Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 362

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 362

362: ซ่อนเร้น
“ข้าคิดว่าพวกพ่อมดล้วนเป็นผู้ใจร้อนวู่วามและไม่ซับซ้อนเจ้าเล่ห์ ใครเลยจะคิดว่าจะยังมีคนฉลาด ๆ ที่มองการณ์ไกลและยังคิดเพื่อวันข้างหน้าอยู่ด้วย?”
ฟางหยวนเดินออกมาจากป่าและปรบมือให้ “ไม่ต้องไปมองหาพวกนักบวชหรอก ข้าจัดการกับพวกมันไปแล้ว!”
จ้าวแห่งฝันคนอื่น ๆ นั้นซ่อนตัวทันทีที่พบว่ายังมีจ้าวแห่งฝันระดับสูงกาลังต่อสู้กันอยู่ ไมมีใครคิดเลยว่าฟางหยวนจะกล้าออกจากเมืองและยังเข้ามาในอาณาเขตของศัตรู
ดังั้น ฟางหยวนจึงสามารถคว้าโอกาสอันดีเช่นนี้เอาไว้ได้
หากการตายของสิงคือแผนการคืนชีพแม่ทัพสือ เช่นนั้นสิงจะได้สิ่งใดในการขึ้นเป็นแม่ทัพกัน?
“นี่คือความสามารถของมนตราพ่อมดในการแยกศีรษะกับร่างกายใช่หรือไม่?”
ฟางหยวนโบกมือแล้วดาบเวทย์ทั้งสี่ก็ปรากฏขึ้น เขาจับตัวสิงเอาไว้ภายในค่ายกลได้อย่างรวดเร็วด้วยการควบคุมพลังของน้า ไฟ ลม และสายฟ้า
“ร่างกาเนิดของเจ้าช่างทรงพลังนัก แต่ว่า เพื่อฟื้นคืนชีพให้ฉือ เจ้าเสียสละพลังไปมหาศาลและยังใช้สายเลือดพ่อมดในการร่ายเคล็ดคืนชีพ เจ้ายังเหลือพลังอยู่ในร่างอีกเท่าใดกัน?”
โดยไม่ลังเล เขาร่ายค่ายกลดาบจตุลักษณ์อันทรงพลังที่สุดของเขาเพราะต้องการให้ศัตรูสูญเสียความหวังทั้งมวลที่จะชนะและจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้
“นายท่านสั่งให้เราสังหารพ่อมดเหล่านั้น!”
ดาบเวทย์ทั้งสี่นั้นมีจิตวิญญาณและพวกมันก็ส่งปราณดาบไปรวมกันที่ตรงกลาง
นอกจากนี้ มันยังเหมือนกับว่าทั้งอาณาจักรนั้นเริ่มหดตัวเล็กลงด้วยตัวเอง
“นี่คือ… อีกอาณาจักรหนึ่ง? ไม่ นี่เป็นเพียงอาณาเขตจาลองเท่านั้น!”
เห็นเช่นนี้แล้ว สิงก็คารามเสียงดัง “หากร่างจริงของข้ายังอยู่ที่นี่ข้าสามารถเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นกองเลือดเนื้อได้เพียงแค่เหวี่ยงขวานของข้าครั้งเดียว เจ้าเป็นใคร เจ้าคือปิศาจจากภายนอกที่น่ารังเกียจพวกนั้น?”
“ข้าคือ… หยวน! แต่ว่า ไม่จาเป็นต้องจดจานามของข้าเอาไว้ คนตายย่อมไม่จาเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้! ค่ายกลดาบจตุลักษณ์ สังหาร!”
ค่ายกลดาบจตุลักษณ์อันสมบูรณ์ย่อมสามารถสร้างอาณาจักรจาลองขึ้นมาได้และยังต่างไปจากค่ายกลอื่นมากนัก
นี่เป็นความลับของค่ายกลดาบแปดประตู หากจ้าวแห่งฝันจากโลกหลักมาเห็น พวกเขาย่อมสามารถจดจามันได้
แต่ว่า สิงนั้นเป็นคนที่อาณาจักรโบราณ และย่อมไม่เคยได้รู้ข้อมูลนี้มาก่อน
“ชี่! ชี่!”
