Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 447

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 447

447: ทาลาย
“ดวงตาหินพันปี? ข้ารู้ว่าเจ้าเข้าครอบครองหินพวกนี้อยู่!”
ร่างของฟางหยวนกระตุกแล้วเริ่มขยายใหญ่ขึ้น สมรภูมิแห่งพลังของเขาเริ่มแผ่ออกและร่างของเขาก็ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศขณะมองไปที่ก้อนหินยักษ์
ไม่จาเป็นต้องบอกออกมาเลย นี่เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายในการรักษาชีวิตของมันเอาไว้
ทุกคนก็รู้ดีว่าสัตว์ในตานานอย่างมังกรหรือเฟิ่งหวงนั้นมีอายุขัยยาวนาน
ราชามังกรทะเลก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้ เขาก็แค่ต้องเข้าไปจาศีลแล้วก็ตื่นขึ้นมาในอีกหนึ่งพันปีให้หลัง
แต่ว่า การเป็นวัตถุตามธรรมชาตินั้นมีช่วงอายุขัยที่ยาวนานกว่าเหล่าสัตว์ในตานานเสียอีก
สาหรับสิ่งเหล่านี้แล้วนั้น หลายหมื่นปีผ่านไปราวกับแค่กะพริบตา พวกเขาเพียงแค่ต้องการธาตุของวัตถุนั้น ๆ มาเสริมเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ไปตลอดกาล
สิ่งเดียวก็คือตัวตนเช่นนี้นั้นหาได้ยากยิ่งในอาณาจักรนี้ หายากยิ่งกว่ามังกรเสียอีก
ดวงตาหินพันปีนั้นโชคดีพอที่จะตรวจพบร่องรอยชีวิตของหินก้อนนี้และเข้าครอบครองมันได้สาเร็จ
แต่ว่า ทุกอย่างนั้นก็เป็นที่เข้าใจได้ อย่างไรเสีย ดวงตาหินพันปีก็เป็นบรรพบุรุษที่แท้จริงและยังอาวุโสกว่าสิงเหอจื่อเสียอีก หากเขาไม่เข้าสิงหินก้อนนี้ เขาก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้
“กลายเป็นก้อนหินนี่มันรู้สึกอย่างไรกัน? เลวร้ายมากใช่หรือไม่?”
ฟางหยวนเริ่มพูดจาล้อเลียนก้อนหินยักษ์
อย่างไรเสีย มันก็ต่างไปจากตัวตนในตานานอื่น ๆ การมีชีวิตในแบบวัตถุชิ้นหนึ่ง ดวงตาหินพันปีตอนนี้นั้นมีชีวิตที่ต่างไปจากมนุษย์ และไม่สามารถรับสัมผัสใดได้อีกต่อไปแล้ว
กระทั่งผู้ฝึกตนที่มีความตั้งใจแรงกล้ายังรู้สึกทรมานภายใต้สภาวะเช่นนี้
“รนหาที่ตาย!”
ดวงตาหินพันปีพิโรธแล้ว
ตอนที่เขาคารามออกมา ใบหน้าที่ดูเป็นโครงร่างหยาบ ๆ ก็ปรากฏขึ้นและดวงตาหินดุร้ายคู่หนึ่งก็จ้องมาทางฟางหยวน มันโบกมือ แล้วก้อนหินหนักเป็นหมื่นจินก็ร่วงลงมา
“ทาลาย!”
ฟางหยวนสะบัดนิ้วออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนเป็นดาบสักเล่ม
ประกายดาบวาบขึ้น!
ประกายดาบนี้ไม่ได้รุนแรงนัก แต่ว่าทันทีที่มันสัมผัสกับก้อนหิน มันก็ก่อให้เกิดรอยแตกบนก้อนหินก่อนที่จะตัดหินก้อนนั้นออกเป็นสองส่วน รอยตัดเรียบเนียน
นี่ไม่ใช่ทั้งการโจมตีที่รวดเร็วที่สุดหรือว่ารุนแรงที่สุด มันแค่พอดิบพอดีเป็นที่สุด!
