Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 450

เรื่อง Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 450

450: การมาถึง
“ความลับของอาณาจักรนี้ น่าสนใจ!”
ฟาร์ชูฮาร์มองปีกแห่งความมืดบนร่างเด็กสาวแล้วพูดต่อ “ข้าไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับบรรพบุรุษของทั้งสองเผ่าพันธุ์นั้น สิ่งที่เรียกว่าการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างและความมืดนั้นเป็นเพียงการคิดไปเองของเหล่ามนุษย์…”
ฟาร์ชูฮาร์หยุดไปครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แน่นอนว่า แม้พวกเราจะอยู่ในระดับเดียวกันแต่ข้าก็ยังเลื่อมใสในตัวท่าน ข้าอยากรู้ว่าท่านมีอันใดจะบอกและต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน?”
“บรรพบุรุษของทั้งแวมไพร์และมนุษย์หมาป่านั้นยินดีช่วยท่านจัดการกับเซอร์เบอรัสเก้าหัวเป็นการแสดงความจริงใจ”
แม่นางจี๋อินพูดด้วยน้าเสียงที่สงบมาก “นี่เป็นเพราะว่าเซอร์เบอรัสเก้าหัวนั้นเป็นจุดศูนย์กลางของความวุ่นวายและการทาลายล้าง! ตัวตนของมันจะนามาซึ่งปัญหาและขัดขวางพวกเราที่เหลือ!”
“ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับจุดนี้!”
ใบหน้าของฟาร์ชูฮาร์เปลี่ยนเป็นหมองคล้าแต่เขาก็ยังพยักหน้า
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้วิวัฒน์ขั้นที่สี่เหมือนกัน แต่ว่า สิ่งมีชีวิตบางอย่างนั้นไม่สามารถสื่อสารด้วยได้ พวกเขารู้แค่ว่าจะสร้างหายนะ ทาลายล้าง หรือว่าผลาญชีวิตผู้อื่นอย่างไรเท่านั้น
โชคร้าย ที่เซอร์เบอรัสเก้าหัวนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเช่นนั้น
นอกจากนี้ พลังในการฟื้นฟูและรักษาตัวของมันยังยอดเยี่ยม ต่อให้หัวของมันหัวหนึ่งถูกตัดออกไป ก็จะงอกหัวอื่นขึ้นมาแทนในทันที มันก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่เมื่อพันปีก่อน และยังว่ากันว่ามันสามารถสร้างมรณะสีดาซึ่งเป็นสาเหตุการตายของคนในทวีปตะวันออกจานวนนับไม่ถ้วน
เป็นเรื่องเกินความคาดหมายที่เซอร์เบอรัสเก้าหัวตัวนี้จะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ทั้งที่ถูกผู้มีพลังอื่นผนึกเอาไว้แล้วแท้ ๆ
เป็นผนึกนั่นที่ปกป้องมันเอาไว้ และตอนนี้มันก็สลายไปแล้ว
การที่เซอร์เบอรัสเก้าหัวนั้นสามารถอยู่รอดในผนึกมาได้เป็นพันปี กระทั่งในสภาพที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณนี้ทาให้หลายคนหวาดกลัวมัน
“แล้วอย่างไรต่อ… พวกท่านคงไม่ช่วยข้าโดยไม่มีเหตุผลใช่หรือไม่?”
ลาแสงสีทองแผ่ออกจากดวงตาของฟาร์ชูฮาร์
“เพื่อตอบแทน ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้ารับมือกับคนผู้หนึ่งจากทวีปกลาง”
สายตาซับซ้อนผุดวาบผ่านดวงตาของจี๋อินตอนที่เธอพูด
“ใคร? ศัตรูของท่านหรือ?”
