438: ความลับ
พลังอันน่าหวาดกลัวของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีเงินแผดเผาเงาดาในทันทีและมาถึงที่ตรงหน้าลอริต้า
“ฟู่!”
ประกายจากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สัมผัสตัวลอริต้า เงาของลอริต้าติดไฟขึ้นราวกับเป็นกระดาษสักแผ่นในทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หัวหน้าบาทหลวงก็ไม่สามารถคงสีหน้านิ่งเฉยเอาไว้ได้ กลับกัน บนใบหน้าของเขานั้นบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด
“คิคิ… ตลกจังเลยที่ยังมีตาแก่อย่างแกอยากจะเผาเด็กน่ารักอย่างฉันทั้งเป็นได้…”
ที่เงาข้าง ๆ นั้น ลอริต้าเดินออกมาจากเงาและตบหน้าอกตัวเองเบา ๆ เธอดูเหมือนยังตกใจอยู่และพูดต่อ “โชคดี… ฉันได้เรียนรู้เล่ห์กลบางอย่างมาจากพ่อของฉันอยู่บ้าง”
โชคร้ายที่ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่เธอได้เรียนรู้มา
หลังจากใช้เวลาไปเกือบสิบปี ในที่สุดเธอก็ถูกบังคับให้ต้องเข้าใจและใช้งานคุณสมบัติบางอย่างของเงาได้ เธอสามารถสร้างเงาเทียมของบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้
ในสายตาของฟางหยวน เธอไม่มีศักยภาพนักและยังขาดความสามารถ
“อั้ก!”
เมื่อลอริต้าหนีรอดจากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ เธอก็ลงมือโจมตีในเวลาเดียวกัน
เงาจานวนมหาศาลรวมเข้ากับเงาของคนที่มาจากศาสนจักรเหล่านั้นแล้วเปลี่ยนไปเป็นการโจมตีนานาชนิด
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากคนจากศาสนจักรเหล่านั้นดังขึ้น และพวกเขาหลายคนก็ล้มลงไป
“บาปนัก!”
ภาพนี้ทาให้หัวหน้าบาทหลวงเกรี้ยวกราดขึ้นมาได้ทันที
แสงรูปกางเขนปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและรูปเงาเทวดาที่ด้านหลังเขาก็ดูชัดเจนขึ้นขณะที่เขากางฝ่ามือออก
“สวรรค์! พระเจ้าแห่งแสงสว่าง พระองค์สร้างโลกและมอบแสงสว่างให้!”
ที่รอบด้าน มีเสียงเพลงสวดเบา ๆ ดังมาแล้วแสงสีเงินก็ส่องไปทั่วราวกับจะกดทับพื้นที่ว่างทั้งหมดไว้
“อ๊า!”
ในเงา ลอริต้าหลายคนที่ดูเหมือนกันถูกบดขยี้และระเบิดออกทิ้งเอาไว้เพียงร่างจริง
“เป็นไปไม่ได้…”
ลอริต้าถูกบีบให้จนมุมและเหงื่อก็เริ่มผุดพรายบนใบหน้าของเธอ
“หัวหน้าบาทหลวงจากคูเรียแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
ครั้งก่อน ตอนที่เธออยู่กับเหลยที่สมาพันธ์บลูสตาร์ เธอเคยมีเรื่องกับคูเรียเข้าครั้งหนึ่งและยังจัดการคนพวกนั้นเสียหมอบ
“ฉันมาพร้อมกับเจตนารมณ์ของพระเจ้า!”
บาทหลวงชราพึมพาอีกครั้งและปาดมืออย่างไม่ลังเล
บนฟ้า รูปเงาเทวทูตก็ทากริยาแบบเดียวกัน แสงศักดิ์สิทธิ์สีเงินจับตัวกันเป็นรูปกรงที่จับต้องได้ ราวกับเป็นก้อนอาพันที่กักแมลงเอาไว้ด้านใน
“สายลม!”
ในตอนที่ความสิ้นหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลอริต้า สายลมสีเขียวก็ปรากฏขึ้นที่ข้างกายเธอ มันเปลี่ยนไปเป็นพายุดาบสายลมและแค่หมุนวนครั้งเดียว มือยักษ์สีเงินของเทวทูตก็สลายไป
“พวกนอกรีตอีกคน?”
ดวงตาของหัวหน้าบาทหลวงชุดแดงจับจ้องผ่านหัวหน้าไช่ไป เขาไม่นับคนผู้นี้เป็นมนุษย์แล้ว
“หัวหน้าบาทหลวงอิงกรีส! ไม่เจอกันนานแล้ว!”
