437: สถานการณ์ลาบาก
“เธอเยี่ยมไปเลย!”
ซากมหึมาของงูยักษ์หล่นลงพื้นและคนทั้งกลุ่มก็พุ่งไปข้างหน้าเตรียมการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
สมาชิกผู้หญิงคนเดียวของกลุ่มตรงเข้าไปหาหัวหน้าไช่ “หัวหน้า คุณไปได้เด็กสาวชาวตะวันตกคนนี้มาจากไหน? เธอไม่แค่เก่งมาก แต่ยังพูดภาษาจีนได้คล่องมากด้วย!”
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เธอดูเหมือนจะเป็นลูกบุญธรรมของชาวจีนคนหนึ่งแล้วก็เติบโตมาในประเทศจีน…”
หัวหน้าไช่ปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ถึงอย่างไร ในเมื่อเธอเป็นคนที่พี่เจ้าแนะนามา ฉันก็สามารถพึ่งพาเธอได้นั่นแหละ!”
เจ้าต้าหนิวนั้นรับผิดชอบดูแลผู้วิวัฒน์ในเมืองหรงเชิงและยังมีสถานะสูง หลังจากได้ยินหัวหน้าไช่พูด สมาชิกหญิงคนนั้นก็ทาได้แค่พยักหน้าเห็นด้วย
“ฮ้าว…”
ลอริต้าเดินเข้ามาสองสามก้าวแล้วก็ยกมือเล็ก ๆ ของตัวเองขึ้นปิดปาก “ฉันง่วงมากเลย… หัวหน้า พวกเรายังไปไม่ถึงถ้านั่นอีกเหรอ?”
“สบายใจได้ พวกเราเกือบจะถึงที่นั่นแล้ว!”
หัวหน้าไช่นั้นไม่พอใจเล็กน้อย “มันควรจะเป็นคืนปีใหม่ที่สงบสุขแต่พวกเรากลับต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้เพื่อให้พวกเราทุกคนที่เหลืออยู่ต่อไปได้… พวกเราไม่มีทางเลือก ฉันแน่ใจว่าพวกเธอทุกคนก็เห็นพวกสัตว์ที่นี่แล้ว พวกมันเก่งกาจมากและโดยเฉพาะเมื่อผ่านเมื่อคืนนี้มา ถ้าพวกเรายังหาต้นกาเนิดของปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ด้านล่างนั่นก็จะต้องอพยพออกไปเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง”
“นอกจากนี้ นี่ยังเป็นภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายให้พวกเรา เมื่อทาสาเร็จ พวกเราก็ไปแจ้งหัวหน้าเจ้าได้ ดูสิว่าถึงตอนนั้นพวกเราจะได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง?”
ถ้าไม่เพราะเหตุผลนี้ พวกเขาทั้งกลุ่มก็คงไม่ออกมาในเวลาแบบนี้
แน่นอนว่า ลอริต้านั้นไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย
พวกเขาทั้งกลุ่มเดินไปอีกระยะหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงที่หุบเขาแห่งหนึ่ง ในหุบเขาลึก มีถ้าขนาดใหญ่
“อืม…”
หัวหน้าไช่ดึงยันต์แผ่นหนึ่งออกมาโบกไปในอากาศ
“ฝุบ!”
ยันต์แผ่นนั้นไฟลุกพรึ่บขึ้นมาแล้วสลายกลายเป็นเถ้าไป
“นี่เป็นยันต์สัมผัสพลังที่ฉันไปอ้อนวอนขอมาจากนักบวชเต๋า ในเมื่อยันต์นี่ไฟลุกขึ้นมาที่ด้านนอกถ้านี่ มันก็หมายความว่าถ้านี้เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ นี่น่าจะเป็นแหล่งที่มาของการเกิดการกลายพันธุ์แล้ว
หัวหน้าไช่พูดด้วยน้าเสียงตื่นเต้น
“อาจจะมีอันตรายบางอย่างอยู่ในนั้น…”
สมาชิกคนอื่น ๆ เริ่มลังเล
พวกเขาโชคร้ายมาตลอดระยะทางที่เดินขึ้นเขามา เจอสัตว์ร้ายมากมายโจมตี สมาชิกบางคนยังได้รับบาดเจ็บ และหลายคนก็แค้นเคืองมากแล้ว
“มันย่อมต้องอันตรายอยู่แล้ว แต่ว่า พวกเราก็สามารถช่วยกันรับมือกับอันตรายพวกนั้นได้ไม่ใช่เหรอ?”
