443: เฟยซิง
จากบนฟ้า มันเหมือนทั้งเมืองหุยหมิงกลายไปเป็นค่ายทหาร
สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่เรียงรายกันเป็นแถว แผนผังของสิ่งก่อสร้างนั้นราวกับเป็นหอพัก สภาพการดารงชีวิตนั้นอาจจะไม่ได้ดีที่สุด
แต่การจัดการเช่นนี้นับว่ามีเหตุผลที่สุดเมื่อคิดถึงคนนับล้านที่มารวมกันอยู่ในเมือง
เรื่องดีก็คือลาดับชั้นทางสังคมนั้นยังคงอยู่
สิงเหอจื่อนั้นเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่สี่ ระดับหายนะ และยังได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาระดับชาติ ดังนั้น เขาจึงได้รับบ้านหลังหนึ่งให้พักอาศัยอยู่
ที่ด้านนอก ลาธารเล็ก ๆ ไหลเอื่อยอยู่ภายใต้สะพานน้อย
“เชิญนั่งก่อน!”
สิงเหอจื่อพาฟางหยวนไปที่เก้าอี้หินใต้ต้นสน และเทน้าชาใสให้เขาถ้วยหนึ่ง
“สหาย เจ้าสนใจชิมชาอวิ๋นซานที่ข้าชงหน่อยไหม?”
“ขอบคุณมาก!”
ฟางหยวนรับถ้วยชาวาดลวดลายมาแล้วจิบคาเล็ก ๆ ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้นทันที
“หอมและสดชื่นมาก รสชาติเหลือค้างในปากและยังทาให้นึกถึงประสบการณ์บนโลกใบนี้…”
“ประสบการณ์บนโลกใบนี้… พูดได้ดี!”
สิงเหอจื่อมองไปทางสระน้าเล็ก ๆ และจู่ ๆ ก็หัวเราะฝืน
“ความฝันตื่นหนึ่งยาวนานพันปี ครั้งต่อไปที่ข้าตื่นขึ้นมา ข้าอาจจะเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ของสานักเฟยซิงก็เป็นได้ ถึงตอนนี้ ในประเทศนี้ ข้าก็ยังติดต่อได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น… เฮ่ย สหายและศัตรูในอดีตล้วนจากไปหมดแล้ว ความรู้สึกนี้ช่างประหลาดนัก! แต่ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า ข้าเบาใจเมื่อรู้ว่าข้ามีผู้สืบทอดแล้ว…”
เขามีประสบการณ์มากพอที่จะบอกได้ว่าฟางหยวนนั้นไม่ใช่เพียงเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ธรรมดา ๆ แต่เป็นตานานผู้หนึ่งซึ่งได้รับทุกอย่างนี้มาด้วยการพยายามอย่างหนัก
ฟางหยวนบรรลุระดับนี้ได้โดยไม่ได้รับการชี้แนะอย่างเหมาะสมและยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลนพลังวิญญาณ เขาเป็นผู้ที่หนึ่งหมื่นปีจะมีปรากฏสักคน
“ท่านชมข้าเกินไปแล้ว…”
ฟางหยวนยกชาวิญญาณขึ้นจิบอีกอีกหนึ่งและพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสิงเหอจื่อ เมื่อได้คุยกัน เขาก็เรียนรู้เกี่ยวกับพื้นเพของสิงเหอจื่อได้มากขึ้น
สิงเหอจื่อนั้นเป็นผู้ก่อตั้งสานักเฟยซิง เมื่อหนึ่งพันปีก่อนที่พลังวิญญาณค่อย ๆ ลดลงนั้น เขาก็ผนึกตัวเองเอาไว้ในน้าแข็งและย้ายสานักไปอยู่ในผืนดินมั่งคั่ง
อิทธิพลภายนอกของสานักเฟยซิงนั้นไม่ได้ลดน้อยลงไปและยังสืบเนื่องต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และยังนับเป็นหนึ่งกองกาลังที่ต้องคานึงถึง
ด้วยเส้นสายของเขา เขาสามารถเจรจากับรัฐบาลและยังได้รับตาแหน่งที่ปรึกษาระดับชาติ
แน่นอนว่า นี่เป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
“มีคนแบบท่านอีกมากแค่ไหนในประเทศจีน?”
ฟางหยวนถามหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“เพื่อสร้างผืนดินมั่งคั่ง คนผู้หนึ่งจะต้องมีพลังมหาศาล ระหว่างช่วงเวลาของข้านั้น มีคนที่สามารถทาเช่นนั้นได้ไม่มากนัก… จากทุกกลุ่มก้อนและองค์กรในโลกแห่งผู้ฝึกตนนั้นมีอยู่เพียงแค่หยิบมือเดียว และท่ามกลางคนเหล่านั้นที่สามารถสร้างผืนดินมั่งคั่งได้ ยังมีเพียงไม่กี่คนที่ลงมือทา…”
สิงเหอจื่อดูค่อนข้างโดดเดี่ยว
“มีเพียงประมาณสามส่วนในห้าส่วนของเหล่าผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงแห่งทวีปกลางเท่านั้น… เช่นเดียวกับทางตะวันตก”
เขาอธิบายลึกขึ้นถึงลักษณะของโลกตอนนั้น
ผู้ที่มีความสามารถแท้จริงในระดับเทพผู้สร้างนั้นเป็นตัวตนที่เทียบเท่าผู้วิวัฒน์ขั้นที่ห้า
ส่วนฟางหยวนและสิงเหอจื่อทั้งสองคนล้วนอยู่ในระดับสูงสุดของระดับเทพหวนคืน หรือที่เรียกว่าขั้นที่สี่ ระดับหายนะ
ลักษณะของทวีปตะวันตกนั้นก็ไม่ต่างไปจากทวีปกลาง เหล่าเทพทั่วไปนั้นอยู่ในขั้นที่สี่ และที่มีพลังมากกว่านั้นก็อยู่ในขั้นที่ห้า!
‘อย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าฟาร์ชูฮาร์ครั้งหนึ่งจะเคยอยู่ที่ขั้นที่ห้า… แต่ว่าพลังชะตาของเขาลดถอยลงหลังจากผนึกตัวเองเอาไว้นับพันปี และตอนนี้ เขาก็เพิ่งจะบรรลุขั้นที่สี่ได้เท่านั้น…’
ดวงตาฟางหยวนปรากฏสว่างขึ้นวูบหนึ่ง เขาหันกลับไปมองสิงเหอจื่อ
ใครจะรู้ ว่าสิงเหอจื่อกลับปิดบังตัวตนแท้จริงเอาไว้ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าสานักระดับเทพผู้สร้าง แต่กลับตกลงมาที่ระดับเทพหวนคืนเพราะว่าถูกผนึกทาให้อ่อนแอลง
ในโลกนี้ มีเพียงทฤษฎีเกี่ยวกับอาณาจักรเท่านั้นที่จะยังเป็นความลับไปตลอดกาล
“แล้วก็… เจ้าได้รับวิชาค่ายกลมาจากสานักวังหยกสินะ?”
สิงเหอจื่อถามขึ้นมาระหว่างพูดคุยกัน
“ใช่… ฟาร์ชูฮาร์บอกท่านหรือ?”
ฟางหยวนมองเขา
“เพื่อที่จะรักษาความเป็นระเบียบของโลกเอาไว้ พวกเรามีจุดประสงค์เบื้องต้นเดียวกับพวกเขา!”
สิงเหอจื่อตอบกลับมาด้วยสีหน้านิ่งเฉยที่ยากจะอ่านได้
“แน่นอนว่า พวกเรานั้นรับผิดชอบปฏิบัติการที่ทวีปกลางนี่! สานักวังหยกนั้นเป็นหนึ่งในสานักสาคัญในแถบนี้ จะปล่อยให้ความสาเร็จของพวกเขาตกไปอยู่ในมือของคนนอกได้อย่างไร หากเจ้าได้รับมันมา ก็เป็นเพราะโชคของเจ้าเองแล้ว”
“โอ้ เป็นอย่างนี้นี่เอง”
ฟางหยวนยิ้ม
“แน่นอน นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแผนการเท่านั้น พวกเรายังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!”
สิงเหอจื่อดีดนิ้ว และค่ายกลหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาล้อมทุกอย่างที่เป็นวัตถุในสวนเอาไว้
ฟางหยวนเปลี่ยนเุ็นจริงจังขึ้นหลังจากเห็นท่าทางลึกลับจากสิงเหอจื่อ
“กรุณาพูดต่อเถิด!”
“ฟาร์ชูฮาร์บอกเจ้าเกี่ยวกับปฏิบัติการเก็บดวงดาว?”