คนอีกกลุ่มหนึ่งมาถึง พวกเขาสวมชุดเหมือนทหาร คนที่นาพวกเขามาเป็นชายผิวขาวร่างใหญ่ที่มีสายลมรุนแรงพัดอยู่รอบตัว
“สายลับของสหพันธ์อินทรีทอง สายลมจาไน?”
อิงกรีสขมวดคิ้ว “ก็แค่มนุษย์ คุณกล้าดีอย่างไรจึงปรารถนาในสมบัติล้าค่าที่พระเจ้าหลงเหลือเอาไว้? ระวังเปลวไฟแห่งความละโมบ มันจะแผดเผาจิตวิญญาณของคุณจนไม่เหลืออะไรเลย!”
“ไม่ว่าอย่างไร สาวน้อย ลอริต้า ผู้นี้ ก็ไม่ใช่คนที่คุณจะแตะต้องได้”
คนที่มานั้นคือจาไนที่พ่ายแพ้แก่ฟางหยวนเมื่อครั้งก่อน แต่ว่า เทียบกับสิบปีก่อนแล้ว จาไนตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา และยังมีบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา
“เฮ้! สายลมจาไน… นายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก!”
ลอริต้าทาปากยื่นและเตือนจากไนอย่างฉุนเฉียว
“แน่นอน ฉันรู้ความแข็งแกร่งของหัวหน้าบาทหลวง แต่ถ้าเป็นของสิ่งนี้…”
จาไนปรบมือ ด้านหลังเขา ทหารหลายคนดึงเอาอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งออกมาเล็งไปที่อิงกรีส
“พลังแห่งพระเจ้า พลังชะตา ก็ยังต้องการหยาดพลังเป็นสื่อกลางในการสื่อสารผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า… เครื่องรบกวนสัญญาณนี้เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของสหพันธ์”
“ปุ! ปุ!”
แล้วก็จริง ภายใต้แสงสีแดงแสบตา สีหน้าของอิงกรีสเปลี่ยนไปทันที เทวทูตที่ด้านหลังเขานั้นเปลี่ยนเป็นเลือนลางมากขึ้น
“สายลม!”
เห็นอย่างนั้นแล้ว จาไนก็ยกนิ้วขึ้นขึ้นดีดเบา ๆ
“ซู่! ซู่!”
สายลมแรงคลั่งขึ้นมา พวกมันคมราวกับดาบ รูปมายาของเทวทูตก็ถูกกลืนกินเข้าไปในทันที
“เหอเหอ… จาไนตัวน้อย ๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะทาให้ประหลาดใจได้ขนาดนี้หลังจากไม่เจอกันหลายปี…”
สีหน้าของลอริต้าไม่ได้ผ่อนคลายลงมากนัก อย่างไรเสีย จาไนก็มาจากรัฐบาลของสหพันธ์ เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเขานักและเธอยังเคยสู้กับเขาอย่างรุนแรงหลายครั้งแล้ว
“หลังจากรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิในสหพันธ์ สิบปีก็เหมือนวันเดียว ก็ต้องมีผลงานอะไรบ้างสิ!”
จาไนยักไหล่และเสริมขึ้น “คุณลอริต้า ไม่เจอกันนานแล้ว ไม่รู้ว่าคุณเหลยเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
“เจ้าคนบ้านั่นยังไม่ตาย เท่านั้นแหละ!”
ลอริต้ากลอกตาและพูดต่อ “นายช่วยฉันเพราะเขาใช่ไหม?”
“ถูกต้อง ผมก็ต้องแสดงความนับถือแก่ผู้วิวัฒน์อันดับหนึ่งของโลกบ้างสิ” จาไนตอบด้วยน้าเสียงใสซื่อ
หัวหน้าไช่และหวังซินที่อยู่ด้านข้างอึ้งไปเมื่อได้ยินพวกเขาคุยกัน
“ผู้วิวัฒน์อันดับหนึ่งของโลก?”
“กระทั่งสหพันธ์ยังต้องนับถือ?”
ขณะที่หวังซินพึมพา เธอก็เหลือบมองลอริต้าอย่างไม่อยากเชื่อ “พ่อบุญธรรมของเธอใหญ่โตขนาดนั้นเลย?”
“กระทั่งสายลับของสหพันธ์ยังต้องนอบน้อมกับเขา ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริง…”
หัวหน้าไช่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา และจากนั้นก็มืดครึ้มลง “โชคไม่ดี… ฉันพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้ว”
“ครืน!”
ทันใดนั้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ภายใต้เสียงดังลั่น เทวทูตกลับหลบออกมาได้ อิงกรีสเดินออกมาใบหน้าเคร่งเครียด “พวกคุณทั้งหมดจากสหพันธ์อินทรีทอง คุณมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไร?”
“คุณสามารถใช้กาลังหนีออกมาจากพายุหมุนของผมได้?”
