433: ข้อตกลง
ข่าวการระเบิดรุนแรงที่อ่างเก็บน้าฟลอในไม่ช้าก็แพร่ออกไปทาให้ทั้งโลกตกตะลึง
อย่างไรเสีย หายนะภัยครั้งนี้ก็เป็นระดับที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์โลก หลังจากเกิดเรื่องแล้ว การพัฒนาของสหพันธ์อินทรีทองก็ชะงักลง
เพียงไม่นาน นานาชาติก็เริ่มแสดงความเสียใจกับสหพันธ์อินทรีทอง และกระทั่งประเทศจีนก็ยังอนุมัติบริจาคทรัพยากรและเงินเพื่อช่วยเหลือสหพันธ์
แน่นอนว่า ความลับลึก ๆ เบื้องหลังหายนะครั้งนี้ล้วนเป็นที่สนใจจากทุกประเทศ
อย่างน้อยที่สุด การหายตัวไปของหัวหน้าสมาพันธ์สองแห่งก็ทาให้พลังของเหล่าผู้วิวัฒน์ในสหพันธ์อินทรีทองอ่อนกาลังลง และความลับเกี่ยวกับอาวุธปิศาจก็เริ่มกระจายออกไป
อย่างไรเสีย การใช้ระเบิดปรมาณูนั้นก็หมายความว่าสหพันธ์จะไม่สามารถปิดบังสิ่งใดจากประเทศอื่น ๆ ได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องพูดถึงว่า ตามการสืบครั้งสุดท้ายของเหล่าสายลับในสหพันธ์อินทรีทองที่เข้าไปอยู่ใจกลางเหตุการณ์ทาลายล้างโดยไม่มีการป้องกันใด ๆ และยังไม่กังวลว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย พวกเขาก็ค้นพบเรื่องน่าตกใจ อาวุธปิศาจไม่ได้ตายจากการระเบิดนั่น
นี่เป็นปีแห่งหายนะของสหพันธ์อินทรีทอง
แต่ว่า ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟางหยวน
หลังจากได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็นาเอาเด็กหญิงสองคนไปด้วยและไปถึงที่ทวีปตะวันออกอย่างระมัดระวัง สืบหาความลับของชีพจรพลังอื่น ๆ
ด้วยความสามารถขั้นที่สี่ของเขา เขาเป็นผู้ที่มีพลังมากที่สุดบนโลกนี้และดังนั้น การเดินทางของพวกเขาก็ราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง อัตราความก้าวหน้าของเขานั้นแทบจะเทียบกับได้อีกหนึ่งยุคสมัยข้างหน้า ทันทีที่เขาดูดซับพลังจากชีพจรพลังอื่น เขาก็จะกลับไปที่ประเทศของเขาอย่างเงียบ ๆ
แน่นอนว่า เพื่อการหลีกเลี่ยงปัญหา เขาก็ไม่สามารถใช้ตัวตนในฐานะฟางหยวนได้อีกต่อไป
ด้วยคาถาตรวจพลัง ฟางหยวนสามารถสร้างตัวตนใหม่ให้ตัวเองเป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศหลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ในประเทศอื่น ๆ อีกสักพัก
ด้วยหนังสือเดินทางและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเขา ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองก็ปล่อยให้เขาเข้าประเทศได้โดยไม่สร้างความลาบากให้
ด้วยการอานวยความสะดวกเหล่านี้และรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของเขา ต่อให้เขาไปเที่ยวเล่นอยู่ในเมืองหลวง ซีเหมินเจียนก็อาจจะจาเขาไม่ได้ด้วยซ้า
เขาอยากข้ามขั้นตอนยุ่งยากเหล่านั้นทั้งหมดเพราะไม่อยากจะต้องลงไม้ลงมือ
ดังนั้น ฟางหยวนจึงเลือกเมืองหรงเชิง เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างออกมาจากเมืองหลวงและปักหลักลงที่นี่
ในบ้านมีลานแบบจีนหลังหนึ่ง
เถาองุ่นพาดพันอยู่บนรั้วไม้สร้างเป็นร่มเงาธรรมชาติขึ้น องุ่นหลายพวงห้อยลงมาดูน่ากิน
ฟางหยวนนอนอยู่ใต้ร่มไม้นั้นอย่างเกียจคร้าน มีน้าชาและติ่มซาหลายถาดวางอยู่บนโต๊ะข้างตัว เขาถือพัดเอาไว้ในมือ ดูผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
“โอ๊ยย… ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ!”
