Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 405

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 405

405: ยุคสมัยใหม่
“ในเมื่อนั่นเป็นความต้องการของคุณ… แค่ก แค่ก… ผมก็จะมอบมันให้กับประเทศ!”
เหล่าลู่พึมพา
“อืม… ผู้อานวยการหวัง ช่วยเขาจัดการเรื่องนี้ด้วย!”
ฟางหยวนออกจากโรงพยาบาลไปในทันทีโดยไม่ให้ความสนใจแม้แต่จะชาเลืองมองลูกสาวลูกชายอกตัญญูเหล่านั้น
มันเป็นฤดูหนาวและท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
หิมะปลิวลงมาจากฟ้า ปกคลุมพื้นจนเป็นชั้นสะท้อนแสงเป็นประกาย
“ชีวิต… เปราะบางนัก!”
ฟางหยวนหลับตาแล้วสัมผัสได้ถึงประกายไฟแห่งชีวิตที่สะบัดไหว
“เหอเหอ… พี่ฟาง พี่มองอะไรอยู่น่ะ?”
ซุนเสี่ยวหงวิ่งมาหาฟางหยวน ใบหน้าเป็นสีแดงเรื่อ เธอหอบหายใจ “หิมะกาลังตก ทาไมพี่ไม่พกร่ม? ข้างนอกนี่หนาวนะ…”
“แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ… กลับเข้าไปในหอผู้ป่วยกันเถอะ!”
ฟางหยวนลูบหัวซุนเสี่ยวหงและเธอก็หรี่ตาลงอย่างรู้สึกสบายเหมือนแมวเกียจคร้านตัวหนึ่ง เธอแทบจะครางออกมาด้วยซ้า
“อีกไม่กี่วันเธอก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว! ทาไมถึงดูไม่ดีใจ?”
ฟางหยวนพูดต่อ “เธอบอกผมว่าเธอไม่อยากจะใช้เวลาอยู่แต่ในห้องผู้ป่วยแล้วไม่ใช่เหรอ…”
“ฉันดีใจ…”
ซุนเสี่ยวหงขยี้จมูกแล้วดวงตาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง “ต่อไปฉันจะกลับมาหาพี่ที่นี่อีกได้ไหม?”
“มาได้สิ!”
ฟางหยวนปัดหิมะที่บนเสื้อผ้าออกแล้วนาซุนเสี่ยวหงกลับเข้าไปในหอผู้ป่วย “วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะฝังเข็มให้เธอแล้ว! คุณหมอฉิน คุณก็อยู่ด้วยสิ!”
“หมอฟาง…”
ฉินว่ายชิงกัดริมฝีปาก เธอสูดลมหายใจลึก สีหน้าซับซ้อน แล้วก็โค้งตัวลงเป็นเชิงขอโทษ “ฉันขอโทษที่เข้าใจคุณผิดไปเมื่อตอนต้น! แล้วก็… ได้โปรดรับฉันเป็นศิษย์ของคุณด้วย! ฉันจะขยันให้มาก”
“ไม่เป็นไรหรอก… สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องปกติ และผมก็แน่ใจว่าหมอคนอื่น ๆ ก็คงมีปฏิกริยาเดียวกับคุณนั่นแหละ… ส่วนเรื่องรับคุณเป็นศิษย์ ตัวผมเองก็ยังไม่ได้ฝึกถึงระดับนั้น…”
ฟางหยวนลูบหัวตัวเอง “แต่ว่า คุณสามารถมาหาผมได้ถ้ามีคาถามอะไรเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน!”
“ดีมากเลย! ขอบคุณคุณหมอฟาง!”
ไม่ว่าชื่อเสียงของฟางหยวนในมหาวิทยาลัยซีจิงจะย่าแย่แค่ไหน ในดวงตาของฉินว่านชิง ฟางหยวนก็เป็นหมอผู้มีความสามารถควรค่าให้เธอนับถือ
ดังนั้นใบหน้าของเธอจึงเปลี่ยนเป็นแดงก่าอย่างอาย ๆ “ใกล้จะปีใหม่แล้ว… คุณหมอฟาง ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ไปทานอาหารที่บ้านฉันได้นะคะ!”
หลังจากพูดจบ ฉินว่านชิงก็เริ่มด่าตัวเองในใจไม่รู้ว่าทาไมถึงได้พูดออกไป
ความจริงแล้ว มีหมอผู้ชายหลายคนที่ตามจีบเธอ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าตัวเธอเองจะเชิญหมอผู้ชายคนอื่นมารับประทานอาหารที่บ้านของเธอ
“เพื่อเลี้ยงขอบคุณคุณเฉย ๆ ค่ะ!”
มองใบหน้าหล่อเหลาของฟางหยวนแล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นกว่าเดิมขณะพยายามอธิบายตัวเอง
“มันเป็นช่วงปีใหม่… อีกไม่นานมันก็จะเป็นปี 1004 แล้ว…”
ฟางหยวนเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย “ใช่แล้ว… อันที่จริง ปีนี้ ผมคิดว่าจะไม่รับคาเชิญของใคร… ผมตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่คนเดียวและพักผ่อนให้สบาย”
“น่าเสียดาย…”
ฉินว่านชิงเค้นรอยยิ้มออกมาและขอปากขอตัว

