Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 417

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 417

417: ใต้ต้นไม้
“ตูม!”
ฟางหยวนผลักฝ่ามือและสายฟ้าก็พุ่งออกไปราวกับนาเอาความเกรี้ยวกราดของสวรรค์ติดไปด้วย!
“ลม!”
จาไนมีสีหน้าเคร่งเครียดและยกมือทั้งสองข้างขึ้น กาแพงลมสีเขียวก่อตัวขึ้นรอบตัวเขา
“บรึ้ม!”
สายฟ้ากับพายุหมุนกระแทกเข้าหากันแล้วทาลายอีกฝ่ายจนเกิดเสียงระเบิดออกมา แต่ว่า พายุหมุนกลับแตกออกเร็วกว่าที่สายฟ้าสลายไป
เมื่อเห็นอย่างนี้สีหน้าของจาไนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และดีที่เขาถอยออกมาทันท่วงที
“อ่อนแอ! อ่อนแอเกินไป!”
“เปรี้ยง!”
ฟางหยวนสืบเท้าไปด้านหน้าพร้อมกับสายฟ้าที่แลบปลาบอยู่รอบตัว สายฟ้าเหล่านั้นหล่อเลี้ยงเกราะที่เขาสวมเอาไว้แล้วยังเพิ่มขนาดขึ้นจนกระทั่งเกิดร่างยักษ์จากสายฟ้า
“โฮก!”
ร่างสายฟ้ายักษ์นั้นลงมือราวกับมันมีขีวิต มันโบกมือ เมฆฝนก่อตัวขึ้นและขยายขนาดจนสามารถกลืนกินพายุที่จาไนอัญเชิญมาได้
“อ๊าก…”
จากนั้นจาไนก็พุ่งตัวหนีไปโดยไม่หันกลับมามอง
สามารถควบคุมสภาพอากาศทั้งบริเวณได้ด้วยตัวเอง! ในที่สุดจาไนก็ตระหนักถึงช่องว่างระหว่างเขากับฟางหยวน
ร่างสายฟ้ายักษ์คารามแล้วตวัดฝ่ามือใส่แผ่นหลังของจาไน
“ปัง!”
โล่สีเขียวที่ปกป้องจาไนเอาไว้แตกออกแล้วสายฟ้าก็เผาไหม้แผ่นหลังของเขา
“เป็นไปไม่ได้… ทาไมถึงมีผู้วิวัฒน์ที่ทรงพลังถึงเพียงนี้บนโลกได้!”
จาไนกรีดร้องและเลือดก็ไหลออกมาจากปากและจมูกของเขา เขาหนีออกไปที่ด้านนอกแล้วออกจากค่ายไป
“หัวหน้า!”
ที่ใกล้กันนั้น มนุษย์หมาป่าพลิกรถถัง มันหอนออกมาแล้ววิ่งด้วยสี่เท้ากลับมาที่ข้างตัวจาไน
“ไปกันเถอะ!”
นาริสซ่าเปลี่ยนร่างไปเป็นค้างคาวดูดเลือดและกรีดร้องออกมา
“เทพสายฟ้าผู้นี้… ตอนนี้พวกเราไม่ใช่คู่มือเขา!”
“ฉันไม่เชื่อ ทาไมพวกลิงผิวเหลืองถึงเก่งกาจกว่าพวกเราได้?”
มนุษย์หมาป่านั้นไม่ได้ฉลาดนักและดูอยากจะไปท้าทายฟางหยวน
‘นี่น่าสนใจมาก ถ้าจาไนวิวัฒน์ไปอีกครั้ง เขาก็จะเป็นตัวอย่างทดลองที่ดี… และยังหมาป่าน้อยที่กาลังจะตายนี่อีก!’
ความคิดของฟางหยวนสิ้นสุดลงตรงนี้ และเขาก็โบกมือ
“สายฟ้า ไป!”
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าเส้นหนึ่งพุ่งลงจากฟ้าและเปลี่ยนไปเป็นดาบยาวในมือของร่างสายฟ้ายักษ์ ร่างนั้นพุ่งตัวไปข้างหน้า
“ข้าคือแจ็กซ์ มนุษย์หมาป่าที่ทรงพลังที่สุด!!!”
แจ็กซ์ตะโกนด้วยพลังทั้งหมดที่มี ดวงตาของเขาแดงก่าและเส้นขนบนผิวก็ลุกชูชัน เขาดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะคลั่งและพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างเกรี้ยวกราด
“ฝุบ!”
สีแดงวาบขึ้น
ดาบสายฟ้าเสียบทะลุร่างมนุษย์หมาป่าและอวัยวะภายในทั้งหมดของเขาก็ไหม้เกรียมไปในพริบตา
“ตุบ!”
