Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 358

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 358

358: ลอบโจมตีค่ายทัพ
ควันหนาลอยเต็มอากาศ
ทหารราวหมื่นนายล้อมอยู่รอบเมืองเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นจากดิน พวกมันพยายามที่จะบุกเข้าไปมาสามวันแล้วแต่ไม่สาเร็จ
“มู่บอกว่าคนแรกที่สามารถฝ่ากาแพงเข้าไปได้จะได้รับเลื่อนขั้นขึ้นเป็นสามัญชน และจากนั้นจะเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยตามลาดับ เมื่อเป็นหัวหน้าหน่วย จะได้รับทาสหนึ่งร้อยเป็นรางวัล!”
หน่วยทหารม้าย่าเท้าไปมา กระจายข่าวไปทั่วกองทัพ
มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปในเมืองเพียงเพื่อให้ได้ขึ้นเป็นหัวหน้า แต่ว่า สาหรับสามัญชนและทาสนั้น นี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกมันจะได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง ดังนั้น พวกมันจึงมีกาลังใจมากขึ้นอีกครั้งขณะพยายามบุกเข้าไปซ้า ๆ
“ไฟ!”
บนกาแพง เสียงแหลมดังมาแล้วลูกศรก็พุ่งเข้าใส่ทหารที่พยายามบุกเข้าไป
“ฉัวะ! ฉัวะ!”
เลือดสาดกระจายไปทั่วทุกที่และทหารที่ไม่มีเกราะก็ล้มลงกับพื้น บางคนยังถูกเพื่อนทหารด้วยกันเหยียบซ้าจนตาย!
ระหว่างการสร้างกาแพงดิน ฟางหยวนนั้นยังให้สร้างป้อมปราการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ว่าศัตรูจะโจมตีจากทิศทางใดก็จะอยู่ในแนวการยิงลูกศรเพลิง ร่วมกับการที่ผู้โจมตีเหล่านี้นั้นแทบจะไม่มีการป้องกันใด ๆ มันจึงเป็นเหมือนการสังหารหมู่อันง่ายดาย
“ไม่ต้องกลัว! บุกเข้าไป!”
แน่นอนว่า ในอาณาจักรนี้นั้นต่างไปจากที่ฟางหยวนคิดว่ามันจะเป็น
เสียงคารามดังมาขณะที่นักรบแกร่งกล้าสิบนายยืนอยู่ด้วยกัน โบกโล่ไม้ในมือ พวกมันคล่องแคล่วมากกว่าคนอื่น ๆ หลบลูกศรมากมายพ้นได้ ไม่นานพวกมันก็มาถึงที่ตีนกาแพงและเริ่มปีนขึ้นมา
“เผาพวกมันซะ!”
เหล่านี้ล้วนเป็นนักรบเก่งกาจของเผ่าหูเล่อ ทันทีที่พวกมันเริ่มปีนกาแพง พวกมันก็ยกมีดขึ้นตวัดไปมา ทหารทั่วไปย่อมเข้าใกล้พวกมันไม่ได้
เว่ยตะโกนสั่งขณะทหารที่ฝึกใช้ระเบิดเพลิงพุ่งตรงมาและยิงเปลวเพลิงออกจากกระบอกของตน
ไม่ว่านักรบเหล่านั้นจะเก่งกล้าเพียงใด เมื่อเผชิญหน้ากับไฟ พวกมันก็ทาได้เพียงแค่เปลี่ยนไปเป็นลูกไฟลุกโพลงและยังถูกผลักตกกาแพงไปขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“อ้ะ… หมอผี รีบอานวยพรพวกเรา!”
ที่ด้านใต้นั้น หมอผีกล้าหาญผู้หนึ่งเสี่ยงชีวิตตนเองร่างมนตราสองสามอย่าง จากนั้นก็เรียกน้าสายหนึ่งมา
“ซ่า!”