หัวหน้าไช่เป็นหัวหน้าผู้เปี่ยมประสบการณ์อย่างแท้จริง “คนที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับรางวัลเป็นสองเท่าส่วนคนที่ตายก็จะได้รับการชดเชย ฉันจะไม่เอารางวัลสักแดงเดียวเลยคราวนี้!”
“คุณดีเกินไปแล้ว หัวหน้าไช่!”
“เอาละ ฉันจะเชื่อคุณ!”
ด้วยถ้อยคากระตุ้นของเขา เขาก็จัดการสร้างขวัญและกาลังใจของกลุ่มขึ้นมาได้ ลอริต้ายืนอยู่ด้านข้างกลอกตา
เธอรู้ว่าหัวหน้าไช่นั้นลงแรงไปมาก ไม่ใช่เพื่อรางวัล แต่เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับพวกเบื้องบน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน แต่ว่าเขาก็ยังได้รับผลประโยชน์อื่นในระยะยาว
“ถ้านี่ดูเหมือนจะตัน…”
สมาชิกผู้หญิง หวังซิน ยืนอยู่ที่ปากถ้า หลับตาลงแล้วรายงาน
ความสามารถพิเศษของเธอนั้นค่อนข้างเฉพาะตัว เหมือนค้างคาว เธอสามารถใช้คลื่นเสียงตรวจสอบรอบตัวได้
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง มันเคลื่อนไหวได้!”
สีหน้าของหวังซินเปลี่ยนไป “มันเจอฉันแล้ว! มันเร็วมาก!”
“โฮก! โฮก!”
ครู่ถัดมา พร้อมกับเสียงคารามของเสือ ก็มีสายลมกระโชกออกมาทางปากถ้า
เสือกลายพันธุ์สีขาวยาวสามเมตรปรากฏตัวขึ้นจากในถ้าทาให้ทุกคนตกตะลึง มันมีกลิ่นเลือดกาจายออกมาและมันก็ตวัดกรงเล็บใส่หวังซิน
ถ้ากรงเล็บของมันโดนตัวเธอเข้า เธอคงต้องกลายไปเป็นกองเลือดเนื้อหย่อมหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“เกราะเงา!”
ลอริต้าพลิกนิ้วแล้วเกราะเงาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหวังซิน
“ปัง!”
กรงเล็บของเสือกระแทกเข้ากับเกราะ เกิดเสียงกระแทกเสียดหู
“เยี่ยม!”
หัวหน้าไช่มีกาลังใจขึ้นมาและเมื่อเขาโบกมือ ลูกไฟก็พุ่งเข้าใส่เสือขาว
“โฮก! โฮก!”
เสือขาวคารามต่อเนื่องและแผ่คลื่นเสียงสีเขียวออกจากปาก มันเฉือนลูกไฟออกเป็นสองส่วนราวกับดาบคมกริบ
“ชิ้ง!”
ลูกไฟดับลงและหัวหน้าไช่ก็ผงะไปด้านหลังหลายก้าว “สัตว์วิญญาณ?”
สัตว์กลายพันธุ์ทั่วไปอย่างมากก็แข็งแกร่งขึ้น เร็วขึ้น ซึ่งไม่นับเป็นอะไรได้
แต่ว่า สัตว์ที่วิวัฒนาการไปเช่นนี้นั้นสามารถใช้พลังวิญญาณได้และยังนับเป็นสัตว์ปิศาจหรือสัตว์วิญญาณ และความฉลาดของมันก็เทียบเท่ากับมนุษย์
“อืม ถูกต้องแล้ว!”
