440: พระบัญชา
พลังวิญญาณมาได้อย่างไร?
เดิมที ฟางหยวนคิดว่ามันมาจากดาวหางราชาวิญญาณ
แต่ว่า หลังจากฟางหยวนได้รับมรดกจากสานักวังหยกและเห็นวิถีทางที่พวกเขาเลือก เขาก็รู้สึกลังเลขึ้นมา
“ใครจะรู้ บางทีดาวหางราชาวิญญาณอาจจะเป็นแค่บทนาหรือลางบอกเหตุเท่านั้นก็ได้… ข้าเกรงว่าความจริงเบื้องหลังนั้นจะเหนือกว่าที่ข้าคิดเอาไว้…”
ฟางหยวนพึมพากับตัวเองและกาม้วนตาราเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
อันที่จริง ค่ายกลที่สานักวังหยกคิดค้นขึ้นเพื่อรับมือกับดาวหางราชาวิญญาณนั้นฟางหยวนรู้สึกคุ้นเคยมาก
และความคุ้นเคยอย่างน่าตระหนกนั้นก็คือ ค่ายกลหกและเก้าของปราชญ์ฉางหลี
“ค่ายกลทาลายหกพิภพและค่ายกลตาข่ายสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นเป็นผลงานจากการทางานหนักทั้งชีวิตของปราชญ์ฉางหลีและเขาก็ไม่เคยมาที่อาณาจักรนี้มาก่อน หรือข้าควรจะคิดว่าถนนทุกสายล้วนมุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน*?”
“พลังวิญญาณ… อาณาจักรนี้น่าสนใจเสียจริง ๆ!”
ฟางหยวนนั่งลงที่ตาแหน่งเจ้าสานักวังหยก หลังจากย่อยข้อมูลที่ได้รับมาอยู่เป็นนาน ในที่สุดใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้ม
ที่ด้านนอกถ้ามิติ ภูเขาหัววัว
“คุณพ่อบุญธรรม?!”
แสงสว่างสาดส่องและฟางหยวนก็ปรากฏตัวขึ้น ลอริต้าและแองเจิ้ลรีบตรงมาข้างตัวเขากอดแขนเขาเอาไว้
“อืม มิติแห่งนี้คือวังหยกขาวที่บนฟ้า รากฐานของสานักวังหยกเมื่อครั้งเก่า…”
ฟางหยวนโบกมือแล้วประตูแห่งแสงก็ปรากฏขึ้น
“พวกคุณสามารถเข้าไปข้างในและมองหาโอกาสให้ตัวเองได้!”
ที่ระดับการฝึกตนนี้ ฟางหยวนไม่ได้มีความปรารถนาใดนัก กระทั่งแหล่งของพลังวิญญาณในมิติก็ยังไม่เป็นประโยชน์สาหรับเขานัก
ถ้าฟางหยวนไม่สามารถฝ่าระดับขั้นที่ห้าของคาถาฝึกพลังธาตุของเขาได้ ด้วยสมรภูมิแห่งพลังของเขาและยังกลืนกินพลังวิญญาณมากขึ้น ผลลัพธ์สุดท้ายต่อร่างกายของเขาย่อมต้องเป็นระเบิดออกแล้วตายได้
“อะไรนะ?”
หัวหน้าไช่และหวังซินดีใจมากเมื่อได้ยิน “พวกเราก็ด้วยเหรอ?”
