Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 420

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 420

420: สืบสวน
“ลงมา!”
รถไปหยุดอยู่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง จอห์นดับเครื่องและดึงประตูรถเปิดออก เขาหัวเราะเสียงดัง
“พี่ ดูสิว่าผมเอาอะไรมาฝาก”
“โอ้! ของขวัญจากพระเจ้า!”
มีคนหลายคนเดินออกมาจากโกดังเก่า ๆ แห่งนี้ พวกเขาแต่งตัวแบบพวกบุปผาชน ย้อมผมหลากสี มีรอยสักที่คอและข้อมือ สวมโซ่และแหวนลายหัวกะโหลก พวกเขายังกรีดตาสีดาและถือไม้เบสบอลกับท่อเหล็กเป็นอาวุธ พวกเขาเดินตรงมาทางรถท่าทางไม่ประสงค์ดี
“ลงมาเดี๋ยวนี้ ไอ้ลิงผิวเหลืองจากทวีปกลาง!”
ชายหนุ่มผิวขาวผมสีแดงคนหนึ่งลากฟางหยวนไปข้างหน้า ดวงตาแดงก่า
“อืม ไม่เลว… ไอ้เด็กนี่ดูสุขภาพดี คนซื้อต้องชอบมันแน่!”
“เอามันไปขังไว้ แล้วอย่าลืมทาความสะอาดมันตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยนะ!”
“คิคิ… ก่อนที่มันจะถูกขาย ก็อย่าปล่อยให้โอกาสเสียเปล่าล่ะ!”
คนที่ดูอ้อนแอ้นคนหนึ่งยิ้มแล้วแลบลิ้นที่เจาะฝังมุกเอาไว้ออกมา ดวงตามีแววชั่วร้าย
“พระเจ้า!”
ฟางหยวนยังมีสีหน้าเรียบเฉย
“ผมไม่อยากเล่นกับพวกคุณแล้ว! จับตัวผมไว้นี่คือพวกคุณตั้งใจจะขายผมไปเป็นทาสเหรอ?”
เขาเคยได้ยินมานานแล้วระหว่างช่วงเวลาอันไม่สงบในทวีปกลาง คนผิวเหลืองจานวนมากถูกโฆษณาชวนเชื่อของสหพันธ์อินทรีทองชักชวนให้ไปหาโอกาสงานที่ต่างประเทศ พวกเขาเก็บข้าวของทั้งหมดแล้วลอบขึ้นเรืออพยพไปอย่างผิดกฏหมายเพียงเพื่อพบว่าตัวเองถูกขายไปเป็นทาส พวกเขากลายไปเป็นคนงานชั้นต่าที่สุดและยังต้องประสบความลาบากเสียยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาอยู่ที่ทวีปกลางเสียอีก
คนที่สามารถก่อร่างสร้างตัวสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองได้นั้นเป็นเพียงไม่กี่คนที่โชคดีพอ
“ไม่หรอก ไม่! ไม่มีโรงงานหรือว่าเหมืองไหนแถว ๆ นี้ยังต้องการคนงานจากประเทศจีนหรอกนะ พวกเรามีความคิดที่ดีกว่านั้น ใช่ไหม… จอห์น?”
“หัวหน้าบอนด์ เอากระเป๋ามันมาก่อนเลยไหม ในนั้นน่าจะมีเงินอยู่เยอะเลยนะ… คนจีนพวกนี้ก็เหมือนหนูท่อพวกนั้น พวกมันชอบเก็บเงินสดและของทั้งหมดเอาไว้ในรังของตัวเอง!”
จอห์นพูดต่อยิ้ม ๆ ขณะมองฟางหยวน
“ลิงผิวเหลือง แกโชคร้ายแล้วที่มาตกอยู่ในมือพวกเราเข้า หัวหน้าบอนด์พูดถูก ทุกอย่างที่แกมี ทั้งไต ตับ หัวใจ เลือด… พวกเราสามารถขายทั้งหมดนั่นได้ในราคาสูง”
“ตลาดมืดค้าอวัยวะ?”
ฟางหยวนขมวดคิ้ว ในฐานะหมอระดับสูงคนหนึ่งของประเทศจีน เขาย่อมเคยได้ฟังเรื่องการพัฒนาทางการแพทย์ของประเทศอื่น
“งานด้านการแพทย์ของสหพันธ์อินทรีทองพัฒนามาถึงระดับนี้แล้วหรือ?”
