Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 408

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 408

408: กาไลกักปิศาจ
นสภาพแวดล้อมแบบปิดในห้องทดลองใต้ดิน เวลาผ่านไปเร็วมาก
หนึ่งเดือนผ่านไป
ซีเหมินเจียนถูขมับขณะออกจากห้องประชุม
ทุกคนเป็นกังวลเกี่ยวกับการเกิดผู้วิวัฒน์ไปทั่วโลกและเริ่มมีการวางมาตรการเพื่อความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพื่อรับมือกับสถานการณ์
‘โชคดี… ความเป็นไปได้ของการมีความสามารถพิเศษที่เด่นชัดนั้นต่ามากในหมู่ผู้วิวัฒน์… แต่ว่า เมื่อคิดถึงการเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ของพลังกับปรากฏการณ์ที่สามที่กาลังจะเกิดขึ้นแล้วละก็…’
ซีเหมินเจียนเริ่มปวดหัว ‘สุดท้ายแล้วก็ยังมีผู้วิชาเก่า ๆ… เฮ่ย ไม่ใช่ว่าต่อไปโลกนี้จะเต็มไปด้วยปิศาจแล้วหรือ?’
“ผู้อานวยการสานัก!”
ในตอนนี้เอง เลขานุการผู้หนึ่งก็วิ่งเข้ามา “มีข่าวจากศูนย์วิจัย การทดลองหมายเลขสองสาเร็จแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ซีเหมินจิงมองออกไปข้างนอกอย่างดีใจ “เป็นสหายฟางหยวน หนึ่งในสองผู้วิวัฒน์ที่มีการวิวัฒนาการของสมอง! เยี่ยม! กลับไปกันเดี๋ยวนี้เลย นี่เป็นข่าวดีที่หาได้ยากนัก!”
ในเวลาเดียวกัน ภายในฐานทัพใต้ดิน
ฟางหยวนจ้องอยู่ที่หน้าจอมองใบหน้าอันคุ้นเคย
ตัวอย่างทดลองนั้นสูงและผอม และมีผิวสีน้าตาล คือเพื่อนของเขาจากสถานเลี้ยงเด็กกาพร้า นักกีฬาระดับชาติที่เป็นที่ภาคภูมิใจของประเทศ– หลิวเฟย
“เริ่มการทดลองได้!”
“ตัวอย่างทดลองคือหลิวเฟย ผู้มีวิวัฒนาการด้านความเร็ว หลังจากปรากฏการณ์ที่สอง ไม่เกิดอะไรขึ้น สถิติก่อนหน้าของเขาคือวิ่งหนึ่งร้อยเมตรได้ภายใน 8.9 วินาที!”

ผู้ช่วยที่ด้านข้างใช้เสียงสังเคราะห์จากหุ่นยนต์บันทึกข้อมูลไว้
ฟางหยวนพยักหน้า ท่ามกลางเหล่าผู้วิวัฒน์รุ่นแรก ๆ ไม่กี่คนนี้ ก็ยังมีคนแค่หยิบมือเดียวที่สามารถปลุกความสามารถพิเศษของตัวเองขึ้นมาภายใต้อิทธิพลของปรากฏการณ์ครั้งที่สองได้
แต่ว่า พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นคนธรรมดาที่กลายมาเป็นยอดมนุษย์ในข้ามคืน! นี่คือความสามารถของเหล่าผู้วิวัฒน์!
“พร้อม… เริ่ม!”
หลิวเฟยนั้นอาสาพาตัวเองมาเป็นตัวอย่างทดลองเพื่อประเทศชาติของตน
ฟางหยวนออกคาสั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ฝุบ!”
บนหน้าจอ ความเร็วของหลิวเฟยพุ่งสู่เส้นชัยนั้นราวกับสายลมพัด
“ข้อมูลที่ได้รับจากการทดลองเป็นสถิติใหม่! 8.5 วินาที!”
