Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 360

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 360

360: สงครามใหญ่
“ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว!”
ฟางหยวนอดถอนหายใจไม่ได้เมื่อเห็นกาแพงเมืองของเมืองหยาง
ทันใดนั้น เนินพสุธาที่หนุนสูงขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้าก็สะดุดความสนใจของฟางหยวน
“นี่คือเนินพสุธารึ? ช่างน่าประหลาดใจเสียจริง!”
“มะ… แม่ทัพ!”
ถงฟันกระทบกัน ตอนที่พวกเขารีบร้อนมาให้ทันเวลา มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ใช้เคล็ดวิชาออกมาทาให้มาถึงได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ถงกาลังคิดถึงปัญหาที่รอพวกเขาอยู่ เขาก็รู้สึกกระวนกระวายและไม่สบายใจนัก
“คนในเผ่าจิ่วลี่มีกันห้าหมื่นและสิงนั้นเทียบได้กับแม่ทัพใหญ่ผู้หนึ่ง! หากพวกเรานากองกาลังไม่กี่พันคนของพวกเรามาด้วยนั้น พวกมันต้องตายแน่นอน!”
ฟางหยวนโบกมือ “ทิ้งทั้งกองทัพไว้ที่นั่นจะช่วยกดดันพวกทางเหนือต่อได้… พูดอย่างนั้นคือเจ้าไม่กล้ามาที่นี่งั้นรึ?”
“… ข้ามิกล้าไม่กล้า!”
ถงเค้นรอยยิ้มออกมาแล้วตอบ
อย่างไรเสีย ถงก็เป็นจ้าวแห่งฝันในสมาพันธ์แห่งอาณาจักรผู้หนึ่ง หากเขาไม่ต้องการถูกฆ่าหลังจากกลับสู่ต้าเฉียน เขาย่อมทาได้เพียงมาที่เมืองหยางอย่างเชื่อฟังและรอคอยคาสั่งต่อไปถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าโอกาสที่ตนเองจะรอดไปได้นั้นต่าเพียงใด
“เจ้าโง่อีกผู้หนึ่งที่ถูกคาว่า ‘คุณธรรม’ ร้อยรัดเอาไว้!” ฟางหยวนคิดถึงท่าทีของถงอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ครู่ต่อมา เขาก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
ถึงแม้ว่าฟางหยวนจะมั่นใจว่าเขาจะสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ในอาณาจักรนี้ เขาก็ยังต้องเข้ามาในอาณาจักรนี้ถึงจะรู้ว่ามันอันตรายอย่างสุดแสน!
แน่นอนว่า หากนี่ไม่ใช่อาณาจักรแห่งฝันแล้ว ฟางหยวนย่อมไม่ยินดีเลือกเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้ เขาย่อมเลือกที่จะกบฏมากกว่าจะยินดีเอาตัวเองไปประสบอันตรายหากเป็นโลกจริง
วังหลวง
“คานับราชาซี!”
ฟางหยวนและถงคารวะผู้อาวุโสซีเฉิน
“หยวน ถง… พวกเจ้ายอดเยี่ยมมากที่สามารถจัดการกับเผ่าหูเล่อทางเหนือได้!”
ซียังคงสงบนิ่งและเคร่งขรึมเช่นเคย เขาพูดต่อ “เพียงแต่ว่าข้าจะสามารถมอบรางวัลให้แก่พวกเจ้าทั้งสองได้ก็หลังจากที่พวกเราเอาชนะเผ่าจิ่วลี่ได้ก่อน! ตอนนี้ ตามข้าออกไปรับมือกับพวกเขา!”
ซีลุกขึ้นทันทีหลังจากพูดจบ เขาอยู่ในชุดเกราะเต็มตัว
“ขอรับองค์ราชา!”
ฟางหยวนและถงก้าวเท้าถอยหนึ่งก้าวและไปรวมกับพวกขุนนางอื่น ๆ ที่เหลือ จากนั้นพวกเขาก็ยกขบวนไปยังเหนือกาแพงเมืองของเมืองหยางที่ได้รับการระแวดระวังอย่างเต็มที่
“แก้แค้น!”
“แก้แค้น!”
“แก้แค้น!”