มนุษย์หมาป่าร่วงลงพื้นและเส้นขนทั้งหมดก็หดหายไปเผยให้เห็นชายหนุ่มผิวขาวคนหนึ่ง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังแต่ว่าพลังทั้งหมดล้วนสลายไปแล้ว มือของเขาตกห้อยลง
“เทพสายฟ้า…”
อู๋เถี่ยเดินเข้ามาที่ข้างตัวฟางหยวน ผิวโลหะของเขาเริ่มลอกออกจนกระทั่งกลายเป็นปกติอีกครั้ง
“จาไนหนีไปแล้ว!”
ฟางหยวนหลังตา เขาสัมผัสถึงตัวตนของผู้อื่นไม่ได้แล้ว
อย่างไรเสีย ก็ไม่มีใครสามารถหยุดผู้วิวัฒน์ที่ใช้สายลมได้เอาไว้ได้หากเขาต้องการหนี นอกเสียจากฟางหยวนจะไล่ตามหลังเขาไปตั้งแต่เริ่มแรก
“นอกจากนี้ ในค่ายก็ยังมีตัวประกันอีกสองคน พวกเธอน่าจะเป็นสายลับจากประเทศญี่ปุ่น ให้พวกเธออยู่ภายใต้การดูแลของคุณแล้วกัน!”
“ได้!”
อู๋เถี่ยไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
เขารู้สึกมาตลอดว่ามนุษย์หมาป่ายักษ์นั่นรับมือได้ยาก
แต่พอเป็นเทพสายฟ้าลงมือ ไม่เพียงแค่มนุษย์หมาป่าจะถูกสังหาร แต่จาไนและนาริสซ่าที่ทรงพลังกว่ายังถูกบีบให้หนีไป ฟางหยวนเก่งกาจสุดยอดจริง ๆ
“แล้วก็ เทพสายฟ้า ไม่ใช่ว่าคุณเข้าไปในหมอกแล้วหรอกหรือ?”
อู๋เถี่ยสั่งคนของเขาให้จัดการทาลายศพของมนุษย์หมาป่าแล้วก็ถามออกมา
“ไม่เป็นไร… ถ้าตอนนี้พวกเรารีบเสียหน่อยก็ยังพอไหว!”
ฟางหยวนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ในร่างชายวัยกลางคนหล่อเหลาของเขา จากนั้นเขาก็กลายเป็นสายฟ้าเส้นหนึ่งแล้วพุ่งออกไปไกล
“อย่างนี้นี่ก็คือหัวหน้าหน่วยมังกรผู้ทรงพลัง?”
อู๋เถี่ยจู่ ๆ ก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา จากนั้นเขาก็จัดการทาความสะอาดค่ายทัพที่เสียหายไปและเตรียมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“อืม?”
เมื่อฟางหยวนพุ่งเข้าไปในหมอกอีกครั้ง จู่ ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
“ความหนาแน่นของหมอก… ลดลง? นี่เป็นเพราะการต่อสู้ของข้ากับจาไนทาให้มันหดตัวลง? ถ้าเป็นอย่างนั้น ต้นไม้นี่ก็มีสัญชาตญาณของตัวเองและนับได้ว่าเป็นปิศาจตนหนึ่ง”
ฟางหยวนยังปล่อยให้เกราะสายฟ้าอยู่บนร่างต่อไป ไม่เพียงแค่หมอกสีขาวจะไม่สามารถแทรกซึมเข้ามาได้ ยังรวมถึงเกสรต้นหลิวด้วย เขาพุ่งเข้าไปถึงบริเวณสวนสาธารณะราวกับพายุลูกหนึ่ง
เขาได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาจากด้านหน้า
มีสัตว์ประหลาดที่มีหนวดยื่นยาวออกมาจานวนหนึ่ง และยังปุ่มโปนของต้นไม้ที่ดูน่าแขยง มันคงเป็นพวกทัพหน้าสินะ พวกมันเริ่มโจมตีรถที่ขับเข้าไป
ม่านน้าเป็นประกายล้อมรอบรถหลายคันนั้นเอาไว้ เป็นเกราะป้องกันของพวกเขา
สัตว์ประหลาดอีกกลุ่มลงมือสังหาร
พวกมันอยู่ในรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ว่าตัวสูงมากและยังเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ พวกมันมีรากเหยียดยาวออกมาจากร่างและมันก็กระแทกตัวเข้ากับม่านน้าซ้า ๆ ข่ายมนต์สั่นสะเทือนทุกครั้งที่พวกมันลงมือ
“พวกเราทนเอาไว้ได้อีกไม่นานแล้ว… ปรสิตร่างมนุษย์เหล่านี้ดุร้ายเกินไป!”