โชคร้ายสาหรับพวกมันแล้ว ระเบิดเพลิงยังลุกโชนอยู่ในน้าและยังโหมกระหน่าไร้ปรานีโดยไม่มีทีท่าจะมอดดับลง
นักรบอีกหลายคนพยายามใช้มนตราแทรกตัวผ่านกาแพง แต่ว่าพวกมันก็ถูกพบตัวทันทีโดยทหารของถงและฟางหยวนและถูกสังหารไป
หลังจากทหารอีกหลายคนถูกเผาหล่นลงจากกาแพงเมือง เหล่าทหารของเผ่าหูเล่อก็เริ่มหมดกาลังใจและถอยหนี
“บ้าชะมัด!”
เมื่อเห็น มู่ก็คารามออกมา “จับพวกที่วิ่งหนีไว้เสีย หากไม่ใช่ระดับหัวหน้าหรือว่าสามัญชนก็สังหารให้หมด!”
“แม่ทัพมู่… ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“แม่ทัพมู่… ไม่!”
มีเสียงกรีดร้องเพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่ศีรษะนับสิบจะหล่นลงพื้นและทหารที่เหลือก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
มู่พยักหน้า จากนั้นเขาก็สั่งให้ทหารที่ใกล้ ๆ ทาความสะอาดและกลับไปพักผ่อนที่ค่ายทัพ
“บ้าชะมัด… ประเทศเซี่ยมีไฟสวรรค์และทหารเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
หลังจากสามวัน ทหารกว่าสองพันตายตก หากไม่ใช่เพราะมีกาลังเสริม เผ่าหูเล่อย่อมตกอยู่ในสภาพย่าแย่กว่านี้แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น หัวหน้าจานวนมากยังไม่ต้องการจะรบต่อแล้วและอยากจะออกปล้นเผ่าอื่นมากกว่า
“คนโง่เง่าเหล่านี้จะไปรู้อันใด? ถ้าพวกเราไม่กาจัดกองทัพสุดท้ายทางเหนือของประเทศเซี่ย หากพวกเราบุกเข้าไปเช่นนี้ พวกเราย่อมถูกลอบโจมตีได้จากทั้งสองด้าน!”
มู่เหลือบมองเลือดที่เปรอะอยู่บนพื้นและมีท่าทีเคร่งเครียด
ถึงตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่เขาจะถอยทัพ
คนขี้ขลาดไม่มีโอกาสได้ครอบครองผืนแผ่นดิน! ถ้าหากว่าเขาถอยทัพทั้งอย่างนั้น ย่อมมีบางคนที่จะโค่นล้มเขาลงเมื่อกลับไป!
“ให้เฮยเข้ามา!”
หลังจากนั้นเป็นครู่ ในที่สุดเขาก็เรียกหาชายในชุดคลุมดา
“คานับท่านแม่ทัพมู่!”
ชายในชุดดาหัวเราะประหลาด
“เจ้ารู้วิธีการรับมือกับระเบิดเพลิงนั่นหรือไม่?” มู่ถาม
“อันที่จริง… ที่เหล่าหมอผีล้มเหลวนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาใช้วิธีการที่ผิดและพวกเขายังมีกันน้อยเกินไป…”
เสียงของชายในชุดดาแหบแห้ง “ดังนั้น เพื่อที่จะรับมือกับทหารที่ยิงระเบิดเพลิงออกมา พวกเราต้องส่งหมอผีทั้งหมดที่พวกเรามีออกไป… แต่ว่า ทั้งท่านและข้าต้องตระหนักว่าพวกเขาล้วนเป็นคนผู้มีความสามารถสูงของพวกเรา หากหมอผีของพวกเราเข้าใกล้พวกมันมากเกินไป ก็ย่อมมีโอกาสถูกลอบฆ่าเช่นกัน!”
มู่กัดริมฝีปากตัวเอง
เขารู้ว่าแม่ทัพหยวนผู้นั้นคือผู้ที่สังหารอู่จือฉี!
เป็นผู้ที่มีพลังอานาจและยังเป็นนับรบเก่งกล้า หากเขาเข้าถึงกลุ่มหมอผีได้ ผลลัพธ์ย่อมเป็นสิ่งที่ร้ายแรงเกินคิดได้
“เช่นนั้นพวกเราจะทาอย่างไรดี?”