นักวิจัยตะโกนออกมา
ผลลัพธ์นี้สามารถทาลายสถิติโลกได้อีกครั้งแล้ว
‘ดูเหมือนว่าปรากฏการณ์ครั้งที่สองก็ยังส่งผลอยู่!’
ฟางหยวนพยักหน้าและสั่ง “เริ่มการทดลองควบคุม!”
“ครับ!”
บนหน้าจอ นักวิจัยให้หลิวเฟยสวมกาไลข้อมือโลหะคู่หนึ่ง
“แกร็ก!”
ทันทีที่กาไลข้อมือถูกสวมเอาไว้ที่แขนของหลิวเฟย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เริ่มได้!”
“ฝุบ!”
เป็นการวิ่ง 100 เมตรอีกครั้ง และผลลัพธ์ก็ออกมา “13.02 วินาที!”
“หลังจากตรวจร่างกาย พวกเราพบว่าพลังในร่างของเขาถูกจากัดเอาไว้ และกล้ามเนื้อขาของเขาก็แข็งทื่อขึ้น…”
“เปลี่ยนตัวอย่างทดลอง!”
ฟางหยวนพยักหน้าแล้วสั่งให้เปลี่ยนคน
“นี่เป็นอาสาสมัครจากกองทัพ เฉียนอิงหมิง เขาสามารถปลุกความสามารถพิเศษ พ่นไฟ ได้หลังจากปรากฏการณ์ครั้งที่สอง ไฟที่เขาพ่นออกมานั้นมีความร้อนสูงถึงหนึ่งพันองศาเซลเซียสและเขายังไม่สามารถควบคุมมันได้…”
หน้าจอเปลี่ยนไปและตอนนี้แสดงภาพด้านในห้องทดลองห้องหนึ่งที่ไหม้เป็นตอตะโก
ชายหนุ่มคนหนึ่งทั้งไอทั้งจามอยู่ในนั้น ทุกครั้งที่เขาไอหรือจาม ก็จะมีประกายไฟแลบออกมาจากจมูกของเขา เผาทุกอย่างในห้อง
จากนั้น เขาก็ถูกสวมกาไลโลหะเอาไว้ที่รอบคอ เขามีสีหน้างุนงง เขาเริ่มจามและไอด้วยความพยายามทั้งหมดแต่ว่าไม่มีประกายไฟแลบออกมาแล้ว
“ตัวอย่างทดลองที่สามเริ่มได้!”
“กลุ่มที่สี่!”

“อืม ผลการทดลองของตัวอย่างหมายเลขสองก็ยังประสบความสาเร็จที่สุดอยู่ดี!”
หลังจากเทียบทั้งหมดสิบกลุ่มตัวอย่าง ฟางหยวนก็ลูบคาง
“ยินดีด้วย!”
หลี่จือหลงเดินเข้ามา “กาไลโลหะที่ทาจากทองคาชนิดพิเศษหลอมรวมกับเข็มเงินลับของคุณซึ่งจะปักเข้าที่จุดฝังเข็มของพวกเขาทาลายการ
หมุนเวียนของพลังภายในของพวกเขาและจากนั้นก็ทาลายสมดุลของโลกใบเล็กของพวกเขา! นี่เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก… มีแค่คุณที่คิดวิธีการนี้ออกมาได้!”
“แล้วนี่ยังไง? คุณได้คิดตั้งชื่อเอาไว้แล้วหรือยัง?”
“เรียกมันว่า ‘กาไลกักปิศาจ’!”
ฟางหยวนลูบคางและความคิดน่าสนุกอย่างหนึ่งก็ผ่านเข้ามาในใจเขา
“อืม… ไม่สาคัญว่าผู้วิวัฒน์นั้นจะชั่วร้ายหรือว่ามีพลังมากแค่ไหน ตราบใดที่พวกเขาสวมกาไลกักปิศาจเอาไว้ พวกเขาก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเชื่อฟัง… นี่ยอดเยี่ยมทีเดียว!”
