Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 387

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 387

387: จุดจบ
“คนผู้นี้… คือฉาลี่เฟยจริง ๆ หรือ?”
ฮั่นจิงเฟยมองคนที่เขาเพิ่งฆ่าไปอย่างไม่อยากเชื่อ
คนผู้นี้ที่นาปัญหามาสู่ตระกูลของเขาตั้งหลายครั้งเพิ่งถูกเขาสังหารไป!
คนผู้นี้เป็นอู่จง!
“ไม่แค่เขา… เฉิงเมี่่ยวก็ตายแล้วเหมือนกัน เขาเป็นเจ้าสานักหยกลึกลับและยังเป็นอู่จงขอบเขตเปิดชีพจร… ทันทีที่ข่าวการตายของเขาแพร่ออกไป ทั้งสานักหยกลึกลับก็จะล่มสลายลง…”
ฟางหยวนเดินออกมาอย่างสบาย ๆ และให้ความเห็น “ส่วนผู้จงรักภักดีที่เหลืออยู่ เจ้าย่อมสามารถรับมือกับพวกเขาได้ตราบใดที่หมั่นฝึกฝนวิชาดาบที่ข้าได้สอนไว้ ให้ความกดดันเป็นแรงผลักดันเจ้า…”
“ขอบคุณท่านมาก!”
ท่ามกลางซากศพทั้งหมดนี้ ฮั่นจิงเฟยดูเติบโตขึ้น
เขาบังคับให้ตนเองลืมความรู้สึกจนมุมที่รับรู้ได้ตอนอยู่ภายใต้ความควบคุมของฟางหยวนขณะคารวะฟางหยวนอย่างเคารพ “หากไม่เพราะความช่วยเหลือของท่าน ตระกูลฮั่นคงจะแย่แน่แล้ว!”
“อืม กลับกันเถิด!”
ฟางหยวนส่ายหน้า
พูดตามตรงแล้ว ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ มันย่อมไม่เพียงพอให้เขาถ่ายทอดเคล็ดวิชาแก่ลูกศิษย์
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นเป็นจ้าวแห่งฝันและดังนั้นเขาจึงมีวิธีถ่ายทอดเคล็ดวิชาแก่สองพี่น้องคู่นี้เพื่อให้พวกเขาสาเร็จวิชาได้อย่างรวดเร็ว
โดยไม่พูดอะไรอื่นอีก พวกเขารีบออกจากสานักฉาและกลับไปที่ตระกูลฮั่น
“ท่านปู่!”
เห็นฮั่นเซียวเทียนรออยู่ในห้องโถงหลัก ฮั่นจิงเฟยก็รีบเข้าไปคุกเข่าแล้วคารวะลง “ท่านดาบคลั่งและข้าออกไปจัดการกับทั้งสานักฉาและสานักหยกลึกลับเรียบร้อยแล้ว!”
“อย่างนั้นหรือ?”
ฮั่นเซียวเทียนหน้าซีดและมีสีหน้าสงสัย แต่ว่า เขาก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วเชิญฟางหยวนเข้าไป “ขอบคุณสาหรับความช่วยเหลือของท่าน ได้โปรดอยู่ร่วมงานเลี้ยงก่อน”
“อืม…”
ฟางหยวนมองชายชราเร็ว ๆ แวบหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไป
“จิงเฟย… พาน้องสาวของเจ้าไปช่วยงานที่ห้องโถงด้านหลัง!”
เห็นฮั่นจิงเฟยจะตามฟางหยวนไป ฮั่นเซียวเทียนก็รีบบอกเขาด้วยน้าเสียงเข้มงวด
“ขอรับ!”
ฮั่นจิงเฟยใบหน้าซีดลงราวกับรู้แล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จากนั้นเขาก็รีบพุ่งไปที่สวนด้านหลัง
“มา ท่านดาบคลั่ง ข้าขอคารวะท่านหนึ่งจอก!”
