Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 365

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 365

365: เนตรเพลิงสีทอง
หลายเดือนต่อมา ที่ผืนดินมั่งคั่งจินหยาง
ฟางหยวนนอนอยู่ในบ่อร้อยพิษและมือทั้งสองข้างนั้นวางเอาไว้ขอบบ่อราวกับกาลังแช่อยู่ในบ่อน้าพุร้อน สีหน้าดูมีความสุข
“ข้าเกรงว่าข้าจะบรรลุระดับสิบได้ในวันนี้!”
เขาลืมตาขึ้นและมีท่าทางตื่นเต้น
ฟางหยวนนั้นยอมรับได้อย่างเต็มใจว่าเขาต้องเข้ารับการทดสอบ
เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงหายนะในต้าเฉียนได้ ต่อให้เขาซ่อนตัวอยู่ในที่มิดชิดเขาก็ยังคงต้องเข้าไปในอาณาจักรแห่งฝันและมีการติดต่อกับจ้าวแห่งฝันอื่น ๆ อยู่ดีใช่หรือไม่?
ที่ใดมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีอารยะ!
เช่นเดียวกันกับทุกสานัก ทุกคนที่อยู่บนกระดานหมากรุกย่อมทาทุกอย่างให้ตนเองไม่ตกเป็นเพียงแค่เบี้ย ความแตกต่างเดียวก็คือไม่อยากเป็นเบี้ยก็ต้องใช้เวลากับสานักให้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นเวลานี้ ฟางหยวนนั้นทาได้เพียงยอมรับสิ่งที่ต้องรับเอาไว้ในเมื่อมันเป็นกฎของสานัก
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขานั้น มีไข่มุกมังกรลอยกระเพื่อมอยู่และแผ่ประกายลึกลับออกมา ข้อมูลชิ้นหนึ่งลอยออกมาจากในนั้น เป็นข้อมูลที่ปกติแล้วจากัดการเข้าถึง
“ข้าเป็นเพียงจ้าวแห่งฝันระดับกลางเท่านั้นและข้ายังคงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดนี้”
ฟางหยวนเริ่มอ่านบันทึกที่มีรายละเอียดเคล็ดลับสาหรับจ้าวแห่งฝันที่ต้องรู้เมื่อข้ามฝัน ข้อมูลนี้ละเอียดมากกว่าที่ได้มาจากอาณาจักรแห่งฝันเสียอีก
กระทั่งผู้ฝึกตนบรรณที่หกหรือเจ็ดก็อาจจะไม่สามารถได้รับข้อมูลชิ้นนี้ด้วยซ้า
ตอนนี้ ทั้งหมดนี้เขาล้วนเข้าถึงได้
“ปราชญ์ฉางหลีดูจะเป็นผู้ที่เก่งกาจในด้านการข้ามฝัน… ข้าไม่เคยได้ยินวิธีทั้งหมดนี้ของเขาเลย เขาน่าจะมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก… ข้าสงสัยว่าความลับอะไรกันที่อยู่ใจกลางข้อมูลเหล่านี้?”
ฟางหยวนได้รับบันทึกนี้ที่มีรายละเอียดเคล็ดวิชาอยู่ เคล็ดวิชานี้นั้นเกี่ยวกับการตรึงจิตวิญญาณแท้จริงของจ้าวแห่งฝันเอาไว้ในอาณาจักรอื่นเพื่อไม่ให้มีโอกาสหนีออกมาได้ นี่สะดุดความสนใจของเขาและเขาก็อ่านต่อในรายละเอียด
โดยไม่รู้ตัว เวลาหลายชั่วโมงก็ผ่านไปและบ่อน้าพิษก็ค่อย ๆ ใสขึ้นช้า ๆ เขาปีนขึ้นจากบ่อ สลัดหยดน้าออกจากร่างและเดินพลังในร่างไปทั่วทั้งร่าง กาจัดเศษสิ่งที่เหลืออยู่ทิ้งไป
น้าเริ่มระเหยจากร่างเขาเป็นไอ เผยให้เห็นผิวกระจ่างที่ด้านใต้ บนผิว ยังแฝงชั้นของโลหะสีทองเอาไว้
“ในที่สุดข้าก็ฝึกร่างทองคาร้อยพิษถึงขั้นที่สิบ!”
ฟางหยวนถอนหายใจหนักและกาหมัดแน่น มีเสียงข้อนิ้วลั่นดังมา
“ตอนนี้ข้าสามารถใช้ร่างกายของข้ารับมือกับอู่จงขอบเขตเปิดชีพจรได้แล้ว! หวังว่าร่างนี้จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับหยดเลือดแท้ของพ่อมดได้!”
