357: เตรียมพร้อมรับสงคราม
บนที่ราบกว้างใหญ่ สองกองทัพของประเทศเซี่ยรวมตัวกัน
“ตามที่ราชาซีมอบหมาย ข้าคือหยวน แม่ทัพของเขตสงครามทางเหนือ!”
ฟางหยวนชูป้ายคาสั่งขึ้นและประกาศ
“ข้าคือแม่ทัพฝ่ายเหนือ ถง! ข้าขอแสดงความภักดีต่อท่าน แม่ทัพหยวน!”
ชายท่าทางอาจหาญผู้หนึ่งพร้อมทหารกว่าพันห้าร้อยคานับลงแก่ฟางหยวนอย่างนอบน้อม
“พวกเราถูกเผ่าหูเล่อบุกเข้ามาก่อนหน้านี้! พวกเราเหลือกันอยู่เท่านี้แล้ว!”
อันที่จริง เหตุผลที่ทั้งสองทัพสามารถรวมเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิทและที่ฟางหยวนได้รับการยอมรับขึ้นสู่ตาแหน่งอย่างรวดเร็วก็เป็นเพราะว่าถงนั้นเองก็เป็นจ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรเช่นกัน!
แน่นอนว่า ถงนั้นมีพลังต่าขั้นกว่าเทียบกับฟางหยวน เขาเพิ่งเข้าสู่ระดับสวรรค์มายาและยังเพิ่งพ่ายแพ้ในการต่อสู้ ดังนั้นจึงต้องยอมจานนแก่ฟางหยวน
“กองทัพทางเหนือทั้งหมดมีคนเพียงเท่านี้เองหรือ?”
ฟางหยวนขมวดคิ้ว
เขาส่งข้อความหาถงอย่างลับ ๆ “ภายในเผ่าหูเล่อ มีใครมีพลังหรือไม่?”
“ทั้งเผ่าหูเล่อ ไม่รวมคนจากเผ่าอื่น ๆ นั้นมีนักธนูราวหนึ่งหมื่น… แน่นอนว่า สาหรับพวกเราแล้ว คนธรรมดาเหล่านี้นั้นไม่ใช่คู่มือของพวกเรา แต่ว่า หมอผีของพวกเขานั้นค่อนข้างมีพลัง และยังมีปิศาจที่เก่งกาจให้ความช่วยเหลือพวกเขาด้วย!”
ถงดูเหมือนพยายามเอาใจฟางหยวนและพูดต่อ “ดูเหมือนว่าพวกเราต้องคงต้องเคลื่อนทัพทั้งหมดและส่งทหารที่เก่งกาจที่สุดออกไปการาบเหล่ากบฏเหล่านี้!”
“ไม่จาเป็น! ถ่ายทอดคาสั่งข้าลงไป พวกเราจะเคลื่อนกาลังสู่แนวหน้าทันที… ไม่! เดี๋ยวก่อน! เตรียมการป้องกันก่อนเป็นอันดับแรก!”
“ท่านว่าอย่างไรนะ?”
ถงอึ้งไป “คนของเผ่าหูเล่อนั้นกล้าดีมากถึงได้กล้าบุกเข้ามาในดินแดนของพวกเรานะ?”
“นอกจากนี้ นอกเหนือจากเรื่องนั้นแล้ว คนของเจ้ายังสูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ไปแล้ว! ถอยและรวมกาลังคนใหม่ก่อน!”
เพียงหลังจากฟางหยวนสั่งลงไปและทหารหนึ่งพันจัดทัพเสร็จเรียบร้อย ก็ปรากฏเส้นสีดาเส้นหนึ่งอยู่ที่ขอบฟ้า และยังมีทหารม้าอีกนับพันกู่ร้องและพุ่งมาทางพวกเขา
“บ้าชะมัด! ถูกโจมตีอีกแล้ว!”
