกกระชากตั้งแต่หว่างคิ้วลงมา เปลี่ยนไปเป็นทรายสีดากองหนึ่ง
ช่างเหี้ยมโหด ไม่มีร่องรอยความตื่นตระหนกหลงเหลือ!
ฟางหยวนนั้นเข้าใจดีว่าเซี่ยฉีนั้นต้องรักษาสมดุลระหว่างตัวตนที่แท้จริงของตนและตัวตนในอาณาจักรนี้ของเขาเอาไว้ เขาถามออกไป “ท่านมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ความสามารถอันทรงพลังของจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ด?”
“ใช่แล้ว! หากนี่เป็นตัวตนอันทรงพลังนั่น ย่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ! สายลมและกระแสน้าจะสงบ ไม่มีฟ้าผ่าหรือฟ้าร้อง นั่นจะน่ากลัวที่สุด!”
เซี่ยฉีหัวเราะและพูดต่อ “แน่นอนว่า… ต่อให้ข้าเดาผิดก็ไม่เป็นไร หากมีจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาที่พวกเราไม่สามารถเอาชนะได้จริง ๆ เข้ามาที่อาณาจักรนี้ พวกเราก็ยังคงรักษาร่างเนื้อเอาไว้และออกไปจากอาณาจักรนี้เพื่อรายงานต่อสมาพันธ์แห่งอาณาจักรได้! ยังคงมีความสาเร็จรออยู่อยู่ดี!”
“นอกจากนี้ อย่างมากแล้วสถานการณ์ก็คงเป็นองครักษ์มังกรซ่อนนั้นใช้ร่างของอู่จือฉี ดังนั้นพวกเราย่อมการาบมันลงไปได้!”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
ขณะฟัง ฟางหยวนก็ได้เข้าใจถ่องแท้มากขึ้น
ถึงแม้ว่าร่างสิงสู่จะแข็งแกร่ง แต่มันก็เป็นเป้าหมายอันแจ่มชัด ต่อให้ผนึกถูกปลดแล้ว มันก็ยังมีกับดักที่เตรียมการเอาไว้ก่อนหน้า
หากเป็นเหยื่อที่ปราชญ์เป็นผู้วางเอาไว้ กระทั่งจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดก็ยังอาจจะตายได้หากตกลงไปในกับดักนั่น!
จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดนั้นเป็นตัวตนอันทรงพลังเช่นกัน กระทั่งราชสานักยังไม่สามารถบีบให้พวกเขามาที่นี่ได้ ต่อให้พวกเขามา พวกเขาก็ยังต้องวางตัวเงียบ ๆ และค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเองช้า ๆ!
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เซี่ยฉีจึงไม่หวาดกลัว
ต่อให้พวกเขาโชคร้ายถึงขนาดพบเจอกับจ้าวแห่งฝันดังว่า พวกเขาก็แค่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทาลงไปเท่านั้นเอง
“แน่นอนว่า… ถึงขั้นนั้นแล้ว พวกเราย่อมไม่สามารถปิดบังตนเองต่อไปได้! พวกเราก็จะปลดปล่อยความสามารถทั้งหมดของพวกเราออกมาแล้วทาลายอู่จือฉีนั่นเสีย! ต่อให้พวกเราต้องกลับไปที่ต้าเฉียนทันที มันก็ยังนับว่าเป็นความสาเร็จครั้งใหญ่!”
ดวงตาของเซี่ยฉีลุกวาวขณะเปลี่ยนร่างไปเป็นลาแสงหนึ่งพุ่งไปถึงยอดเขาหลังเต่าพร้อมฟางหยวน
เมื่อพวกเขามองลงไป พวกเขาก็เห็นน้าในแม่น้าฮวยที่เดิมสงบนั้นกลับปั่นป่วนและมีคลื่นสูง วังน้าวนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และยังแทบจะใหญ่เท่าความกว้างแม่น้าแล้ว ที่ด้านใน มีเงาร่างสีดามองเห็นได้เลือนราง
ทันใดนั้น สายฟ้าก็ลั่นคลื่น น้าในแม่น้าระเบิดออก ลิงยักษ์ผุดขึ้นจากน้าวนและมองลงไปด้านล่างอย่างมาดร้าย
“โอ้! สายลมและฟ้าคารามลั่น ต้นไม้และก้อนหินขยับเสียดสีกัน! อาณาจักรนี้เข้าสู่ความวุ่นวายเมื่ออู่จือฉีปรากฏตัว! ปิศาจทรงพลังอะไรเช่นนี้!”
ฟางหยวนถอนหายใจขณะพูดต่อ “อักขระเวทย์ธาตุน้าบนร่างของเขาเผยให้เห็นว่าเขามาจากเต๋าแห่งมนตรา หากข้าสามารถเข้าใจอักขระพวกนั้นได้ย่อมเป็นประโยชน์แก่ข้าอย่างที่สุด!”
“มีจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรสองคนงั้นรึ?”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากใบหน้าน่าเกลียดของลิงยักษ์อู่จือฉี
“ไม่แปลกใจที่พวกฉางจ้างทั้งหมดนั่นถึงได้พ่ายแพ้ยับเยินเพียงนั้น!”