เห็นเสือขาวแล้วดวงตาของลอริต้าก็เป็นประกาย “บังเอิญอะไรอย่างนี้! ฉันกาลังอยากได้แมวสีขาวมาเลี้ยงอยู่พอดี”
“โฮก! โฮก!”
ได้ยินคาพูดของลอริต้า ก็เหมือนจะมีความโกรธเกรี้ยวอยู่ในดวงตาของเสือขาวขณะที่มันกระโจนเข้าใส่ลอริต้าอย่างดุร้าย
“เงาพันธนา!”
ลอริต้ายิ้มขณะที่เงายักษ์ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเธอ เหมือนมังกรอันสง่างาม เงานั่นไถลไปในอากาศเหนือตัวเธอก่อนที่จะมัดขาทั้งสี่ข้างของเสือ กักมันเอาไว้กลางอากาศ
“นี่เป็นไปไม่ได้…”
เห็นภาพนี้แล้ว หวังซินก็ตกตะลึง “ฉันว่าความสามารถนี่มันมีอยู่แต่ในระดับอันตรายในตานานไม่ใช่เหรอ? หัวหน้า หัวหน้าเจ้าแนะนาคนแบบไหนให้คุณเนี่ย?”
“เขาบอกแค่ว่าเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคนหนึ่ง…”
หัวหน้าไช่โล่งอกและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน “หัวหน้าใช่มีอิทธิพลมากจริง ๆ เพื่อนที่เขามีเป็นคนละระดับกับฉันเลย”
“เฮ้ เจ้าเหมียวยักษ์! ถ้าแกยังดื้ออยู่อีกล่ะก็ พ่อฉันจะฆ่าแกเอาเนื้อไปกินเอานะ…”
ลอริต้าดูขุ่นเคือง “น้องสาวของฉันก็ตัวปัญหาเหมือนกัน… แกคิดออกไหมว่าตอนนี้จู่ ๆ เธอก็อยากจะเป็นพี่สาวเสียงั้น… เธอต้องทรมานแกเล่นแน่ ๆ ถ้าเธออยู่ที่นี่”
ลอริต้าพึมพากับตัวเองขณะเดินเข้าไปหาเจ้าเสือ ถึงแม้ว่าจะมีรอยยิ้มไร้เดียงสาบนหน้าของเธอ แต่มันกลับก่อให้เกิดความกลัวแก่ทุกคนที่มองเธออยู่ โดยเฉพาะเจ้าเสือ แค่พริบตาเดียว ขนของเจ้าเสือก็ลุกชัน
“ดังนั้น… แกควรจะทาตัวเป็นเด็กดีนะ…”
ลอริต้าตบหัวเสือขาวเบา ๆ และดูไม่เหมือนว่าเธอจะกลัวว่าเจ้าเสือจะลงมือกับเธอด้วยการปล่อยคลื่นเสียง ทันใดนั้น เงาที่ด้านหลังลอริต้าจู่ ๆ ก็ยิงศรเงาคมกริบออกไป
“ฝุบ!”
เงาโค้งพุ่งไปยังต้นไม้ใหญ่ก่อนที่เลือดจะสาดกระจายไปทั่ว
“หืม? มีคนจับตามองเราอยู่ ระวังด้วย!”
เห็นภาพนี้แล้วหัวหน้าไช่ก็ตะโกนแล้วให้ทุกคนระวังตัว
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสิบปีหลังมานี้ตั้งแต่ปรากฏการณ์ครั้งที่สองก็คืออันตรายในป่าและความขัดแย้งระหว่างแต่ละกลุ่ม
หัวหน้าไช่รู้ว่าในป่า ถ้าสองกลุ่มที่เป็นอริกันอยู่มาเจอกันเข้า พวกเขาจะพยายามฆ่ากันและเก็บเรื่องเงียบเอาไว้
ถึงแม้ว่าตลอดมาเขาจะเป็นคนรักสันติ เขาก็รู้ว่าเขาจะประมาทไม่ได้
“ครืน!”
ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นล้มลงพื้น เผยให้เห็นศพที่ด้านหลังที่ถูกตัดเป็นสองส่วน เป็นชาวตะวันตกคนหนึ่งที่องคาพยพบนใบหน้าชัดเจน
“ชาวตะวันตก?!”
หวังซินร้องออกมาก่อนจะเหลือบมองลอริต้า
‘เป็นไปได้ไหมว่าคนนี้มาเพราะลอริต้า?’
เห็นภาพนี้แล้วหัวหน้าไช่ก็เริ่มสงสัยเหมือนกัน แต่ว่า เขาก็ไม่สามารถทนเสียสมาชิกในกลุ่มไปอย่างไร้เหตุผล และดังนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกขัดแย้งในใจ
“ฝุบ! ฝุบ!”
ในตอนนี้ เงาร่างหนึ่งก็มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
“พระเจ้าเมตตามนุษย์ทุกคนบนโลก!”
คนที่อยู่ตรงหน้าสุดนั้นสวมเสื้อคลุมสีแดงแบบบาทหลวง เขาเป็นชายชราชาวตะวันตกที่สวมจี้สีเงินเอาไว้ที่คอ
“คนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าบาทหลวงชุดแดงจากทวีปตะวันออก”
ลอริต้าเหลือบมองคนกลุ่มนั้นที่ดูเหมือนจะมาจากโบสถ์สักแห่ง “พวกคุณมาทาที่นี่ทาไม?”
“พวกเราได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้มาที่นี่ เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ”
หัวหน้าบาทหลวงชุดแดงตอบอย่างคลุมเครือและลึกลับ
“เหอเหอ… ทาไมพระเจ้าของทวีปตะวันออกถึงได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของทวีปอื่น?”
ลอริต้าหัวเราะขา
“พระองค์… ทรงอยู่ในทุกที่!”
หัวหน้าบาทหลวงก้าวเท้าขึ้นหน้ามาอีกก้าวหนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึม
“ครืน!”
แสงศักดิ์สิทธิ์เข้มข้นเริ่มแผ่ออกจากร่างของเขา ทาให้ผู้ที่ยืนอยู่รอบ ๆ รู้สึกกดดันเหมือนมีภูเขากดทับลงมา
“ฉันนับถือพลังใจของเธอเลย!”
หัวหน้าไช่นั้นแทบจะลงไปคุกเข่าอยู่แล้วแต่ว่าลอริต้ากลับดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไร “พวกคุณกล้าดียังไงเข้าประเทศมาอย่างผิดกฏหมายแล้วยังกาแหงถึงเพียงนี้…”
“เพื่อชัยชนะของพระเจ้า พวกเราสามารถสละชีวิตตัวเองได้!”
หัวหน้าบาทหลวงพูดเป็นทานองแล้วแสงศักดิ์สิทธิ์จากร่างของเขาก็เริ่มเข้มข้นขึ้นอีก ก่อเป็นเงาร่างที่ดูคล้ายเทวดาขึ้นมา
“พลังแห่งฟ้าบ้าบอนี่…”
ลอริต้าเริ่มมีท่าทีไม่ค่อยดีและขยับถอยไปก้าวหนึ่ง
ถ้าเทียบแค่ความสามารถในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว เธออาจจะมีพลังเหนือชายแก่ตรงหน้านี้มาก แต่ว่า รัศมีพลังของแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นคู่ต่อสู้อันเหมาะสมที่สุดกับความสามารถพิเศษชนิดเงาและความมืด ซึ่งทาให้พลังของเธอถูกจากัดเอาไว้
“ตาแก่งี่เง่า แกต้องการทาอะไรกันแน่?”