ถงกัดฟันแน่นกับภาพที่เห็น ชัดเจนว่ากองทัพของถงที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปนั้นเป็นเพราะทหารหลายพันเหล่านี้รวมกับทหารม้าอันแข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่ากองทัพที่ฝึกโดยฟางหยวนนั้นจะวุ่นวายขึ้นมาหลังจากเห็นทหารม้ากลุ่มใหญ่นั่นพุ่งมาทางพวกเขา
“ในยุคโบราณเช่นนี้ ทหารม้านั้นร้ายกาจเกินต้านทานในสนามรบ… แน่นอนว่า ตอนนี้ทหารพวกนั้นยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นทหารม้าอย่างเต็มปาก อย่างมากพวกมันก็เป็นเพียงทหารราบที่ขี่ม้า!”
ฟางหยวนมองเห็นความแตกต่างได้เพียงแค่เหลือบมองเร็ว ๆ ครั้งหนึ่ง
อานม้า เกือกม้า และอย่างอื่นล้วนยังไม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ทักษะการขี่ม้าก็ยังคงดิบเถื่อนเหมือนพวกมันล้วนอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของท่อนขาของตนเองเท่านั้นในการขี่ม้า ผู้ที่พุ่งนาหน้ามาราวกับลูกศรบนหลังม้านั้นเป็นนักรบระดับเยี่ยมในเหล่าพวกมัน
ท่ามกลางทหารกว่าพันคนนี้ มีอย่างมากก็เพียงแค่ห้าสิบคนที่มีทักษะอย่างนักรบที่แท้จริง!
นอกจากนี้… พวกมันยังไร้เกราะ! กระทั่งม้าก็ไร้เกราะป้องกันโดยสิ้นเชิง!
ฟางหยวนนั้นเข้าใจได้อย่างชัดเจน หากทหารม้าเหล่านี้กล้าพุ่งเข้าสู่สนามรบ เมื่อพวกมันเผชิญหน้ากับผู้อื่น พวกมันก็จะถูกทาลายลงเหมือน
เป็นเพียงเปลือกไข่บอบบางเท่านั้น! ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจพวกมันและคาราม “เตรียมรับศึก!”
“ป้องกัน!”
เว่ยสั่งเสียงดัง
“ป้องกัน!”
กองทัพของบรรพตฟางล้วนอยู่ในระเบียบ ในฐานะทหารใหม่เห็นหัวหน้าระดับสิบหน่วยและห้าหน่วยยังคงสงบและมีสติ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ สงบลงและพวกมันก็กาอาวุธของตนเอาไว้แน่น
และเมื่อทหารม้าทั้งหนึ่งพันนั้นเห็นกองทัพฝ่ายตรงข้ามยังคงอยู่ในตาแหน่งเดิม พวกมันก็หยุดเท้าห่างจากพวกเขาเป็นหลายลี้ จากนั้นพวกมันก็ลงจากหลังม้าและเตรียมอาวุธทาศึก
ถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีจานวนเท่า ๆ กัน ทหารม้าล้วนเดินทางมาบนหลังม้า ดังนั้นพวกมันจึงยังกระฉับกระเฉง อันที่จริง พวกมันดูราวกับจะสามารถคว้าชัยชนะได้โดยง่าย
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีทหารกลุ่มหนึ่งราวร้อยคนแยกออกมาจากลุ่มใหญ่และพุ่งเข้าใส่แถวของทหารที่มีฟางหยวนคอยสั่งการ
“ฝุบ!”
ทหารหลายสิบนั้นสาดลูกธนูใส่กองทัพฝ่ายเหนือ
ลูกศรยาวกว่าสิบดอกพุ่งมาทางกองทัพของฟางหยวนและพุ่งเข้าใส่ทหารหลายคน พวกมันล้มลงกับพื้นทันทีกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“ยังมีมือธนูอีกกว่าสิบคนรึ? พวกมันน่าจะเป็นทหารระดับสูงในเหล่าทหารม้าของศัตรูแล้ว!”
ฟางหยวนแค่นเสียงและหยิบคันธนูของตนเองขึ้นมา
ธนูของเขานั้นซื้อมาจากในเมืองหยาง ตัวคันธนูนั้นยาวมากและยังเงาวับเป็นประกาย หัวลูกศรนั้นทาขึ้นจากโลหะส่วนหางนั้นเป็นขนหางของห่าน มันดูมีพลังเสียยิ่งกว่าธนูที่เหล่าศัตรูใช้!
เมื่อม้าเริ่มควบ เสียงของลูกธนูที่ถูกยิงออกไปนั้นก็สั่นสะเทือนแก้วหู!