ลาแสงสีแดง ฟ้า ม่วง และเขียวหลอมรวมกัน ด้วยพลังของแต่ละธาตุที่แตกต่าง ตาข่ายอันใหญ่ก็ก่อตัวขึ้น ปกคลุมทุกทางหนีที่เป็นไปได้
“โอ้ เช่นนั้นเจ้าก็คือหยวนผู้นั้น!”
สิงคารามขณะกระแทกหมัดออกไป
“ซ่า!”
ทั้งค่ายกลสั่น แต่ตาข่ายที่เกิดจากปราณดาบยังคงลอยมาทางเขา
“ชี่!”
สิงรีบถอยและตระหนักได้ว่าหมัดของเขานั้นเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นแดงก่า “ข้าเกลียดสิ่งนี้! ปิศาจจากภายนอก เจ้าจะได้รับทัณฑ์สวรรค์ของเจ้า!”
“เจ้าพูดไร้สาระมากเกินไปแล้ว! ตายซะ!”
เพียงแค่คิด ฟางหยวนก็ครอบตาข่ายเข้ากับตัวสิง ก่อให้เกิดหมอกเลือดสาดกระจายออกมา
หมอกเลือดนี้หนามากจนดูเป็นสีดา ในนั้น ยังมีใบหน้าของเหล่าพ่อมดนับไม่ถ้วนสาปแช่งและดิ้นรน
“หลอม!”
เห็นสิ่งที่สิงทาก่อนหน้านี้แล้ว ฟางหยวนก็ยังคงหวาดกลัวเคล็ดคืนชีพอยู่เล็กน้อย ดังนั้น เขาจึงสั่งให้ค่ายกลเปลี่ยนไปเป็นเปลวไฟและหลอมเลือดของสิงให้บริสุทธิ์
“ข้าเกรงว่าสิงผู้นี้คงเป็นเพียงแค่หนึ่งส่วนในร้อยส่วนของที่เขาเคยเป็นเท่านั้น แต่ว่า กายเนื้อของเขาก็ยังอยู่ที่นี่ การที่ค่ายกลดาบจตุลักษณ์สามารถสังหารเขาได้นั้นก็ไม่ต้องสงสัยในพลังของมันแล้ว!”
ฟางหยวนมีสีหน้าพึงพอใจ เปลวเพลิงลุกโหมขณะที่ในที่สุดเขาก็หลอมเลือดหยดสุดท้ายและวิญญาณจากร่างของสิงได้
ในที่สุด ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็คือเลือดแท้หนึ่งหยด ราวกับไส้เดือน มันเริ่มบิดตัวราวกับมีจิตวิญญาณ
“เป็นเลือดของผู้มีพลังที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้มาถึงตอนนี้ แต่ว่า ก็ไม่สาคัญอันใดแล้ว! ดาบตัดอสนี!”
ภายในค่ายกลดาบจตุลักษณ์ ฟางหยวนนั้นเป็นเทพเจ้า!
เพียงแค่โบกมือ ดาบตัดอสนีก็ปรากฏขึ้นในมือและส่องประกายออกมา
“อ๊าก!!!”
เสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้นดังมา กระทั่งฟางหยวนยังสั่นสะเทือน
นี่คือทั้งหมดที่เหลืออยู่ในอาณาจักรนี้ของสิง และยังถูกทาลายโดยฟางหยวน
เมื่อไม่มีจิตสานึกแล้ว หยดเลือดแท้นั้นในที่สุดก็หยุดดิ้นรน มันถูกหลอมจนบริสุทธิ์และตอนนี้ก็เป็นผลึกที่มีสีแดงทึบ
“ถึงแม้ว่าซีจะมอบหยดเลือดแท้จากพ่อมดทรงพลังให้ข้ามาก่อน แต่มันก็ไม่นับเป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับผลึกนี่!”
ฟางหยวนมีสีหน้าดีใจ ทันใดนั้น เขาก็ขนลุกซู่ทั้งตัว
เขาตัดสินใจเก็บค่ายกลดาบและจากไปอย่างรวดเร็ว
“นี่คือ..”