“ดาบอันยอดเยี่ยม!”
กระทั่งดวงตาหินพันปียังต้องเอ่ยชื่นชมเคล็ดวิชาของฟางหยวน “ด้วยทักษะเช่นนี้ แม้จะไม่มีคาถาเวทย์ เจ้าก็นับว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เก่งกาจที่สุดบนโลกนี้แล้ว! เจ้าเป็นใครกันแน่?”
เคล็ดวิชาดาบเช่นนี้ดูเรียบง่ายแต่ว่าซับซ้อนในตัวเอง และยังต้องใช้เวลาหลายปีในการสั่งสมประสบการณ์จนใช้ออกได้เช่นนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทาความเข้าใจได้โดยง่าย
ความเป็นไปได้เดียวก็คือคนผู้นี้ได้สั่งสมภูมิปัญญาเอาไว้มากมาย!
“ปรมาจารย์? หรือว่าเจ้าเป็นปิศาจจากโลกอื่น?”
ปรมาจารย์นั้นหมายถึงคนของโลกนี้ที่มีทักษะสูงส่งที่กลับมาเกิดในรูปลักษณ์อื่น ขณะที่ปิศาจจากโลกอื่นนั้นก็ตามคาคือหมายถึงว่าคนผู้นี้นั้นเป็นศัตรูของคนทั้งโลกใบนี้!
“ไม่ว่าข้าจะเป็นใคร แล้วมันแตกต่างกันที่ตรงไหน?”
ฟางหยวนแค่นเสียง “จะอย่างไหน เจ้าก็ต้องตายแน่แล้วในวันนี้!”
“เจ้าไม่รู้หรอกว่ากาลังพูดอะไรอยู่!”
ดวงตาหินพันปียังรักษาท่าทางสงบเอาไว้ จู่ ๆ ดวงตาทั้งหมดบนร่างของมันก็เริ่มสาดประกายราวกับมีชีวิตขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้น มันก็หลับลงพร้อมกัน
“ฝุบ!”
วินาทีถัดมา ดวงตาหินพันปีลืมตาขึ้นแล้วลาแสงสีทองก็เริ่มสาดไปทั่วทั้งบริเวณนี้
“ครืน!”
ฟางหยวนโบกมือแล้วไฟก็พุ่งออกไปเป็นลา เมื่อเปลวไฟสัมผัสกับลาแสงสีทอง พวกมันก็แข็งตัวเป็นหินและเปลี่ยนเป็นสีเทา จากนั้นหินนั่นก็ร่วงลงจากกลางอากาศและกระแทกลงพื้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“นี่คือ… ลาแสงเปลี่ยนหิน? ความสามารถของก้อนหินนี้ยอดเยี่ยมทีเดียว… เกินคาด!”
อย่างไรเสีย โลกนี้ก็ยังคงเป็นโลกที่มีกฏแห่งธรรมชาติอันเข้มงวด กระทั่งพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นแล้ว มันก็ยังเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปยังเพียงยืดอายุวัตถุต่าง ๆ ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฟางหยวนคิดภาพไม่ออกว่าก้อนหินยักษ์ที่มีพลังถึงเพียงนี้ดารงชีวิตอยู่มาอย่างไร
แน่นอนว่า เรื่องเร่งด่วนตอนนี้ก็คือแสงสีทองที่เรืองรองขึ้นเรื่อย ๆ
“เปลี่ยนสภาพ!”
ด้วยเจตจานงเวทย์ของเขา ฟางหยวนกลายเป็นเงามายา
“ฝุบ!”