สิงเหอจื่อยิ้ม
“พวกเขาส่งคนของตัวเองเข้าไปในทวีปตะวันตกและตะวันออก ส่วนทวีปกลางนั้น ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว… ข้าได้ออกแบบค่ายกลเก้าดาราล่องลอยเอาไว้ เจ้าช่วยข้าปรับแก้มันดู!”
จากนั้นสิงเหอจื่อก็สร้างหยกชิ้นหนึ่งขึ้นมา
ฟางหยวนรับมันเอาไว้และแนบลงที่หน้าผากของตัวเอง เขาเห็นแผนที่ของทวีปกลางและยังมีจุดสว่างเรืองมากมาย และยังมีเส้นที่เชื่อมระหว่างจุดเหล่านั้น ทั้งหมดนั้นดูลึกลับมาก
‘เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ…’
เมื่อเขาตรวจดูจุดทั้งหลายอย่างละเอียดแล้ว เขาก็หัวเราะเสียงปร่า
‘ทั้งเจ็ดสิบสองเมืองของประเทศจีนล้วนถูกรวมเอาไว้ในนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการมาโดยตลอดหรือ? เสนอความช่วยเหลือในการป้องกันและแอบซ่อนค่ายกลนี้เอาไว้ภายใน… เดี๋ยวก่อนนะ พวกเขาเริ่มงานนี้เมื่อสิบปีก่อน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะมีระดับอิทธิพลลึกกว่าที่มองเห็น พวกเขาเล่นเกมนี้มานานแล้ว!’
ไม่ต้องคาดเดาใด ๆ เลย เขารู้ว่าคนเหล่านี้นั้นเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ มันน่าจะเป็นการร่วมมือกันของผู้ฝึกตนและตัวตนเหนือธรรมชาติ
คนเหล่านี้นั้นยินยอมจ่ายทุกอย่างเพื่อนาระดับพลังวิญญาณกลับมาอยู่ในระดับที่พวกเขาเคยได้สัมผัส!
“สหาย ท่านคิดว่าอย่างไร?”
สิงเหอจื่อถามยิ้ม ๆ
“น่าสนใจมาก ผมต้องกลับไปศึกษาดูอย่างละเอียดก่อนจึงจะให้คาตอบท่านได้!”
ฟางหยวนตอบอย่างจริงใจ
“ได้ ได้ เชิญเลย!”
สิงเหอจื่อพอใจและโบกมือไปมาอย่างยินดี
สิ่งนี้มีความหมายกับทั้งโลกใบนี้ การใช้พลังของดาวหางและออกแบบค่ายกลที่เข้ากันได้กับของอีกสองทวีป นี่เป็นงานใหญ่และยังยุ่งยาก ฟางหยวนไม่ต้องการให้ความเห็นออกไปโดยเร็วเพราะเกรงจะเป็นการแนะนาแบบผิด ๆ
เขาต้องกลับไปทาการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อแสดงความจริงใจของตัวเองออกไป
อย่างไรเสีย หากปฏิบัติการเก็บดวงดาวล้มเหลวและระดับพลังวิญญาณลดลง ทั้งโลกก็จะกลายเป็นสถานที่อันไร้ชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้ที่อยู่ในระดับเทพหวนคืนและเทพผู้สร้างนั้นก็จะเข้าสู่การหลับใหล หรือพวกเขาอาจจะเร่งอายุตัวเองและตายจากไป มีแค่รักษาสถานการณ์ตอนนี้เอาไว้เท่านั้นที่เหล่าตัวตนเหนือธรรมชาติจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงราชา
คนผู้หนึ่งทรยศหน้าที่ตัวเองได้ แต่ไม่ทรยศผลประโยชน์ส่วนตนแน่นอน!
…
เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับหายนะ และยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง มีการวิจัยเกี่ยวกับผู้วิวัฒน์ที่เป็นที่ยอมรับ ฟางหยวนจึงได้เสพสุขกับการดูแลที่ดีกว่าที่สิงเหอจื่อได้รับด้วยซ้า
เมื่อเขาไปถึงเมืองหุยหมิง เบื้องบนก็มอบบ้านหลังใหญ่ให้เขาพักรวมทั้งทหารยามที่รอรับคาสั่งเขาตลอดทั้งวัน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฟางหยวนมีโอกาสที่จะถูกส่งตัวไปที่เมืองหลวง พวกเขาคงจะสร้างห้องทดลองให้แล้วด้วย
“ว้าว! พ่อคะ พ่อทาได้ยังไง?”