“จริงเสียด้วย องครักษ์มังกรซ่อน! ที่เข้าครอบครองร่างอยู่นั้นมิใช่ตัวตนอันทรงพลังใด!”
เซี่ยฉีโล่งอก แต่ว่า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังอีกครั้ง “อู่จือฉีผู้นี้นั้นเทียบได้กับจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่ห้าในอาณาจักรต้าเฉียน แต่ว่า ในอาณาจักรนี้ จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่หกนั้นถูกจากัดเอาไว้! ดังนั้นจึงยังมีความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะอู่จือฉีผู้นี้มิได้!”
“เอาชนะข้า?”
อู่จือฉีนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะเสียงลั่นราวกับได้ยินเรื่องตลกขบขันอย่างที่สุด “ถึงแม้ว่าระดับการฝึกตนของข้าจะไม่สูงนัก แต่ร่างนี้นั้นเป็นผู้ทรงพลังเหลือทิ้งเอาไว้! อาวุธไม่สามารถกล้ากลาย และยังมีอานาจเหลือล้น! ราชาซีของพวกเจ้ายังไม่มาแล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้? ไปให้พ้นหน้าและออกไปจากอาณาจักรนี้เสีย!”
“โฮก!”
ลิงยักษ์คารม เสียงคารามของมันนั้นร้ายกาจและยังสะเทือนฟ้าดิน
ระดับน้าในแม่น้าฮวยพุ่งสูงขึ้นทันทีและเกิดเป็นคลื่นยักษ์ซัดท่วมเทือกเขาหลังเต่า
“ซ่า!”
ภายใต้พลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้ ทั้งเทือกเขาหลังเต่าก็สั่นและมีเสียงกรีดร้องอย่างระทมดังมา ไม่น่าเชื่อ จู่ ๆ รอยแยกก็เริ่มก่อตัวที่เชิงเขา!
พลังของอู่จือฉีนั้นสามารถถล่มภูเขาแหวกทะเลได้จริง ๆ!
“เฮอะ!”
มีเสียงคารามดังจากเซี่ยฉี แล้วภูเขาลูกหนึ่งก็ผุดขึ้นจากทะเลกว้างและเซี่ยฉีก็เปลี่ยนไปเป็นยักษ์ตนหนึ่ง
ยักษ์นั่นตัวสูงกว่าอู่จือฉี มันมีร่างแบบมนุษย์และหางแบบงู และยังมีงูมีปีกขดอยู่รอบลาตัว งูมีปีกนั้นพ่นแสงเทย์สีเหลืองออกมาเชื่อมกับผืนดินที่รอบ ๆ
“นักสะกดสัตว์?”
ขณะฟางหยวนมองดูอยู่นั้นเขาก็นึกถึงซุนเจว๋จากสานักหยวนซู
แน่นอนว่า พลังของเซี่ยฉีย่อมแข็งแกร่งกว่าซุนเจว๋ผู้นั้น
“ในการฝึกตนเป็นนักสะกดสัตว์ พวกเขาต้องผ่านการเปลี่ยนร่างนับครั้งไม่ถ้วนในระยะแรก ในสามขั้นแรกของสวรรค์มายา พวกเขาทาได้เพียงเปลี่ยนร่างไปเป็นสัตว์ร้ายต่าง ๆ เพื่อใช้พลังของพวกมัน หลังจากสวรรค์มายาขั้นที่สี่ พวกเขาสามารถสร้างสิ่งที่มีวิญญาณได้และเปลี่ยนร่างไปเป็นสัตว์เวทย์ที่มีความสามารถอันแกร่งกล้าได้ หลังจากระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ด พวกเขายังสามารถอัญเชิญกองทัพสัตว์ร้ายอันเอาชนะไม่ได้มาได้อย่างง่ายดายด้วย!”
“เซี่ยฉีในร่างยักษ์นั้นเปลี่ยนไปเป็นร่างพ่อมดแห่งผืนดิน! ร่างกายของเขาย่อมต้องมีสายเลือดของพ่อมดธาตุดินอยู่อย่างแน่นอน คราวนี้ ด้วยการแปลงร่างนี้ เขายังสามารถใช้พลังของพ่อมดแห่งธาตุดินได้เป็นสองเท่า! พลังเช่นนี้นั้นดูเบามิได้เลย!”
“พยายามใช้ดินสู้น้างั้นรึ?”
อู่จือฉีคาราม เสียงของหญิงนางนั้นช่างประหลาด
“ด้วยพลังเวทย์น้อยนิดน่าสมเพชจากในสายเลือดของเข้า เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะตัวตนที่ฝึกตนมากว่าร้อยปีได้รึ? ตายซะเถิด!”
“ครืน!”
อักขระเวทย์ธาตุน้าหลายชั้นบนร่างของลิงยักษ์ส่องประกาย กระแสน้าทั้งหมดในอาณาจักรเคลื่อนไหวและเริ่มไหลบ่าอย่างรุนแรง!

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