มู่เลิกคิ้ว
“ท่านแม่ทัพมู่ หากท่านยินดีรอคอยนานอีกสักหน่อย กาลังเสริมของข้ากาลังมาถึงที่นี่ในไม่ช้าแล้ว!”
ชายในชุดดาคานับลงและรายงาน
“ข้าต้องรออีกงั้นรึ?”
มู่กัดฟันราวกับจะเกรงหลุดเสียงหัวเราะหึออกมา
เขารู้ว่าเหล่าปิศาจเตรียมการไว้แล้ว ถ้าหากให้รับความช่วยเหลือที่ยังมาไม่ถึง เขาเลือกที่จะบุกเข้าเมืองหยางโดยตรงมากกว่า!
อย่างไรเสีย ก็มีเพียงเผ่าหูเล่อที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามทางเหนือ
นอกจากนี้ หากทั้งสองฝ่ายกลับล้มตายกันหมด ฝ่ายอื่นก็จะฉวยโอกาสไปเสียเป็นแน่

“สามวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?”
บนกาแพงที่สร้างจากดิน ฟางหยวนยืนอยู่ถงและเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย
“ศัตรูพยายามบุกเข้ามาตลอดสามวันและทาให้ตนเองหมดเรี่ยวแรง รวมกับการตายมากมาย ข้าแน่ใจว่ากาลังใจของพวกเขาตอนนี้น่าจะย่าแย่มากแล้ว…”
ทหารส่วนมากนั้นไม่ได้มีความคิดซับซ้อนและยังทึ่มทื่อ ไม่ได้คิดถึงการจับกลุ่มกันสู้ ดังนั้น พวกมันจึงเทียบกับทหารของเซี่ยไม่ได้
ก่อนหน้านี้ พวกเขานั้นอ่อนแอและเพิ่งได้เปรียบหลังจากลงมือลอบโจมตี
ทันทีที่ทุกอย่างเตรียมพร้อม จุดอ่อนของพวกมันก็เผยออกมา
“ถ่ายทอดคาสั่งลงไปให้เตรียมตอบโต้กลับ!”
ฟางหยวนโบกมือ
“ขอรับ!”
ถงคานับลงอย่างนอบน้อมและลงจากกาแพงไป
หากนี่เป็นเมื่อสามวันก่อน พวกเขาคงจะบ้าพอที่จะใช้ทหารเกือบสามพันโจมตีทหารหนึ่งหมื่นของเผ่าหูเล่อ
ในหมู่ศัตรูนั้นไม่มีผู้ที่มีพลัง แต่ว่า กระทั่งจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่ก็ยังพบว่ามันออกจะลาบากหากถูกกักเอาไว้กลางกลุ่มหมอผีเหล่านั้น
แต่ว่า สถานการณ์ตอนนี้นั้นต่างไปแล้ว
ศัตรูตอนนี้นั้นเหนื่อยล้าและนักรบที่มีความสามารถส่วนใหญ่กลับถูกสังหารไปแล้ว พวกเขามีโอกาสตอบโต้กลับแล้ว
‘ใครจะคิด… ว่าท่านผู้นี้กลับเก่งกาจในกลศึกด้วย!’
ถงคิดกับตัวเองขณะรู้สึกเคารพฟางหยวนมากขึ้น
กลางดึก
เมฆดาลอยมาบังดวงจันทร์และดวงดาวยังส่องแสงสลัว
หมอกชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนสนามรบกลืนกินมันเอาไว้
ส่วนหนึ่งของกาแพงถูกทาลายลงและทหารมากมายหลายแถวเดินออกไปเงียบ ๆ
ตรงหน้าพวกมันคือฟางหยวน ถง เว่ย และกลุ่มของนักรบเก่งกล้าที่ปรับตัวเข้ากับการขี่ม้าได้แล้ว
“พวกเราต้องสังหารพวกมันให้สาเร็จในคืนนี้! ฆ่า!”