กองทัพของเผ่าจิ่วลี่นั้นมาอยู่ประชิดกาแพงเมืองเรียบร้อยแล้ว ทั้งห้าหมื่นนั้นอยู่ในชุดสีดาและตะโกนเสียงดังลั่น เสียงของพวกมันนั้นก้องไปไกล แต่ว่า ขุนนางที่เหนือกาแพงเมืองก็ยังคงไม่สะทกสะท้าน
“นี่คือ…”
จ้าวแห่งฝันและเหล่านักบวชนั้นเห็นมากกว่านั้น
ขณะที่ฟางหยวนกวาดตามองกองทัพของเผ่าจิ่วลี่ เขาก็เห็นไอสีดาและสีแดงที่ลอยขึ้นฟ้าจากบนศีรษะของพวกมัน มันดูเหมือนพวกมันจะตกอยู่ภายใต้ความเกลียดชัดลึกซึ้งและยังคาสาปแช่งต่าง ๆ ยังลอยออกมาจากพวกมัน
“ความเกลียดชังจากทั้งประเทศและคาสาปแช่งจากทั้งเผ่าพันธุ์… สะสมอยู่กว่าร้อยปี…”
ฟางหยวนยังเห็นมากกว่านั้น หางตาของเขากระตุกและเนตรเพลิงของเขาก็ส่องสว่างวาบ
ไอสีดาและแดงยังแน่นหนาขึ้นเมื่อพวกมันรวมเข้าด้วยกัน และยังมีประกายสีม่วงอยู่ในนั้นด้วย!
“มติสวรรค์?!”
สีม่วงนั้นจางหายไปในพริบตา ถึงแม้ว่าฟางหยวนจะมองเห็นมันเพียงแวบเดียว ดวงตาของเขาก็เริ่มเจ็บปวดและยังแทบจะหลั่งน้าตาออกมา
เขาได้เปิดหูเปิดตาอย่างมากทีเดียว “นั่นประไร! ในอาณาจักรนี้ ถึงแม้ว่าเผ่าเซี่ยจะทาได้ดีมาก แต่ว่าสวรรค์ก็ไม่ได้ชื่นชอบพวกเขามากนัก!”
“นอกจากนี้ หากว่าปราชญ์ไม่ได้เข้ามาในอาณาจักรนี้เมื่อครั้งสุดท้าย เผ่าจิ่วลี่่ย่อมกลายเป็นผู้นามนุษย์เต๋าแล้ว!”
“ดังนั้น ถึงแม้ว่าฉือจะถูกทาลายไปแล้ว เผ่าจิ่วลี่ก็ยังรอดชีวิตอยู่ได้ ตอนนี้ พวกเขายังยกทั้งเผ่ามาสู้กับพวกเราและยังได้รับคาอวยพรจากมติสวรรค์!”
เมื่อมีมติศวรรค์อยู่ข้างเดียวกับพวกเขา พวกเขาย่อมได้รับการปกป้องจากพลังสวรรค์ด้วย! หากพวกเขาถูกสังหาร ผู้ที่ลงมือย่อมถูกลงโทษจากความเกรี้ยวกราดของฟ้าและยังต้องเผชิญกับหายนะ! นี่ช่างน่าหวาดกลัวนัก”
ท่ามกลางเผ่าจิ่วลี่ยังมีชายร่างกายายิ่งผู้หนึ่ง เขามีประกายสีแดงเข้มแผ่ออกมารอบตัวและร่างกายยังดูราวกับเป็นเทพเซียน เขายืนอยู่ด้านหน้าและคารามเสียงดัง “… เซี่ยกดขี่พวกเราเผ่าจิ่วลี่มานาน! ในวันนี้ ข้าจะแก้แค้นและพิพากษาโทษพวกมัน! โจมตี!”
ถึงตอนนั้น การสอดแนมทั้งหมด การพูดคุยอย่างสันติ กระทั่งแผนการต่าง ๆ ล้วนไร้ประโยชน์ มีเพียงพลังอย่างเดียวที่จะกดข่มทุกอย่างได้!
“สังหารพวกมันทั้งหมด!”
คนของเผ่าจิ่วลี่ทั้งห้าหมื่นคารามและพุ่งออกมา พลังสีดาและแดงที่บนหัวของพวกมันผสานเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเป็นสีม่วงก่อนที่จะหล่นลงบนหัวของพวกมัน อานวยพรแก่พวกมัน
กระทั่งจ้าวแห่งฝันยังรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อเห็นพลังร้ายกาจเพียงนั้น
“อัญเชิญมนุษย์เต๋า!”