ที่ใจกลางข่ายมนต์ นักบวชเต๋ากั๋วจิงใบหน้าซีดลง เขาถือธงเล็ก ๆ เอาไว้ในมือและแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
“หัวหน้าหน่วยอยู่ไหนกันเนี่ย! มันกาลังจะฆ่าพวกเราแล้ว!”
หงเจี่ยเจียร้องออกมาอย่างกระวนกระวาย และหมอกสีฟ้าก็เริ่มแผ่ออกมาจากมือของเธอ
“แกร็ก!”
ที่ด้านนอกม่านน้า ปรสิตร่างมนุษย์หลายตนนั้นจู่ ๆ ก็ตัวแข็งและเปลี่ยนไปเป็นรูปสลักน้าแข็ง
“แกร่ก! แกร่ก!”
หลังจากนั้นแค่ไม่กี่ลมหายใจ ก็เริ่มเกิดรอยแตกที่ผิวน้าแข็ง จากนั้นเลือดและเนื้อก็ระเบิดออกมา ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็คือโครงกระดูกที่เกิดจากรากไม้ จากนั้นพวกมันก็หายลับลงไปในพื้นดินอย่างรวดเร็ว
นักบวชเต๋ากั๋วจิงนั้นไม่ชอบใจกับภาพที่เห็นเป็นที่สุด
‘สัตว์ประหลาดเหล่านี้… พวกมันดูเหมือนจะใช้รากของมันแทนที่โครงกระดูกและเส้นประสาท กระบวนการเข้าสิงสู่ของปรสิตพวกนี้ต้องเจ็บปวดอย่างเหลือแสนเป็นแน่… แต่ความสาเร็จของมันก็ทาให้มันแข็งแกร่งอย่างไม่ธรรมดา!’
“ไฟ!”
ที่ด้านข้าง ไฟกัลป์ร้องออกมาแล้วพ่นไฟออกมาเป็นสาย ปรสิตร่างมนุษย์ทั้งหมดที่สัมผัสเข้าก็กลายไปเป็นคงเพลิงสว่างจ้า
ทหารส่วนใหญ่เริ่มตั้งกระบวนพร้อมกับปืนในและกลายเป็นเกราะชั้นหนึ่ง
ถึงอย่างนั้น ปรสิตร่างมนุษย์จานวนมหาศาลที่รุดเข้ามาก็ค่อย ๆ คุกคามเหนือพวกเขา
เพียงไม่นาน ปรสิตร่างมนุษย์ก็เรียงรายหนาเป็นหลายชั้นรอบ ๆ ข่ายมนต์และรถ
“ถ้าหัวหน้ายังมาไม่ถึง พวกเราจะตายกันหมดนี่แหละ!”
ไฟกัลป์เริ่มกระอักไออย่างรุนแรงหลังจากพ่นไฟไปหลายครั้ง เขาเริ่มหมดแรงแล้ว
“ผู้วิวัฒน์ที่ด้านนอกนั่นประมาทไม่ได้ พวกเราต้องทนเอาไว้…”
นักบวชเต๋ากั๋วจิงพึมพา
“โครม!”
ทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างวาบขึ้น
สนามไฟฟ้าปรากฏขึ้นแล้วพลังที่ระเบิดออกมาก็ทาให้ปรสิตร่างมนุษย์มากมายล้มลง
“หัวหน้า!”
ไฟกัลป์ปาดน้าตาอย่างยินดี
“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!”
“ฉันสัมผัสได้ว่าที่นี่มีอันตราย”
ฟางหยวนเดินเข้ามา สายฟ้าแลบเลียอยู่ทั่วร่างเขา
“ปัง!”
โคลนกองหนึ่งที่บนพื้นจู่ ๆ ก็ระเบิดออกมาอย่างไม่มีทีท่าและงูตัวใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่ฟางหยวน
ตอนที่มันอยู่ห่างจากเขาราวสามเมตร สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นแล้วตวัดเข้าใส่งูยักษ์นั่น
“แคร่ก!”
งูยักษ์ตัวสั่นและไฟก็ลุกขึ้นมาเองจนร่างของมันเหลือแค่ขี้เถ้ากองหนึ่ง
“ต้นหลิวนี่แข็งแกร่งมากในด้านขนาดและการมีชีวิต มันยังเป็นตัวอย่างของปรสิตร่างมนุษย์ได้ แต่ว่า ความแข็งแกร่งของมันเองนั้นก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ!”
ฟางหยวนส่ายหน้า แต่ว่าเขาก็รู้ว่ามันต้องทาอะไรมากกว่านี้เมื่อเขามาถึง
ใคร ๆ ก็อาจจะตายตกไปได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพปรสิตร่างมนุษย์
“หัวหน้า!”
เมื่อฟางหยวนเข้ามาในข่ายมนต์ ลูกน้องทั้งสามของเขาก็มาล้อมเขาไว้อย่างยินดี
“ตายไปเยอะไหม?”