ในห้อง ลอริต้ายกชายกระโปรงวิ่งออกมาใบหน้าบิดเบี้ยว “ยัยเด็กแองเจิ้ลนั่นปัญญาอ่อน! คุณไม่รู้หรือไงว่าเธออายุขนาดนี้แล้วยังฉี่รดที่นอนอยู่เลย? ทาไมคุณถึงยังให้ฉันเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เธออยู่อีก? ฉันขอปฏิเสธ นี่มันเป็นงานของคนรับใช้!”
“คัดค้านการปฏิเสธ!”
ฟางหยวนงับองุ่นที่ห้อยลงมาแล้วหรี่ตาลง “ลอริต้า จาเอาไว้ว่าต้องเรียกเธอว่าน้องสาว พวกเธอทั้งคู่เป็นลูกสาวบุญธรรมของฉัน…”
“แล้วทาไมพวกเราไม่อยู่ที่สมาพันธ์บลูสตาร์แทนล่ะ?”
ลอริต้าดูหดหู่ “ฉันทนทุกอย่างที่นี่ไม่ไหวแล้ว! ที่นี่มันไร้การพัฒนาแล้วแองเจิ้ลเองก็ตัวปัญหา… ฉันทนเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว รีบจ้างแม่นมมาดูแลเธอได้แล้ว!”
“ดูจากนิสัยของเธอแล้ว ผมจะจ้างแม่นมโดยไม่กังวลอะไรเลยได้ยังไง?”
ฟางหยวนกลอกตา
“แต่ว่าฉันอยู่กับเธอไม่ไหวแล้ว มันรู้สึกแย่เกินไปที่ต้องสูญเสียความสามารถพิเศษทั้งหมดของฉันไปเวลาอยู่กับเธอ…”
ลอริต้ากัดริมฝีปาก
“เหอเหอ…”
ฟางหยวนหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วเป่าเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้น… ลอริต้า เธอคิดจะยกเลิกข้อตกลงของเราใช่ไหม?”
“ยกเลิกข้อตกลง?”
ลอริต้าน้าตาคลอและอยากจะโวยวายว่าเธอถูกหลอกให้มาติดตามฟางหยวน
แต่ว่า พอคิดถึงว่า ‘พ่อเลี้ยงปิศาจ’ ผู้นี้ของเธอสามารถหิ้วเธอขึ้นแล้วตีก้นเธอหากไม่เชื่อฟังได้ ในดวงตาของเธอก็ปรากฏแววหวาดกลัว น้าตาเอ่อขึ้นมา แล้วเธอก็ดูเหมือนจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อแล้ว “คุณรังแกฉันอีกแล้ว!”
“เอาละ อย่าทาท่าอย่างนั้นกับฉันอีก… ดูเธอสิ ต่อให้พวกเราย้ายไปสมาพันธ์บลูสตาร์ พวกเราก็ยังต้องเจอกับปัญหานี้อยู่ดี เธออยากจะทิ้งชีวิตที่ทั้งสงบและสบายในตอนนี้ไปจริง ๆ น่ะเหรอ?”
ฟางหยวนตอบอย่างสงบ
ลอริต้าพูดไม่ออก
ตามข่าวของเธอแล้ว อามันจากสมาคมพิราบขาวนั้นหนีไปที่จุดเหนือที่สุดของขั้วโลกเหนือ อยู่บนเกาะน้าแข็งแต่ก็ยังคงถูกสายลับของสหพันธ์เจอตัว หลังจากสู้กันอยู่นาน เขาก็ถูกจับตัวได้และผลลัพธ์นั้นก็ไม่สามารถจินตนาการถึงได้เลย
ถ้าไม่เพราะว่าที่นี่คือประเทศจีนและเธอก็ได้รับการปกป้องจาก ‘เหลย’ ผู้ลึกลับ ลอริต้าก็คงมีจุดจบแบบเดียวกับอามันเป็นแน่
“แต่… ฉัน…”
ลอริต้าน้าตาไหล ถ้าคนนอกมาเห็นภาพนี้ พวกเขาย่อมต้องคิดว่าฟางหยวนกาลังรังแกเด็กหญิงเล็ก ๆ คนนี้แน่นอน
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นรู้ดีว่าถึงแม้ลอริต้าจะดูเป็นเด็ก เธอก็แค่ดูเหมือนเท่านั้นและอายุจริงของเธอก็เป็นหลายเท่าของรูปลักษณ์ของเธอ
แต่ตรงกันข้าม แองเจิ้ลนั้นอายุสมองเพิ่งสามขวบเท่านั้นจริง ๆ
“เอาละ แองเจิ้ลก็น่าสงสารเหมือนกัน… แต่ว่า หลังจากการรักษาของฉัน เธอก็จะฟื้นฟูได้โดยสมบูรณ์…”
ฟางหยวนเข้าไปในบ้าน
แองเจิ้ลนอนอยู่กลางเตียงไม้และยิ้มอย่างยินดี “อุ้ม…”
“ดูสิ อย่างน้อยเธอก็จาฉันได้แล้วตอนนี้!”