“ไม่… ก็ยังไม่ถูก ยังมีความเป็นไปได้อื่น!”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกายขึ้น
“ถึงแม้ว่าทักษะทางการแพทย์จะยังไม่เพียงพอ ปฏิกริยาต่อต้านของร่างกายต่อการปลูกถ่ายอวัยวะนั้นยังสามารถลดลงได้ด้วยการเหนี่ยวนาให้เกิดการกลายพันธุ์…”
“แกกาลังพูดถึงอะไร?”
สีหน้าของบอนด์เปลี่ยนไปและจู่ ๆ เขาก็โบกมือ
“เอาตัวมันไป!”
ลูกสมุนของเขาที่รอบ ๆ พุ่งตัวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กันและหนึ่งในนั้นก็ดึงมีดพับออกมา
“เอาละ เจ้าพวกชั่ว!”
ฟางหยวนผ่อนคลายร่างกายลง
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามีคนเท่าไหร่แล้วที่ต้องทนทุกข์เพราะพวกแกทั้งหมด แต่พวกแกก็โชคร้ายแล้วที่เจอกับฉันเข้า!”
“ไอ้โง่!”
หนึ่งในพวกมันร้องออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่ฟางหยวนพร้อมไม้เบสบอล
มันเป็นอาวุธที่รวดเร็วและรุนแรงที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้ด้วยการตีเพียงครั้งเดียว
“ควับ!”
ไม้ถูกหยุดเอาไว้กลางอากาศด้วยฝ่ามืออันว่องไวของฟางหยวน
พวกมันไม่ยอมปล่อยไม้และก็ถูกเหวี่ยงไปด้านหลังก่อนจะหล่นลงกระแทกพื้นที่ห่างออกไปหลายเมตร
“ฆ่ามัน!”
บอนด์ร้องบอกสมุนของตัวเองเสียงดัง เหงื่อเย็น ๆ ผุดเป็นเม็ดที่หน้าผากขณะมันถอยออกไป
การลงมือของฟางหยวนทาให้มันรู้สึกไม่สบายใจ
“อั้ก!”
ชายร่างอ้วนคนหนึ่งพุ่งไปหาฟางหยวนพร้อมท่อเหล็กขณะที่อีกคนหนึ่งมาพร้อมมีดและพุ่งเข้าหาฟางหยวนจากอีกด้าน
จอห์นกลอกตาแต่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมหัวหน้าของมันแทนที่จะเข้าร่วมการโจมตี
“ปึ้ก ปั้ก!”
ฟางหยวนพุ่งไปข้างหน้า คว้าท่อเหล็กแล้วเหวี่ยงทิ้งไปอีกข้างโดยที่ชายร่างอ้วนยังจับปลายอีกด้านเอาไว้
“อุ้ก!”
มีดในมือของอีกคนหนึ่งแทงเข้าที่ท้องของชายร่างอ้วนขณะที่มือมีดเองก็ต้องรับท่อเหล็กในมือของชายร่างอ้วนที่ฟาดเข้าที่หัวของมันพอดี
“บ้าชะมัด! ผู้กลายพันธุ์!”
เห็นฟางหยวนหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับพวกมัน ทั้งบอนด์และจอห์นก็หันหลังวิ่งหนีทันที
ฟางหยวนไล่ตามพวกมันเข้าไปในโกดังเก่าและแค่ขว้างท่อเหล็กออกไป จอห์นก็กรีดร้องแล้วล้มลงกับพื้นกุมหน้าแข้งตัวเองเอาไว้
“อ้ะ… อย่าฆ่าฉัน! ฉันเป็นแค่ลูกน้องของเขาเท่านั้น!”
จอห์นคลานถอยหลังด้วยท่วงท่าน่าสมเพชขณะที่ฟางหยวนเดินตรงเข้าไป
“แกรู้ไหม… ว่าหมอคนที่ทาหน้าที่เก็บอวัยวะอยู่ที่ไหน?”
ฟางหยวนถามด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ฉันไม่… ไม่รู้ หัวหน้าติดต่อกับเขาโดยตรง!”
“น่าเสียดาย แกไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันแล้ว!”
ฟางหยวนคว้าจับที่หัวของเขาแล้วบิดไปด้านข้าง
“กร็อบ!”
เสียงกระดูกหักดังขึ้นแล้วหัวของจอห์นก็หมุนไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศา เลือดสด ๆ สาดออกมาขณะที่หัวของเขายังห้อยติดอยู่กับคอ
“บ้าชะมัด! บ้าชะมัด!”