ในห้องโถงหลัก อาหารโอชาถูกเตรียมเอาไว้ เนื้อเป็นเนื้อสัตว์วิญญาณ และผลไม้ล้วนเป็นผลไม้วิเศษ มีสุราวิญญาณและน้าชาวิญญาณด้วยเช่นกัน เป็นมื้ออาหารที่ใช้ทรัพยากรที่เพียงสาหรับบ้านอื่นนับร้อยบ้านได้และยังเป็นทั้งหมดที่ตระกูลฮั่นจะสามารถนาออกมาได้หลังจากลงแรงไปอย่างมาก
“ขอบคุณมาก…”
ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะนั่งลงแล้วรับสุรามา
สุรากลมกล่อมและหอมมาก
“นี่เป็นเนื้อของฉาโล่ว มันหายากมากในบริเวณนี้ ดังนั้นท่านต้องทานให้มาก
“ข้า ผู้อาวุโสฮั่น ดื่มให้ท่านหนึ่งจอก ท่านดาบคลั่ง!”
“รับผลไม้วิเศษนี่ด้วยสิ!”

ที่นั่งอยู่รอบโต๊ะล้วนเป็นเหล่าผู้อาวุโส ฮั่นเซียวเทียนแนะนาพวกเขาทีละคน ทั้งหมดมีสี่คน
ตอนนี้พวกเขากาลังดื่มกิน ทุกคนมีใบหน้าแดงเรื่อขึ้น
ฟางหยวนก็ทาเหมือนตนเองไม่ได้รู้สึกอันใดและดื่มกินต่อไป
“ท่านดาบคลั่ง ท่านคอแข็งนัก!”
หลังจากยกสุราหลายรอบ สีหน้าของฮั่นเซียวเทียนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “อย่างไร… ข้าอยากรบกวนถามท่านบางอย่าง”
“ว่ามา ไม่มีอะไรที่ข้าต้องปิดบัง!”
ฟางหยวนยกจอกสุราขึ้นและยิ้ม
“หลานชายไร้ประโยชน์ของข้า ท่านใช้เคล็ดจ้าวแห่งฝันควบคุมเขาเมื่อวันนั้นที่เหลาอาหารใช่หรือไม่?”
ฮั่นเซียวเทียนจ้องฟางหยวน
“ถูกต้อง!”
ฟางหยวนพยักหน้า
“ดี! ดี! ดี! ในที่สุดเจ้าก็หาพวกเราพบ!”
ฮั่นเซียวเทียนขาอ่อนยวบ และราวกับพลังงานทั้งหมดของเขาได้สลายไปแล้ว เขามองฟางหยวนอย่างเกลียดชัง
“พี่ใหญ่ สู้กับเขาเถอะ มีค่ายกลของท่านลุงอยู่ที่นี่ พวกเราจะต้องกลัวอันใดอีก?”
ผู้อาวุโสผมขาวผู้หนึ่งพูดขึ้นด้วยน้าเสียงเกรี้ยวกราดราวกับต้องการฉีกเนื้อฟางหยวนออกเป็นชิ้น ๆ
“อืม… ดูเหมือนค่ายกลของพวกเจ้าจะสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่?”
ฟางหยวนพูดต่อ “ต่อไป พวกเจ้าก็จะส่งคนสามร้อยพร้อมขวานมาสู้กับข้า?”
“สามร้อยคนพร้อมขวาน?”
ฮั่นเซียวเทียนส่ายหน้า “ข้าคิดว่าแค่สามคนก็มากพอแล้ว เจ้ารู้ว่าในอาหารและสุราไม่มีพิษ แต่ว่าเมื่อรวมกับค่ายกลที่ในห้องโถงนี่แล้ว ก็จะเกิดพลังมอมเมา กระทั่งจ้าวแห่งฝันยังจนปัญญาและไม่สามารถขยับตัวได้… นี่เป็นท่านลุงของเราวางเอาไว้ในนี้ด้วยตัวเอง และยังสามารถใช้สังหารผู้ทรงพลังได้ ดังนั้นพวกเราจึงสามารถจัดการกับเจ้าจ้าวแห่งฝันได้! ลองใช้พลังธาตุฝันของเจ้าดูสิ!”
“พี่ จะไปพูดอะไรกับมันมากมายนัก?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ใบหน้าแดงก่าด้วยความโมโหดึงขวานสีดาเล่มหนึ่งออกมา “ตัดมันเป็นชิ้น ๆ ก่อนเลยดีกว่า!”
ฟางหยวนยังไม่พูดอะไร คนพวกนี้นั้นโอบอ้อมอารีย์ต่อผู้มาเยือนเป็นอย่างยิ่ง และก็เด็ดขาดเมื่อต้องต่อสู้
นอกจากนี้ สิ่งที่อาจารย์ของเขาบันทึกเอาไว้ในมรดกล้วนเป็นความจริง อาจารย์เจว๋ซินนั้นขัดแย้งกับเหล่าจ้าวแห่งฝันที่นี่และเขาก็ไม่มีสหายหรือพันธมิตรใด ดังนั้น ทันทีที่ตระกูลของเขาเผชิญหน้ากับจ้าวแห่งฝันสักคน พวกเขาย่อมสันนิษฐานได้ว่าเป็นผู้ที่มาเพื่อแก้แค้น
“ซู่!”
โดยไม่ลังเล ผู้อาวุโสผู้นั้นเหวี่ยงขวานใส่ศีรษะฟางหยวน
“เคล้ง!”
เสียงกระแทกดังลั่นมา แรงสะท้อนทาให้ขวานหัก เหวี่ยงเศษขวานออกไปไกล ผู้อาวุโสคนนั้นปลิวถอยกลับไปกระแทกเข้ากับเสาต้นหนึ่ง ทั้งห้องโถงสั่นสะเทือน
“เป็นไปไม่ได้!”
ฮั่นเซียวเทียนมองขวานผุพังและฟางหยวนที่ไม่ได้ขยับไปไหนและยังปลอดจากอันตรายใด ในที่สุดเขาก็กลั้นใจพูดออกมา “ร่างสวรรค์แท้จริง…”
คาคานี้ช่างทรงพลัง ผู้อาวุโสที่รอบ ๆ เผยสีหน้าจนปัญญาออกมา
“ใครจะรู้ว่าท่านกลับไม่ใช่แค่จ้าวแห่งฝันแต่ยังเป็นร่างสวรรค์แท้จริง…”
ฮั่นเซียวเทียนให้สัญญาณแก่คนอื่นที่เหลือ “ถูกท่านสังหารก็นับเป็นเกียรติของพวกเราแล้ว…”
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเจ้ารีบร้อนสร้างความสัมพันธ์อันดีกับข้าหรืออย่างไร…”
ฟางหยวนยกสุราขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่และยังคงอึ้งอยู่ ”ข้าเพียงแค่ยอมรับว่าข้าเป็นจ้าวแห่งฝัน เหตุใดพวกเจ้าทั้งหมดถึงได้คิดว่าข้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้น?”
“ท่านลุงบอกพวกเราว่าเขาล่วงเกินจ้าวแห่งฝันมากมายในอดีตและยังไม่มีมิตรสหาย… พวกเราต้องสังหารจ้าวแห่งฝันทุกคนที่มาที่นี่!”
ฮั่นเซียวเทียนพูดด้วยน้าเสียงสงบ
ฟางหยวนกลอกตาขณะรู้สึกว่านี่แหละคือนิสัยที่แท้จริงของอาจารย์เจว๋ซิน
อาจจะเป็นเพราะอาจารย์เจว๋ซินมีประสบการณ์ทั้งหมดนี้ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นอาจารย์เวิ่นซินผู้เปี่ยมเมตตาที่ฟางหยวนรู้จัก?
“เอาละ…”
ฟางหยวนสะบัดมือและรู้สึกว่าหากเขายังเล่นละครต่อไป เขาจะทาให้ผู้อาวุโสเหล่านี้หวาดกลัวแทบตายเป็นแน่ ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็คงถูกแก้แค้นแทนที่จะได้ตอบแทนบุญคุณอาจารย์ของเขาแล้ว
ดังนั้นเขาจึงเผยความจริงออกมา “ช้าเชื่อว่าพวกท่านทั้งหมดเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาเพื่อแก้แค้น แต่ว่าข้าเป็นศิษย์ของอาจารย์เยี่ยหลี่…”
เมื่อได้ยินเขาพูด ดวงตาของฮั่นเซียวเทียนก็เป็นประกายขึ้นมาก่อนจะส่ายหน้า “นี่เป็นไปไม่ได้… ท่านลุงของข้านั้นไม่เคยรับศิษย์มาก่อน!”
“เขาไม่ได้รับศิษย์ตอนที่อยู่ที่ต้าเฉียน… นอกจากนี้ ข้าจะโกหกเจ้าไปทาไม?”
ฟางหยวนหัวเราะ “หากข้าสู้กับพวกเจ้าทั้งหมด ข้าก็สามารถสังหารทุกคนได้ในพริบตา!”
“นั่นก็จริง…”
เห็นฟางหยวนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้วยท่าทีสง่างาม เขาก็ไม่อยากเชื่อ “อะแฮ่ม… ท่านมีหลักฐานใดหรือไม่?”
“หลักฐาน? นี่นับหรือไม่?”
เขาโบกมือ แล้วดาบเวทย์ทั้งสี่ ลม สายฟ้า น้า และไฟ ก็ปรากฏขึ้น ก่อตัวเป็นค่ายกลจตุลักษณ์และอาณาจักรจาลอง
“ค่ายกลดาบจตุลักษณ์และยังอาณาจักรจาลอง นี่คือค่ายกลดาบแปดประตูของท่านลุงจริง ๆ!”
ฮั่นเซียนเทียนน้าตาไหลและกล่าวขออภัย “ศิษย์พี่ ได้โปรดให้อภัยพวกเราที่ได้ล่วงเกิน ท่านลุงเป็นอย่างไรบ้าง?”
ผู้อาวุโสหลายคนที่รอบ ๆ มีสีหน้าละอาย โดยเฉพาะผู้ที่เหวี่ยงขวานใส่ฟางหยวน เขาอยากจะขุดรูหนีลงไปแอบใต้ดินนัก!
“อาจารย์จากไปแล้ว…”
ฟางหยวนถอนหายใจแล้วสรุปเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับอาจารย์เจว๋ซิน
“เฮ่ย… พวกเราช่างอกตัญญู ไม่สามารถรับใช้ท่านลุงได้ ขอบคุณศิษย์พี่ที่ได้ทาหน้าที่แทนพวกเรา!”
ฮั่นเซียวเทียนและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ มีท่าทางอ่อนล้าและแสดงความซาบซึ้งต่อฟางหยวน
“อืม คราวนี้ ข้าเพียงแค่จะกลับมาดูว่าตระกูลของท่านอาจารย์เป็นอย่างไรบ้างและจะเตรียมการป้องกันให้ตามจาเป็น เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะสบายดี… ข้าก็จะได้ไม่เป็นห่วงพวกเจ้าทั้งหมดอีก…”
ฟางหยวนยิ้ม “ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะนับเป็นผู้ทรงพลังคนหนึ่ง แต่อาจารย์ก็มีศัตรูมากเกินไป เพื่อความปลอดภัย ข้าจึงทาตัวโดดเด่นไม่ได้…”
“พวกเราเข้าใจ!”
ฮั่นเซียวเทียนและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ยิ้มออกมา ทันใดนั้น ก็เหมือนกับเขาคิดบางอย่างได้และลุกขึ้น “พวกเราครอบครองสมบัติชิ้นหนึ่งของท่านลุงอยู่ ท่านลองดู!”
จากนั้นเขาก็ย้ายโต๊ะอาหารออกไปที่อีกด้าน พลิกแผ่นกระเบื้องที่ด้านล่างแล้วดึงถุงหนังออกมาจากใต้กระเบื้อง
“เอ๋?”
ฟางหยวนอึ้งไป
ต้้งแต่แรก เจตจานงเวทย์ของเขาก็กวาดผ่านทั่วบริเวณนี้นับครั้งไม่ถ้วนแต่เขากลับตรวจไม่พบกระเบื้องหินแผ่นนี้
ดูเหมือนว่าในถุงหนังนี้จะมีความสามารถพิเศษในการปิดบังตัวตนจากการตรวจสอบด้วยเจตจานงเวทย์
ฮั่นเซียวเทียนพลิกถุงหนังไปรอบหนึ่งแล้วดึงหยกสีเหลืองชิ้นหนึ่งออกมา เขายิ้มขณะอธิบาย “นี่เป็นท่านลุงทิ้งเอาไว้ เขาบอกพวกเราว่าถ้าทายาทของพวกเรามีพรสวรรค์พอที่จะเป็นจ้าวแห่งฝันได้ เขาจะได้รับมอบหยกชิ้นนี้เมื่อบรรลุระดับสวรรค์มายา แต่ว่า พวกเราล้วนใช้การไม่ได้ และสายเลือดยังอ่อนแอ พวกเราไม่มีกระทั่งนักรบศักดิ์สิทธิ์…”
“อืม!”
ฟางหยวนรับหยกมาและเต็มไปด้วยความสงสัย ด้วยเจตจานงเวทย์ของเขา เขาสามารถเข้าใจมันได้ “นี่เป็นมรดกของค่ายกลดาบแปดประตู หากใครในพวกเจ้าได้เป็นจ้าวแห่งฝัน คนผู้นั้นจะสามารถดาเนินเส้นทางผู้ป้องฝันได้… เอ๋?”
ฟางหยวนนั้นมีฉบับอื่นของมรดกชิ้นนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามาก
แต่ว่า ที่ด้านหลังหยก เจตจานงเวทย์ของฟางหยวนตรวจพบข้อมูลชิ้นใหญ่ถัดจากคาอธิบายของค่ายกลดาบแปดประตู ดังนั้นเขาจึงเก็บข้อมูลนั้นเข้าสู่ความทรงจา
“ของชิ้นนี้… ยังมีประโยชน์อยู่ ข้าจะบันทึกมันเอาไว้!”
เขาส่งหยกคืนแก่ฮั่นเซียวเทียนอย่างใจกว้าง พอคิดอีกที เขาก็ดึงหยกสีเลือดชิ้นหนึ่งออกมา “ในหยกชิ้นนี้ มีวิทยายุทธ์ของข้านามว่า เคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุน มันมีความสามารถเพียงพอที่จะเปิดแปดชีพจรศักดิ์สิทธิ์และสร้างร่างสวรรค์ยิ่งใหญ่ และยังเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชา
ระดับสูงของต้าเฉียน นอกจากนี้ วิธีการที่ข้าได้มันมายังมิได้ผิดข้อห้ามใด ดังนั้นท่านรับมันเอาไว้ได้โดยไม่ต้องกังวล!”
ตั้งแต่ตระกูลหยางล่มสลายไป เคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนก็เป็นที่รู้จักกันทั่วไปและยังกระทั่งมีขายอยู่ในอาณาจักรแห่งฝัน ดังนั้นนี่จึงไม่นับเป็นกระไร
“ขอบคุณท่านมาก!”
ฮั่นเซียวเทียนดีใจเป็นล้นพ้น ถึงแม้ว่าฝ่ามือสายฟ้ายิ่งใหญ่ของเขาจะทรงพลัง แต่มันก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะสร้างร่างสวรรค์ ตอนนี้เมื่อเขามีเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่นี้ เขาก็นับว่าได้ครอบครองรากฐานที่จะทาให้ตระกูลฮั่นรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งได้
“อืม ในเมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าก็คงต้องขอตัว!”
ฟางหยวนคารวะลงและหมอกชั้นหนึ่งก็เข้ามาล้อมรอบตัวเขา ผู้อื่นในห้องโถงล้วนนิ่งงันไป
“ข้าขออภัยด้วย เพื่อความปลอดภัย ข้าจาต้องเปลี่ยนความทรงจาของพวกเจ้า…”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