“ยังรับมือได้ ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือกระสุนปืนทาอะไรปรสิตร่างมนุษย์เหล่านั้นไม่ได้ ทหารหลายคนตายและบางคนก็กลายเป็นเหยื่อของพวกปรสิต พวกเราฉีดยาให้พวกเขาแล้ว…”
ถึงแม้ว่าศาสตราจารย์เฉินจะมอบพิษผสมมาให้แล้ว แต่เหยื่อของปรสิตเหล่านั้นก็ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ให้ได้เพื่อให้ได้ฉีดยาในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ต่อให้พวกเขาไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของพวกปรสิต พวกเขาก็อาจจะตายได้ภายในสิบวินาทีหลังจากสัมผัสกับมัน
“อืม ไปกันเถอะ!”
ฟางหยวนสั่งให้รถมารวมกันแล้วนาทาง ทั้งกลุ่มจัดการเปิดทางได้ใหญ่พอที่รถจะขับเข้าไปในสวนสาธารณะได้อย่างช้า ๆ
เมื่อหมอกจางลงไปเล็กน้อย กั๋วจิงและพวกก็มองเห็นต้นหลิวต้นยักษ์ที่แผ่กิ่งก้านบดบังแสงอาทิตย์ กิ่งของมันยื่นออกมาราวกับมังกรและลาต้นก็เหยียดตรงขึ้นฟ้า กิ่วหลิวโค้งลงราวกับม่านและเกสรกับดอกก็พลิ้วไหวอยู่กลางสายลม
“ว้าว… อย่างนั้นนี่ก็คือต้นหลิวโบราณพันปี? ต้นใหญ่มาก!”
“บ้าชะมัด อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ของพวกเราไม่ทางาน!”
ทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
“นี่หมายความว่าพวกเราก็ไม่สามารถใช้ระเบิดควบคุมระยะไกลได้ ทาได้แค่ทาลายมันในระยะประชิดสิ?”
ไฟกัลป์มองขึ้นไปที่เกสรจานวนนับไม่ถ้วนแล้วก็รู้สึกขนลุก
“คิคิ… ถ้าฉันสามารถเข้าถึงแก่นของต้นไม้นี้ได้ ฉันก็สามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นของวิเศษได้!”
กั๋วจิงวาดฝันถึงของวิเศษแล้วจู่ ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“นั่นอะไร?”
ที่โคนต้นไม้ เงาร่างโปร่งใสมากมายผุดขึ้นมา มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เด็กและชรา หมอกหนาทึบและพวกเขาก็มีสีหน้าว่างเปล่า ทันใดนั้นพวกเขาก็มองมา
สายตาของพวกเขานั้นดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“นี่มัน… คนพวกนี้ครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่นี่… ดวงวิญญาณ? หรือว่าปิศาจ?”
หงเจี่ยเจียรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก
“ต้นไม้ปิศาจนี่ถึงกับมีวิญญาณรับใช้?”
ฟางหยวนดุคนของเขาทันที
“พวกนายมัวทาอะไรอยู่? พวกนี้เป็นดวงวิญญาณก็จริงแต่ว่ามันก็มีผลต่อคลื่นและสนามแม่เหล็ก… ต้นหลิวทาหน้าที่เหมือนสื่อกลางสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา ก็แค่นั้น!”
ฟางหยวนพูดต่อ
“ที่อุปกรณ์ของพวกเราใช้การไม่ได้ก็เป็นเพราะสนามแม่เหล็กของต้นหลิวนี่ จากนี้ไป ฉันต้องการให้ทุกคนสงบเยือกเย็นเข้าไว้เพราะว่าเมื่อพวกเราเข้าไปในอาณาเขตของศัตรู ประสาทสัมผัสของพวกเราอาจจะถูกรบกวนจากภาพหลอนต่าง ๆ…”
ขณะที่ฟางหยวนพูด เขาก็กระแทกเท้าลงกับพื้น
“แกร่ก!”
เกิดหลุมใหญ่ขึ้นบนพื้น
จากนั้นพวกเขาก็เห็นหัวของหนูที่ติดปรสิตไหม้เกรียมจากการถูกเผา
กั๋วจิงและพวกรู้สึกว่าอากาศเย็นเฉียบขึ้นมาทันที
เมื่อสิ่งแทรกซ้อนถูกกาจัดไปแล้ว เพื่อที่จะเข้าไปใกล้ต้นไม้ พวกเขาทั้งหมดต้องเผชิญหน้ากับภาพหลอนและวิญญาณร้าย ไม่ต้องพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะกาจัดสัตว์ที่ติดปรสิตเลย!
ระดับความยากของภารกิจนี้มันบ้าไปแล้ว!

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