ฟางหยวนหยิกแก้มแองเจิ้ล ดึงเข็มของเขาออกมาแล้วเริ่มต้นการรักษาประจาวันของเธอ
ไม่ต้องพูดถึงว่า การรักษาที่เด็กหญิงน้อย ๆ คนนี้ได้รับนั้นเป็นสิ่งที่คนจีนหลายคนได้แต่ฝันถึง
หลังจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของฟางหยวน เคล็ดวิชาฝังเข็มที่ราวกับใช้เวทย์มนต์ของเขาก็สูญหายไปและมีเพียงเหล่าเถียนที่สามารถใช้มันได้ประสิทธิภาพราวกึ่งหนึ่งเท่านั้น
เศรษฐีและผู้มีอานาจหลายคนที่มีสุขภาพออดแอดก็กาลังค้นหาตัวฟางหยวนและยังคิดจะทาในสิ่งที่ไม่ควรคิด
ลอริต้ายืนอยู่ที่เดิมและจับตามองฟางหยวน ดวงตาของเธอกลอกไปรอบ ๆ และไม่มีใครรู้ว่าเธอกาลังคิดอะไรอยู่
…
หลังจากการรักษาประจาวัน แองเจิ้ลก็จะหลับไป
ลอริต้าก็จะได้รับช่วงเวลาอันสงบสุขและสามารถใช้เวลานี้อย่างชาญฉลาดและทาเรื่องส่วนตัว
ฟางหยวนเข้าไปในห้องแยกห้องหนึ่ง ถอนหายใจและเปิดตู้นิรภัยออก
ตู้นิรภัยซ่อนอยู่ในกาแพงและยังมีการโบกปูนทับ มันดูมั่นคงมาก ทันทีที่ฟางหยวนกรอกรหัสผ่าน ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียง ‘แกร็ก’ เบา ๆ เผยให้เห็นสมบัติที่อยู่ด้านใน
มีทั้งอัญมณี ทองคา เงินตราต่างประเทศ ฟางหยวนดึงเอากล่องใบใหญ่ใบหนึ่งออกมาเปิดดู มีรูปสลักพระศรีอาริยเมตไตรยที่ดูละเอียดอ่อนสองชิ้นอยู่ด้านใน
“พระศรีอาริยเมตไตรยกับอสุราสามหัวหกกร…”
ฟางหยวนถอนหายใจก่อนที่ปล่อยพลังเวทย์สายหนึ่งออกมา
“ซ่า! ซ่า!”
รูปสลักทั้งสองเริ่มแผ่รัศมีสีม่วงออกผสานกันเป็นพลังอ่อนจาง
“ถึงแม้ว่าข้าจะนากุญแจทั้งสองมาไว้ด้วยกันแล้ว แต่พวกมันจะรวมเข้าหากันได้ก็ต้องการเวลาที่ถูกต้อง…”
ฟางหยวนพลิกรูปสลักไปมาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
ตามที่เขาคาดเดาเอาไว้ พระศรีอาริยเมตไตรยและอสุรานี้จะร่วมตัวกันสร้างเป็นกุญแจที่สามารถเปิดมิติได้ มันน่าจะคล้ายกับการเปิดมิตินาไปสู่สถานที่คล้ายกับวังของชาวเงือกนั่น
สิ่งที่อยู่ในมิติเล็ก ๆ นั้นน่าจะเป็นมรดกจากยอดคนของประเทศจีน พวกเขายังจะแข็งแกร่งกว่าชาวเงือกและน่าจะเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้าในยุคโบราณ!
โชคร้าย ต่อให้เขามีกุญแจ เขาก็ยังไม่มีหนทางได้ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและสถานที่
“มิติลับในเมืองหรงเชิงนี้จะเปิดออกก็หลังปรากฏการณ์ครั้งที่สาม… ฉันต้องเข้าไปให้ถูกที่ ถูกเวลา และกุญแจต้องถูกต้อง นี่มันแย่เกินไปแล้ว…”
ตามการคาดเดาของเขา สิ่งมีชีวิตระดับสูงที่สร้างมิติลับนี้ขึ้นมาที่นี่ต้องมีพลังมากกว่าชาวเงือกและครั้งหนึ่งน่าจะเคยครอบครองพลังที่มากกว่าพลังแห่งสมรภูมิ ตราบใดที่สิ่งมีชีวิตระดับสูงเช่นนั้นต้องการผนึกมิติเอาไว้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วและจะเข้าไปในมิติได้ก็ต่อเมื่อเวลาถูกต้อง
“นี่ยังเกี่ยวพันกับความเข้มข้นของหยาดพลัง… ข้าต้องรอให้รอบ ๆ นี้มีหยาดพลังเพียงพอก่อนที่จะสามารถเปิดประตูนั่นได้?”