“ฟู่…”
หลังจากทางานมาตลอดช่วงเช้า ฟางหยวนก็กลับมาที่มหาวิทยาลัยซีจิงและถอนหายใจลึก ๆ “ในที่สุดข้าก็ทางานของวันนี้เสร็จแล้ว…”
ผู้ป่วยสามเคสในโรงพยาบาลนั้นจบการรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฟางหยวนก็คร้านเกินกว่าจะกลับไปที่นั่น
เขายังต้องเข้าฟังการเรียนการสอนอีกหลายวิชาเพราะไม่สามารถปฏิเสธคาเชิญได้
“ปีใหม่กาลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันแล้ว…”
พื้นดินปกคลุมไปด้วยหิมะ เพราะเป็นช่วงวันหยุดฤดูหนาว นักศึกษาหลายคนจึงกลับบ้าน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังแกร่วอยู่ที่มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างว่างโล่งนั้นให้ความรู้สึกกว้างใหญ่และสงบสุข
นักศึกษาที่ยังอยู่ล้วนเต็มไปด้วยพลังและยังปั้นมนุษย์หิมะหลายตัวเอาไว้ที่สนาม
ฟางหยวนเองนั้นก็เป็นที่รู้จักอยู่บ้านในมหาวิทยาลัย คนที่จาเขาได้ก็เริ่มชี้นิ้วมาทางเขาแล้วพูดคุยเกี่ยวกับเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้รู้เรื่องวิทยานิพนธ์ของฟางหยวนที่ดูราวกับเป็นเรื่องตลก
แน่นอนว่า ยังมีอีกหลายคนมองเขาอย่างสงสาร คนที่ไม่รู้ล้วนคิดว่าเขาป้องกันวิทยานิพนธ์ไม่สาเร็จและยังต้องใช้เวลาที่นี่อีกหนึ่งปีเพราะว่าไม่สามารถหางานได้
“ผ่อนคลาย…”
เมื่อเห็นภาพนี้ ฟางหยวนก็ยังมีสีหน้านิ่งเฉย “เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว…”