เสียงของสายธนูที่สั่นไหวนั้นราวกับเสียงฟ้าผ่า! ทหารม้าที่ฝั่งตรงข้ามนั้นร่วงลงจากหลังม้าทีละคน! ลูกศรแต่ละดอกล้วนเข้าเป้าอย่างแม่นยา!
หลังจากทหารม้าเก้านายถูกยิงตาย พวกมันก็ตะโกนออกมาแล้วแยกย้ายก่อนจะกลับไปที่กลุ่มใหญ่ทางด้านหลัง
“วิชาธนูของท่านช่างไร้ที่ติ!”
ถงที่มองอยู่ปรบมือและกล่าวชื่นชม “พวกเราสังหารคนของพวกมันไปได้หลายคนเลย!”
“ไม่ต้องมัวพูดจาอยู่ สู้!”
ฟางหยวนยกดาบยาวขึ้นและสั่ง “แล้วก็ เจ้า นานักรบเหล่านั้นที่กล้าพอที่จะไปอยู่แนวหน้าไปสู้!”
ไม่ว่าถงจะไร้ประสบการณ์เพียงใด เขาก็ยังเป็นจ้าวแห่งฝันคนหนึ่ง เขาย่อมยังสามารถรับมือกับศัตรูจากกองทัพทั่ว ๆ ไปได้เป็นพันคน
“ขอรับท่านแม่ทัพ!”
ถงคารามขณะชูอาวุธของตนขึ้นและพุ่งไปยังแนวหน้าพร้อมทหารกลุ่มหนึ่ง
“สังหารพวกมันให้หมด!”
กองทัพสองฝ่ายเข้าไปใกล้กันเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ก็มีเสียงคารามอย่างเกรี้ยวกราดดังมาจากฝ่ายตรงข้าม
“กุบกับ!”
ฝุ่นปลิวคลุ้งไปทั่วเมื่อม้าหลายตัวย่าพื้นพร้อมกัน
ม้านับร้อยตัวถูกปล่อยบังเหียน หลังจากพวกมันถูกแส้เฆี่ยน ตัวจ่าฝูงก็นาฝูงม้าพุ่งเข้าใส่กองทัพเหนือ ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นยากหยุดยั้ง ราวกับน้าหลากเลยทีเดียว!
“เยี่ยม!”
ฟางหยวนอดปรบมือไม่ได้เมื่อเห็น
ม้าพวกนั้นล้วนไม่ได้รับการปกป้องอีกต่อไปและทหารม้าส่วนใหญ่หากไม่บาดเจ็บสาหัสก็ล้วนตายไปแล้ว การใช้ม้าโจมตีพวกเขานั้นเป็นกลยุทธ์อันเหนือชั้น แต่หากกลยุทธ์นี้ถูกตีแตกได้ กองทัพของฟางหยวนก็แทบจะได้รับชัยชนะในทันที!
กลยุทธ์เช่นนี้นั้นคล้ายกับที่มีบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ ทั้งกลยุทธ์ควายเพลิงของเทียนตัน และยังกองทัพช้างของดินแดนทางใต้อันไกลโพ้น!
“น่าเศร้า… ความพยายามของพวกมันล้วนน่าสมเพช!”
ฟางหยวนโบกมือและสั่ง “เตรียมทหารคบเพลิง!”
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”
ทหารหนึ่งร้อยถือท่อที่ทาจากไม้มาที่ข้างหน้าและจากนั้นก็กดกลไก เปลวไฟจานวนมากพุ่งออกไป
ระเบิดเพลิง! ไฟเหลว! อาวุธลับของคนโบราณถูกนาออกมาใช้ในอาณาจักรนี้เป็นครั้งแรก!
“ฮี้! ฮี้!”
