Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 392

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 392

392: สามปี
“ฟางหยวนได้ตาแหน่งนักเรียนดีเด่นอีกแล้ว พวกเราแสดงความยินดีกับเขาด้วย! ทุกคน ดูเขาเป็นตัวอย่างและพยายามเข้านะ!”
ครูจางไห่หมานนั้นปลื้มปริ่มมากเมื่อประกาศผลบนยกพื้นหน้าห้อง จากนั้นเธอก็ติดดอกไม้เล็ก ๆ สีแดงที่อกฟางหยวน
ในสายตาของเธอ ฟางหยวนนั้นเป็นเด็กเกเรที่สั่งสอนได้และในที่สุดก็พบเส้นทางของตัวเอง ตอนนี้ เขาเป็นนักเรียนต้นแบบที่เชื่อฟังและยังมีความพยายาม ได้ตาแหน่งนักเรียนดีเด่นทุกปี เขาเป็นคนที่ทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่าง
ครูจางไห่หมานเต็มไปด้วยความรู้สึกประสบความสาเร็จ เธอรู้สึกว่าทาเปลี่ยนฟางหยวนได้สาเร็จ
อืม หากฟางหยวนที่เคยเป็นเด็กมีปัญหายังสามารถเปลี่ยนแปลงดีขึ้นได้ ทุกคนก็ย่อมทาได้เช่นกัน!
ครูจางมีสีหน้าตื่นเต้น และเพื่อน ๆ ของฟางหยวนก็ตัวสั่นและขนลุกซู่
“แปะ! แปะ!”
ท่ามกลางเสียงชื่นชม ฟางหยวนก็โค้งตัวต่าแล้วกลับมานั่งที่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ก็จริงนี่นา! เขาน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้วและยังมาอยู่ที่นี่ รังแกเด็ก ๆ และพวกนักเรียนด้วยการขึ้นเป็นนักเรียนดีเด่น นี่มันต่างจากแย่งลูกกวาดจากเด็ก ๆ ที่ตรงไหนกัน? น่ารังเกียจเสียจริง!
เรื่องดีก็คือในหลายปีมานี้ เขาหน้าหนาขึ้นและยังไม่ให้ความสนใจกับสายตามาดร้ายของเว่ยเสี่ยวหง
อืม มันก็สาคัญอยู่นะกับความจริงที่ว่าเด็กคนนั้นที่หักหลังฟางหยวนเมื่อสามปีก่อนเคยได้เป็นนักเรียนดีเด่น
ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเสียใจบ้างหรือเปล่าที่สร้างศัตรูแข็งแกร่งให้ตัวเองจากเรื่องเมื่อคราวนั้น
สามปีผ่านไปแล้วตั้งแต่การทดสอบร่างกายครั้งนั้น
ฟางหยวนและเพื่อน ๆ ของเขาเติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มและตอนนี้ก็เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมต้นแล้ว
แน่นอนว่า ‘หลิวเฟย’ ที่โดดเด่นผู้นั้นถูกส่งตัวไปที่ใดสักที่ในวันถัดจากวันทดสอบร่างกาย เขาถูกพาไปที่ในเมืองซึ่งเป็นความฝันของเหล่าเด็กกาพร้าในศูนย์เลี้ยงเด็กกาพร้า เขาได้มีชีวิตที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการออก
ฟางหยวนตอนนี้มีพี่น้องที่ดีงามคนใหม่ ก็คือเจ้าต้าหนิว เพราะว่าเขามีอาหารมื้อพิเศษกินทุกคืน ร่างกายของเขาจึงใหญ่โตขึ้นอีก เขาสูงขึ้น และแผ่นอกเริ่มกว้างขึ้น รวมกับที่เขาเป็นนักบาสเกตบอลคนเก่ง ผลลัพธ์จึง
ออกมาดีทีเดียว เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจที่สุดในโรงเรียนและยังได้จดหมายรักจากเด็กสาวหลายต่อหลายคน
เรื่องดีก็คือฟางหยวนนั้นเข้มงวดและดังนั้นต้าหนิวจึงไม่เคยทาชื่อเสียงตัวเองด่างพร้อย
“เอาละนักเรียน เปิดหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์และทบทวนประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของพวกเรา…”
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น ครูประวัติศาสตร์ก็หยิบพอยท์เตอร์ออกมา “ฟางหยวน สรุปประวัติศาสตร์สมัยใหม่ซิ!”
“ครับ!”