ฟางหยวนดูเคร่งเครียด
ตลอดการเดินทางทั่วโลกของเขา เขาเก็บข้อมูลมาได้จานวนมาก
ตัวอย่างเช่น ในสมาพันธ์บลูสตาร์ ศาสนานั้นมีอิทธิพลอย่างน่าสนใจ
อย่างน้อยที่สุด ‘พระเจ้า’ ของพวกเขาครั้งหนึ่งก็เคยมีตัวตนอยู่ ถึงแม้ว่าความเชื่อที่เหลืออยู่ถึงตอนนี้จะจืดจางไปบ้างแล้ว หลังจากปรากฏการณ์ครั้งที่สาม ‘พระเจ้า’ นั่นก็อาจจะรู้สึกตัวขึ้นมาและพัฒนาสู่ขั้นที่สี่ได้ในทันที กลายเป็นตัวตนแห่งการทาลายล้าง
เหล่าเทพในส่วนอื่น ๆ ของโลกก็คล้ายกันนี้เช่นกัน
“นอกจากผู้อาวุโสจี๋อินและข้าที่ไม่ถูกผูกมัดโดยกฎของอาณาจักรนี้ เหล่าคนของอาณาจักรล้วนถูกจากัดเอาไว้… ก่อนการมาถึงของปรากฏการณ์ครั้งที่สาม โอกาสที่พวกเขาจะทะลวงระดับได้เท่ากับศูนย์”
ฟางหยวนคาดการณ์เอาไว้
การมาถึงของปรากฏการณ์ครั้งที่สามจะทาให้ทั้งโลกตกอยู่ในความวุ่นวาย
“แต่ว่า… นั่นก็ยังไม่นับเป็นอะไร ตามระดับการฝึกตนของข้าตอนนี้ ข้านับได้ว่ามีพลังมากกว่าพวกเขาและจะเป็นผู้ที่มีพลังสูงที่สุดบนโลกนี้ไปตลอดกาล…”
ฟางหยวนยิ้มแล้วมองหน้าต่างสถานะของตัวเอง
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 17.0
พลังลมปราณ: 45.0
พลังเวทย์: 45.0
สายวิชา: ???
การฝึกตน: ???
วิทยายุทธ์: [คาถาฝึกพลังธาตุ (ระดับ 5 (33 ใน 100 ส่วน)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)], [เนตรเพลิงสีทอง (ระดับ 1)]”
หลังจากเข้าสู่ขั้นที่ห้า จนกระทั่งดูดซับชีพจรพลังได้ ฟางหยวนก็เพิ่มระดับการฝึกตนไปได้อีกหนึ่งในสาม
“ต่อให้ข้าพยายามฝึกตนอย่างเต็มที่ ข้าก็ทาได้เพียงแค่ถึงระดับสูงสุดของขั้นที่ห้าเท่านั้น ข้าจะสามารถทะลวงระดับได้ก็ด้วยความช่วยเหลือจากปรากฏการณ์ครั้งที่สามเท่านั้น…”
นี่เป็นแผนการของฟางหยวน มันเรียบง่ายแต่ว่าเขาก็จะอยู่เหนือกว่าผู้อื่นตลอดไปและยังมีความสามารถที่จะกดข่มทุกคนเอาไว้ได้
“นอกจากนี้… ข้ายังสนใจในโลกนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”
ฟางหยวนลูบคางและเผยรอยยิ้มลึกลับ
ในโลกนี้ที่มีกฏแห่งความจริงและอุปสรรคจากพลังวิญญาณหลังจากผ่านมานับพันปี มันก็ช่างลึกลับจริง ๆ
บางที เขาอาจจะหาคาตอบของทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้จากในมรดกของผู้ทรงพลังจากสมัยโบราณ
ต่อให้เขาไม่สามารถหาคาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ได้ มันก็ยังมีประโยชน์กับการทดลองมาก
“แน่นอนว่า ที่ยิ่งไปกว่านั้น มีแค่ปัญหาเล็ก ๆ อย่างเดียว…”
ชาวจีนที่มีลูกสาวหน้าตาเป็นชาวตะวันตกสองคนย่อมดึงดูดความสนใจ
ฟางหยวนตรวจพบว่าเขาถูกจับตามองและยังถูกตรวจสอบโดยกองกาลังเหนือมนุษย์ แต่ว่า ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ทั้งหมดนั้นล้วนใช้การกับเขาไม่ได้