ฟางหยวนสัมผัสได้ว่าหัวหน้าบอนด์นั้นวิ่งลึกเข้าไปในโกดังเพื่อหนี เขาเตะลังไม้สองสามใบแล้วคว้าเอาปืนพกกระบอกหนึ่งขึ้นมาจากกองข้าวของ
เมื่อฟางหยวนเข้าไปถึงตัวเขา บอนด์ก็ยกปืนในมือขึ้นทันทีแล้วเล็ง
“เอาละ… แกน่ะ ทั้งหมดนี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดโง่ ๆ เท่านั้น!”
“ดูสิ มีเงินอยู่ตรงนี้มากมาย… แกเลือกว่าจะเอาเงินพวกนี้ไป หรือว่าสู้ตายกับฉัน…”
เสียงของบอนด์สั่นเล็ก ๆ
“พวกเราพรรคพี่น้องมีความสัมพันธ์กับสมาคมคนชุดดา ถึงแม้ว่าแกจะเป็นผู้กลายพันธุ์ แกก็ยังเป็นคนต่างชาติ… ตราบใดที่แกปล่อยฉันไป ทุกอย่างจะถูกเก็บเอาไว้เงียบ ๆ… เชื่อฉัน!”
“สมาคมคนชุดดา?”
เมื่อได้ยินชื่อสมาคมของผู้วิวัฒน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหพันธ์อินทรีทอง ฟางหยวนก็หัวเราะเสียงห้าว
“ถ้าการตายของแกจะพาพวกมันมาหาฉันนั่นก็คงจะดีที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้… ฉันยังไม่ต้องการทั้งเงินแล้วก็ชีวิตของแก!”
“ควับ!”
ฟางหยวนแย่งปืนพกของบอนด์มาได้ซึ่งหน้าในพริบตาและยังหักนิ้วชี้ของเขาเพื่อความสะใจด้วย
“พาฉันไปที่รังใหญ่ของแก ฉันจะหาหมอคนนั้น!”
ฟางหยวนเล่นกับปืนในมือและชี้ปากกระบอกปืนไปทางหน้าผากของบอนด์
“แกต้องการพบหัวหน้าพวกเรางั้นเหรอ? ได้ ฉันจะพาแกไปพบเขา!”
บอนด์พยักหน้า เหงื่อเย็น ๆ ชุ่มหน้าผาก
“ขึ้นรถ!”
ฟางหยวนลากบอนด์มาที่รถ
“ถ้าฉันรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ฉันจะยิงทันที… แกจะลองดูก็ได้นะ!”
“ไม่ ไม่แน่นอน!”
บอนด์ทาหน้าบิดเบี้ยวแล้วเริ่มติดเครื่องรถ
‘ที่นี่… คือเมืองที่เต็มไปด้วยเลือดและความชั่วร้าย’
ฟางหยวนมองออกไปจากหน้าต่างรถแล้วก็ค่อย ๆ จมลงไปในสภาพแวดล้อมที่เห็น
การเดินทางครั้งนี้นั้นไม่ได้เตรียมการเอาไว้ก่อน การหายตัวไปอย่างลึกลับของเทพสายฟ้าหลังจากจัดการกับต้นหลิวพันปีนั้นเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนสังคมผู้วิวัฒน์
และยังทาให้เกิดความวุ่นวายในรัฐบาลของทุกประเทศ
แน่นอนว่า ฟางหยวนนั้นแทบจะไม่สนใจเรื่องพวกนั้น
เขาเลือกสหพันธ์อินทรีทองไม่ใช่สมาพันธ์บลูสตาร์ก็เพราะว่าผีดูดเลือดและมนุษย์หมาป่านั้นมีพลังอยู่ในสายเลือด เขาไม่สนใจในเทพเจ้าของคนพวกนั้น
แล้วก็ ยังมีอย่างอื่นอีกที่ทาให้เขาเลือกสหพันธ์อินทรีทอง
ฟางหยวนเปิดกระเป๋าแล้วดึงรูปสลักพระศรีอาริยเมตไตรยออกมา
ของชิ้นนี้นั้นเดิมอยู่ในการครอบครองของกั๋วจิงและการตรวจสอบครั้งที่สองที่เขาดาเนินการลงไปทาให้ได้คาตอบบางอย่าง
รูปสลักนี้ อันที่จริงแล้ว เป็นกุญแจ หรืออาจจะเป็นกุญแจแค่ครึ่งดอก
จากข้อมูลที่ฟางหยวนรวบรวมมาได้ อีกครึ่งนั้นน่าจะอยู่กับนักสะสมในสหพันธ์อินทรีทอง
ความวุ่นวายในทวีปกลางนั้นส่งผลต่อพวกนักสะสม สมบัติมีค่าและของวิเศษส่วนใหญ่ถูกนาไปต่างประเทศ
ฟางหยวนนั้นสนใจปริศนาของรูปสลักนี้มากเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องการขุดคุ้ยให้ถึงที่สุด
“หัวใจของแกเต้นแปดสิบแปดครั้งต่อนาที หายใจสิบเจ็ดครั้งต่อนาที… ทางที่ดีแกพยายามรักษาให้อยู่ในระดับนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะยิง!”