ในเมื่อเขาไม่สามารถข้ามฝันและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากในอาณาจักรอื่นได้ หนทางเดียวที่เขาจะเพิ่มระดับการฝึกตนของเขาได้ในระยะเวลาอันสั้นย่อมเป็นการดูดซับหยดเลือดแท้ของพ่อมดแล้ว
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นสมบัติที่ดี ฟางหยวนก็ยังคงต้องมีระดับพื้นฐานที่ดีก่อนที่จะรับมันเข้าไปได้ หากเขาเป็นเพียงอู่จงธรรมดาหรือกระทั่งอู่จงขอบเขตเปิดชีพจร เขาย่อมทาลายร่างกายของตนไปเป็นแน่หากดูดซับหยดเลือดนี้
ฟางหยวนนั้นทาการทดลองอยู่หลายครั้งและในที่สุดก็ตัดสินใจว่าอย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องมีความแข็งแกร่งของร่างกายที่ระดับสิบก่อนที่จะดูดซับหยดเลือดนี่ได้!
ร่างกายนั้นเป็นแหล่งปราณของเจ้าของซึ่งแตกต่างไปจากความแข็งแกร่งของอู่จง
แต่ว่า นั่นก็ไม่สาคัญแล้ว ฟางหยวนนั้นมีเคล็ดวิชาเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว
เพียงแค่คิด ผลึกสีแดงเลือดในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขาก็ระเบิดออก เปลี่ยนไปเป็นพลังหลายเส้นพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา
“อืม…”
ฟางหยวนกัดฟันขณะใบหน้าเปลี่ยนไปเป็นเกรี้ยวกราด
ใต้ผิวของเขา เส้นเลือดสีเขียวเริ่มปูดนูนและหดเกร็งเป็นหยักราวกับงูตัวเล็ก ๆ กล้ามเนื้อของเขาเริ่มขยายโตและร่างกายเริ่มใหญ่ขึ้น เปลี่ยนเขาไปเป็นยักษ์ตัวย่อม ๆ
“หยดเลือดแท้ของพ่อมดนั้นมีพลังจริง… มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
เขาพึมพากับตัวเองขณะสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขากาลังจะพังลงแล้ว แต่ว่า เจตจานงอันแข็งกล้าของเขายังคงแน่วแน่และไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอก เขายังคงสงบใจอยู่ได้
“ซ่า! ซ่า!”
ประกายโลหะสีทองเริ่มครอบคลุมร่างของเขา เขาไม่ได้ระเบิดตัวเองออกเป็นกองเลือดเนื้อกองหนึ่งเพราะว่ามีพื้นฐานของการฝึกฝนร่างกายระดับสิบโดยแท้จริง
แต่ว่า นั่นก็ยังไม่เพียงพอ
เมื่อเลือดของพ่อมดเข้าสู่ร่างกายของเขา ฟางหยวนก็รู้สึกเหมือนว่าจะมีมังกรดุร้ายจานวนนับไม่ถ้วนบุกตะลุยไปตามเส้นเลือดของเขา
แรงมหาศาลในเลือดนั้นราวกับหินหนืดร้อน ๆ ทาลายทุกสิ่งที่มันผ่านไป
กระทั่งการป้องกันตัวเองอย่างร่างทองคาของเขา ก็ยังมีรอยช้ามากมายเริ่มปรากฏขึ้นตามรูขุมขน
“นี่มันอะไรกัน… เลือดของข้าถูกขับออกไป? เลือดแท้ของพ่อมดช่างแกร่งกล้านัก มันพยายามเปลี่ยนทั้งร่างกายของข้าใช่หรือไม่? น่าเสียดาย… สิ่งเดียวที่ข้าต้องการจากเจ้าก็คือพลังของเจ้า!”
ฟางหยวนรีบเรียกปราณดาบธาตุลม สายฟ้า น้า และไฟมาล้อมร่างเอาไว้ เมื่อมีทั้งสี่ธาตุ เขาก็สร้างอาณาจักรจาลองขึ้นมาที่รอบตัวเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขา
ที่จุดตันเถียน พลังธาตุวิทยายุทธ์ของฟางหยวนเริ่มพลุ่งพล่านราวกับต้องการเข้าควบคุมพลังจากเลือดของพ่อมด
ถึงแม้ว่าพลังอันป่าเถื่อนของเลือดของพ่อมดนั้นจะดูเหมือนมังกรดุร้าย พลังธาตุยุทธ์ของฟางหยวนก็ยังหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องจนได้เปรียบด้วยปริมาณที่มากกว่ามาก มันเริ่มเข้าควบคุมเหนือเลือดแท้ของพ่อมดทุกเวลาผ่านไป
สามร้อยวัน!
หกร้อยวัน!
หนึ่งพันวัน!

เวลาผ่านไป ทันใดนั้น ร่างของฟางหยวนก็กระตุกและพลังธาตุของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น หลังจากทั้งหมดนี้ ในที่สุดเขาก็ดูดซับเลือดแท้ได้เกินกึ่งหนึ่งแล้ว
ราวกับถูกน้าร้อนราดรด ความรู้สึกร้อนผ่าวเริ่มกระจายไปตามแขนของเขา มันทั้งชาและคันผสานไปกับความรู้สึกร้อนและหนาว
“คราวนี้… ไม่ใช่เลือดของข้าที่กาลังเปลี่ยนไป แต่ว่า เป็นเลือดของข้าพยายามควบคุมเลือดแท้ของพ่อมดที่ก่อปัญหาทั้งหมดนี้!”
ฟางหยวนรู้ว่าร่างของเขานี้เป็นของต้าเฉียนและเขาก็ไม่ได้เตรียมจะไปที่อาณาจักรโบราณเป็นประจา ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการเปลี่ยนเลือดทั้งหมดไป
นอกจากนี้ โลกนี้ที่เขาอาศัยอยู่นั้นยังไม่ยอมรับเลือดแท้จากสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังจากอาณาจักรอื่น เขาย่อมถูกควบคุมด้วยสักวิธีหนึ่งหากเขาเปลี่ยนเลือดไป
ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดสาหรับเขาก็คือใช้เลือดของพ่อมดในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเอง
“ข้าทาลายวิญญาณของสิงไปนานแล้ว ตอนนี้ ข้าเพียงแค่ต้องกล่อมเกลาเลือดที่ยังมีประทับของสิงเหลืออยู่ ลงมือซะ!”
เจตจานงเวทย์ของฟางหยวนขยับ
“ครืน!”
โลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขาเริ่มสั่นสะเทือนและข้อมูลเกี่ยวกับมนตราก็เริ่มไหลบ่า
ในจุดตันเถียนของเขา การต่อต้านสุดท้ายจากเลือดแท้ของพ่อมดนั้นเริ่มสงบลงและร่างกายขยายบวมของเขาก็เริ่มหดเล็กลง
“ฝุบ!”
คิ้วของเขาขมวดแน่น เพียงแค่โบกมือุ่สะเก็ดแผลสีแดงเข้มก็หล่นออกไปจากร่างของเขาราวกับงูลอกคราบ
“ข้าสามารถใช้โอกาสนี้ขับพิษในร่าง…”
ฟางหยวนย่นคิ้วขณะกาจัดปลิงดูดเลือดบนร่างออกอย่างรวดเร็ว มองผิวสีทองแดงของตัวเองแล้วเขาก็พูดไม่ออก
หลังจากดูดซับเลือดแท้ของพ่อมดเข้าไปโดยสมบูรณ์ ก็มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงกับร่างกายของเขา
เขากาหมัดข้างขวาและทันใดนั้นก็เกิดเสียงปริแตกราวกับอากาศในกามือของเขานั้นถูกบดขยี้
“นี่คือ… พลังกายของข้า? ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ทั้งหมด…”
เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ดวงตาอย่างชัดเจนซึ่งเขาสามารถเรียกใช้ได้ตามต้องการ “ทักษะมนตรา? ข้าเคยใช้ทักษะนี้ที่ครั้งหนึ่งมีเฉพาะในร่างสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์?”
เมื่อเขาโบกมือ กระจกที่ทาจากน้าก็ปรากฏขึ้น สะท้อนให้เห็นรูปลักษณ์ราวกับเทพเจ้าของเขาเอง
ฟางหยวนตรวจดูร่างกายตัวเอง ชายหนุ่มในกระจกนั้นหล่อเหลาและมีชีวิตชีวา เขามีดวงตางดงาม และเมื่อเขากลอกตาไปมามันก็เปลี่ยนไปเป็นสีทอง ราวกับมีดวงไฟจิ๋ว ๆ อยู่ในดวงตา
“นี่คือความสามารถของเนตรวิญญาณ?”
เขามองออกไปและพบว่าตอนนี้เขาสามารถมองทะลุกาแพงของห้องโถงออกไปและยังมองผ่านค่ายกล เขาสามารถมองเห็นพลังธาตุในธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ได้
“ข้าน่าจะต้องพัฒนาทักษะที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากดวงตาของข้าได้!”