“ฉันได้รับคาสั่งจากพระเจ้าให้มารับของบางอย่าง…”
หัวหน้านักบวชตรงไปที่ถ้าแล้วมีสีหน้าสงสัย “ทาไมที่นี่ถึงเปิดอยู่?”
“เปิดอะไร? แกบ้าหรือเปล่า? มันอยู่ที่นี่มาตลอด!”
ลอริต้าแค่นเสียง
“ดูเหมือนเธอก็ไม่รู้เรื่องของสิ่งนี้เหมือนกัน!”
บนใบหน้าของบาทหลวงมีสีหน้าเหมือนต้องลดตัวลงมาพูดด้วย “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็คงต้องอยู่ที่นี่รอให้ธรรมชาติจัดการด้วยตัวมันเอง พวกเธอเองก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันเพื่อไม่ให้ข่าวแพร่งพรายออกไป”
หัวหน้าไช่มองไปด้านหลังแล้วก็ขมวดคิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกในกลุ่มส่งเสียงคัดค้านออกมา
เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายในตัวผู้ศรัทธาอันบ้าคลั่งกลุ่มนี้และพวกเขาทั้งหมดก็ดูจะมีความสามารถสูงส่ง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ผู้ศรัทธาเหล่านี้อาจจะฆ่าทุกคนที่พวกเขาพบเจอ
“ตาแก่ แกประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว!”
ลอริต้ายิ้มแสยะและเหวี่ยงเงารูปมือไปกลางอากาศ
“โฮก! โฮก!”
เสือขาวเริ่มคารามขณะที่มันลอยตรงไปทางกลุ่มผู้ศรัทธาจากศาสนจักร
“เงาสังหาร!”
ภายใต้การควบคุมของลอริต้า เข็มสีดายาวเริ่มปรากฏขึ้นในเงาของเหล่าผู้ศรัทธาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่พวกเขา
“ฝุบ! ฝุบ!”
ชายร่างใหญ่สองคนบนหลังม้าคารามขณะหล่นลงสู่พื้น
แต่ว่า ก็เท่านั้น
ทันทีที่เข็มเล่มบางเข้าถึงตัวบาทหลวงชรา มันก็ละลายไปเหมือนปราสาททรายถูกคลื่นซัด
หลังจากเห็นผู้ติดตามล้มลงพื้นไปแล้ว หัวหน้าบาทหลวงก็โมโหขึ้น ”กล้าดีอย่างไรลอบสังหารเหล่าผู้พิพากษาจากศาสนจักร? ฉัน อิงกรีส พบ.. บาป… ของเธอ!”
“บทสวด?”
ลอริต้าไม่ให้ความสนใจกับชายแก่ที่กาลังโมโห แต่ว่า ทันทีที่อิงกรีส ‘พบ’ บาปของเธอ เธอก็รู้สึกได้เลยว่าอากาศที่รอบตัวเธอกลับนิ่งไปในพริบตา ความกดดันมหาศาลกดทับลงมาบนร่างของเธอและทั้งหมดที่เธอนึกออกก็คือบทสวดของศาสนจักรที่ครั้งหนึ่งฟางหยวนเคยพูดถึงและมันจะเพิ่มพลังแห่งฟ้า
“ในเมื่อเธอไม่ใช่ผู้ศรัทธา เธอต้องถูกชาระล้าง!”
หัวหน้าบาทหลวงยังมีสีหน้าไร้ความรู้สึก เขาก้าวเท้ามาข้างหน้าแล้วยื่นนิ้วหนึ่งออกมา
“ครืน!”
บนปลายนิ้วของเขา ลูกไฟเริ่มขยายขนาดขึ้นและมันก็ดูเหมือนจะหลอมละลายทุกอย่างได้
เสือขาวดูจะสัมผัสได้ถึงอันตราย มันเริ่มหมอบราบไปกับพื้น ไม่กล้าขยับกล้ามเนื้อแม้แต่มัดเดียว