เขาสัมผัสได้ถึงความกังวลของตนเองซึ่งเป็นความรู้สึกอันคุ้นเคย “นี่คือวิธีการที่อาณาจักรแยกแยะพวกเรางั้นหรือ? กระทั่งเก้าหม้อโอสถของเต๋ามนุษย์ยังกดข่มมันไม่ได้?”
จ้าวแห่งฝันนั้นเป็นผู้ที่มาจากนอกโลก นี่ก็คล้ายกับที่อาณาจักรฮุยและอาณาจักรวารีก่อนหน้านี้ หากใครท้าทายสวรรค์ย่อมต้องเผชิญกับหายนะ!
ยังมีข้อยกเว้นในอาณาจักรโบราณเนื่องจากอาณาจักรโบราณนั้นควบคุมเหนือมนุษย์เต๋าและยังมีการใช้เก้าหม้อโอสถควบคุมมนุษย์เต๋าอยู่!
ตอนนี้ เก้าหม้อโอสถนั้นไม่มีพลังอีกต่อไปแล้วและฟางหยวนยังทาลายสายเลือดพ่อมดด้วย นี่เป็นผลสะท้อนที่เขากาลังจะได้เผชิญแล้ว!
“จะมีสายฟ้าผ่าลงมาหรือไม่?”
ฟางหยวนมองขึ้นไปที่เมฆบนท้องฟ้าและรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเป็นที่สุด
หลังจากเขาจากไปแล้ว ความสงบสุขก็กลับคืนมาสู่บนเขา
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีลาแสงหลายเส้นลอยเข้ามาในภูเขาลูกนั้น มีเสียงอุทานหลายเสียงและน้าเสียงยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังและสิ้นหวัง

บนบรรพตฟาง
เว่ยสะพายคันธนูเอาไว้บนหลังและเดินตรวจตรา นางเตะก้อนหินสองสามก้อนให้พ้นทาง “เจ้าบ้าหยวน… เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าข้ารู้สึกกับเจ้าอย่างไร? เหตุใดจึงไม่พาข้าไปด้วย! ขออย่าได้เกิดเรื่องร้ายอะไรกับเจ้าเลย!”
ความคิดต่าง ๆ แล่นอยู่ในใจนาง ทันใดนั้น เงาดาเงาหนึ่งก็บินข้ามศีรษะของนางไป
“แม่นางเว่ย!”
นักรบที่รอบ ๆ ตัวนางส่งเสียง “สัตว์ประหลาดจากด้านในเทือกเขาโยวโตว พวกมันมากันอีกแล้ว!”
ถึงแม้ว่าชื่อของเทือกเขาจะถูกเปลี่ยนไแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคุ้นเคยกับชื่อเดิมของมันมากกว่า
“ไปดู!”
เงาดานั่นก็คือนกยักษ์ตัวหนึ่ง มันคล้ายกับเฟิ่งหวง และยังมีหางยาวและปกคลุมไปด้วยขนสีดาแกมทอง เว่ยชอบมันตั้งแต่เมื่อเห็น “นี่เป็นเหยื่อของข้า!”
โดยไม่คิดซ้าสอง นางดึงยิงลูกธนูออกไปทันที
“ฝุบ!”
วิชาธนูของนางนั้นยอดเยี่ยมมาตลอด ตอนนี้เมื่อนางได้ธนูที่ดีที่สุดของเผ่าเซี่ยมาใช้ นางย่อมมีความแม่นยามากกว่าแต่ก่อน แต่ว่า เพียงแค่กระพือปีกครั้งเดียว นกนั่นก็หลบพ้นลูกศรไปได้
นกสีดาอึ้งไปและไม่กล้าชักช้าอยู่แถวนี้ต่อ และบินตรงไปยังบรรพตฟาง
“ตามมันไป!”
เว่ยไล่ตามเข้าไปสู่บรรพตฟางอย่างไม่คิด “ข้าต้องการเก็บขนของมันมามอบให้หยวนเป็นของขวัญแห่งชัยชนะให้เขา!”
นางเร็วมาก เพียงครู่เดียว นักรบที่ด้านหลังก็ไล่ตามนางไม่ทันเมื่อนางเข้าไปลึกในภูเขามากขึ้น
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
ตามเสียงร้องแหลมสูงของนกไป เว่ยตะลุยผ่านพุุ่มไม้หนาและในที่สุดก็ไปถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง
ทันทีที่นางไปถึง นางก็เห็นนกตัวนั้นนอนอยู่บนพื้น มองมาที่นาง นกกางปีกออกอย่างรวดเร็วและบินขึ้นฟ้าไป เพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นจุดสีดาแล้วหายลับไป
บนพื้นที่มันเคยนอนอยู่นั้น มีไข่ใบกลมใหญ่ใบหนึ่งที่ยังมีไอลอยกรุ่นออกมา
“ไข่นี่…”
เว่ยก้าวเท้าเข้าไปก้าวหนึ่งและเคาะไข่นั่นด้วยข้อนิ้วของนาง ในดวงตาปรากฏแววสงสัย “… มันกินได้ใช่ไหม?”

“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น?”
ฟางหยวนเดินทางกลับมาถึงเมืองหยาง จู่ ๆ ความรู้สึกกังวลที่ติดอยู่ในใจเขาก็หายไป
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรู้สึกว่าตนเองกลมกลืนกับโลกใบนี้
‘ความรู้สึกนี้… มันเหมือนกับตอนที่ข้าใช้ตาแหน่งของอาณาจักรเข้าสู่อาณาจักรวารีก่อนหน้านี้ แต่ว่า ข้ารู้สึกได้ว่าในครั้งนี้นั้น.. เหมือนอาณาจักรนี้จะยอมรับข้าโดยสมบูรณ์?’
ฟางหยวนยังคงอึ้งอยู่ ความคิดมากมายผุดขึ้นมา ‘เป็นไปได้ไหมว่า… การสวดภาวนาของเผ่าของข้านั้นได้ผลแล้ว? ที่เผ่าของข้าสวดอ้อนวอนต่อสวรรค์?’
ถึงตอนนี้ ในสนามรบก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ที่เหนือสนามรบเป็นตะวันดวงโต ที่ใต้นั้นเป็นต้นไม้เขียวขจีต้นใหญ่เติบโตสูงขึ้นฟ้า
เมื่อรวมพลังกัน จ้าวแห่งฝันทั้งสองคนในที่สุดก็สามารถใช้พลังของทหารทั้งเก้ารัฐได้ กระทั่งเสียงของแม่ทัพฉือยังอ่อนลง
“เจ้าสังหารคนหนุ่มสาวไปมากมาย… และตอนนี้ยังก่อเรื่องใหญ่โต? จิ่วอินจื่อ เจ้าอยากตายด้วยวิธีใด?”
มีเสียงเยาะเย้ยดังมาจากมังกรเพลิงของผู้อาวุโสนักหลอมที่ข้าง ๆ เขา
“ข้าแค่ต้องการเห็นเจ้าตาย! เคี๊ยกเคี๊ยก…”
จิ่วอินจื่อในร่างมังกรแห่งแสงหัวเราะเสียงชั่วร้าย
“ฝุบ!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงลั่นกราว พื้นดินแยกออกและเงาร่างมายาไร้หัวที่เต็มไปด้วยบาดแผลก็ปรากฏขึ้นพร้อมประกายแสง
“ฆ่า!”
ซีเฉินแลกเปลี่ยนสายตากับชิงมู่ก่อนที่จะส่งพลังไปที่ร่างของฉือ
“ฝุบ!”
มนตราพ่อมดที่ร่างสวรรค์ของฉือแตกออกทันที ท้องฟ้าเริ่มหลั่งฝนเลือด และหัวใจสีแดงสดจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศ เต้นตุบอย่างมีชีวิตชีวา
“โฮก! โฮก!”
เมฆแยกเปิดออก หัวของแม่ทัพที่ดูโหดเหี้ยมปรากฏขึ้น
หัวใจเริ่มเข้าไปรวมกับหัวนั่น เลือดเริ่มสาดกระจายไปทุกที่ขณะที่ร่างใหญ่ยักษ์เริ่มก่อตัวขึ้น
“ข้าคือฉือ! ข้าไร้พ่าย!”