ซีโบกมืออย่างเย็นชาและม้วนภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศ ตอนแรกนั้นก็เป็นภาพของเหล่าบรรพบุรุษทาไร่ไถนา ชีวิตอันลาเค็ญและยังภาพอื่น ๆ ที่เริ่มพัฒนาขึ้น
หลังจากนั้น ดวงวิญญาณมากมายของเหล่าผู้คนอันเก่งกล้าเหนือผู้อื่นในเหล่ามนุษย์เต๋าก็ก่อตัวเป็นแม่น้าสายยาว
นี่คือสายธารมนุษย์เต๋า! เมื่อมันปรากฏขึ้น เผ่าเซี่ยก็ได้รับการสนับสนุนจากพลังของเผ่าตน คล้ายกัน มันยังกระทบต่อสวรรค์เพราะก็ได้รับพลังชะตาสีม่วงด้วยเช่นกัน
“มนุษย์เต๋าก็เป็นส่วนหนึ่งของเต๋าแห่งฟ้า เผ่าเซี่ยนั้นมีหม้อโอสถทั้งเก้าที่สามารถกดข่มพลังชะตาและชดเชยการที่มติสวรรค์ให้การสนับสนุนเผ่าจิ่วลี่… เผ่าเซี่ยยังอาจจะได้เปรียบเล็กน้อยด้วยซ้า!” ฟางหยวนพิจารณาสิ่งที่เห็นอย่างละเอียด
““สู้!”
ซีสั่งเสียงดัง
“สู้!”
“สู้!”
นักรบของเผ่าเซี่ยคารามขึ้นฟ้า
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่าที่มีความเป็นอยู่ดีที่สุดในเก้ารัฐ พวกเขาก็ไม่ได้สูญเสียความกล้าหาญและคุณธรรมไป!
“ปัง!”
ภายใต้เสียงอันดัง กองทัพสองฝ่ายก็ลงมือกันแล้ว
ถึงแม้ว่าทหารของเผ่าจิ่วลี่จะกล้าหาญ พวกเขาก็ยังเสียเปรียบในด้านอาวุธและยังกาแพงเมือง ทันใดนั้นพวกมันก็จนหนทาง กาแพงเมืองของประเทศเซี่ยกลายเป็นเครื่องบดเนื้อที่พรากชีวิตของทั้งสองฝ่ายไปอย่างต่อเนื่อง
“สังหารพวกมันทั้งหมด!”
สิงคารามและรูปเงายักษ์ขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นจากด้านหลังเขา เขาพุ่งเข้าใส่กาแพงเมืองพร้อมหมัด ทันใดนั้น ทั้งอาณาจักรก็สั่นสะเทือน!
เป็นหนึ่งหมัดจากพ่อมด! มันเทียบได้กับร่างสวรรค์! มันหลบไม่ได้! แทบจะไม่มีใครขวางเอาไว้ได้!
หากมันกระแทกเข้ากับกาแพงเมือง กาแพงเมืองย่อมถล่มลงมาเป็นแน่
“สิง!”
ที่บนกาแพงเมือง พระอาทิตย์ดวงหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหลังผู้อาวุโสซีเฉิน ขณะรัศมีของมันแผ่ออกไป อาณาเขตวิญญาณก็แผ่ไปทั่วบริเวณ
“จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดสามารถสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้และยังแผ่อานาจเหนืออาณาเขต! นอกจากนี้… พวกเขายังสามารถสร้างจิตวิญญาณและเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้…” ฟางหยวนคิด
ฟางหยวนจับตามองภาพเบื้องหน้าอย่างไม่ละสายตา
การต่อสู้ของระดับสูงนั้นย่อมไม่ธรรมดาเป็นแน่
“ครืน!”
พระอาทิตย์ฉายแสงสว่างจ้าอยู่บนฟ้า
ภายใต้อาณาเขตรัศมีของมัน ก็ราวกับกาแพงเมืองทั้งแนวได้รับการเสริมพลัง ทหารเผ่าเซี่ยที่ยืนอยู่บนนั้นเองก็ได้รับพลังไปด้วย ขณะที่ทหารของเผ่าจิ่วลี่นั้นถูกแผดเผาและได้รับบาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ ตรงหน้าประตูเมือง สัตว์ร้ายที่สูงราวหนึ่งร้อยศอกสองตัวผุดขึ้นจากรอยแตกบนพื้น หนึ่งในนั้นอยู่ในรูปลักษณ์ของมังกร ขณะที่อีกหนึ่งนั้นเป็นพยัคฆ์ ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยสติปัญญา จากนั้นพวกมันก็คารามเสียงดังลั่นและพุ่งเข้าหาหมัดยักษ์
“ปัง!”