ซีเหมินเจียนเดินเข้ามาจับมือฟางหยวนเขย่า “สหายฟาง การออกแบบของเธอช่วยเหลือพวกเราได้มากเลย!”
“ผู้อานวยการ ใจเย็นก่อนนะครับ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนา อย่างแรกเลย พวกเราต้องคิดถึงความหายากของทองคาชนิดนี้ นอกจากนี้ รายละเอียดการหลอมที่ต้องผ่านการพูดคุยกันอีกหลายรอบเพื่อให้เข็มลับที่ซ่อนเอาไว้ในกาไลนั้นมีความแม่นยาสูงสุดและสามารถที่จะผลิตเป็นจานวนมากตามกายวิภาคพื้นฐานของมนุษย์ได้…”
“เรื่องมันมันก็ใช่ แต่สิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือต้องยอมรับว่ากาไลเหล่านี้นั้นก็มีขีดจากัดของมันอยู่ ถ้าผู้วิวัฒน์มีพลังมากว่าพวกมัน พวกเขาก็ยังสามารถปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระได้ด้วยการใช้กาลังขัดขืน!”
ฟางหยวนวิเคราะห์ปัญหาออกมาอย่างใจเย็นและขยับแว่น
ตั้งแต่เขาเข้าร่วมกับสังคมนักวิทยาศาสตร์เขาก็อดไม่ได้ที่จะไปหาแว่นสักอันมาใส่เพื่อเพิ่มบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองขึ้น
ถึงแม้ว่าสายตาของเขาจะปกติดี เขาก็ยังต้องใช้แว่นตาธรรมดาเพื่อปกปิดการมีอยู่ของเนตรเพลิงสีทองในยามที่ต้องใช้งานมัน
“ไม่ต้องห่วง ปัญหาเหล่านี้ไม่นับเป็นปัญหา!”
ซีเหมินเจียนตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ “พวกเรามีประชากรตั้งมากเทียบกับประเทศอื่น และพวกเราก็สามารถใช้กาลังแก้ไขปัญหานั้นได้ร่วมกับมันสมองที่พวกเรามี พวกเราย่อมต้องสร้างอุปกรณ์ที่เหล่าผู้กระทาผิดจะเกรงกลัวได้แน่นอน!”

ในเมื่อประเทศเห็นด้วยแล้ว กระบวนการผลิตจึงเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่กี่วัน โรงงานแห่งแรกก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อผลิตทองคาชนิดพิเศษและเหล่าวิศวกรก็มาประชุมกัน
“พวกเราได้รับคาสั่งซื้อทางทหารจากเบื้องบน พวกเราต้องหลอมทองคาก้อนชนิดพิเศษนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทาได้ไม่ว่าจะต้องใช้อะไรหรือว่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พวกเราต้องทาได้ให้คุณภาพและปริมาณตามที่สั่ง… ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความยาก แค่แก้ปัญหายากเย็นพวกนี้ให้ได้และถ้าต้องการอะไรก็แจ้งมา เบื้องบนส่งคนไปที่โรงงานเพื่อติดต่อกับพวกคุณแล้ว และเขาก็จะถูกส่งมาที่นี่เพื่อแก้ปัญหาให้พวกคุณด้วย สหาย นี่คืองานจากรัฐบาล พวกเราต้องทาให้ได้!”
ในเวลาเดียวกัน
ทุกที่ ผู้ที่มีทักษะสูงล้วนถูกเรียกตัวมา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นแกนหลักของโรงงานตัวเอง แต่ก็ทาได้เพียงแค่วางงานในมือแล้วมารวมตัวกันที่สถานที่หนึ่งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่
เมืองชางไห่ โรงงานหงซิ่ง
“หัวหน้า… พวกเราปล่อยให้อาจารย์กั๋วไปไม่ได้นะครับ เขาดูแลทั้งโรงงาน ถ้าไม่มีเขา เครื่องจักรหลายเครื่องในโรงงานของพวกเราก็จะเปิดใช้งานไม่ได้!”