“แน่นอน อย่างไรเสีย ถ้านี่ก็เป็นบรรพบุรุษของประเทศจีนของเราทิ้งเอาไว้ให้พวกเรารุ่นหลัง…”
ฟางหยวนยิ้มและตอบพวกเขา เขารู้สึกราวกับได้ปลุกความสามารถในการเป็นชายหนุ่มผู้ร่ารวยเหลือเฟือขึ้นมา
อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้แค่ไม่ฉวยเอาสมบัติที่ในถ้าทั้งหมดไป เขาทิ้งหลายอย่างเอาไว้ด้วย สิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ล้วนเป็นเคล็ดพลังวิญญาณอันที่เขาสะสมมาในหลายปีนี้
ถ้าผู้ใดมีโชคพอที่จะได้มันไป ผลสุดท้ายย่อม… เหอเหอ…
“แล้วก็ พวกสัตว์วิญญาณที่กลายพันธุ์ไปที่นี่ ส่วนใหญ่แล้วน่าจะเป็นเพราะไอพลังวิญญาณจากด้านในถ้านี้ หลังจากฉันผนึกมันกลับไปอีกครั้งก็คงไม่มีปัญหาแล้ว…”
ฟางหยวนพูดต่อ “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถแก้ปัญหาสัตว์ร้ายทาร้ายมนุษย์ได้ แต่ว่าภารกิจของพวกคุณก็นับว่าสาเร็จ”
“ขอบคุณท่านมากครับ!”
หัวหน้าไช่ขอบคุณซ้า ๆ และสงสัยขึ้นมา “อย่างนั้นอันตรายพวกนี้จะไม่ถูกกาจัดไปโดยสมบูรณ์โดยแค่จัดการกับแหล่งพลังหรอกเหรอ?”
“นี่ย่อมเป็นเพราะการแผ่ออกไปของพลังดั้งเดิม…”
ฟางหยวนหัวเราะเย็น ๆ “ก่อนหน้านี้ การเพิ่มขึ้นของสัตว์ดุร้ายในเขตนี้ก็เป็นเพราะไอพลังวิญญาณจากในถ้า แต่จากปีนี้เป็นต้นไป ความเข้มข้นของพลังวิญญาณบนโลกของเรา บนพื้น บนท้องฟ้า และรอบตัวเราล้วนพุ่งสูงขึ้น ดังนั้น สัตว์ร้ายก็จะยิ่งปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ และหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เชิงเขาก็คงทานรับไม่ได้ไม่ช้าก็เร็ว…”
อันที่จริงแล้ว สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้มาก
ความเข้มข้นของหยาดพลังนั้นยังรบกวนกระทั่งอาวุธปืน ที่แย่ไปกว่านั้นย่อมเป็นผลต่อปฏิกริยานิวเคลียร์
ถ้าพลังของเทคโนโลยีค่อย ๆ ลดลงต่อเนื่อง สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดาย่อมรุ่งเรืองเหนือกว่าและได้รับพลังที่จะบดขยี้ทุกอย่าง
สายตาของฟางหยวนดูลึกซึ้งขึ้นเมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่ฟาร์ชูฮาร์พูด
อาณาจักรที่พลังวิญญาณกลับมาพุ่งสูงขึ้นนั้นก็เหมือนเป็นงานเฉลิมฉลองของพวกเขา แต่สาหรับคนทั่วไป หรือกระทั่งกองกาลังทั่ว ๆ ไป มันคือหายนะอย่างแท้จริง
…
สหพันธ์อินทรีทอง ทวีปตะวันตก
บนท้องทะเลสีคราม กองทหารเรือแล่นตัดผ่านคลื่นอย่างมีชีวิตชีวาราวกับดาบคม ๆ
ถึงแม้ว่าสหพันธ์จะเผชิญหน้ากับน้าท่วมรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนทาให้กว่าครึ่งของประเทศจมอยู่ใต้น้า ประชากรของสหพันธ์ที่มีระดับอารยธรรมสูงที่สุดก็ยังสามารถสร้างประเทศของตนกลับมาได้ในแค่สิบปีด้วยจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง มีความคิดริเริ่มและไม่ยอมหยุดยั้ง ตอนนี้ สหพันธ์อินทรีทองก็กลับมารุ่งเรือง ไม่แค่ฟื้นฟูจากหายนะที่เกิดได้อย่างสมบูรณ์เท่านั้น ตอนนี้พวกเขายังใช้ปรากฏการณ์ครั้งที่สามและการ
เปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณเพิ่มอิทธิพลและพลังโดยการเคลื่อนกองกาลังทหารเข้าไปในประเทศที่เล็กกว่า
บนดาดฟ้าเรือรบ หน้าอกของนายทหารเรือระดับผู้บัญชาการผู้หนึ่งประดับไปด้วยเหรียญตราเงาวับหลายชิ้น เขายกกล้องส่องทางไกลมองไปตามผืนทะเลที่ดูสงบ
“ผู้บัญชาการ!”