ฟาร์ชูฮาร์สนใจขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างไรเสีย เขาก็รู้เรื่องต้นกาเนิดของอาวุธปิศาจผู้นี้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าเธอเพิ่งอายุเพียงสิบปีและผู้อื่นก็พ่ายแพ้แก่เธอยับเยิน เธอไม่เคยมีความแค้นกับผู้ใดมาก่อน
“นั่น…”
เด็กสาวโบกมือแล้วหน้าจอแสงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ บนจอ มีเงาร่างเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่จู่ ๆ ก็แยกออกเป็นสองคนเปลี่ยนเป็นฟางหยวนและเหลย
“ทั้งสองคนอันที่จริงแล้วเป็นคนเดียวกัน ก็คือฟางหยวน!”
เธอชี้ไปที่ฟางหยวนที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวและพูดต่อ “ครั้งหนึ่งข้าเคยพ่ายแพ้ให้แก่ร่างแปลงของเขา เหลย! ดังนั้น ข้าจึงหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้า!”
“ถึงแม้ว่าทวีปกลางจะตกต่าลงในช่วงหนึ่งพันปมานี้ แต่ก็ยังเป็นทวีปที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกต่างๆ โดยเฉพาะผู้ฝึกตนและการฝึกวิชาของพวกเขา พระเจ้าหลายคนก็ถือกาเนิดขึ้นในทวีปนี้และยังมีที่ทรงอนาจหลายคนสร้างห้วงมิติขึ้นมา… ต่อให้พวกเขารอดชีวิตมาเพียงไม่กี่คน ความแข็งแกร่งก็ยังน่ายาเกรงยิ่ง…”
ฟาร์ชูฮาร์พูดต่อ “องค์กรหนึ่งของพวกเขา สานักเร้นกาย นั้นพยายามจะร่วมมือกับผู้ทรงพลังทั้งโลกนี้! ข้าไม่เห็นด้วยกับพวกเขา… แต่ว่า พวกเราก็ไม่ได้มีความคิดที่จะแตกหักกับพวกเขาเช่นกัน พวกเรายังร่วมมือกับพวกเขาระหว่างทะลวงสู่ห้วงมิติด้วย”
“ต่อให้พวกเจ้าร่วมมือกันด้วยจุดประสงค์เดียวกัน แต่มันสาคัญมากที่พวกเราจะมีผู้นาชัดเจนสักคนหนึ่ง!”
จี๋อินพูดต่อ ความหมายในคาพูดของเธอชัดเจน “ทาไมพวกเราที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนจึงไม่ร่วมมือกันล่ะ? จะเป็นปฏิบัติการเก็บดวงดาวหรือว่าการแข่งขันอื่นในโลกใหม่ พวกเราก็ยังต้องมีตัวแทนเพื่อออกสิทธิ์ออกเสียง!”
“คาแนะนานี้ไม่เลวทีเดียว!”
ฟาร์ชูฮาร์ลูบแหวนที่บนนิ้วมือข้างขวาขณะคิด
“เมื่อเป็นพันธมิตรกันแล้ว พวกเราก็ต้องสละผู้ทรงพลังสักคนเพื่อเป็นการส่งคาเตือนสู่คนที่เหลือ! และก็ไม่มีเป้าหมายใดดีไปกว่าคนผู้นี้แล้ว!” จี๋อินพูดอย่างตั้งใจยิ่ง
“โอ้? ทาไมล่ะ?”
ฟาร์ชูฮาร์ดูจะประหลาดใจทีเดียว
“จากข้อมูลล่าสุด เขามีความขัดแย้งกับสานักเร้นกายเพราะเรื่องบางอย่าง ถ้าพวกเราลงมือกับเขาตอนนี้ เขาย่อมไม่สามารถตั้งตัวได้เร็วพอที่จะตอบโต้กลับ!”