ฤดูหนาวที่หนาวจัดนั้นทาให้งานเฉลิมฉลองดูซึมเซาลงไปเล็กน้อย
หลังจากซื้อของจนเต็มสองมือแล้วฟางหยวนก็กลับไปที่บ้านแล้วรอคอยให้วันนั้นมาถึง
“ปัง!”
ดอกไม้ไฟอันงดงามระเบิดอยู่บนท้องฟ้าราตรี
ขณะที่ดอกไม้ไฟระเบิดเสียงดังสนั่น ดนตรีเฉลิมฉลองก็ถ่ายทอดไปทั่วทั้งประเทศ
มีผู้คนมากมายที่รู้ว่าฟางหยวนนั้นเป็นเด็กกาพร้า ตอนนี้เขามีสถานะต่างออกไปแล้ว เขาดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย ตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เถียนได้ออกปากเชิญฟางหยวนไปที่บ้านของเขาเพื่อฉลองปีใหม่ และยังพูดถึงหลานสาวของเขาอยู่หลายครั้งโดยไม่มีเหตุผล ทาให้ฟางหยวนอึ้งไป
เรื่องดีก็คือ ในบ้านของฟางหยวนนั้นไม่มีโทรศัพท์ และดังนั้นจึงไม่ถูกรบกวนนัก
ฟางหยวนนั่งขัดสมาธิลงและรอคอยเวลาเที่ยงคืน และปีใหม่
“มันกาลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาสามารถสัมผัสได้ว่าหยาดพลังที่รอบตัวเริ่มเข้มข้นมากขึ้น ราวกับจะเข้มข้นขึ้นหลายเท่าตัวในพริบตาเดียว!
“ครืน!”
การเปลี่ยนแปลงที่หยาดพลังนามานั้นมหาศาลนัก
วินาทีต่อมา ร่างกายของฟางหยวนก็ราวกับเป็นหลุมดาดูดซับหยาดพลังทั้งหมดจากฟ้าและดินที่ไหลเวียนอยู่รอบตัว
ด้วยการไหลเวียนของหยาดพลังเหล่านี้ คาถาฝึกพลังธาตุของเขาที่กาลังถึงจุดตีบตันก็บรรลุผ่านสู่ระดับที่สองในทันทีและยังเริ่มไต่สู่ระดับที่สาม
“หลังจากฝึกคาถาฝึกพลังธาตุบรรลุระดับที่หนึ่ง กายเนื้อของข้าก็จะคล้ายกับเหล่าผู้วิวัฒน์เหล่านั้น สามารถใช้หยาดพลังและควบคุมกระบวนการดูดซับได้ด้วยตัวข้าเอง ข้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้มากกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่สามารถควบคุมกระบวนการดูดซับหยาดพลังได้!”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกายขณะมองไปที่ค่าสถานะของตัวเอง
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 3.0
พลังลมปราณ: 3.0
พลังเวทย์: 3.0
สายวิชา: ???
การฝึกตน: ???
วิทยายุทธ์: [คาถาฝึกพลังธาตุ (ระดับ 3 (57 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)], [เนตรเพลิงสีทอง (ระดับ 1)]”
“คาถาฝึกพลังธาตุระดับที่หนึ่ง: ร่างรองรับหยาดพลัง! สัมผัสพลังเพิ่มขึ้น! คาถาฝึกพลังธาตุระดับที่สอง: ความสามารถใหม่ในการปลดปล่อยพลัง!”
“ข้าไม่เพียงบรรลุสู่ระดับที่สองได้ แต่ข้ายังสามารถพัฒนาไปได้ถึงครึ่งหนึ่งของระดับที่สาม? นอกจากนี้… ความสามารถในการปลดปล่อยพลังปราณของระดับที่สอง…”
ก่อนหน้านี้ ฟางหยวนนั้นทาได้เพียงดูดซับหยาดพลังแล้วเปลี่ยนพวกมันไปเป็นพลังปราณ แต่ว่า ขีดจากัดของร่างกายของเขานั้นจากัดให้เขาสามารถถ่ายทอดพลังปราณผ่านเข็มเงินได้เท่านั้น
แต่ว่า หลังจากได้รับความสามารถในการปลดปล่อยพลังปราณมาแล้วนั้น ทุกอย่างก็จะต่างออกไป
“นอกจากนี้… ข้าก็จะสามารถใช้ยันต์ วิชาเต๋า และยังควบคุมของวิเศษได้ทุกชนิด… หลังจากเอาข้อจากัดนี้ออกไป มันก็เหมือนกับข้าสามารถทาได้ทุกอย่างที่ข้าต้องการ ในเมื่อข้าเองก็มีความรู้ถึงวิชาปราณที่ต่างกันออกไป มันก็หมายความว่าการฝึกตนของข้านั้นเหนือกว่าคนเช่นกั๋วจิงแล้ว…”
ถึงแม้ว่ากฏแห่งความจริงของอาณาจักรนี้จะต่างไปจากอาณาจักรของฟางหยวน หลังจากได้รับความสามารถในการร่ายคาถา ฟางหยวนก็เพียงแค่ต้องเปลี่ยนวิชาปราณให้เป็นไปตามกฏแห่งอาณาจักรนี้
ฟางหยวนเอียงศีรษะราวกับกาลังคิดหนักอยู่ เขาดีดนิ้ว แล้วลูกไฟกลมสีส้มก็ปรากฏขึ้น
เมื่อเห็น ฟางหยวนก็เริ่มยิ้ม “โลกนี้… เปลี่ยนไปแล้ว!”