เสียงดังมาให้ได้ยิน พยัคฆ์มังกรระเบิดออก ก้อนหินจานวนมากถล่มลงมา กลิ่นเลือดลอยเต็มอากาศ หมัดยักษ์เองก็หายไปไม่เหลือเงา
“หัวหน้าเผ่าเซี่ย ซี?!”
สิงมองอยู่ ความกระหายเลือดเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของเขา ไม่คิดเลยว่าจะได้พบเหยื่อที่ต้องการตัวที่สุด เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างดุร้ายราวกับหยุดเวลาได้และไปถึงหน้ากาแพงเมืองในชั่วสองก้าว
สิงยกขวานยักษ์ของตัวเองขึ้นสูง “ข้าขอท้าทายเจ้าลงมาสู้!”
“เหตุใดข้าจะไม่กล้าเล่า?”
ซีกระโดดลงไปแผ่วเบา กระบี่ยาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
กระบี่ยาวตรงและสร้างขึ้นอย่างยอดเยี่ยมมีใบสี่ด้าน ด้านหนึ่งสลักพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาวมากมายเอาไว้ อีกด้านนั้นเป็นภูเขา แม่น้า ต้นไม้และต้นหญ้า ถัดไปก็เป็นเคล็ดการทาไร่ไถนา และสุดท้ายเป็นเคล็ดกลศึกที่สามารถควบคุมโลกนี้เอาไว้ กระบี่นั้นมีความหมายและยังเป็นกระบี่แห่งฟ้า!
“กระบี่อันยอดเยี่ยม!” ฟางหยวนคิด
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกายเมื่อเห็นกระบี่ขณะคิด “พลังชะตาของมนุษย์เต๋านั้นควบแน่นอยู่ในกระบี่เล่มนี้ ต่อให้ข้าไปถึงขั้นที่เจ็ด ทหารเวทย์ของข้าก็ยังเทียบกับสิ่งนี้ไม่ได้!”
“ฆ่าพวกมันทุกคน!”
สิงเหวี่ยงขวานขณะตะโกน
ขวานถูกกวัดแกว่งอย่างโหดเหี้ยม ถึงแม้ว่ามันจะดูดิบเถื่อนแต่มันก็ยังเต็มไปสัญชาตญาณอันอธิบายไม่ได้ มันเหมือนกับว่าจะสร้างโลกใบหนึ่งได้
ซีเฉินยกกระบี่ขึ้นประ
“เคล้ง!”
แรงกระเพื่อมรุนแรงแผ่ออกมาทันที แก้วหูของเหล่าทหารรอบด้านในรัศมีร้อยศอกล้วนฉีกขาด พวกมันล้มลงพื้นกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดสามารถสร้างสัตว์ร้ายทั้งกลุ่มขึ้นมาและยังใช้พลังของอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ได้ มันย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายได้!
ถึงแม้ว่าซีนั้นน้อยนักจะใช้ทักษะของตนออกมา ร่างกายของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยเคล็ดวิชาแห่งฟ้า นอกจากนั้น ด้วยการเสริมพลังจากอาณาเขตวิญญาณ ร่างกายของเขาย่อมเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับร่างสวรรค์!
“ฮ่าฮ่า! ดี อีกครั้ง!”
อักขระที่ปกคลุมอยู่รอบร่างกายของสิงนั้นราวกับเกราะเหล็ก เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่พวกเขาทั้งคู่เป็นคู่มือที่เทียบเท่ากัน เขาพูดต่อ “เจ้าก็คือราชาของเผ่าเซี่ย ข้าจะสังหารเจ้าโดยเปิดเผย! ข้าจะเอาทุกอย่างของเจ้าไป!”
“ทาลายกาแพงเมืองและฆ่าล้างเมืองหยาง!”
ขณะที่แม่ทัพผู้ทรงพลังทั้งสองกาลังห้าหั่นกัน เงาดามากมายก็ปรากฏขึ้นที่ด้านนอกเมืองหยางแล้วเปลี่ยนไปเป็นปิศาจหลากหลายเผ่าพันธุ์ โดยเฉพาะที่ในน้า เงาดาโจมตีเนินพสุธาซ้า ๆ
“รีบจัดการกับพวกมัน!”