เด็กสาวยิ้มและพูดเสริม “นอกจากนี้… ฟางหยวนผู้นี้อายุยังไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้า เขาเป็นหน้าใหม่ท่ามกลางหน้าใหม่และยังไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าคนไหนหรือว่าเพื่อนระดับปิศาจ พลังของตัวเขาเองนั้นนับว่าอ่อนแอมาก”
“เพียงเท่านั้นไม่นับว่าเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่าทาไมท่านจึงไล่ล่าเขา”
ฟาร์ชูฮาร์นั้นมีชีวิตอยู่มาหลายปีและย่อมมีประสบการณ์และข้อมูลต่าง ๆ มากมาย “แล้วก็… ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนผู้นี้กับสานักเร้นกายนั้นแตกหักกันแล้วหรือ? แต่เขาไม่ได้ถูกลงโทษในเรื่องนั้น? นี่หมายความว่าเขาต้องมีอานาจอันพิเศษอยู่ในมือ! ท่านไม่ได้บอกข้าเรื่องนี้ให้ชัดเจน”
“ไม่เลว…”
เด็กสาวหัวเราะและตอบ “นี่เป็นเพราะข้อมูลของข้าก็ไม่ชัดเจนนัก ข้ายืนยันไม่ได้… แต่ข้ารู้ว่าเขาน่าจะสังหารบางคนสาคัญของสานักเร้นกายไป”
“เพื่อที่จะสังหารผู้ที่มีพลังเทียบเท่ากับข้าได้ พลังของเขาต้องน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง!”
ฟาร์ชูฮาร์ส่ายหน้าและพูดต่อ “ช่วยข้าผนึกเซอร์เบอรัสเก้าหัวเพื่อไปเผชิญหน้ากับตัวตนที่น่ากลัวยิ่งกว่า นี่มันไม่น่าตกลงด้วยเลยสักนิด”
“เพราะอย่างนั้น ข้าจึงเพิ่มความลับของอาณาจักรนี้เข้าไปในข้อตกลงด้วยอย่างไรเล่า!”
สีหน้าเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม่นางจี๋อิน “ข้าสงสัยว่าเจ้ารู้สึกอย่างไรกับอาณาจักรนี้? ในเมื่อมีอาณาจักรวิญญาณอยู่ เป็นไปได้ไหมว่าจะมีโลกอื่น ๆ อีก?”
“ผู้มาเยือนจากอาณาจักรอื่น?”
แสงสวรรค์ในดวงตาของฟาร์ชูฮาร์เข้มขึ้นจนแทบจะแข็งตัวขณะที่เขากวาดตามองร่างของเด็กสาวอยู่หลายครั้ง
“ขออภัยด้วย ข้าบอกเจ้ามากกว่านี้ไม่ได้ในตอนนี้ แต่ฟางหยวนผู้นั้นน่ะไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอัจฉริยะทั่วไปหรอกนะ… ข้าสงสัยว่าเจ้าไม่อยากรู้เรื่องนี้มากว่านี้หรือ?”
เด็กสาวมองทูตสวรรค์ด้วยความคาดหวังอย่างยิ่ง
“…”
ฟาร์ชูฮาร์ยังเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ท่านผู้นี้ ขอบคุณที่มาเยือน ได้โปรดกลับไปรอที่ที่พักก่อน ข้ายังต้องคิดให้ละเอียดเรื่องที่ท่านเสนอมา”
“ได้!”
จี๋อินโค้งกายลงและกลับออกไปโดยมีหัวหน้าบาทหลวงดูแลอย่างนอบน้อม
“อาณาจักรอื่นที่ยังไม่ค้นพบ?”
ดวงตาของฟาร์ชูฮาร์เป็นประกาย
การมีอยู่ของอาณาจักรวิญญาณนั้นหมายความว่าอาณาจักรอื่น ๆ ก็น่าจะมีอยู่เช่นกัน
ความไม่รู้นั้นเป็นที่ดึงดูดมากแก่เหล่าสิ่งชีวิตที่มีความฉลาด
นอกจากนี้ การมีความรู้จากอาณาจักรอื่นหรือกระทั่งทางเลือกไปสู่อาณาจักรอื่น ๆ นั้นก็เท่ากับมีไพ่ตายซ่อนไว้ในแขนเสื้อมากขึ้น
ความเย้ายวนเพียงนี้นั้นยากที่จะปฏิเสธต่อให้เป็นพระเจ้าก็ตาม

“ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือว่าผู้ฝึกตนอมตะ ตราบใดที่ยังมีอารมณ์พื้นฐานอยู่ ย่อมล่อลวงได้โดยง่าย!”