ลอริต้าสารวจบ้านสมัยใหม่หลังนี้รวมทั้งคนรับใช้รอบ ๆ เธอพยักหน้าอย่างพอใจ
“วิถีชีวิตแบบคนรวย”
“เฮ่ย… จะไปรู้ได้อย่างไรเล่า?”
ฟางหยวนส่ายหน้าและให้แองเจิ้ลกับลอริต้าเลือกห้องตัวเอง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือและทิ้งตัวเองลงสู่การวิจัย
เมื่อมีความรู้ของปราชญ์ฉางหลีและยังมรดกของสานักวังหยก ฟางหยวนจึงเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญวิชาค่ายกลที่สุดบนโลกนี้
“น่าสนใจ… เส้นทางทุกสายมุ่งสู่จุดหมายเดียวกันจริง ๆ!”
หลังจากกวาดตามอง ฟางหยวนก็ยืนยันได้ว่าค่ายกลเก้าดาราล่องลอยที่สิงเหอจื่อคิดขึ้นนั้นมีแนวคิดคล้ายกับปราชญ์ฉางหลี
“รากฐานของค่ายกลนั้นวางเอาไว้ที่ทวีปกลางและยังมีแปดสิบเอ็ดดวงตาแห่งค่ายกล โดยที่ห้าสิบเก้าดวงตาวางเอาไว้ในประเทศจีน… “
บนทวีปกลาง ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เพียงประเทศเดียว
ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่ถูกวางเอาไว้นอกประเทศ
“ไม่จาเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตรงนั้นตรงนี้”
ฟางหยวนพบว่าขีดจากัดใหญ่หลวงที่สุดของค่ายกลเก้าดาราล่องลอยก็คือมันไม่สามารถทางานร่วมกับการจัดการของอีกสองทวีปได้โดยไร้รอยต่อและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
ข้อบกพร่องนี้สามารถนามาซึ่งความล้มเหลวของทั้งแผนการได้
โชคดีที่ฟางหยวนนั้นมีพรสวรรค์และเรียนรู้มาเป็นอย่างดี เขาปรับเปลี่ยนค่ายกลได้อย่างง่าย ๆ และเสนอข้อแนะนาบางอย่างเล็กน้อย นี่ก็เพียงพอให้สิงเหอจื่อพึงพอใจและกล่าวชื่นชมเขาอย่างอดไม่ได้
ก่อนที่พวกเขาจะทันรู้ตัว ห้าวันก็ผ่านไปแล้ว
ระหว่างนี้ ผู้อพยพก็ยังหลั่งใหลเข้าสู่เมืองหุยหมิงอย่างต่อเนื่อง พูดได้ว่าครึ่งหนึ่งของประเทศจีนได้ล่มสลายไปและกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าไปแล้ว
แน่นอนว่า สหพันธ์อินทรีทองนั้นได้รับผลกระทบเลวร้ายยิ่งกว่า สัตว์น้ารุกรานประเทศผ่านทางแม่น้าหลายสายและยังร่วมมือกับเหล่าสัตว์บก รัฐบาลแตกแยกและลดการป้องกันเมืองสาคัญบางเมืองลง
สมาพันธ์บลูสตาร์เองก็ทาได้ไม่ดีนักเช่นกัน มีการปรากฏขึ้นของเซอร์เบอรัสเก้าหัวที่แพร่โรคระบาดไปทั่ว รัฐบาลร่วมมือกับคูเรียและส่งทหารระดับหัวกะทิของตัวเองออกไป กระทั่งฟาร์ชูฮาร์เองยังต้องลงมือ แต่พวกเขาก็ทาได้แค่ทาให้มันบาดเจ็บ ไม่สามารถกักตัวมันเอาไว้ได้ ตอนนี้ มันจึงกลับมาแก้แค้นและทาลายเมืองต่าง ๆ ในทวีปตะวันออก
ข้อมูลนี้เป็นเจ้าต้าหนิวรวบรวมให้และฟางหยวนก็ยังคงนิ่งอยู่
แต่ว่าวันนี้ เยี่ยอิงจื่อและเจ้าต้าหนิวก็นาแขกคนพิเศษมาพบเขา