ทันใดนั้น ก็มีทหารเดินเข้าไปหาเขาแล้วทาความเคารพ “จากข่าวล่าสุด ประเทศเวสต์โพสต์ตกลงยอมรับทุกเงื่อนไขของสหพันธ์ของเราแล้วครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะยกท่าเรือแพนด้าให้กองทัพเรือของเราครอบครองเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการต่อไป พวกเขายังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทัพของเราและข้อเรียกร้องเพียงอย่างเดียวของพวกเขาก็คือให้ช่วยพวกเขากาจัดสัตว์ป่าบนดินแดนของพวกเขา! ตอนนี้ ประธานาธิบดีได้ถ่ายทอดคาสั่งลงมาแล้วครับ!”
“ไม่มีปัญหา!”
ผู้บัญชาการผมหงอกขาวใบหน้าแดงขึ้นมาอย่างยินดี “ถ่ายทอดคาสั่งของฉันลงไป กองเรือทั้งหมดของพวกเราให้มุ่งหน้าไปทางท่าเรือแพนด้าอย่างเต็มกาลัง… พวกเลือดผสมโง่ ๆ พวกนั้นแค่ปกป้องประเทศของตัวเองยังทาไม่ได้ ก็ดีแล้วที่พวกมันจะมอบให้พวกเราสหพันธ์อินทรีทอง ฮ่าฮ่า…”
ถึงตอนนี้ เขาก็ยังขอบคุณพระเจ้าจากใจจริงที่ปล่อยให้หายนะจากพลังวิญญาณดาเนินต่อ เขากระทั่งเคยหวังว่าจะมีวันหนึ่งที่ประเทศระดับกลางอื่น ๆ ในทวีปตะวันตกจะทนไม่ไหวอีกต่อไปเหมือนกัน พวกเขาก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากสหพันธ์อินทรีทอง และดังนั้นพวกเขาก็ต้องยินยอมลงนามในสัญญาอันไม่ยุติธรรม ยอมยกพื้นที่บางส่วนให้แก่สหพันธ์
“หากสถานการณ์เช่นนี้ยังดาเนินต่อไป เพียงแค่สามปี… ไม่ ภายในสองปี สหพันธ์อินทรีทองก็จะสามารถรวบรวมพลังของทั้งทวีปตะวันตกเข้าเป็นหนึ่งเดียวแล้วกลายเป็นผู้ปกครองทั่งโลกได้?”
ผู้บัญชาการนั้นดีใจมากเมื่อคิดถึงว่าตัวเองจะสามารถจัดงานฉลองค่าคืนแห่งความยินดีด้วยแชมเปญและเนื้อ
“ระวัง!”
ทันใดนั้น เสียงสัญญาณแหลมสูงก้องขึ้น “เรดาร์ของพวกเราจับสัญญาณของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ได้ที่ด้านหน้า!”
“วาฬ? ก็แค่ไล่มันไปหรือไม่ก็จัดการมันเสียด้วยกองเรือของฉัน…”
ผู้บัญชาการสั่งการตามปกติ แต่ว่า จู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ “เดี๋ยวก่อนนะ… หากเป็นวาฬธรรมดา ทาไมสัญญาณเตือนถึงดัง?”
“ครืน!”
ทันใดนั้น เสียงดังก้องจู่ ๆ ก็กังวานออกมาจากเรือลาหนึ่งที่ริมขอบนอกของกองเรือ จากนั้นมันก็ระเบิดออก เปลวไฟและสะเก็ดไฟปลิวว่อน
“เกิดอะไรขึ้นกับเรือพิราบขาว?”
“พวกเราถูกโจมตีจากกองกาลังไม่รู้จัก!”
“เป็นสัตว์น้าเหรอ?”