ลาแสงเปลี่ยนหินทะลุผ่านเปลวเพลิงและสาดลงที่ร่างของฟางหยวน มันแข็งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะทะลวงผ่านไป
“การเปลี่ยนสภาพร่างกายของข้านั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการกลายไปเป็นวัตถุธาตุ ตามที่ผู้คนจากทางตะวันออกพูด นี่เป็นการผสานกันของธรรมชาติและมนุษย์… เทียบกับครู่สั้น ๆ ของการกลายสภาพของข้าแล้ว ดวงตาหินพันปีนั้นคงส่วนของธรรมชาติเอาไว้ หากข้าปล่อยให้มันแข็งแกร่งขึ้นและฟื้นฟูพลังได้ ผลที่ตามมาคงไม่อาจคาดคิดได้แล้ว”
ฟางหยวนนิ่งอยู่กลางอากาศและดูเอาจริงเอาจังขึ้นมา
จุดประสงค์ของการมาเยือนของเขาก็คือสังหารและแย่งชิง
แต่แล้วก็พบว่าดวงตาหินพันปีนั้นเป็นปัญหาใหญ่แก่ฟางหยวนจริง ๆ
“ถ้ามันบาดเจ็บแล้วยังมีพลังถึงเพียงนี้ หรือว่าตอนที่มันสมบูรณ์ที่สุดมันจะอยู่ที่ระดับเทพผู้สร้างกัน?”
สีหน้าของฟางหยวนเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มคุยกับก้อนหินยักษ์ “ใครจะคิดว่าตัวตนที่มีพลังระดับเทพผู้สร้างจะทอดทิ้งกายเนื้อของตัวเองแล้วกลายมาเป็นสิ่งทึ่มทื่อเช่นนี้กัน? ถ้าเจ้าปล่อยให้ศัตรูรู้เรื่องนี้ ข้าคิดว่าคงจะน่าตกใจเป็นที่สุดทีเดียว!”
“เจ้าเป็นใคร? เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
ดวงตาหินพันปีจ้องมองฟางหยวนด้วยสายตาราวกับจะแผดเผาทุกอย่างและเพียงพอให้ผู้อื่นที่ถูกจับจ้องเช่นนี้ตัวสั่นได้
“ข้าคือฟางหยวน เจ้าควรจะตายไปนานแล้ว เหตุใดจึงยังพยายามมีชีวิตอยู่อย่างน่าสมเพชเช่นนี้ถึงทุกวันนี้กัน?”
ฟางหยวนหัวเราะพลางพูด เขาเหยียดมือออกไป “เก้ามังกรอสนี ฟังคาสั่งข้า! ไป!”
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าเริ่มแลบปลาบอยู่บนฟ้า ทันใดนั้น พวกมันก็รวมตัวกันกลายเป็นมังกรสายฟ้าที่ดูยิ่งใหญ่แล้วพุ่งลงมา
ด้วยพลังทาลายร้างรุนแรง สายฟ้าตวัดใส่ก้อนหินยักษ์อย่างไม่ปรานี
“เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!”
ดวงตาหินเริ่มระเบิดทีละดวงและมีเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังมา
ดวงตาหินพันปีถอยไปหลายก้าวใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “สายฟ้า? เหตุใดเจ้าจึงควบคุมสายฟ้าในอาณาเขตของข้าได้?”
“ต่อให้ที่นี่เป็นเจ้าสร้างขึ้นมา มันก็ไม่ใช่เขตแดนของเจ้า ดังนั้นเจ้าจึงไม่ได้มีอานาจเหนือมัน!”
ฟางหยวนเหยียดมือทั้งสองข้างออกไป “มาสิ อสนีบาต!”
“เปรี้ยง!”
มังกรสายฟ้าทั้งเก้าปรากฏขึ้นบนฟ้าและผสานรวมกันเกิดเป็นค่ายกลอันปราณีต
“ข้าวางค่ายกลเอาไว้ที่นี่ มันถูกร่ายขึ้นมาหลังการทดสอบอยู่หลายปี หากเจ้าสามารถรอดพ้นจากมันได้ วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป!”