ฟางหยวนลุกขึ้นยืน จัดระเบียบความคิดแล้วเริ่มนึกถึงประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนี้ “นักประวัติศาสตร์เห็นด้วยว่าการสารวจทะเลนั้นเสร็จสิ้นแล้ว พวกเรามีกันทั้งหมดสามทวีป และยังมีความเห็นพ้องต้องกันว่าประวัติศาสตร์สมัยใหม่นั้นเริ่มต้นจากตอนที่แผ่นที่โลกจัดทาสาเร็จเรียบร้อย และนับปีนั้นเป็นปีที่ 1”
“ในอีกหนึ่งพันปีต่อมา แต่ละประเทศเริ่มก่อตั้งทัพเรือ อารยธรรมค่อย ๆ เข้ามาทดแทนความเขลาและความป่าเถื่อน ผลักดันให้โลกพัฒนาไปถึงจุดสูงขึ้น! แต่ว่า เพราะความไม่สะดวกของเรือเดินสมุทรสมัยก่อนและยังอัตราการกาเนิดใหม่ที่ต่า การพัฒนาไปของโลกกลับมาที่จุดต่าที่สุดอีกครั้ง หรือที่เรียกกันว่าเป็นยุคมืด และยังยาวนานถึงเจ็ดร้อยห้าสิบปี…”
“ในปี 782 ศาสตราจารย์โทมัส นิวโคเมน จากทวีปตะวันตก สหพันธ์อินทรีทอง ค้นพบวิธีการใช้งานไอน้าและถ่านหิน จากนั้น เขาก็สร้างเครื่องจักรไอน้าเครื่องแรกและใช้แรงจากไอน้าพาโลกก้าวกระโดดสู่ยุคใหม่ เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นและในช่วงหนึ่งร้อยปีจากนั้น อารยธรรมก็พัฒนาไปมากกว่าการพัฒนาที่ผ่านมานับพันปี!”
“ในปี 867 ประชาชนคนหนึ่งของสหพันธ์อินทรีทอง เจมส์ วัตต์ ก็ปรับปรุงเครื่องจักรไอน้าจนสมบูรณ์แบบกว่าเดิม นาโลกเข้าสู่ยุคของการใช้พลังไฟฟ้า ด้วยเครื่องจักรไอน้าและไฟฟ้า อุตสาหกรรมของโลกก็เริ่มต้นขึ้นและเกิดการเปลี่ยนแปลง…”
ถึงตอนนี้ ฟางหยวนก็ตกใจเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าอาณาจักรนี้จะมีน้ามันดิบเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีมากนัก กลับกัน พวกเขามีถ่านหินอยู่มากมายมหาศาล ประสิทธิภาพจากการเผาไหม้ถ่านหินนี้สูงกว่าที่ฟางหยวนเคยเห็นมาก่อน ร่วมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เครื่องจักรไอน้าได้รับการพัฒนาและเทียบได้กับเครื่องจักรที่มีการสันดาปภายใน ทาให้เครื่องจักรไอน้ายังคงอยู่และยังใช้งานร่วมกับการนาไฟฟ้า
ยุคปัจจุบันนี้คือการรวมกันของสิ่งที่ค้นพบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกและครั้งที่สอง
“สหพันธ์อินทรีทองเริ่มออกล่าประเทศอาณานิคมด้วยเรือเดินสมุทรและปืนใหญ่ พวกเขากลายเป็นประเทศที่มีการพัฒนาที่สุดในโลก ด้วย
ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการเงินของพวกเขา รวมกับความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอานาจ ในที่สุด…”
“ในปี 994 ก็เกิดสงครามโลกขึ้น!”
“ประธานสหพันธ์อินทรีทองถูกแย่งอานาจไป และสหพันธ์ก็เริ่มทาการค้ากับผู้คนทวีปกลางและทวีปตะวันออก พวกเขาคือสหพันธ์อินทรีทองของทวีปตะวันตก ประเทศจีนของทวีปกลางและสมาพันธ์บลูสตาร์ของทวีปตะวันออก รอบ ๆ สามประเทศมหาอานาจนี้ยังมีประเทศเล็ก ๆ ที่มีทรัพยากรและเทคโนโลยีของตนเอง บางประเทศนั้นยากจนและด้อยพัฒนา และยังเป็นประเทศส่วนมากบนดาวโลกนี้…”
“ดีมาก!”
