Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 430

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 430

430: ภัยพิบัติ
อาณาจักรนี้ประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
กฎแห่งธรรมชาตินั้นเข้มงวดยิ่งนักและยังเป็นอุปสรรคของความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ
มีเพียงเพื่อพันปีก่อนที่ดาวหางราชาวิญญาณมาเยือน หยาดพลังทั่วทั้งโลกจึงได้เข้มข้นมากขึ้นก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตอื่นมากมาย
ผู้ฝึกตนอมตะในทวีปกลาง ผีดูดเลือดและมนุษย์หมาป่าในทวีปตะวันออกและเงือกแห่งทวีปตะวันตกล้วนเป็นตัวอย่าง
สาหรับฟางหยวน นี่คือแหล่งพลังแท้จริง
ถึงแม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติจะสามารถปกครองโลกได้ในระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาก็จะค่อย ๆ อ่อนแอลงเมื่อหยาดพลังเจือจางไป และพวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงการล่มสลายของพวกตนไปไม่ได้
ในหลายปีมานี้ นักวิทยาศาสตร์นั้นไม่เชื่อในการมีอยู่อย่างอัศจรรย์ของหยาดพลังและยืนยันว่ามันเป็นเรื่องไร้เหตุผลหรือแค่ตานานเท่านั้น
“อาณาจักรเล็ก ๆ นี้เต็มไปด้วยน้าเป็นส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สงวนแห่งพวกเงือก… พวกเขาหวังที่จะหลีกเลี่ยงการลดลงของหยาดพลังที่กาลังจะมาถึงใช่หรือไม่?”
ฟางหยวนส่ายหน้า “น่าเสียดาย… ระยะเวลาระหว่างการมาเยือนนั้นยาวนานนับพันปี! พวกเขาแค่เติบโตตามปกติก็แทบจะหมดพลังตายกันอยู่
แล้ว… จนถึงทุกวันนี้ ที่หยาดพลังเริ่มกลับมาสู่ชั้นบรรยากาศ ข่ายมนต์เล็ก ๆ ที่นี่จึงถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง! ดังนั้นมันจึงสามารถสะสมพลังวิญญาณเหล่านี้เอาไว้ เกิดเป็นชีพจรพลังนี้ขึ้นมา!”
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การคาดเดา ฟางหยวนก็คาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ถูกต้องไม่มากก็น้อย
“เผ่าพันธุ์ที่น่าสงสาร อารยธรรมอันน่าเสียดาย…”
ถึงแม้ว่าวังแห่งนี้จะถูกทิ้งร้างไปแล้ว แต่รูปสลักและภาพพิมพ์ที่บนผนัง ร่วมกับภาพวาดและโคลงกลอนทั้งหมดนี้ก็สามารถล่อลวงนักโบราณคดีจากโลกด้านนอกได้แล้ว แต่ว่า ฟางหยวนให้ความสนใจในด้านนั้นน้อยมาก
สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือพลังวิญญาณที่สะสมอยู่ในชีพจรพลังนี้ตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์ครั้งแรก!
“เริ่มกันเถอะ!”
ฟางหยวนพึมพากับตัวเองและทันใดนั้นก็ราวกับจะกลายไปเป็นตาพายุ
พลังวิญญาณที่สั่งสมมานานสิบปีเริ่มหมุนเป็นเกลียวไหลเข้าสู่ร่างกายของฟางหยวนทาให้คาถาฝึกพลังธาตุของเขาก้าวหน้าขึ้นเป็นเท่าตัว
โชคร้าย ที่จุดสูงสุดของระดับที่สี่ เขาก็ไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปได้แล้ว
นี่เป็นขีดจากัดของโลกภายนอก ขีดจากัดที่นักวิทยาศาสตร์ทางตะวันตกกาลังทาวิจัยอยู่
เจตจานงค์เวทย์ของฟางหยวนสั่นและทันใดนั้นร่างกายของเขาก็กลายไปเป็นกลุ่มพลังวิญญาณ จากนั้นเขาก็เริ่มเก็บสะสมหยาดพลังจานวนมหาศาลเอาไว้ในทุก ๆ เซลล์ร่างกาย
“โลกนี้อาจจะมีขีดจากัดของมันต่อผู้คนที่นี่ หรืออันที่จริง ขีดจากัดต่อสิ่งแวดล้อมทั้งมวล… แต่ว่า ทั้งหมดนี้ใช้การกับข้าไม่ได้! ตราบใดที่ข้ายังมีค่าสถานะคงที่ ข้าก็สามารถใช้กาลังทะลวงผ่านระดับการฝึกตนต่อไปได้!”