ผู้จัดการโรงงานร่างอวบถือโทรศัพท์ พยักหน้าและมีสีหน้าไม่สบายใจ
“พวกเราเปลี่ยนไปเป็นคนอื่นไม่ได้ นี่เป็นงานที่มอบหมายมาจากรัฐบาลและยังเป็นคาสั่งตรงลงมาจากฝ่ายบุคคล… นอกจากนี้ นี่ยังเป็นการเสียสละเพื่อประเทศชาติ! พวกเราจะฝ่าฝืนได้ยังไง?”
“ครับ ครับ!”
ผู้จัดการโรงงานลุกขึ้นยืนตัวตรง “แต่ว่า กาลังการผลิตของโรงงานของเรา…”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พวกเราค่อยคิดกันอีกทีและรับรองได้ว่าจะไม่เพิ่มภาระงานของคุณให้หนักขึ้น บอกอาจารย์กั๋วว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใดทั้งนั้นและให้เขาทาให้เต็มที่… ไม่ใช่ว่าคุณเคยชมเชยฝีมือของเขามาก่อน
ไม่ใช่เหรอ? ถ้าเขาทางานไม่สาเร็จ เขาจะทาให้โรงงานของเราเสียหน้า! ตราบใดที่เขาทางานสาเร็จ ทุกคนก็จะจาเขาได้!”
“ครับ ผมสัญญาว่าเขาจะทางานนี้ให้สาเร็จลงได้แน่นอน!”
ผู้จัดการโรงงานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ไม่ใช่ว่าผมยกยอเขานะ แต่ว่าอาจารย์กั๋วฝีมือดีจริง ๆ ไม่มีอะไรเป็นปัญหากับเขาแน่นอน!!”
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ผู้จัดการโรงงานก็วางสายและมองไปทางชายวัยกลางคน “อาจารย์กั๋ว… ดูสิ ประเทศเลือกเจาะจงเลือกคุณเป็นพิเศษเลยนะ…”
“ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะเริ่มงานเลยเดี๋ยวนี้!”
อาจารย์กั๋วยิ้ม ถึงแม้ว่าเขาจะยังอยู่ในวัยกลางคน แต่ว่ามือของเขาก็เต็มไปด้วยรอยแข็งเป็นไตเป็นหลักฐานของประสบการณ์ “ในเมื่อเบื้องบนให้คุณค่าผมถึงขนาดนี้ ผมก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้…”

ทั่วทั้งประเทศจีนนั้นกลายเป็นกระตือรือร้นขึ้นอย่างมากขณะที่เครื่องจักรของทั้งประเทศเดินเครื่องเพื่อทางานที่ได้รับมอบหมายให้สาเร็จ
ภายในศูนย์วิจัย
ซีเหมินเจียนมองฟางหยวนและรู้สึกขัดแย้งเล็กน้อย “สหายฟางหยวน ผมย่อมต้องอนุญาตให้คุณลาพักได้อยู่แล้ว แต่ว่า ความปลอดภัยของคุณเป็นเรื่องสาคัญ สาคัญเป็นอย่างยิ่ง!”
“ผมรู้ แต่ว่าผมเองก็มีความสามารถในการปกป้องตัวเองอยู่บ้างเหมือนกัน…”
ฟางหยวนยิ้ม “นอกจากนี้… ผมยังสนใจมากเกี่ยวกับการตอบสนองรวดเร็วของสานักศาสนา… อย่างไรเสีย ผมก็แค่คิดว่าจะทางานต่อไปได้ดีถ้าได้รับข้อมูลดิบเกี่ยวกับกาไลกักปิศาจแต่เนิ่น ๆ…”
“อย่าได้แม้แต่จะคิด!”
ซีเหมินเจียนส่ายหน้า “ผมยินดีให้คุณลาพักนาน ๆ มากกว่าให้คุณออกไปเสี่ยง!”