ม้าจานวนมากร้องโหยหวนและแตกกระจายออกไปอย่างไม่รู้สติ
แสงไฟ เสียงอันดัง และยังเปลวไฟที่ลุกโหมทาให้ม้าล้วนตื่นตระหนก
นอกจากนี้ ม้าโบราณเหล่านั้นยังไม่ใช่ม้าที่เติบใหญ่พอที่จะใช้ในสงครามได้ พวกมันล้วนยังไม่เชื่องและยังหลุดออกจากการควบคุมได้โดยง่าย พวกมันไม่สามารถสงบสติเอาไว้ได้เมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้
ขณะที่ม้าล้วนประหวั่น ไม่มีม้าสักตัวที่กล้าพุ่งเข้าหาเปลวเพลิงต่อ ส่วนมากแล้วแตกกระเจิงไปด้านข้างและบางตัวยังหันหลังกลับควบตรงไปที่กองทัพของเผ่าหูเล่อ
“สังหารพวกมันให้หมด!”
คนของเผ่าหูเล่อย่อมไม่โง่ พวกมันสั่งการทหารให้ใช้อาวุธของตนทันที
ธนู ลูกศร ดาบทองแดง ขวาน และอื่น ๆ มากมาย.. พวกมันกวัดแกว่งอาวุธที่มีแทบทุกชนิดสังหารม้าของพวกตน
แต่ว่า ม้าเหล่านั้นล้วนเตลิดไปหมดแล้วหลังจากเจอเข้ากับไฟ พวกมันพุ่งตรงไปอย่างบ้าคลั่งและยังมีแรงผลักดันและแรงเฉื่อยมหาศาลก่อความปั่นป่วนไปทั่วสนามรบ เลือดและเนื้อสาดกระจายไปทุกที่จนแยกไม่ออกมาว่าจากคนหรือม้า
“ไป!”
ฟางหยวนย่อมไม่ปล่อยโอกาสอันดีงามเช่นนี้หลุดมือไป เขาสั่งการกองทัพของตนให้เดินหน้าทันที ทหารหนึ่งร้อยที่ถือท่อไม้อยู่นั้นเผาทุกคนที่พบเจอต่อให้เป็นผู้ที่กาลังหลบหนีก็ตาม
“สังหารพวกมันให้หมด!”
ในกองทัพ ทหารห้าหรือสิบคนจับกลุ่มเป็นหนึ่งหน่วยย่อยแล้วลงมือสังหารทหารของหูเล่ออย่างเหี้ยมโหด
เทียบกับเผ่าหูเล่อแล้ว ทหารของพวกมันล้วนแตกกระเจิงไปทั่ว แต่ละคนนั้นสู้ตัวคนเดียวอย่างกล้าหาญ ความแตกต่างในด้านทักษะทางการทหารระหว่างสองฝ่ายนั้นเห็นได้ชัดเจน
“อย่างไร นี่ก็ยังเป็นช่วงเวลาอันป่าเถื่อนและทหารของพวกเขาล้วนมีแค่ความกล้าหาญ แต่นั่นไร้ประโยชน์…! กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้ว หากพวกเขาเปลี่ยนตามไม่ทัน ย่อมถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังอย่างไร้ปรานี!” ฟางหยวนคิดขณะถอนหายใจ
จากนั้นฟางหยวนก็จับดาบโลหะของตนแน่นและพุ่งออกหน้าไป
ทหารของศัตรูนั้นส่วนมากพ่ายแพ้แล้ว เวลานี้แหละที่ฟางหยวนจะลงมือ
“ตายซะ!”
ตรงข้ามเขานั้น หมอผีหลายคนร่ายมนตราขณะเขย่ากลองวิเศษสีแดงเลือดที่อยู่ในมือ
สายลมชั่วร้ายกวาดผ่านซากศพบนพื้น เลือดและน้ารวมตัวกันเกิดเป็นปิศาจมากมายในทันที ปิศาจเหล่านี้ตะบึงไปทั่วสนามรบ
“สังหารพวกมันทั้งหมด!”
ฟางหยวนพุ่งไปข้างหน้าและเหวี่ยงดาบออกไป มีประกายไฟส่องเรืองที่หน้าผากของเขาตรงหว่างคิ้ว
“ซู่! ซู่!”
สัตว์ร้ายจากเลือดเหล่านี้ล้วนล้มลงกับพื้นทันทีและเปลี่ยนไปเป็นเลือดสีดากองอยู่ ฟางหยวนเดินหน้าต่อและไปถึงที่หน้าหมอผีทั้งหลาย
“ปกป้องเหล่าหมอผี!”