จาไนทิ้งสายตาไปที่จี้ที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอกของหัวหน้าบาทหลวง
“คุณเก็บพลังชะตาบางส่วนเอาไว้ในของวิเศษก่อนแล้ว? ครั้งนี้คูเรียทุ่มสุดตัวเลยจริง ๆ”
ชะตานั้นรวบรวมจากเหล่าผู้ศรัทธาไปสั่งสมอยู่ที่พระเจ้า จากนั้นพระเจ้าก็จะมอบพลังนั้นให้กับผู้รับใต้เบื้องล่างของตน
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นความเชื่อในศาสนา พวกเขาก็แค่ได้รับความรักจากพระเจ้าของตนเป็นพิเศษเท่านั้น ดังนั้น ความแข็งแกร่งแท้จริงของพวกเขานั้นอันที่จริงไม่ได้มาจากร่างของตนเอง
อุปกรณ์ของสหพันธ์นั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามีไว้เพื่อขัดขวางเส้นทางส่งพลังนี้
แต่ว่า หัวหน้าบาทหลวงชุดแดง อิงกรีสผู้นี้แตกต่างออกไป
ของวิเศษที่ตรงหน้าอกของเขานั้นเก็บกักพลังจากชะตาจานวนมหาศาลเอาไว้ และมันก็สามารถนาออกมาใช้ได้ และตอนนี้เขาก็มีแสงศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์โอบล้อมร่างเอาไว้ชั้นหนึ่ง เทวทูตที่เหนือศีรษะของเขาก็ดูราวกับจะจับต้องได้และแผ่พลังอันยิ่งใหญ่และสง่างามออกมา
“คุณลอริต้า ร่วมมือกันเถอะ!”
จาไนประเมินสถานการณ์และตัดสินใจทันที
“ไม่จาเป็น…”
ลอริต้ามองขึ้นไปบนฟ้าแล้วจู่ ๆ ก็ฉีกยิ้มแทบจะถึงใบหู
“เอ๋?”
จาไนเงยหน้าขึ้นและเห็นจุดดา ๆ สองจุดลอยมาถึงที่เหนือหัวของเขาในพริบตา แล้วมันก็กลายเป็นเงาร่างของคนสองคนที่ร่อนลงมาจากฟ้าช้า ๆ
“แกร่ก!”
ทันใดนั้น สีหน้าของผู้วิวัฒน์ทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นย่าแย่
พวกเขาสัมผัสได้ว่าความสามารถพิเศษในร่างของพวกเขานั้นหายไป และพวกเขาก็ต้องตระหนกเมื่อพบว่าตัวเองได้กลายไปเป็นคนธรรมดา
นอกจากนี้ กระทั่งเทวทูตที่กลางอากาศก็กรีดร้องออกมาและระเบิดไปในทันที เปลี่ยนไปเป็นสะเก็ดแสงมากมาย
“เป็นไปไม่ได้!”
สีหน้าของอิงกรีสเปลี่ยนไปรุนแรง
ถ้าการลงมือของจาไนคือการขัดขวางช่องทางถ่ายโอนพลังชะตา ตอนนี้ พลังแห่งฟ้าทั้งหมดในร่างของอิงกรีสก็สลายไป มันเป็นสิ่งที่เกินจะรับได้!
“ความสามารถพิเศษนี่… จากแองเจิ้ลเหรอ?” จาไนคิด
จาไนมองฟางหยวนและเด็กสาวที่ลงมาจากฟ้า เขากล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มบนหน้า “อย่างนั้นนี่ก็คือคุณเหลยกับคุณแองเจิ้ล! ผมเป็นตัวแทนของสหพันธ์มาแสดงความเคารพ”
“สายลับของสหพันธ์อินทรีทอง?”
ฟางหยวนมองจาไนแล้วก็มีสีหน้าประหลาด
จาไนกลับดูนอบน้อมจริง ๆ และไม่ได้มีเศษเสี้ยวความกระอักกระอ่วนอยู่ในสีหน้าของเขา
ฟางหยวนไม่อยากเชื่อว่าจาไนจะไม่สงสัยในตัวตนของเขา
ตอนที่สู้กับที่ต้นหลิวเมืองชางไห่ก่อนหน้านี้ สายลับเหล่านี้พ่ายแพ้ยับเยินและยังสูญเสียพรรคพวกของตนไปคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ จาไนกลับดูเหมือนลืมเรื่องในอดีตทั้งหมดนั่นไปแล้ว
ไม่ว่าจาไนจะไม่รู้ถึงตัวตนแท้จริงของฟางหยวนจริง ๆ หรือแค่ทาเป็นไม่รู้ ฟางหยวนก็รู้สึกว่าท่าทีนี้ของเขาก็ไม่เลว และยังอาจจะดีกว่าลอริต้าด้วยซ้า
“คนจากสหพันธ์อินทรีทองและสมาพันธ์บลูสตาร์…”
ฟางหยวนไพล่มือไปด้านหลัง มองรอบตัวแล้วก็คิด ‘พวกเขามาถึงเร็วมาก! พวกเขาใช้เครื่องบินเจ็ทพุ่งมาทันทีที่ได้รับข่าวเมื่อคืนนี้งั้นเหรอ?’