มันเป็นเรื่องบ้าที่จะปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์แบกปืนออกไปทาสงครามที่ด้านนอก
“ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว…”
ฟางหยวนไม่ได้ตอบตรง ๆ กลับกัน เขายิ้มอย่างลึกลับ
“เอาละ ผมจะอนุญาตให้คุณลาพักล่วงหน้า แต่ว่า ผมก็ยังต้องเพิ่มการคุ้มกันให้คุณ และคุณก็ห้ามออกไปจากเมืองหลวง…”
ซีเหมินเจียนมองฟางหยวนและรู้ว่าฟางหยวนนั้นเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวมาก เขาไม่สามารถโน้มน้าวฟางหยวนได้ เขาได้แต่กุมขมับ
“ตกลง!”
ฟางหยวนโค้งตัวลง ออกจากห้องไปแล้วปิดประตู

หลังจากกลับมาที่ห้องตัวเองแล้ว เขาก็ได้พบกับความประหลาดใจอันน่ายินดี
“ผมเป็นผู้คุ้มกันคนใหม่ เจ้าต้าหนิว รายงานตัวรับหน้าที่ครับ!”
เจ้าต้าหนิวดูแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบของกองทัพ ทาวันทยาหัตถ์ให้ฟางหยวน ในสายตามีแววดีใจ
“ฮ่าฮ่า… นายน่ะเอง!”
ฟางหยวนยิ้ม เดินเข้าไปหาและยังชกหมัดใส่เจ้าต้าหนิวอย่างเป็นมิตร “เกิดอะไรขึ้น?”
“ทั้งหมดเป็นความคิดของนายนั่นแหละ… ตอนแรก สถานเลี้ยงเด็กกาพร้าส่งฉันไปทางานที่โรงงาน ฉันทนไม่ได้ตอนที่เห็นผู้จัดการโรงงานลวนลามเด็กสาว ๆ แล้วก็เอาเปรียบพวกเธอ ดังนั้นก็เลยชกหน้าเขาไปทีนึงแล้วก็ออกมาตั้งร้านแผงลอยขายปลาย่าง…”
เห็นใบหน้าคุ้นเคยแล้วเจ้าต้าหนิวก็รู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิม “การค้าของฉันกาลังไปได้สวยแล้วก็ได้กาไรด้วย ปีเดียวฉันก็ได้มาเป็นหมื่นเหรียญเลยนะ แต่ว่าตอนปลายปี ฉันเจอกับพวกอันธพาลเข้า ฉันบังเอิญฆ่าพวกมันไปคนหนึ่งแล้วก็ถูกตารวจจับ แต่ว่า ฉันก็โชคดีพอเลยได้พบเจ้าหน้าที่ฮั่นที่ให้ฉันประกันตัวเองออกมาโดยการทางานให้เขา…”
“แค่ก แค่ก!”
เยี่ยอิงจื่อกระแอมไป “สหายเจ้าต้าหนิว รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองด้วย แล้วก็ สหายฟางหยวนเป็นหัวหน้า ระวังคาพูดคาจาของนายด้วย…”
“ฮี่ฮี่… ผมไม่ค่อยฉลาดน่ะ ก็เลยลืมเรื่องนี้ไปเลย!”
เจ้าต้าหนิวยิ้มโง่ ๆ ออกมายกมือขึ้นเกาหัว
“ฮ่าฮ่า… ต้าหนิว ไม่เป็นไร ในเมื่อตอนนี้นายก็มาติดตามฉันแล้ว ฉันก็จะดูแลให้แน่ใจว่านายได้รับการดูแลเป็นอย่างดี… ไปฉลองด้วยเนื้อย่างที่โรงอาหารกัน! แล้วก็ ฉันแอบซื้อเหล้ามาเก็บเอาไว้สองขวด…”
ฟางหยวนไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่เยี่ยอิงจื่อพูดขณะโอบแขนรอบบ่าเจ้าต้าหนิวและพูดด้วยท่าทีอย่างเจ้านาย
กระทั่งเยี่ยอิงจื่อยังพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้จากฟางหยวน…

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