ฟางหยวนเหลือบมองหน้าต่างสถานะของเขา
เมื่อเซลล์ร่างกายของเขาเริ่มเก็บกักหยาดพลังเอาไว้ มันก็เพิ่มค่าพลังกาย พลังลมปราณ และพลังเวทย์ของเขาขึ้นเป็นเท่าตัวและยังดูจะไม่มีขีดจากัดใด
นอกจากนี้ พลังลมปราณของเขายังเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัวจากก่อนหน้าและตอนนี้ก็ถึงระดับ 40 แล้ว
ด้วยพลังกาย พลังลมปราณ และพลังเวทย์ของเขาที่เพิ่มขึ้น แรงมหาศาลก็ค่อย ๆ ก่อตัว กระแทกจุดตีบแคบของระดับที่ 4 และทะลวงฝ่าไปด้วยกาลัง
“แคร่ก!”
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่งก็มีเสียงดังออกมาจากวิญญาณของเขา
คาถาฝึกพลังธาตของเขาทะลวงฝ่าจุดตีบแคบของขั้นที่สี่และเข้าสู่ขอบเขตใหม่ของการไหลเวียนของพลังวิญญาณ จากตรงนั้น เขาก็เริ่มแผ่พลังวิญญาณออกมา ปล่อยให้มันกระจายไปอย่างสม่าเสมอ สัมผัสและการควบคุมพลังของตนเองของฟางหยวนก็ค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 10.0
พลังลมปราณ: 40.0
พลังเวทย์: 40.0
สายวิชา: ???
การฝึกตน: ???
วิทยายุทธ์: [คาถาฝึกพลังธาตุ (ระดับ 5 (1 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)], [เนตรเพลิงสีทอง (ระดับ 1)]”
“คาถาฝึกพลังธาตุ: ระดับที่หนึ่ง สามารถสร้างร่างรองรับหยาดพลังและเพิ่มความสามารถในการสัมผัสพลัง! คาถาฝึกพลังธาตุระดับที่สอง นั้นเพิ่มความสามารถในการปลดปล่อยพลัง! คาถาฝึกพลังธาตุระดับที่สาม มีความสามารถในการสร้างร่างวิญญาณ! ระดับที่สี่สาเร็จแล้ว! ได้ครอบครองสมรภูมิแห่งวิญญาณ”
“ค่าสถานะของข้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่ความสามารถของข้านั้นเพิ่มขึ้นกว่านั้นมาก! แล้วก็… สมรภูมิแห่งวิญญาณ…”
ฟางหยวนหลับตาลงและสัมผัสได้ถึงพลังของขอบเขตที่เรียกเป็นสมรภูมิ พลังเข้มข้นและมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง ราวกับจะสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศได้
ถ้านี่เป็นสมัยโบราณ ฟางหยวนก็เรียกได้ว่าเป็นพระเจ้าแล้ว!
“สิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นมีสมรภูมิของตน สมรภูมิยังเป็นพลังของคนผู้หนึ่ง เหมือนกับที่โลกมีสนามแม่เหล็ก… อันที่จริงแล้ว นี่เป็นพลังของพื้นที่แบบย่อส่วนลงมา!”
เทียบกันแล้ว พลังของสมรภูมินั้นอ่อนกาลังกว่ามาก แต่ก็ยังนับว่ายิ่งใหญ่
วิชาลับค่ายกลดาบแปดประตูนั้นก็สามารถควบคุมค่ายกลดาบจตุลักษณ์ให้เกิดเป็นรูปแบบย่อส่วนของพลังแห่งพื้นที่และนั่นก็เป็นวิทยายุทธ์ที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว
ถ้าจ้าวแห่งฝันในต้าเฉียนคนใดสามารถแสดงพลังเช่นนั้นได้ พวกเขาย่อมนับได้ว่าเป็นจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่เจ็ดและสามารถเป็นแกนหลักของกลุ่มและยังจะได้รับการสนับสนุนฝึกตนโดยไม่จากัดทรัพยากรใด
“นี่… เป็นความก้าวหน้าของทั้งยุคสมัย!”
ฟางหยวนถอนหายใจ
เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะแค่สามารถบรรลุถึงระดับสูงสุดของระดับที่สี่ เขาไม่ได้คิดเลยว่าความสามารถพิเศษของเขา ค่าสถานะคงที่ จะทาให้เขาสามารถบรรลุขีดจากัดและได้รับพลังแห่งสมรภูมิและเข้าสู่ระดับที่ห้าได้
“ข้าต้องยอมรับว่าข้าเป็นตัวตนที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดในอาณาจักรนี้แล้ว…”
ฟางหยวนถอนหายใจอีกครั้ง
“ครืน! ครืน!”