จูที่ยืนอยู่ด้านบนสั่งการจ้าวแห่งฝัน ขุนนาง และนักบวชทั้งหมดของเผ่าเซี่ยให้รับมือกับเหล่าปิศาจ และผู้ที่มีเคล็ดสวรรค์ในเผ่าจิ่วลี่
ฟางหยวนเองก็สู้ไปตามหน้าที่ ในเมื่อเขาเป็นจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่ เขาก็เลือกสู้กับปิศาจที่มีพลังเท่าเทียมกัน มังกรวารีสีดา เขาสู้กับเหล่าปิศาจช้า ๆ และใช้วิญญาณดาบของเขาเป็นครั้งคราว
มังกรวารีสีดานั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งกาจขององครักษ์มังกรซ่อน ถึงแม้ว่ามันจะฝึกตนมาหลายปีแต่ก็ยังไม่ใช่คู่มือของจิตวิญญาณดาบค่ายกลดาบสามสามารถของฟางหยวน ดังนั้น ฟางหยวนจึงสามารถจับตามองสนามรบไปด้วยได้ในขณะรับมือกับมัน
“ทั้งสองฝ่ายสูสีกันทีเดียว…”
หลังจากกวาดมองรอบ ๆ ด้วยเจตจานงเวทย์ ฟางหยวนก็คิดกับตัวเอง “เพียงแต่… องครักษ์มังกรซ่อนนั้นได้วางหัวหน้าที่เก่งอาจเอาไว้ในอาณาจักรนี้ หลังจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรล่วงรู้เข้า พวกเขาก็ส่งคนเข้าที่นี่มากขึ้นเพื่อเป็นกาลังเสริม ตอนนี้พวกเราก็เพียงแค่ต้องรอแล้วดูว่าใครจะลงมือก่อน!”
ความอดทนของสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังนั้นดูแคลนมิได้
เพื่อที่จะคว้าชัยชนะ มันก็ไม่นับเป็นกระไรหากจะต้องสูญเสียคนในเมืองหยางไปสักหมื่นหนึ่ง!
“แต่ว่า… ในด้านการรวมเต๋ามนุษย์ พลังชะตาแล้ว เผ่าเซี่ยก็ยังเหนือกว่าเผ่าจิ่วลี่! ต่อให้เผ่าเซี่ยพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ก็ยังมีโอกาสให้รุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่หากเผ่าจิ่วลี่พ่ายแพ้ในคราวนี้ ทั้งเผ่าล้วนประสบหายนะแล้ว!” ฟางหยวนคิด
ฟางหยวนเคลื่อนเจตจานงเวทย์
แล้วก็จริง ครู่ต่อมา หม้อโอสถทั้งเก้าในวังหลวงก็สั่นขึ้นและเปลี่ยนไปเป็นลาแสงสีทองทรงพลังเก้าสาย พวกมันพุ่งขึ้นฟ้าและปักลงสู่ผืนดินก่อนที่จะเข้าร่วมในสนามรบ
“ปัง! ปัง!”
ถึงแม้ว่าสิงจะฝึกมนตราจนเทียบได้กับร่างสวรรค์ เขาก็ยังไม่สามารถรับเก้าหม้อโอสถซึ่งข่มพลังชะตาของมนุษย์เต๋าได้ สิงถอยหลังกรูดและมีเสียงลั่นดังออกมาจากร่างกายของเขา
“เผ่าจิ่วลี่แพ้แล้ว! พวกเราเผ่าเซี่ยสร้างเต๋ามนุษย์ด้วยเก้าหม้อโอสถและยังมีพลังชะตาของพวกเราเอง!”
เสียงของซีเฉินยังดังสาทับ “วันนี้… ข้าจะใช้เก้าหม้อโอสถจัดการกับพวกเจ้า!”
ขณะที่เขาพูด เปลวเพลิงก็พุ่งออกมาจากเก้าหม้อโอสถแล้วเผาผลาญร่างสวรรค์ของสิง
“ตูม!”
ราวกับน้ามันเดือดสัมผัสกับน้า เดิมที อักขระเวทย์บนร่างของสิงนั้นฟันแทงไม่เข้า แต่ตอนนี้ เขาทาได้เพียงกรีดร้องอย่างน่าสยดสยองขณะที่เปลวเพลิงของเต๋ามนุษย์แผดเผาร่างกายของเขา ไอสีดาหลายสายปรากฏขึ้นขณะอักขระบนร่างของเขาก็สลายไปอย่างต่อเนื่อง

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