ค่ายกลเก้ามังกรสายฟ้านั้นกักดวงตาหินพันปีเอาไว้ข้างใน หลังจากได้ยินเสียงของฟางหยวน สีหน้าของดวงตาหินพันปีก็เปลี่ยนไปและมันก็เริ่มกระวนกระวาย “กาบังห้าธาตุ ปกป้องข้า!”
“ครืน!”
“ครืน!”
ถึงแม้ว่าดวงตาหินพันปีจะบาดเจ็บสาหัสอยู่ แต่ถึงที่สุดแล้วมันก็ยังนับว่าเป็นเจ้าของสถานที่นี้
ประกอบกับคุณลักษณะของหิน มันจึงนับเป็นเรื่องง่ายที่จะควบคุมพลังจากก้อนหินที่รอบ ๆ นี้
แค่ครู่เดียว กาแพงสี่ด้านก็ผุดขึ้นจากพื้น เกิดเป็นการป้องกันที่แข็งแรงเป็นอย่างยิ่งปกป้องดวงตาหินพันปีเอาไว้ด้านใน
การปกป้องนี้เชื่อมต่ออยู่กับผืนดินและไม่เพียงแข็งแรงมาก แต่ยังสามารถซ่อมแซมได้รวดเร็วด้วยการดูดซับพลังจากพื้นดิน หนทางเดียวที่จะทาลายกาแพงป้องกันนี้ก็คือแยกมันออกจากพื้นดินให้ได้
“เจ้ามันก็แค่เด็กโอหัง ข้าจะคอยดูว่าหลังจากนี้เจ้าจะตายเยี่ยงไร!”
ดวงตาหินพันปีคารามลั่น
แต่ว่า วินาทีถัดมา มันก็เงียบไปเมื่อคอถูกคว้าเอาไว้
“ไป!”
เมื่อเปิดใช้ค่ายกลเก้ามังกรอสนี พลังที่มองไม่เห็นก็เริ่มแผ่ไปทั่วบริเวณ
“ซ่า!”
แสงสีขาวแวบผ่านและเกิดการระเบิดรุนแรง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้รุนแรงมาก แต่กาแพง ธาตุ หรือกระทั่งพลังวิญญาณล้วนสลายไปเป็นความว่างเปล่าหลังจากสัมผัสถูก
“ฝุบ!”
ท่ามกลางการระเบิด กาแพงหินถล่มลงมาเผยให้เห็นดวงตาหินพันปี
ครู่ต่อมา เก้ามังกรอสนีก็เริ่มร้องคารามและพุ่งไปหามัน
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าฟาดลงมาแล้วระเบิดออก บนร่างหินยักษ์ปรากฏรอยแตกแล้วแสงจากสายฟ้าก็แผ่ออกมาจากรอยแตกเหล่านั้น
“นี่คือ… พลังแห่งพื้นที่…”
ดวงตาหินพันปีกรีดร้อง “ไม่! ข้าไม่เชื่อ! นี่เป็นไปไม่ได้…”
เสียงนั่นเบาลงเรื่อย ๆ และในที่สุดก็เงียบไป
ในฝุ่นควันหนาทึบ ก้อนหินเริ่มร่วงกราวลงมาจากหินยักษ์และขนาดของหินยักษ์ก็เริ่มเล็กลง
“การทาลายของค่ายกลเก้ามังกรอสนี! ดูเหมือนผลลัพธ์จะไม่เลวทีเดียวใช่หรือไม่?”