ผู้บัญชาการคว้าเสาเรือเอาไว้แน่นแล้วพึมพา
ถึงแม้ว่าผู้วิวัฒน์ที่มีความสามารถพิเศษจะมีตัวตนมากว่าสิบปีแล้ว แต่ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดที่กองทัพเรือมักจะเจอในทะเลก็เป็นแค่วาฬขนาดยักษ์ยาวกว่าสามร้อยฟุต แต่สุดท้ายแล้ว วาฬตัวนั้นก็ยังถูกปืนใหญ่ถล่มตายได้
“สัตว์น้าเฮงซวยพวกนี้! ใช้ระเบิดใต้น้าและฆ่ามันซะ!”
ผู้บัญชาการสั่งการอย่างโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้น บนดาดฟ้าก็สั่นอย่างแรงแล้วเขาก็เกือบจะล้มลงไป
“ปึ้ด! ปึ้ด!”
หมึกยักษ์สีดาที่มีหนวดยาวกว่าสามร้อยฟุตสองตัวผุดขึ้นจากทะเล หนวดของมันมีขนาดใหญ่มากและพวกมันก็ดูราวกับเป็นฝ่ามือของเทพแห่งท้องทะเล
“ครืน!”
หนวดของพวกมันเต็มไปด้วยปุ่มดูดและพวกมันก็คว้าเอาเรือรบลาหนึ่งแล้วเขย่าอย่างแรง
ขณะคลื่นสูงกระแทกเข้ามา เงาร่างขนาดยักษ์ก็มองเห็นได้อย่างรางเลือนในท้องทะเล ราวกับหนวดจานวนมากของพวกมันนั้นเป็นปิศาจจากนรกและมันก็ทาการสังหารอย่างต่อเนื่อง
“หมึกยักษ์ยาวกว่าหนึ่งร้อยหลา… โอ้พระเจ้า…”
ผู้บัญชาการตะโกนอย่างตกใจ รู้สึกว่าท้องทะเลเปลี่ยนไปและเขาก็จดจามันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ฟ่อ ฟ่อ…”
แต่ว่า สิ่งที่เหนือกว่าที่เขาคิดเอาไว้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
พร้อมกับเสียงขู่ฟ่อ งูทะเลยักษ์ยาวกว่าสามร้อยหลาก็ผุดขึ้นจากน้าและขดรอบเรือรบลาหนึ่งอย่างแน่นหนา มีไอระเหยจานวนมากลอยออกมาจากเกล็ดของมันและเพียงแค่ไม่กี่วินาที คนที่บนเรือก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป
“ปัง!”
แต่ก็ยังมีเสียงดังลั่นมา เรือรบลาอื่น ๆ ที่รอบ ๆ ถูกฉลามเสือฝูงหนึ่งโจมตี ฉลามเสือที่ยาวกว่าสามสิบฟุต ครู่เดียวหลังจากนั้น เรือทั้งลาก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ เลือดย้อมผิวหน้าของท้องทะเลเป็นสีแดง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทาไมทะเลจู่ ๆ ก็กลายเป็นอันตรายขนาดนี้?”
ผู้บัญชาการกลอกตา “ไม่… พวกนี้ไม่ใช่แค่สัตว์ พวกมันมีสติปัญญา! พวกมันซ่อนอยู่ลึกในทะเลนานกว่าสิบปีและเพิ่งออกมาปรากฏตัวตอนนี้!”
สาหรับมนุษย์แล้ว นี่เป็นข่าวร้าย
ส่วนผู้บัญชาการที่เรือรบหลัก เขาโชคดีพอที่จะอยู่เป็นเรือลาสุดท้ายได้เห็นมังกรทะเลผุดขึ้นจากท้องทะเลลึก
“โฮก! โฮก!”