ในเวลาเดียวกัน ในเมืองชางไห่
“ตีมัน! ตีมัน!”
อันธพาลกว่าสิบคนล้อมตัวเจ้าต้าหนิวเอาไว้แล้วเริ่มลงไม้ลงมือกับเขา “ดูสิว่าแกจะยังกล้าเปิดร้านขายปลาย่างแย่งชิงการค้ากับพวกเราอีกไหม! แกไม่รู้ใช่ไหมว่าใครคุมถนนนี้อยู่?”
“พังร้านมัน! ทาลายทิ้งซะ!”
“เคล้ง!”
ท่ามกลางเสียงของแตกหักวุ่นวาย เจ้าต้าหนิวกาหมัดแน่นดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงก่าเมื่อเห็นความพยายามทั้งหมดของตัวเองกาลังจะสูญเปล่าไป
“พวกแกไม่ให้ฉันได้อยู่สงบกระทั่งคืนปีใหม่!”
หนึ่งในอันธพาลพวกนั้นถ่มน้าลายใส่หน้าเจ้าต้าหนิว “น่าสงสาร… แกมันก็ใช้การไม่ได้ทั้งที่ตัวออกใหญ่โต!”
“ปัง!”
ทันทีที่อันธพาลคนนั้นพูดจบ หมัดหนึ่งก็กระแทกเข้าที่หน้าเขา ทาให้ฟันและเลือดกระจายออกมา มันราวกับเขาถูกรถชนเข้า ถึงแม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เจ็บปวดนัก
“โฮ!”
ดวงตาของเจ้าต้าหนิวแดงก่า เขาหายใจหอบหนักหน่วง เด็กหนุ่มผู้ซื่อสัตย์คนนี้ในที่สุดก็ระเบิดออกมาแล้ว!
“ปัง! ปัง ปัง!”
อย่างไรเสียเขาก็เป็นหนึ่งในผู้วิวัฒน์ และยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปหลายเท่า เขาเรียกได้ว่าเป็นยอดมนุษย์น้อย ๆ คนหนึ่งเลยด้วยซ้า
เมื่อเขาเกรี้ยวกราดขึ้นมา อันธพาลกว่าสิบคนนั้นก็ไม่ใช่คู่มือเขา ภายในไม่กี่วินาที พวกมันทั้งหมดก็ลงไปนอนอยู่กับพื้น
“แก ไอ้สารเลว ไปตายซะ!”
การต่อสู้ทาให้คนวู่วามและไร้สติ
อันธพาลคนหนึ่งตะโกนออกมา ดึงมีดเล่มหนึ่งปักไปที่ต้นขาของเจ้าต้าหนิว
“แกร่ก!”
มีเสียงดังขึ้น ใบมีดหักเป็นสองส่วน
“ปิ… ปิศาจ!”
ตอนที่อันธพาลคนนั้นร้องออกมา หมัดใหญ่หมัดหนึ่งก็พุ่งมาทางเขา
เลือดสาดกระจายไปทั่ว!
“ฉัน… ฉันทาอะไรลงไป?”
หลังจากนั้นเป็นนาน เจ้าต้าหนิวก็ได้สติและมีสีหน้าสับสนขณะมองความเละเทะรอบตัว
เขาก้มมองมือสองข้างของตัวเอง
ผิวหนังที่หลังมือของเขานั้นมีประกายสีเขียวและยังดูราวกับเป็นก้อนหิน มันดูทนทานมาก
“นี่มันบ้าอะไร… นี่มันอะไรกัน เดี๋ยวนะ… ฉันคิดว่าฉันทาร้ายคนไป…”
เขาก้มหน้าลงและตรวจดูอันธพาลหลายคนที่โจมตีเขาก่อนหน้านี้
หลายคนที่กระดูกหักนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่อีกหลายคนที่ถูกเขาชกเข้าที่หน้าอกนั้นเห็นได้ชัดว่าคงจะไม่รอดชีวิตแล้ว
เสียงรถตารวจดังมา
“ฉัน… ฉันฆ่าคน!”
ในที่สุดชายคนนี้ก็นึกออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แทนที่จะหนี เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเริ่มร้องไห้…

ในเวลาเดียวกัน ในเมืองหลวง
ซุนเสี่ยวหงกาลังทาอาหาร ทันใดนั้น เธอก็บังเอิญทามีดบาดนิ้วตัวเองเข้า
“อูย… เจ็บมาก…”
ตอนที่นิ้วของเธอซีดลง เลือดสีแดงสดเริ่มซึมออกมาจากแผล และเธอก็เกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
แต่ว่า ก่อนที่ซุนเสี่ยวหงจะทันได้หาผ้าปิดแผล รอยบาดลึกก็หายไปเรียบร้อยแล้ว
“เอ๋? นี่มันอะไร…”
เธอตรวจดูแผลอยู่เป็นนานกว่าจะรับรู้ว่ามันหายแล้ว เธอยืนเหม่อลอยอย่างงุนงง

ในห้องพักแขกแห่งหนึ่ง
สีหน้าของกั๋วจิงเปลี่ยนไปขณะกาลังตรวจสอบแสงแห่งพลังที่ส่องออกมาจากของวิเศษและยันต์ เขาเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย “นี่ไม่ใช่ภาพหลอน! ทุกอย่างเป็นของจริง… ยุคสมัยของการไร้ซึ่งพลัง… สิ้นสุดลงแล้ว!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