เจตจานงเวทย์อันแข็งแกร่งแผ่ออกจากร่างของเขา “ทุกครั้งที่ข้าตายก็เพียงทาให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!”
“พวกเราต้องฆ่าเขาให้ได้!”
พลังแข็งแกร่งสองสายเริ่มพุ่งเข้าหาฉือ แต่ว่าก็ถูกหมอกสีดาหลายชั้นรั้งเอาไว้
ซีเฉินมองชิงมู่อีกครั้งและมีสีหน้าหนักใจ “พลังพ่อมดของเขาเพิ่มขึ้นอีก? หรือว่าเขาดูดซับความอาฆาตแค้นจากในอาณาจักรก่อนที่จะตายตกไปได้จริง ๆ น่ะหรือ?”
“ฟ่อ! ฟ่อ!”
ถึงตอนนี้ ที่ริมตลิ่งแม่น้าหยาง ก็มีเงาสีดายาวเงาหนึ่งเลื้อยออกมา
“ฝุบ!”
บนผิวน้าที่แตกกระจาย ปิศาจร่างใหญ่ตนหนึ่งเผยตัวออกมา
มันคือปิศาจงู แต่ว่า มันมีเก้าหัว แต่ละหัวยังมีพิษกัดกร่อน
เพียงแค่พลิกหาง ผนึกที่สร้างจากเนินพสุธาก็แตกออกทันที
“ครืน!”
ทันทีที่ผนึกแตกออก คลื่นน้าอันน่าหวาดกลัวก็ถาโถมออกมา กระแทกเข้ากับกาแพงเมืองที่อ่อนแอลงอยู่แล้ว
“ปัง!”
กาแพงเมืองทั้งแนวเกิดรอยแตก น้าในแม่น้าเริ่มท่วมเข้าไปในเมืองหยางอย่างไร้ปรานี นาพาทุกอย่างที่อยู่ในทิศทางการไหลไปด้วย
เมื่อเผชิญกับหายนะเช่นนี้ นักรบทั่วไปย่อมไม่มีโอกาสใดและล้วนตายตก นอกเสียจากว่าจะมาจากเผ่าเซี่ยหรือเผ่าจิ่วลี่
“เป็นเซียงลิ่ว!”
จ้าวแห่งฝันจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรถอนหายใจโล่งอก “นี่ไม่ใช่จิตวิญญาณที่แท้จริงของมัน และดังนั้น พลังของมันจึงจากัด!”
“ฟ่อ! ฟ่อ! เผาร่างปิศาจเพื่อหนึ่งกระบวนท่า!”
ในตอนนี้เอง ก็มีแสงปริศนาส่องประกายที่บนหัวทั้งเก้าของเซียงลิ่ว ขณะที่เลือดในร่างของมันถูกเผาผลาญ คลื่นพลังก็เริ่มแผ่ออกไป “ผู้อาวุโส ข้ามาช่วยท่านแล้ว!”
ในตอนนี้ พระอาทิตย์สีเขียวระเบิดไปทางฉือที่กาลังสร้างร่างสวรรค์!
ถึงแม้ว่าฉือจะมีพลังเพิ่มมากขึ้น แต่รับมือกับจ้าวแห่งฝันถึงสามคน หมอกสีดารอบตัวเขาก็เริ่มจางไปเผยให้เห็นร่างจริงของเขา
“ชี่!”
เลือดกระจายออกมาขณะที่พระอาทิตย์สีเขียวระเบิดเข้าใส่ร่างของฉือประทับอักขระเวทย์บนร่างของเขาแผ่ประกายลึกลับออกมา
“อย่าไว้ใจพวกมัน! พวกมันคือปิศาจจากนอกโลก!”
ฉือโกรธเกรี้ยว
“ฮ่าฮ่า… มันสายไปแล้ว พวกเจ้าต้องตายแน่นอนเมื่อพวกเราทาลายสายเลือดพ่อมดของพวกเจ้า ข้าสงสัยว่าโลกจะเปลี่ยนไปไหมหากพวกเราใช้เจ้าเป็นหนึ่งในบรรณาการแด่สวรรค์?”
เซียงลิ่วหัวเราะก่อนที่จะฟุบลงไปและหยุดหายใจ

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