กระทั่งประเทศจีนเองก็ยังไม่มีความสามารถในการเดินทางข้ามทวีปเร็วถึงเพียงนี้
“อิงกรีส คุณบอกผมได้ไหมว่าอันที่จริงแล้วศาสนจักรของคุณกาลังตามหาอะไร?”
ฟางหยวนมองหัวหน้าบาทหลวงด้วยสายตาแฝงแววคาดคั้น
“คาถามนี้… ข้าจะเป็นคนตอบเอง!”
ทันใดนั้น ดวงตาของหัวหน้าบาทหลวงชุดแดงก็สูญเสียแววไปในทันที แสงสีทองเปล่งออกมาจากดวงตาของเขาแทน
“ครืน!”
แสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องอีกครั้ง พลังแห่งฟ้าคราวนี้เข้มข้นยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
ใบหน้าของแองเจิ้ลเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันทีและเธอก็รู้สึกว่าสนามสะกดพลังของเธอนั้นแตกออก เจตจานงค์อันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างของอิงกรีสโดยตรง
“คุณก็คือพระเจ้าของศาสนจักร? หรือว่าฉันควรจะพูดว่า… ทูตสวรรค์แห่งแสงที่ตื่นขึ้นจากสวรรค์เมื่อวานนี้?”
ฟางหยวนมองอิงกรีสและมองเห็นเทวทูตหกปีก
“ข้าเอง!”
ทูตสวรรค์พยักหน้านิด ๆ “เจ้าสามารถเรียกข้าว่า… ฟาร์ชูฮาร์!”
ความสามารถพิเศษของแองเจิ้ลนั้นก็คือคาถาสะกดและขับไล่หยาดพลังทั้งหมด กระทั่งผู้ฝึกตนจากทวีปกลางที่มีวิชายังกลายเป็นคนใช้การไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
แต่ว่า ฟาร์ชูฮาร์ผู้นี้นั้นต่างออกไป
เขามีพลังคล้ายกับพลังของสมรภูมิของผู้วิวัฒน์ขั้นที่สี่และยังไม่อยู่ภายใต้สนามสะกดพลัง
ด้วยความสามารถเช่นนี้ เขาย่อมต้องเป็นตัวตนทรงพลังจากสมัยโบราณ!
“ฟาร์ชูฮาร์! ผมคือเหลย!”
ฟางหยวนกะพริบตาและพูดต่อ “ผมไม่แน่ใจว่าทาไมคุณ ที่เพิ่งตื่นขึ้นมา ถึงได้รีบร้อนมาที่นี่เร็วเพียงนี้!”
“เพื่อที่จะรับมรดกจากเทพเจ้าอื่น!”
ฟาร์ชูฮาร์นั้นระวังมากเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่มีพลังในระดับเดียวกัน “การกลับมาของดาวหางราชาวิญญาณนั้นเป็นไปตามวัฏจักรของมัน เหตุใดข้าจึงยอมสูญเสียพลังทั้งหมดแล้วเปลี่ยนมาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา? ทาไมข้าจึงผนึกตัวเองเอาไว้แล้วรอคอยให้อีกหนึ่งพันปีมาถึง?”
“โอ้? คุณจะสื่ออะไรกันแน่?”
ฟางหยวนกะพริบตาและดูสนอกสนใจ
“ข้าเจอมัน…”
ฟาร์ชูฮาร์กวาดตามองคนรอบ ๆ ทันใดนั้น ผู้วิวัฒน์ที่ต่ากว่าระดับหายนะก็ดวงตาว่างเปล่าและไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป
“ข้าพบวิธีการคงระดับพลังวิญญาณให้อยู่สูงที่สุดไปตลอดกาล! ไม่แค่ตัวข้าเอง แต่เทพอื่น ๆ ในทวีปกลางและทวีปตะวันตกก็ทาการค้นคว้าเรื่องนี้ ข้าตื่นขึ้นมาเพื่อรวมพลังของทุกคนเพื่อทาเรื่องนี้ให้สาเร็จและทาให้ทั้งโลกเป็นของพวกเราไปตลอดกาล!”
ทูตสวรรค์ฟาร์ชูฮาร์พูดด้วยท่าทางสงบ เผยความลับอันน่าตกตะลึงออกมา