ทหารหลายคนจากเผ่าหูเล่าตะโกน แต่ว่า ภายใต้คมดาบของฟางหยวน พวกมันล้วนถูกผ่าร่างเป็นสองซีก
“แม่ทัพมู่จะแก้แค้นให้พวกเรา!”
หมอผีหนุ่มสองคนจ้องมองที่ฟางหยวนด้วยความเคียดแค้นและเกลียดชังราวกับอยากจะกัดฟางหยวนให้จมเขี้ยว
ฟางหยวนไม่ลังเลและลงมือสังหารพวกมันด้วยดาบของเขาทันที
“หมอผีตายแล้ว!”
เมื่อเห็นอย่างนั้น ทหารของเผ่าหูเล่อที่ยังต่อต้านอยู่กลับแตกพ่ายทันที พวกมันสู้กันเองเพื่อแย่งชิงม้าและเริ่มหนีไป
“ไม่ต้องไล่ตามพวกมัน!!!”
ฟางหยวนสั่งการทันที “ทาความสะอาดสนามรบ ตั้งค่าย สร้างรั้วและเตรียมรับสงครามใหญ่!”
“ท่านแม่ทัพ? ท่านหมายถึงอะไรรึ…?”
ถงเข้ามาหาฟางหยวน ถึงแม้ว่าร่างของเขาจะมีรอยเลือดเปื้อน แต่สีหน้ากลับยินดี
“แนวหน้าของพวกมันมาถึงที่นี่แล้ว ทัพใหญ่ของพวกมันย่อมมาถึงภายในสองวัน!”
ฟางหยวนส่ายหน้าช้า ๆ “ถ้าพวกมันรู้ว่าพวกเรามีคนไม่กี่พันคน พวกมันจะทาอย่างไร?”
“แน่นอนว่าต้องทาลายกองกาลังที่ยังเหลืออยู่ของพวกเรา! จากนั้น ทางเหนือของประเทศเซี่ยก็จะอยู่ใต้การควบคุมของพวกมัน! จากนั้นพวกมันย่อมบุกไปถึงเมืองหยาง!”
“ดังนั้น… พวกเราจึงต้องเตรียมรับสงครามอยู่ที่นี่!”
ฟางหยวนสั่งออกไปโดยตรง “อย่างน้อยที่สุดพวกเราก็ยังพอได้เปรียบอยู่ที่นี่ พวกเราสามารถขุดสร้างคูคลอง สะสมอาหาร สร้างกาแพงดินให้สูงขึ้น…”
“พันต้านรับหมื่นงั้นรึ?”
ถงอึ้งไป เขากลอกตาและพูดต่อ “ท่านมั่นใจหรือ?”
“ไม่ มันคือสองพันห้าร้อยสู้เก้าพัน!”
ฟางหยวนแก้ไขตัวเลขของถงที่ผิดพลาดและตอบ “นอกเสียจากว่าเจ้าจะคิดว่าเจ้าหนีรอดได้?”
“ฮ่าฮ่า! ยอดเยี่ยม เช่นนั้นข้าจะเสี่ยงไปกับท่านแล้วกัน!”
หากเป็นแม่ทัพธรรมดา ๆ คนอื่น ย่อมไม่สามารถเกลี้ยกล่อมผู้ใต้บัญชาได้ง่ายดายเมื่อเป็นคนใหม่ที่เพิ่งพบกันต่อให้มีเสน่ห์หรือมีตัวตนอัน
น่าประทับใจอย่างยิ่งก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเกือบจะตายกันไปแล้วครั้งหนึ่งไม่นานมานี้
แต่ว่า ถงเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน! ในฐานะจ้าวแห่งฝัน ต่อให้ทัพแตกพ่าย มันก็ยังมีโอกาสให้เขาหนีไปได้
นอกจากนี้ การตายในอาณาจักรนี้ก็คือการแพ้รอบหนึ่งเท่านั้น อันที่จริงย่อมไม่นับเป็นอะไรได้
สองวันต่อมา
ทหารม้าเกือบหมื่นก็พุ่งเข้ามาในสนามรบและเห็นสิ่งก่อสร้างจากดินมากมาย มีกระทั่งการขุดสร้างคูรอบ ๆ พื้นที่ทั้งหมด