ฟางหยวนสังเกตเห็นว่าบอนด์คอยแอบมองเขาจากที่ด้านหน้าและตัดสินใจยกลากล้องปืนขึ้นมาส่องและเตือนอย่างนุ่มนวล
‘ปิศาจ… มันเป็นปิศาจจากทวีปกลาง!’
บอนด์หัวเราะแหะและเลิกล้มความคิดที่เขามีอยู่ในใจ มันจะปลอดภัยกว่าถ้าจะทาตามคาสั่งแล้วขับรถต่อไป

ขณะที่ฟางหยวนกาลังลงมือเข่นฆ่าอยู่ที่ที่กบดานของคนเหล่านั้น
ที่สนามบินที่เรือเหาะจอดอยู่ ในห้องทางานห้องหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองผิวขาวสองคนที่เป็นคนตรวจตราฟางหยวนถูกเรียกเข้าไปในห้องทางานและพวกเขาก็มองเหล่าผู้ชายในชุดกันลมสีดาใบหน้าเคร่งเครียดหลายคนตรงหน้า
“หัวหน้า!”
“งั้นพวกแกก็คือไอ้โง่สองคนที่ปล่อยเขาไป?”
หนึ่งในชายชุดดาอารมณ์ไม่ดีนักและยกเท้าขึ้นเตะพวกมันสองคนอย่างแรง
“เกิดอะไรขึ้น?”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ดึงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่หน้าผาก
“พวกเรามาจากสานักสืบสวนพิเศษแห่งสหพันธ์ พวกเรามีเหตุผลให้สงสัยว่ามีบุคคลอันตรายเข้ามาในสหพันธ์ของพวกเราผ่านเส้นทางนี้! พวกแกสองคนเตรียมถูกสอบปากคาได้เลย!”
ชายในชุดกันลมสีดาควักบัตรประจาตัวขึ้นมาแสดงแวบหนึ่ง
“ไม่มีทาง… กรุณาพิสูจน์ว่าคุณมาจากฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองจริง…”
ตอนที่เจ้าหน้าที่ทักท้วงน้าเสียงอ่อนเบา เขาก็ถูกชกเข้าที่หน้าอีกครั้งหนึ่ง
“เจ้าโง่ แกรู้ไหมว่าแกทาผิดร้ายแรงแค่ไหน? เบื้องบนของแกปกป้องแกไม่ได้หรอกนะ ตามฉันไปที่ห้องสอบปากคา หรือไม่อย่างนั้นฉันจะจับแกข้อหาไม่ปฏิบัติตามกฎหมายทหาร!”
ชายในชุดดาใบหน้าขาวเผือดนั้นดูคุกคามกว่าเดิม
“ได้… ตกลง!”
อันที่จริง ถึงแม้ว่าข่าวเกี่ยวกับการมีอยู่ของผู้วิวัฒน์จะกระจายไปทั่วโลกแล้ว แต่มันก็ยังยากมากที่คนส่วนใหญ่จะยอมรับเรื่องนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาหรับสานักสืบสวนพิเศษแห่งสหพันธ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่และยังแทบจะมีอานาจอย่างไร้จากัด พวกเขาแค่ต้องให้ความร่วมมือและปรับตัวเข้ากับระบบ
ซึ่งมันก็ไม่น่าประหลาดใจที่สานักสอบสวนจะชอบใช้อานาจจนเกินควร
ภายใต้การใช้กาลังและการข่มขู่ ผู้สอบสวนก็ได้สิ่งที่ต้องการ นั่นก็คือบันทึกวิดีโอ
“เป็นเขา!”
ชายในชุดดาหลายคนเบิกตากว้างและพิจารณาการปลอมตัวของฟางหยวนที่บนจออย่างละเอียด
แน่นอนว่า วิดีโอยืนยันว่าไม่มีการยืนยันตัวตนบนหนังสือเดินทาง พูดได้แค่คาเดียว “ไอ้โง่!”
“ตึ้ง!”
หัวหน้าคนชุดดาทุบกาปั้นกับโต๊ะ ดวงตาแดงก่า
“ไอ้ลิงผิวเหลืองอวดดี สักวันฉันจะจับแกให้ได้!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