จู่ ๆ ทั้งวังก็สะเทือนและเกิดรอยแตกใหญ่ขึ้นทั่วไปทุกที่ มีพายุอ่อน ๆ ก่อตัวขึ้นจากที่ด้านใน
“ที่นี่ถูกทิ้งร้างเอาไว้นานแล้ว แค่ดูดซับพลังของมันเท่านั้น ข้าทาให้มันเกินขีดจากัดและเกิดการพังทลายหรือ?”
เจตจานงค์เวทย์ของเขาสั่นและสมรภูมิแห่งพลังของเขาก็ปรากฏขึ้น ทาให้ทั้งบริเวณมั่นคงขึ้นไม่ให้มันถูกทาลายไปมากกว่าเดิม
“น่าเสียดาย… ข้ายังไม่ใช่จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาขั้นที่จ็ดที่จะสามารถสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้! สมรภูมิพลังนั้นทาได้เพียงคงสภาพวังนี้เอาไว้และซ่อมแซมมันไม่ได้ ทันทีที่ข้าจากไป ความเสียหายของวังนี้ก็คงไม่สามารถหวนกลับคืนได้แล้ว”
ฟางหยวนส่ายหน้าและในที่สุดก็กวาดพลังตรวจสอบวังนี้ นอกจากพบไข่เงือกหลายฟองที่ดูจะไม่มีโอกาสได้ฟักเป็นตัวแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก
ทันทีที่เขากลับออกมา รอยแตกก็ลุกลามไปทั่วและทั้งวังก็ถล่มลง
“ครืน!”
ท่ามกลางพายุที่เกิดขึ้น สถานที่พักอาศัยสุดท้ายของเหล่าเงือกก็ไม่สามารถทนทานต่อไปได้และถล่มลงมาจนไม่เหลืออะไรอีกเลย

“โผละ!”
มีฟองอากาศขนาดมหึมาผุดขึ้น
ไม่ช้าฟางหยวนก็มาถึงที่ก้นอ่างเก็บน้า
ถึงตอนนี้ สมรภูมิพลังก็แผ่ออกไปข้างนอก แยกน้ารอบ ๆ ตัวเขาก่อเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
“แรงสั่นสะเทือนจากการถล่มของที่นั่นรู้สึกได้มาถึงที่โลกจริงนี่ และยังทาให้เกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรงขึ้นด้วย… จากทิศทางที่มันมุ่งหน้าไปแล้วนั้น…”
เขามองไปทางอ่างเก็บน้าแล้วส่ายหน้า
ตอนนี้สมรภูมิพลังของเขาได้รับข้อมูลหลายอย่างที่ทาให้ฟางหยวนเกิดความสนใจขึ้น
เขารีบพุ่งตัวไปแล้วทิ้งตัวลงที่สันเขื่อน
พอเขามาถึง เขาก็เห็นพอลร้องออกมา เขามีหมาป่าสีดามีเขาที่หน้าผากตัวหนึ่งกับเด็กหญิงในชุดเจ้าหญิงคนหนึ่งพยุงออกมา
“คนจากสมาคมพิราบขาว?”
ฟางหยวนหยุดนิ่งที่กลางอากาศก่อนที่จะเดินตรงไปหาพวกเขา สายตาจ้องอยู่ที่ลอริต้า
“คุณคือเหลย!”
ลอริต้ายกชายกระโปรงขึ้นทาความเคารพในแบบเจ้าหญิง “ฉันคือผู้บัญชาการลาดับที่สองของสมาคมพิราบชาว ลอริต้า! คุณเป็นคนที่ลักพาเด็กน้อยลูซี่ไปจากฉันใช่ไหม?”
“เด็กน้อย… ลูซี่?”
ฟางหยวนกลอกตาแล้วไม่สนใจเธอ มองไปที่พอลกับหมาป่าตัวใหญ่แล้วเขาก็ถาม “พวกคุณทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ผมไม่เป็นไร! แต่ว่าอาวุธปิศาจถูกปลุกขึ้นมาแล้ว บอสร่วมมือกับชัวรอนและทั้งคู่ก็กาลังจัดการขั้นสุดท้าย… คุณเหลย โลกนี้ต้องการพลังทั้งหมดของพวกเรา!”
หมาป่าตัวใหญ่พูดขึ้นอย่างนอบน้อม
“ครืน!”