นี่เป็นสัตว์ประหลาดที่คล้ายกับมังกรจากตานานในทวีปกลาง มันยาวราวสามร้อยฟุตและเกล็ดบนตัวก็ราวกับอัญมณีสีฟ้าที่ส่องประกายสดใส กรงเล็บใหญ่โตบนร่างของมัน และยังมีเขาเดี่ยวอยู่ที่หน้าผาก
สัตว์น้าที่ทั้งดุร้ายและร้ายกาจจู่ ๆ ก็เปิดทางให้กับมังกรหลังจากที่มันปรากฏตัวขึ้นเป็นสัญญาณของการยอมรับ
มันเหยียดร่างออกและดวงตาแบบมังกรของมันก็มีร่องรอยความไม่พอใจวาบผ่าน มันอ้าปากออกและพ่นลาแสงสีน้าเงินออกมา
“ตูม!”
ไม่ว่าดาดฟ้าเรือจะมั่นคงแค่ไหน ภายใต้ลาแสงนั้น มันก็ระเบิดออกและเรือทั้งลาก็พังทลายลง
“ราชาแห่งสัตว์น้าทั้งปวง? มันสะสมพลังเอาไว้ เตรียมตัวจะโจมตีแผ่นดิน? ฮ่าฮ่า… ช่างน่าตลก…”
ผู้บัญชาการหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันไม่เคยพ่ายแพ้แก่มนุษย์คนใดในสงครามเรือ แต่ตอนนี้ ฉันกลับตายเพราะสัตว์ประหลาดพวกนี้แทน…”
ภายใต้ประกายและเปลงไฟ เรือรบทั้งลาก็จมลงไป ร่างของผู้บัญชาการเองก็หายลับไปด้วย
“โฮก!”
เมื่อมังกรทะเลร่างใหญ่สีฟ้าเห็นดังนั้น มันก็ส่งเสียงคารามอย่างพึงพอใจ สัตว์น้าอื่น ๆ ก็ตามหลังมันไปที่ท่าเรือของสหพันธ์อินทรีทอง
ที่ด้านหลังพวกมัน ล้วนเป็นสัตว์น้าดวงตาแฝงแววกระหายเลือดจานวนนับไม่ถ้วน
…
สมาพันธ์บลูสตาร์
“เพราะการโจมตีของพวกสัตว์น้า เส้นทางเดินเรือทั้งหมดจึงถูกระงับ?”
บนยอดเขาโฮลี่ สันตะปาปามองสมองกลที่บนมือแล้วก็เงียบไป
“มีรายงานสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นเข้ามาเรื่อย ๆ จากทุกแห่งและยังมีหลายเมืองที่สูญเสียการติดต่อไป?”
“ราฟาเอล!”
แสงศักดิ์สิทธิ์ฉายมาและเปลี่ยนไปเป็นทูตสวรรค์ผู้หนึ่ง
“พระองค์!”
สันตะปาปาคุกเข่าลงและทาความเคารพ
“การตอบโต้ของธรรมชาติเริ่มต้นขึ้นแล้ว… ให้เหล่าผู้ศรัทธาของพวกเราอยู่ให้ห่างจากผืนป่าและท้องทะเล เก็บสะสมอาหารและให้พวกเขาเตรียมตัวพร้อมคล้อยตามไปกับหายนะของโลกใบนี้ นี่เป็นการทดสอบจากพระเจ้า มีแค่ผู้ที่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวที่สุดเท่านั้นที่จะได้ไปสู่สวรรค์…”
“รับบัญชา!”
ถ้อยคาของฟาร์ชูฮาร์นั้นเป็นมติสวรรค์ สันตะปาปายืนขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ทุกคน… ถ่ายทอดพระบัญชาลงไปสู่ผู้ศรัทธาและสาวกทั้งหมด!”
ขณะที่สันตะปาปามองเหล่าบาทหลวงถอยออกไปอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเขาก็ยังคงสงบนิ่ง แต่ว่า เขาลอบถอนหายใจอยู่ลึก ๆ ในใจ
ถ้อยคาของพระเจ้าทาให้เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจสายหนึ่ง
สาหรับมนุษย์แล้ว เหตุการณ์หายนะครั้งนี้นั้นเทียบได้กับวันโลกาวินาศแล้ว
TL note: ถนนทุกสายล้วนมุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน* ในต้นฉบับใช้ว่า ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม