Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 375

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 375

375: ข้อตกลง
“ผลพลังธาตุนี้นับเป็นสมบัติล้าค่าสาหรับอู่จงจริง ๆ! มันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กาลังฝึกตนอยู่ในขอบเขตเปิดชีพจร!”
หลังจากกินผลไม้วิญญาณลงไปและฝึกตนอยู่หลายวัน ความก้าวหน้าวิทยายุทธ์ของฟางหยวนก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
อย่างไรเสีย เขาก็มีพื้นฐานวิทยายุทธ์แข็งแกร่งอยู่ตั้งแต่แรกและยังมีทักษะพิเศษสามารถมองเห็นค่าสถานะและแถบสะสมประสบการณ์ของตนเองได้ เมื่อมีผลไม้วิเศษช่วยเหลือ การฝึกตนในด้านวิทยายุทธ์ของเขาก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เกือบจะสร้างชีพจรศักดิ์สิทธิ์ที่แปดได้แล้ว
“ผลไม้วิเศษและแถบสะสมประสบการณ์ช่วยข้าได้มาก ปัจจัยที่สาคัญที่สุดก็คือร่างกายอันแข็งแกร่งอย่างยิ่งของข้าเอง ด้วยร่างกายนี้ ย่อมไม่มีอุปสรรค์ในการบรรลุระดับและการฝึกตนก็จะราบรื่นจนถึงที่สุดทีเดียว!”
ฟางหยวนรู้ว่าร่างกายอันแข็งแกร่งของเขานั้นเทียบได้กับร่างสวรรค์แท้จริง เส้นทางการฝึกตนของเขาตั้งแต่นี้จะเปลี่ยนเป็นราบรื่นแล้ว
เขาก้าวหน้าผ่านแต่ละชีพจรในขอบเขตเปิดชีพจรอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เขาพบว่าแถบสะสมประสบการณ์ของเคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กของเขานั้นถึงเก้าส่วนแล้ว เขาก็รู้สึกร้อนรนขึ้นดวงตาเป็นประกาย เขากินผลพลังธาตุลงไปอย่างรวดเร็ว
“เอิ้ก!”
ทันทีที่เขากินผลพลังธาตุลูกสุดท้ายของเขาลงไป เขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เติมเต็มอยู่ที่จุดตันเถียนของเขา พลังรวมกันอยู่ที่นั้นรวมกับแม่น้าที่กาลังจะล้นตลิ่ง
อู่จงทั่วไปเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ย่อมไม่สามารถทนรับได้จุดตันเถียนของพวกเขาไม่สามารถรับความกดดันเพียงนี้ได้ ถึงแม้จะเป็นอู่จงระดับชีพจรที่แปดและเก้าก็ตาม ถ้าพวกเขาถูกบีบให้เข้าสู่สถานการณ์เช่นนี้ ร่างของพวกเขาอาจจะระเบิดออกได้
แต่ว่า สาหรับฟางหยวนแล้ว ร่างกายของเขานั้นทนทานอย่างยิ่ง อย่างมากเขาก็เพียงแค่ต้องเผชิญกับภาวะหลอดเลือดโป่งนูนก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
ที่ด้านหลังเขา ชีพจรที่แปดก่อตัวขึ้นโดยสมบูรณ์ ชีพจรอื่น ๆ เองก็ปรากฏขึ้นด้วยก่อให้เกิดภาพมายาอันลึกลับขึ้น
ภาพนั้นมีขนาดมหึมาราวกับยักษ์ แต่ว่ามันกลับมีรูปร่างประหลาดเหมือนมีปีกคู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่แขนของมัน ราวกับว่ามันกาลังจะบินออกไป
นอกจากนี้ ยังมีอักขระเวทย์สีเทาจาง ๆ ก่อตัวขึ้นที่รอบ ๆ ร่างกายของเขาราวกับเป็นขนนก ทาให้ร่างกายของเขามีเกราะเวทย์ขึ้นชั้นหนึ่ง
“เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กในยามนี้ถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว!”
ฟางหยวนกาหมัด แล้วทันใดนั้น เงาร่างมายาที่ด้านหลังเขาก็ทาแบบเดียวกัน “ข้าสามารถสัมผัสได้ว่าตราบใดที่ข้าปรารถนา ข้าจะสามารถสร้างร่างสวรรค์ยิ่งใหญ่และเข้าสู่ขอบเขตร่างสวรรค์แท้จริงได้!”
เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กนั้นมีพื้นฐานเป็นเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนของตระกูลหยาง มันมีความสามารถที่จะสร้างแปดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ได้และสร้างร่างสวรรค์ยิ่งใหญ่!
ทั้งผู้ฝึกยุทธ์และนักรบศักดิ์สิทธิ์ล้วนคล้ายกันตรงที่สามารถบรรลุสู่ระดับร่างสวรรค์แท้จริงหรือระดับใช้พลังธาตุที่แท้จริงได้เมื่อสร้างชีพจรที่เจ็ดหรือเมื่อถึงขั้นที่เจ็ด แต่ว่า ศักยภาพของร่างสวรรค์ที่ยังไม่สมบูรณ์นั้นอาจจะต่ากว่าในตอนที่พยายามบรรลุเมื่อถึงชีพจรที่แปดหรือขั้นที่แปด ที่สาคัญที่สุด โอกาสของการสร้างร่างสวรรค์ที่ยังไม่สมบูรณ์ได้นั้นต่ามาก!
“ด้วยพื้นฐานอันแข็งแกร่ง มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าจะสามารถบรรลุร่างสวรรค์แท้จริงได้เมื่อใด… แต่ว่า ร่างสวรรค์ยิ่งใหญ่นั้นดูเหมือนจะไม่น่าพึงพอใจพอ…”
ฟางหยวนกวาดตามองหน้าต่างสถานะของตนเองอย่างเร็ว ๆ ครั้งหนึ่ง
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 96
พลังลมปราณ: 76
พลังเวทย์: 60
สายวิชา: ผู้ป้องฝัน
การฝึกตน: สวรรค์มายา (ขั้นที่ 4), อู่จง (ชีพจรที่ 8)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 8)(100 ใน 100 ส่วน)], ร่างทองคาร้อยพิษ (ระดับที่ 10), [ค่ายกลดาบแปดประตู (ดาบที่ 5)(1 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)],[เนตรเพลิงสีทอง (ระดับ 1)]”
“ข้าต้องสร้างร่างสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยการบรรลุระดับนี้เมื่อข้าสามารถสร้างชีพจรที่เก้าได้เท่านั้น!”
เขาสรุปทันทีที่เห็นค่าสถานะของเคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กและร่างทองคาร้อยพิษของตน
หลังจากหลอมรวมมรดกของปราชญ์ฉางหลีกับเคล็ดวิชาของพ่อมด ฟางหยวนก็มีความรู้ความเข้าใจในเส้นทางการบรรลุขีดจากัดของเคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็ก
“ขั้นต่อไป… ข้าต้องรวบรวมทรัพยากรจากอาณาจักรแห่งฝันก่อนที่จะลองหลอมรวมเคล็ดวิชาทั้งสองนี้เพื่อผลักดันสู่ชีพจรที่เก้า!”
ฟางหยวนนั่งลงบนหินก้อนหนึ่ง หลับตาลงและเข้าสู่อาณาจักรแห่งฝันในทันที
“ผู้ฝึกตนฟาง!”
ทันทีที่เขาเข้าไป ป้ายประจาตัวของเขาก็เริ่มกะพริบต่อเนื่องขณะรับข้อความจานวนนับไม่ถ้วน ข้อความแรกจากเฟิงซินจื่อ “ข้าต้องขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย อย่างไร ผู้อาวุโสนักหลอมก็อยากจะพบเจ้าเพื่อพูดคุยถึงแผนการขั้นต่อไป!”
“ผู้อาวุโสนักหลอม… ดูเหมือนว่าข้าจะได้รับการปฏิบัติด้วยดีขึ้นนะ!”
ฟางหยวนยิ้มและรีบไปที่เทือกเขาสมาพันธ์แห่งอาณาจักรแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าหอของผู้อาวุโสนักหลอม “ข้าฟางหยวนต้องการขอพบผู้อาวุโส!”
“เชิญเข้ามาได้!”
ทันทีที่ฟางหยวนเอ่ยปาก เด็กชุดแดงสองคนก็ออกมาจากหอต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม “ทันทีที่เจ้านายของพวกเรารู้ว่าท่านมาที่นี่ก็รีบเข้าสมาธิเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งฝันทันทีเลย!”
“ต้องขออภัยที่รบกวนด้วย!”
ฟางหยวนตอบก่อนจะเข้าไปในหอ
“ซ่า! ซ่า!”
ประกายแสงสว่างจ้ามารวมกันก่อเป็นร่างของผู้อาวุโสนักหลอม เด็กมังกรเพลิงหลายคนยืนอยู่รอบ ๆ
“คารวะผู้อาวุโส!”
ฟางหยวนคารวะลงอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยให้ใครคิดได้ว่าเขาไร้มารยาท
“เป็นโชคดีของสมาพันธ์เราแล้วที่มีผู้มีพรสวรรค์เช่นเจ้า!”
ผู้อาวุโสนักหลอมยิ้มขณะฟางหยวนปฏิเสธคาชมอย่างถ่อมตัว
อย่างไรฟางหยวนก็รู้ตาแหน่งแห่งที่ของตนเองดี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลัวที่จะต้องใช้เวลากว่าจะได้เป็นร่างสวรรค์แท้จริง เขาก็ยังคงจะพ่ายแพ้ในสงครามหากต้องทาทั้งหมดด้วยตนเอง
ผู้อาวุโสจากสมาพันธ์แห่งอาณาจักรผู้นี้เป็นจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สี่และครั้งหนึ่งยังเคยต่อสู้กับผู้อาวุโสหลงหู่ซึ่งเป็นร่างสวรรค์แท้จริง!
แน่นอนว่า ถึงแม้ว่าฟางหยวนจะรู้สึกเคารพ แต่เขาก็ไม่ได้กลัวเกรงผู้อาวุโสนักหลอม
อย่างไรเสีย ตัวตนของเขาในสมาพันธ์แห่งอาณาจักรก็เป็นเพียงแค่ความคิด หากเขาทาให้ผู้อาวุโสผู้นี้ขุ่นเคือง กายเนื้อของเขาก็จะหนีเข้าไปในเทือกเขาเก้าสุดยอด!
ภายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสุดยอดการกีดกัน กระทั่งผู้อาวุโสนักหลอมยังอาจจะไม่ใช่คู่มือของเขาด้วยซ้า!
“เมื่อคิดถึงระดับการฝึกตนของเจ้า ข้าก็จะพูดกับเจ้าตามตรงและพูดตามความจริง ตราบใดที่เจ้าต้องการ ข้าสามารถเพิ่มระดับการเข้าถึงของ
เจ้าเป็นผู้ฝึกตนบรรณที่เจ็ดได้ในทันที ซึ่งต่ากว่าผู้อาวุโสเช่นพวกข้าเพียงแค่ระดับเดียว เจ้าสามารถจัดการกับเฟิงซินจื่อได้ตามที่เจ้าต้องการ!”
ดาวงตาของผู้อาวุโสนักหลอมเป็นประกายขณะพูดอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ฟางหยวนก็ยังเงียบอยู่
นี่ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ดี แต่ว่าหากเขารับ เขาก็รู้ว่านี่จะเป็นการเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงและเอาตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงคราม
“ข้าเพียงต้องการรู้ว่าข้าได้รับสิ่งตอบแทนจากภารกิจก่อนหน้านี้มากน้อยเท่าใดและสถานะของข้าในฐานะอารักษ์แห่งผืนดินมั่งคั่งจินหยาง”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟางหยวนยิ้มและบอกความต้องการออกไป
“อารักษ์แห่งผืนดินมั่งคั่งจินหยาง?”
ผู้อาวุโสนักหลอมมีสีหน้าประหลาด “หน้าที่นั้นต่าเกินไปสาหรับเจ้า อย่างน้อยเจ้าสามารถรับตาแหน่งผู้ครอบครองผืนดินได้!”
“อืม…”
ฟางหยวนส่ายหน้ามองไปที่ผู้อาวุโสนักหลอม
ใบหน้าของผู้อาวุโสนักหลอมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด เขารู้ว่าฟางหยวนยังคงถามถึงคาสัญญาที่ไม่ต้องรับภารกิจใด ๆ ในช่วงสิบปีถัดจากนี้
เขาเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ ฟางหยวนนั้นเป็นเพียงจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่สามและยังไม่ได้เกิดสงครามขึ้น ดังนั้น ผู้อาวุโสนักหลอมจึงอนุญาตให้เฟิงซินจื่อรับปากฟางหยวนเรื่องสิทธิประโยชน์นี้
เขาไม่เคยคิดเลยว่าฟางหยวนจะรุดหน้าไวเพียงนี้!
พวกเขาจะทนปล่อยผู้มีพลังอานาจไว้เสียเปล่าเช่นนี้ได้อย่างไร? กระทั่งตัวผู้อาวุโสนักหลอมเองยังต้องยื่นมือสกปรกของตนเข้าไปหากสงครามยังดาเนินต่อ
‘เด็กผู้นี้… ฉลาดนัก!’
ความตั้งใจของเฟิงซินจื่อในการโน้มน้าวผู้อาวุโสนักหลอมเริ่มเห็นผล ความคิดหนึ่งเริ่มเติบโตขึ้นในใจผู้อาวุโสนักหลอม
“ภารกิจที่เทือกเขาเก้าสุดยอดนั้นล้มเหลว แต่ว่า เจ้าก็ยังประสบความสาเร็จและนั่นก็ต้องนับรวมด้วย… แต่ว่า ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดีที่ภารกิจที่เหลือไม่สาเร็จ!”
ผู้อาวุโสนักหลอมพิจารณา แต่ก็คงตัดสินใจปฏิเสธฟางหยวนอยู่ดี
“โอ้? อย่างนั้นผู้อาวุโสต้องการให้ข้าทาอะไร?”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย
พูดกันตามจริงแล้ว ถึงแม้ว่าผืนดินมั่งคั่งจินหยางจะดี ฟางหยวนก็ไม่ได้ยึดติดกับมันนัก ในเมื่อเขาตัดสินใจทดสอบท่าทีในเรื่องนี้ของผู้อาวุโสนักหลอมแล้ว เขาย่อมรับผิดชอบตนเองหากถูกปฏิเสธ
“อืม… ข้ายังมีเรื่องเล็กน้อยที่ต้องจัดการในเทือกเขาเก้าสุดยอด หากเจ้าทาสาเร็จ พวกเราจะนับว่าภารกิจนี้สาเร็จ ข้าจะให้เจ้าอยู่ที่ผืนดินมั่งคั่งจินหยางต่อได้!”
ผุ้อาวุโสนักหลอมยั้งตนเองเอาไว้แล้วยื่นข้อเสนอให้ฟางหยวน
“ได้ขอรับ!”
ฟางหยวนพยักหน้าและขอตัวออกไป
ถึงแม้ว่าเทือกเขาเก้าสุดยอดจะเป็นสถานที่อันตรายสาหรับจ้าวแห่งฝันคนอื่น ๆ แต่มันก็ราวกับเดินชมสวนสาหรับฟางหยวน

ทันทีที่ฟางหยวนกลับออกไป ผู้อาวุโสนักหลอมก็ยังคงสีหน้านิ่งเฉยเอาไว้ขณะคิดเรื่องอื่น ๆ
“ผู้อาวุโส?”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฟิงซินจื่อก็เข้ามาและคุกเข่าลง
“อืม เจ้าก็ได้ยินที่พวกเราคุยกันแล้ว ถ้าไม่มีอะไรอีก ก็ให้เป็นไปตามนี้!”
ผู้อาวุโสนักหลอมโบกมือ
“ขอรับ!”
เฟิงซินจื่อกัดฟัน ไม่อยากจะยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้
“อย่าได้วางแผนชั่วร้าย…”
เห็นสีหน้าของเฟิงซินจื่อแล้ว ผู้อาวุโสนักหลอมก็หัวเราะ “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นแค่จิตใจของพวกเราที่เข้ามาในอาณาจักรแห่งฝัน ข้าก็ได้ตัดสินใจใช้เคล็ดวิชาลับทดสอบเจ้าเด็กนั่นแล้ว เขามีลมปราณและพลังเวทย์ที่กล้าแข็งและยังมีรัศมีพลังสีแดงอยู่รอบตัว นี่หมายความว่าร่างกายของเขาเองก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง และกระทั่งจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่หกทั่ว ๆ ไปก็ยังไม่ใช่คู่มือเขา! อย่าทาให้ตนเองต้องเดือดร้อน”
“ข้าไม่กล้า!”
เฟิงซินจื่อใบหน้าซีดลงและก้มหน้าต่า “ข้าไม่อยากเชื่อเลย! ถึงแม้ว่าคนผู้นี้จะมีพรสวรรค์ เขาก็ยังเคยอ่อนแอกว่าข้ามากมาก่อน…”
“เหอเหอ… เมื่อข้ามฝันสู่อาณาจักรอื่น สิ่งใดก็เกิดขึ้นได้!”
ผู้อาวุโสนักหลอมดูเหมือนจะไม่ประหลาดใจกับความก้าวหน้าของฟางหยวน อย่างไรเสีย ปราชญ์แห่งสมาพันธ์แห่งอาณาจักรครั้งหนึ่งก็เคยได้รับประโยชน์จากการข้ามฝันสู่อาณาจักรโบราณจนกระทั่งได้เป็นปราชญ์!
เทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สถานการณ์ของฟางหยวนไม่นับเป็นกระไรเลย
“ส่วนเจ้า… ความดื้อดึงในการฝึกตนของเจ้าและยังเต๋าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุของเจ้ากลับไม่มีผลตอบแทนใด!”
ผู้อาวุโสนักหลอมดุเฟิงซินจื่อก่อนที่จะลูบหนวดอย่างสงสัย “แล้วก็… ภารกิจก่อนหน้านี้ของเจ้าเด็กนี่ก็เป็นที่อาณาจักรโบราณ… ดูเหมือนว่าเขา
จะได้ประโยชน์จากความวุ่นวายสุดท้าย! เขาอาจจะเก็บรวบรวมเลือดแท้ของพ่อมดได้เป็นจานวนมาก? อืม ดูจะเป็นไปได้ทีเดียว”
ในตอนนั้น สถานการณ์ก็วุ่นวายมาก จ้าวแห่งฝันผู้เก่งกาจของสมาพันธ์แห่งอาณาจักรหลายคนถูกสังหาร และเช่นกัน คนของเผ่าจิ่วลี่รวมทั้งฉือ สิง และพ่อมดระดับสูงอีกหลายคนก็ถูกสังหารเช่นกัน โอกาสนั้นมีนับไม่ถ้วน
หากฟางหยวนสามารถเก็บปราณโลหิตของพวกมันและใช้มันหลอมเข้ากับเลือดของตนเอง อย่างนั้นก็สมเหตุสมผลดีที่ระดับวิทยายุทธ์ของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ผู้อาวุโสนักหลอมนั้นเจ้าเล่ห์ เพียงแค่การเดาและคาดการณ์ไม่กี่ครั้งเขาก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังความก้าวหน้าของฟางหยวนได้
แต่เขาไม่รู้เลยว่า ฟางหยวนนั้นไม่ได้ให้ความสนใจในปราณโลหิตของพ่อมดทั่วไป กลับกัน ฟางหยวนนั้นตั้งเป้าหมายไปที่หัวหน้าเผ่าจิ่วลี่– สิง! ดังนั้น เขาจึงได้รับปราณโลหิตที่บริสุทธิ์ที่สุดของพ่อมดและยังได้มรดกของพ่อมดจากเผ่าจิ่วลี่ด้วย!

“ใครจะรู้ว่าจะยังมีเรื่องให้ต้องจัดการที่เทือกเขาเก้าสุดยอด!”
ในโลกต้าเฉียน จิตของฟางหยวนกลับออกมาจากอาณาจักรแห่งฝันเมื่อเขาตื่นขึ้น
เมื่อคิดถึงเคล็ดฝังเข็มมังกรจับชีพจรหรือเรื่องการทาลาย มันก็ไม่มีเหตุให้ต้องกลับไป
“เดี๋ยวนะ… เทือกเขาเก้าสุดยอดนั้นเหยียดยาวกว่าสามร้อยห้าสิบลี้และแผนที่ของข้านั้นยังครอบคลุมเทือกเขาเพียงหนึ่งร้อยสามลิบลี้เท่านั้นและนั่นก็คือไม่สมบูรณ์ หรือว่ายังมีชีพจรอื่น?”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวใด
อย่างไร เทือกเขาเก้าสุดยอดก็ราวกับสวนหลังบ้านของเขา! ที่โลกด้านนอก เมื่อต้องเผชิญกับผู้ทรงพลัง ฟางหยวนอาจจะทนรับมือได้เพียงแค่ไม่นานและสุดท้ายย่อมต้องพ่ายแพ้การต่อสู้ แต่ว่า ภายใต้อิทธิพลของสุดยอดการกีดกันในเทือกเขาเก้าสุดยอด จ้าวแห่งฝันสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดก็ยังหมดแรงและถูกสังหารได้!
“อืม บางทีข้าอาจจะกลายมาเป็นอารักษ์ในพื้นที่แห่งนี้แทนที่สิงอวิ๋นจื่อได้”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