เห็นภาพนี้แล้วฟางหยวนก็หัวเราะคิกคัก “ทรงพลังมากพอที่จะใช้ในการต่อสู้”
เดิมที ด้วยการปกป้องของผืนดิน ดวงตาหินพันปีไม่ควรพ่ายแพ้โดยง่าย
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นไม่ได้โง่ เขาเริ่มกระบวนท่าสังหารของตัวเองจากการไล่หยาดพลังออกไปจากรอบบริเวณและตัดการสนับสนุนที่ดวงตาหินพันปีได้รับจากผืนดิน หลังจากนั้นเขาก็ใช้กระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดของตัวเองและดวงตาหินพันปีก็รับกระบวนท่านั้นโดยไม่ได้เตรียมตัวใด
ค่ายกลที่มีความสามารถในการไล่หยาดพลังออกไปนี้นั้นพัฒนาขึ้นมาจากการศึกษาความสามารถพิเศษของแองเจิ้ล
ด้วยความสามารถของเธอที่เป็นเพียงผู้วิวัฒน์ขั้นที่สาม ฟางหยวนจึงใช้มันร่วมกับค่ายกล ทาให้มันสามารถมีผลต่อกระทั่งตัวตนที่มีพลังของพื้นที่
“แน่นอนว่า… มันก็ยังมีขีดจากัดของมันเอง! อย่างแรกเลย มันไม่มีผลต่อความสามารถพิเศษทั้งหมด เมื่อครู่ข้าจงใจใช้มันโดยมีความสามารถพิเศษธาตุดินเป็นเป้าหมายและใช้สายฟ้าเป็นตัวสนับสนุน ในเมื่อสายฟ้าสามารถสู้กับธาตุดินได้ ข้าจึงจัดการมันได้สาเร็จในคราวนี้…”
“แล้วก็ ในฐานะผู้ฝึกตนที่มีความสามารถพิเศษที่ต้องอาศัยหยาดพลังในธรรมชาติ เมื่อคิดถึงความสามารถของดวงตาหินพันปีแล้ว หากไม่เพราะว่ามันมั่นใจในการป้องกันของตัวเองมากเกินไป มันก็คงหนีตายจากกระบวนท่าเมื่อครู่ของข้าไปได้โดยง่ายหากยังระวังตัวอยู่บ้าง… แน่นอนว่า นี่อาจจะเป็นเพราะการที่มันทอดทิ้งร่างมนุษย์ของมันไป!”
หากดวงตาหินพันปียังเป็นผู้ฝึกตนที่เป็นมนุษย์อยู่ ความสามารถพิเศษของแองเจิ้ลอาจจะไม่ส่งผลกระทบกับมันมากเพียงนี้
แต่ว่า ตอนนี้มันมาเกิดเป็นวัตถุ ถึงแม้ว่ามันจะสามารถมีชีวิตยาวนานเป็นอย่างยิ่งและยังแข็งแกร่งขึ้นด้วยคุณสมบัติของหิน แต่พลังของมันก็อิงอยู่กับธรรมชาติ ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบมากขึ้นกว่าเดิม
“ครืน!”
ราวกับฟ้าถล่มลงมา ภูเขาทลายลง
หินก้อนใหญ่สลายเป็นผงไปหลังจากการโจมตีของฟางหยวนและมันก็กองอยู่บนพื้น ราวกับเกิดแผ่นดินไหวเล็ก ๆ ขึ้น
ประกายสีทองกะพริบพร้อมแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยก่อนจะหายไป
“ฝุบ!”
ตอนที่ฟ้ายังคาราม ฟางหยวนก็พุ่งตรงไปทางประกายแสงนั่นแล้วยื่นมือออกไปคว้าเอาไว้ จากนั้นผลึกสีทองก็ปรากฏบนมือเขา
“กล้าหนีหรือ?”
มองใบหน้ามนุษย์ที่บนผลึก ฟางหยวนหัวเราะ
หลังจากการประมือของพวกเขา ฟางหยวนจะปล่อยให้ดวงตาหินพันปีหนีไปได้ง่าย ๆ ได้อย่างไร?
“อั้ก… เป็นไปไม่ได้ ข้าเป็นวิญญาณชะตาและยังมีพลังชะตามหาศาล ข้าจะมาตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
ภายในผลึก ใบหน้าของดวงตาหินพันปีเริ่มบิดเบี้ยว “ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! ดวงจิตจากโลกอื่น ข้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องสังเวย… เข้ามา!!!”

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