ครูเอ่ยชมเขา “ฟางหยวนชานาญประวัติศาสตร์สมัยใหม่ นักเรียนทุกคน จดจาจุดที่สาคัญ ๆ เอาไว้เพราะมันจะออกข้อสอบครั้งหน้า…”
ทันทีที่ครูพูดจบประโยคก็มีเสียงปากกาขีดกระดาษดังไปทั่วห้อง
กระทั่งตัวปัญหาหลายคนก็ยังดูจริงจังขึ้นมา
“เป็นการสอบเลื่อนชั้น!”
ฟางหยวนนั่งลงและยังรู้สึกหมดคาพูด “ใครจะรู้ว่า… กระทั่งหลังข้ามฝันมาข้าก็ยังหนีมันไม่พ้น!”

ตกดึก
ทุกคนรอบตัวเขาหลับใหลหมดแล้ว ฟางหยวนหลบออกจากศูนย์เลี้ยงเด็กกาพร้าราวกับแมวปราดเปรียวตัวหนึ่งและไปถึงที่หลุมหลบภัย
“ฟางหยวน… วันนี้ฉันโชคดีทีเดียว ฉันจับปลาได้ตั้งหลายตัว!”
เจ้าต้าหนิวนั่งอยู่ข้าง ๆ กองไฟ เขาเอาไม้แหลมเสียบปลาย่างไว้เหนือกองไฟ
ในช่วงสามปีสั้น ๆ เด็กคนนี้เติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังเป็นเด็กซื่อ ๆ ที่ข้าง ๆ ตัวเขานั้นเป็นกระปุกเกลือและเครื่องปรุงต่าง ๆ และเขาก็ทามันลงไปบนตัวปลาเป็นครั้งคราว
หลังจากประเทศจีนพัฒนาไป มาตรฐานการดารงชีพของผู้คนก็นับได้ว่าดีขึ้น และพวกเขาไม่จาเป็นต้องแอบออกมาจับปลาเพื่อเพิ่มโปรตีนให้ตัวเองแล้ว
การจับปลาย่างปลาตอนนี้นั้นเป็นไปเพื่อความสนุกมากกว่าแล้ว โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีเกลือและเครื่องปรุงอื่น ๆ
เจ้าต้าหนิวยังหวนนึกถึงปลาย่างของฟางหยวน โชคร้ายที่ฟางหยวนนั้นเป็นคนขี้เกียจ และไม่เคยลงมือย่างปลาเองอีกเลยตั้งแต่สอนวิธีย่างให้เจ้าต้าหนิว
“อืม ต้าหนิว นายทาอาหารเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เลย นายไปเปิดร้านรถเข็นขายปลาย่างได้เลยนะเนี่ย!”
ฟางหยวนเคี้ยวปลาและยิ้มก่อนที่จะดึงเหล้าขวดหนึ่งออกมา “อย่าว่าฉันขี้เกียจอีกในเมื่อฉันยอมสละสมบัติล้าค่าออกมาแล้ว”
“อ๋า… เหล้านี่!”
ดวงตาของเจ้าต้าหนิวเป็นประกายระยิบและรีบคุ้ยหาแก้วหลายใบออกมา
เพราะว่าพวกเขายังเด็กอยู่ ความทนต่อเหล้าจึงไม่สูงนัก หลังจากไม่กี่แก้ว ผิวสีน้าตาลของเจ้าต้าหนิวก็แดงขึ้นมา “กาลังจะถึงช่วงสอบเลื่อนชั้นแล้ว ฟางหยวน คะแนนของนายดีออกอย่างนั้น นายต้องได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแน่ ๆ เลย ฉันคงแย่หน่อย ฉันได้ยินมาว่าคนที่สอบตกต้องออกไปใช้ชีวิตเองที่ข้างนอก…”
นี่ก็เป็นเรื่องปกติที่ศูนย์เลี้ยงเด็กกาพร้าย่อมไม่สามารถที่จะดูแลพวกเขาไปได้ตลอดชีวิต
แต่ว่า มันก็ยังเป็นที่น่าตระหนกสาหรับพวกเขาที่ต้องออกไปจากที่นี่ซึ่งพวกเขานับว่าเป็นบ้านของตัวเองไปแล้ว
“มีอะไรดีกัน?”
ฟางหยวนจิบเหล้าแล้วยิ้ม “นายยังต้องกังวลอะไร? ก็แค่ไปหาครูแล้วบอกเธอว่านายอยากจะเป็นเหมือนหลิวเฟย ดูผลทดสอบร่างกายของนายสิ ฉันแน่ใจว่านายจะเป็นนักกีฬาได้อย่างไม่มีปัญหา… ครั้งก่อนที่หลิวเฟยกลับมาเยี่ยมพวกเรา เขาได้รับการดูแลอย่างหรูหราและยังมีรถส่วนตัวมาส่งเขาที่นี่ด้วย!”
สองปีก่อน หลิวเฟยกลับมาเยี่ยมพวกเขาที่ศูนย์เลี้ยงเด็กกาพร้า มันเป็นเรื่องใหญ่สาหรับที่นี่และยังทาให้เด็กสาวบางคนร้องห่มร้องไห้และร้องขอให้มีการทดสอบร่างกายอีกครั้ง แต่ว่า… พวกเขาก็ต้องผิดหวัง
ฟางหยวนรู้ความสามารถของเจ้าต้าหนิว
อย่างไรเขาก็แข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ใหญ่สามคนซึ่งสามารถฝึกฝนต่อไปได้อีก มันเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเขา
“แต่ว่า… หลังจากสังเกตมาสามปี พลังลึกลับนั่นก็ยังทาให้ข้าสงสัย…”
ฟางหยวนส่ายหน้าอย่างไม่พอใจนัก
เพราะฟางหยวนนั้นมีความคิดแบบผู้ใหญ่และเจ้าต้าหนิวก็เป็นเด็กหนุ่มธรรมดา มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เจ้าต้าหนิวจะนับฟางหยวนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตน ไม่มีอะไรที่เขาพูดกับฟางหยวนไม่ได้
เจ้าต้าหนิวมีท่าทางไม่สบายใจและพูดออกมา “พ่อของฉันเคยบอกว่าไม่ควรรับอะไรมาฟรี ๆ!”
“โอ้! ใครจะไปคิดว่านายยังยึดถือหลักการแน่นเหนี่ยว..”
ฟางหยวนรู้สึกสนใจขึ้นมา “อย่างนั้นทาไมนายถึงดื่มเหล้าที่ฉันเอามาล่ะ?”
“มันไม่เหมือนกัน! ฉันแลกกับปลาไง!”
เจ้าต้าหนิวก็มีความคิดเป็นของตัวเองและยังดื้อดึงมาก ฟางหยวนได้แต่กลอกตาแล้วก็ปล่อยเรื่องนี้ไป
“แล้วนายล่ะ? นายอยากจะทาอะไรต่อไปในอนาคต?”
ในใจเจ้าต้าหนิว ฟางหยวนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ถึงแม้ว่าจะบอกไม่ได้ว่าทาไม แต่เขาก็รู้สึกอย่างนั้น
“อืม ฉันอยากจะเป็นหมอเก่ง ๆ รักษาผู้ป่วยให้ได้มาก ๆ!”
ฟางหยวนกาหมัดแน่นเผยสีหน้าตั้งมั่น
อันที่จริงแล้ว เขาแค่ต้องการตรวจสอบร่างกายของมนุษย์และทาความเข้าใจความแตกต่างระหว่างร่างกายของมนุษย์ที่นี่และร่างกายของมนุษย์ในอาณาจักรอื่นก่อนที่จะค้นหาเส้นทางสู่การเป็นยอดมนุษย์
เพื่อการนั้น เขาต้องตั้งใจเรียนและทุ่มเทให้โดดเด่นในช่วงมัธยมต้น อา… ผู้มีความสามารถมักจะถูกกาหนดให้ต้องโดดเดี่ยว
“อืม ฟางหยวน นายทาได้อยู่แล้ว!”
เจ้าต้าหนิวพยักหน้ารัว ๆ
“แต่ว่า ฉันชอบวิชาแพทย์แผนจีนโบราณมากกว่า ตอนนี้ได้เวลาของนายแล้ว ยื่นมือออกมาให้ฉัน!”
ฟางหวนยิ้มและดึงเข็มสีเงินหลายเล่มออกมา
“ไม่เอาได้ไหม?”
เจ้าต้าหนิวมีสีหน้าไม่สบายนัก เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้นนอกจากฟางหยวน เขายื่นแขนออกไปอย่างไม่ยินยอมนัก
“ผ่อนคลายน่า ฉันเก่งเรื่องฝังเข็มจะตาย!”
ฟางหยวนอุ่นเข็มจนร้อนแล้วยิ้ม “มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนที่ฉันเกือบทาให้นายเป็นอัมพาตไปครึ่งค่อนวันหรอก…”
‘ใครจะไปเชื่อนายกัน!’
แค่เข็มเดียวเจ้าต้าหนิวก็หน้าซีด ดวงตาของเขากลอกกลับก่อนที่จะเขาจะทันได้พูดอะไรเขาก็หมดแรงแล้วล้มลงไปกับพื้น

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