ครู่ต่อมา ก็เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น
พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ห้องทดลองใต้ดินหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะมิติที่ด้านบนนั้นถล่มลงหรือว่าทั้งสองอย่าง บนสันเขื่อนเหนืออ่างเก็บน้าฟลอ มันเหมือนเกิดแผนดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์
มันเหมือนสันเขื่อนที่เกิดจากคอนกรีตนั้นกระดอนไปมา และทั่วบริเวณก็มีแต่ความเงียบ กระทั่งนักท่องเที่ยวที่กาลังถ่ายรูปฟางหยวนกับหมาป่าอย่างกระตือรือร้นก็รู้สึกได้ว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นและก็กรีดร้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
“ครืน! ครืน!”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็มีเสียงโซนิคบูม ราวกับฟ้าผ่าตวัดลงที่สันเขื่อน
รอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นบนถนนเหนือสันเขื่อนและเริ่มแตกกว้างมากขึ้น
“ช่วยด้วย!”
“พระเจ้า…”
“ช่วยพวกเราด้วย!”
ราวกับถึงวันโลกาวินาศและทั้งเขื่อนก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย
“ช่วยพวกเขา!”
หมาป่าอามันคาบนักท่องเที่ยวหลายคนเหวี่ยงพวกเขาออกไปไกล ๆ
พอลกับรอลิต้าเองก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะช่วยนักท่องเที่ยวที่รอบ ๆ ที่วิ่งวุ่นไปทั่วทุกทิศทาง
“ช้าเกินไป!”
ฟางหยวนกางแขนออกแล้วพื้นดินส่วนหนึ่งก็แยกออกจากเขื่อน หลายคนถูกกักเอาไว้บนพื้นดินส่วนนั้นอย่างปลอดภัยและถูกส่งขึ้นไปบริเวณที่สูงขึ้น
“โอ้! ยายแก่ ดูพระเจ้าองค์นั้นสิ!”
ชายผิวสีคนหนึ่งที่เพิ่งรอดพ้นจากจุดอันตรายมองกลับไปและเห็นฟางหยวน “ถ่ายรูปไว้เร็ว รูปที่ได้ต้องมีคุณค่ามากแน่ ๆ!”
“แกร่ก!”
รอยแตกเริ่มแผ่ออกไปที่อีกด้านของเขื่อนเช่นกัน
ในที่สุดก็เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นและน้าก็ทะลักออกไป หลุมที่สองและสามก็เกิดขึ้นตามมา ทาให้น้าไหลบ่าและในที่สุดเขื่อนก็ถล่ม
“โครม!”
ราวกับภูเขาสักลูกหนึ่งถล่มราบไป
ทั้งเขื่อนถูกทาลายและน้าก็ไหลบ่าไปทั่วทุกทิศทางปกคลุมพื้นที่จนสุดสายตา
มันเป็นภัยพิบัติ!
ประชาชนของสหพันธ์ที่โชคร้ายหลายรายนอนอยู่บนพื้นมองความเลวร้ายที่กาลังเกิดขึ้น
“ผลลัพธ์เช่นนี้นั้นเกินกว่าจะเรียกได้ว่าเกิดจากการสั่นสะเทือนของมิตินั้นใช่ไหม? ทาไมมันถึงบังเอิญทาลายทั้งอ่างเก็บน้าฟลอได้กัน?”
ฟางหยวนมองไปที่อ่างเก็บน้าที่ล้นออกไปแล้วก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง “มันเหมือนมีพวกเดียวกันคอยช่วยพวกเราอยู่… เหมือนว่าห้องทดลองนั่นจะระเบิดไปแล้ว!”
“อืม? ข้าเจอแล้ว”
เขาปล่อยสมรภูมิพลังออกไป คิ้วของฟางหยวนขมวดแล้วเขาก็ลอยตรงไปในทิศทางหนึ่ง
“รอผมด้วย!”
อามันและผู้วิวัฒน์คนอื่น ๆ รีบตามไป ในไม่ช้า พวกเขาก็เห็นคนสองคนกอดกันลอยมาตามน้า พวกเขาก็คือชาร์ลีกับชัวรอน
“พวกเขาล้มเหลว…”
พวกเขาทั้งคู่ดูย่าแย่มาก ชาร์ลีสูญเสียขาทั้งสองข้างไป ส่วนชัวรอนเสียแขนขวา
“พวกเราสูญเสียการควบคุมอาวุธปิศาจและรวมถึงแผ่นบันทึกข้อมูลที่ฝังเอาไว้ในสมองของเธอก็ไม่ทางาน…”
ชัวรอนยิ้มเฝื่อน

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