ที่เหนือสิ่งอื่นใด ฟางหยวนยังดูผู้ใหญ่และดูอ่อนโยน เขายิ้มกับตัวเอง “นี่คือรูปแบบสมบูรณ์ของเนตรเพลิง เนตรเพลิงสีทอง?”
จากนั้นเขาก็เรียกหน้าต่างสถานะออกมาและพบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 96
พลังลมปราณ: 48
พลังเวทย์: 60
สายวิชา: ผู้ป้องฝัน
การฝึกตน: สวรรค์มายา (ขั้นที่ 4), อู่จง (ชีพจรที่ 5)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 6)(1 ใน 100 ส่วน)], ร่างทองคาร้อยพิษ (ระดับที่ 10), [ค่ายกลดาบแปดประตู (ดาบที่ 5)(1 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)],[เนตรเพลิงสีทอง (ระดับ 1)]”
“เนตรเพลิงสีทอง: ความสามารถของพ่อมด เกิดจากเนตรเพลิงระดับห้า สามารถใช้อ่านและทานายอนาคต และยังกาจัดคาถาสะกดต่าง ๆ ส่วนใหญ่ได้! ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 1!”
“เป็นพลังของเลือดแท้ของพ่อมดที่สามารถเพิ่มพลังกายของข้าได้ถึงสองเท่า!”
เมื่อเห็นพลังกายของตนเองกาลังจะถึงหนึ่งร้อย ฟางหยวนก็สูดลมหายใจเย็นเยียบ “ข้าคิดว่าข้าอยู่ไม่ไกลจากการสร้างร่างสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์แล้ว! ด้วยรากฐานเช่นนี้ ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งอย่างน่ากลัวทีเดียว!”
นอกจากได้ครอบครองทักษะเนตรเพลิงสีทอง ก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่ว่า รากฐานความแข็งแกร่งของร่างกายของฟางหยวนนั้นช่างเกินจินตนาการ!
“ข้าจะแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์คนไหน ๆ ที่ไม่ใช่ระดับสวรรค์แท้จริง!”
ฟางหยวนค่อย ๆ สัมผัสถึงความแข็งแกร่งของร่างกายตนเองอย่างช้า ๆ และรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง “แน่นอนว่า มันก็ยังสาคัญที่สุดที่จะฝึกตนต่อ! ตอนนี้พลังกายของข้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ข้าสามารถพยายามเปิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้กาลังเท่าใดในการทะลวงด่านต่อไปร่างกายของข้าก็สามารถรับความกดดันนั้นได้และวิทยายุทธ์ของข้าก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวกระโดด!”
พื้นฐานของผู้ฝึกยุทธ์ก็คือร่างกายของผู้ฝึก
ตอนนี้ที่ร่างกายของฟางหยวนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว หนทางเบื้องหน้าในการสร้างร่างสวรรค์ตอนนี้ก็เรียบง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้สิ่งเดียวที่จากัดความก้าวหน้าของเขาก็คือ เวลา
“หายใจเข้า… หายใจออก…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็รีบเดินออกมาจากห้องโถงและเริ่มสูดลมหายใจลึก
“ซู่! ซู่!”
ทันใดนั้น ที่ตรงกลางผืนดินมั่งคั่งจินหยางก็เกิดพายุโหมกระหน่า พลังวิญญาณจากรอบด้านค่อย ๆ ถูกดูดซับเข้าไปอย่างช้า ๆ
พายุเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป! พลังธาตุปริมาณมหาศาลจากรอบด้านก็ถูกดูดซับเข้าไปด้วยเช่นกัน และกระทั่งค่ายกลใหญ่เก้าสิบเก้าตะวันยังเริ่มสะเทือน
“เคล็ดวิชาอันใดกัน… ที่นายท่านฝึกอยู่ตอนนี้…”
ที่ในไร่นา เมิ่งเทียนและเมิ่งกวงเงยหน้าขึ้นมองภาพอันน่าเกรงขาม กระทั่งพวกเขาที่เป็นอู่จงยังเริ่มแข้งขาอ่อนยวบ เหล่าคนรับใช้ที่รอบตัวล้วนทนรับไม่ไหวและลงไปคุกเข่าแล้ว
ฟางหยวนนั้นไม่ได้สนใจพวกเขานัก
เห็นพื้นฐานร่างกายของตนเพิ่มขึ้นและยังแถบค่าประสบการณ์ของเคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
5 ส่วน– 7 ส่วน– 10 ส่วน!
ในตอนนี้ ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ที่หกก็เริ่มก่อตัวขึ้น
นอกจากนี้ ร่างกายของฟางหยวนก็ยังไม่ได้หยุดนิ่ง มันก้าวหน้าต่อไปอีก

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