ฟางหยวนตะโกนและพุ่งไปข้างหน้า
ที่ฝั่งตรงข้ามคือค่ายทัพของเผ่าหูเล่อ
เผ่าหูเล่อนั้นไม่รู้กระทั่งการตั้งกระโจมให้เหมาะสมกับกระบวนทัพ พวกมันทาเหมือนอยู่ในท้องทุ่งและตั้งกระโจมตามอัธยาศัย หลังจากการต่อสู้รุนแรงสามวัน ในที่สุดพวกมันก็ได้พัก พวกมันเหนื่อยล้าอย่างที่สุดและไม่มีอะไรที่จะปลุกพวกมันขึ้นมาได้
“ฆ่า!”
ฟางหยวนตะโกนและวิ่งเข้าไปในพื้นที่ของพวกมัน จากบนหลังม้า เขายิงลูกธนูออกไปหลายนัด สังหารทหารทั่วไปหลายคน
ภายในไม่กี่นาที ทหารมากมายก็พุ่งเข้าไปในกระโจม พวกมันเริ่มสังหารใครก็ตามที่มองเห็นและเผาทุกกระโจมที่รุดผ่านไป เพียงไม่นาน ทหารนับร้อยก็มาถึงและทุกอย่างก็เกินจะรับมือได้
“ศัตรูลอบโจมตีเรากลางคืน?”
มู่ลุกขึ้นจากเตียงและรีบออกจากกระโจม เขามองเห็นแสงไฟอยู่ทุกที่และยังความวุ่นวายในค่าย “หัวหน้าหน่วย รีบจัดการให้ทหารอยู่ในความสงบ หมอผี เข้าไประงับความวุ่นวายพวกนั้น!”
ศัตรูนั้นเป็นทหารเพียงไม่กี่พันคนและดังนั้น จึงมีเพียงแค่ร้อยคนเท่านั้นที่สามารถก่อการลอบโจมตีครั้งนี้ได้! มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะ
ก่อความวุ่นวายทั้งหมดนี้ขึ้นมา มีเพียงคาอธิบายเดียวก็คือทหารของพวกเขาเองก็มีส่วนร่วมให้เกิดความวุ่นวายเช่นกัน
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้กาลังเข้าจัดการให้ทหารอยู่ภายใต้การควบคุม
“จับตัวและสังหารแม่ทัพมู่! ทาลายเผ่าหูเล่อ!”
ท่ามกลางเสียงตะโกนไม่กี่ครั้ง ทหารหลายสิบบนหลังม้าก็สังเกตเห็นกระโจมสีทองและมุ่งหน้าไปทางนั้น
“ปกป้องแม่ทัพมู่!” หมอผีหลายคนรีบตรงเข้าไปและร่ายมนตราหลายบทออกมา
“ตายซะ!”
เปลวไฟลุกโพลงในดวงตาฟางหยวน ปราณดาบธาตุไฟก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา ทาให้คิ้วของเขามีประกายสีแดงเรื่อเรืองแฝง เปลวไฟสองสายพุ่งออกจากดวงตาของเขา
“ชี่!”
เปลวไฟสะบัดไหวและแผดเผา ชะล้างมนตราของพ่อมดหมอผีทิ้งไป
“ฮ่าฮ่า… ตายซะ!”
เขาสะบัดแส้ม้าให้มันควบตรงเข้าไป ในไม่ช้า เขาก็ไปถึงกระโจมสีทองเช่นกัน ฟางหยวนนั้นเป็นผู้ที่มีทักษะวิทยายุทธ์สูง มีเงามายาของดาบอยู่ในมือ ฟางหยวนสะบัดดาบและศีรษะของหมอผีสองคนก็ลอยขึ้น
“ไป!”
มู่อึ้งไปและทาได้เพียงแค่คิดที่จะหนี
“เป็นหยวนผู้นั้น!”
ชายในชุดสีดานิ่งอึ้งยิ่งกว่าและน้าเสียงก็เปลี่ยนไป “เจ้าทาลายแผนการของข้า เจ้าสมควรตาย!”
“เจ้ามีพลังปิศาจ?”
ฟางหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง เพียงแค่ครู่สั้น ๆ หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นสายธนูเล็งไปที่มู่ที่กาลังถอยและปล่อยลูกศรออกไป
“ฝุบ!”
ลูกศรนั้นมีประกายไฟเล็ก ๆ อยู่ตรงปลาย มันทะลุผ่านองครักษ์สองคนก่อนที่ในที่สุดจะปักเข้าที่แผ่นหลังของมู่
“ข้า…”
มู่มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ “ข้าเป็นแม่ทัพแห่งท้องทุ่งหญ้า ข้าจะตายที่นี่ได้อย่างไร?”
ฟางหยวนนั้นทาบางอย่างกับลูกศรเอาไว้ เปลวไฟเริ่มแผดเผาอยู่ในร่างกายของมู่ ไม่มีใครช่วยเขาได้ และเพียงไม่นานเขาก็ล้มตายลงกับพื้น
“แม่ทัพมู่ตายแล้ว! แม่ทัพมู่ตายแล้ว!”
กองกาลังสุดท้ายของเผ่าหูเล่ออึ้งงันไปกับภาพที่เห็นและแตกพ่ายกระจัดกระจายหนีอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้
“อย่าได้คิดหนี!”
ฟางหยวนจับตามองตัวชายชุดดาและออกไล่ตามไปจนถึงนอกค่ายทัพ
“ฮึ่ม!”
เพียงแค่โบกมือ พายุก็ปรากฏขึ้น เงามายาของดาบเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในพายุและบินไปทางชายชุดดา
ชายชุดดาล้มลงกับพื้นและคารามอย่างเจ็บปวด ตอนที่มันกาลังจะใช้มนตราปิศาจเพื่อหนี มันก็สังเกตเห็นดาบสีเขียวเล่มเล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศ ดาบเล่มนี้มีปราณดาบอันน่าตะลึงและชายชุดดาก็ไม่กล้าขยับตัวอีก
“ก่อนหน้านี้ มันเป็นสงครามระหว่างมนุษย์ ดังนั้น ข้าจึงยั้งมือไว้ ส่วนสาหรับเจ้า… เหอเหอ…”
ฟางหยวนกรีดชุดสีดาออกเผยให้เห็นพังพอนที่กาลังตัวสั่นเทาตัวหนึ่ง
“จ้าวแห่งฝันจากองครักษ์มังกรซ่อน? เหตุใดการฝึกตนของเจ้าจึงต่าเพียงนี้?”
เห็นได้ชัดเจนว่าพังพอนตังนี้นั้นยังไม่ได้อยู่ในระดับสวรรค์มายาเลยด้วยซ้า
“ข้าเป็นเพียงปิศาจน้อยตนหนึ่งเท่านั้น ไว้ชีวิตข้าเถิด!”
พังพอนเริ่มขอร้อง
มันเป็นเพียงจ้าวแห่งฝันในระดับสร้างฝันเท่านั้นและแทบจะไม่มีคุณสมบัติในการข้ามฝัน หากมันตาย ร่างของมันย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสและผลสะท้อนกลับที่มันต้องเผชิญยังจะร้ายแรงกว่าเทียบกับจ้าวแห่งฝันในระดับสวรรค์มายา มันเป็นสถานการณ์เป็นตายแล้ว
“น่าเสียดาย… ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเป็นแค่มดปลวกเท่านั้น เจ้าจะมีคุณค่าอันใด?”
ฟางหยวนถอนหายใจ ดาบลมสงบนั้นดูจะเข้าใจความตั้งใจของนายของมัน เพียงวูบเดียว พังพอนก็สลายกลายเป็นฝุ่นไป ในตอนนั้นเอง ร่างพลังหยินก็ปรากฏขึ้นและถูกขับออกไปจากอาณาจักร
“ร่างพลังหยินนี่…”
เขามองไปยังสุดขอบฟ้า ‘ดูเหมือนเรื่องนี้จะมีพูดถึงอยู่ในมรดกของปราชญ์ฉางหลี…”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