ในห้องหรูหราห้องหนึ่ง จี๋อินมองขึ้นฟ้าและจู่ ๆ ก็ยิ้มออกมา “นอกเสียจากว่า… คนผู้นั้นจะเป็นเหมือนเจตนารมณ์ของอาณาจักรนี้ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกและยังอยู่ในสภาพที่สัญชาตญาณก็แทบไม่เหลือแล้ว…”
ถึงแม้ว่าเธอจะเผยข้อมูลบางอย่างออกไปแล้ว แต่เธอก็ยังปิดบังส่วนใหญ่เอาไว้
ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนอันทรงพลังในความทรงจาของเธอ!
“ซ่า!”
ทันใดนั้น ป้ายหยกในมือของเธอจู่ ๆ ก็ส่องแสงสว่างเรืองรอง มีเสียงดังมาจากในนั้นถาม “เป็นอย่างไร?”
“ทุกอย่างเป็นไปได้ดี!”
จี๋อินพลิกนิ้ว แสงและความมืดปรากฏตัวขึ้นทันทีแล้วโอบล้อมทั้งห้องนี้เอาไว้
“ดีมาก… ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะโชคดีถึงกับได้รับสืบทอดบางอย่างจากโลกอื่น! ต่อไปหากมีโอกาส ช่วยสอนข้าด้วยก็แล้วกัน!”
นี่เป็นเสียงที่ถ่ายทอดผ่านทางจิตซึ่งไม่มีทางที่จะแปลความผิด
“ข้าเพียงได้รับเศษเสี้ยวดวงจิตภายนอกเท่านั้น มองจากมุมนี้ พวกเรานั้นเป็นเช่นเดียวกัน มีแต่ฟางหยวนผู้นั้นที่ต่างออกไปอย่างแท้จริง!”
จี๋อินตอบอย่างเคร่งขรึม
“ใช่ ผู้ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของเราย่อมถือว่าเป็นคนอื่น!”
เสียงที่มาจากป้ายหยกนั้นเฉียบแหลมและเด็ดเดี่ยว “พวกเจ้าสามารถเดินหน้าต่อไปและทาตามที่ต้องการ ข้าจะช่วยเจ้าเก็บทุกอย่างเอาไว้เงียบ ๆ ในฝั่งสานักเร้นกาย”
ครู่ต่อมาการสื่อสารก็ถูกตัดไป รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าจี๋อินขณะที่เธอคิด “ผู้ไม่น่าไว้ใจอีกผู้หนึ่ง ความโลภคือบาปใหญ่หลวงของเจ้า!”

เมืองหุยหมิง
“แผนการทั้งหมดถูกวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว! พวกเราทาได้เพียงรอเงียบ ๆ ให้ดาวหางราชาวิญญาณมาถึง!”
ฟางหยวนนอนอยู่บนเก้าอี้มองขึ้นไปบนฟ้าเงียบ ๆ “กระทั่งข้า… ก็ยังปรารถนาจะเห็นทั้งหมดนี้คลี่คลายไปได้ เพียงแต่…”
ในฐานะจ้าวแห่งฝันผู้หนึ่ง คาเตือนที่จู่ ๆ ก็ผุดขึ้นจากในหัวใจแล้วยังอ้อยอิ่งอยู่ในความคิดของเขานั้นหมายถึงอันตรายใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง
“ถึงแม้ว่าสานักเร้นกายจะไม่ได้มีความประทับใจดี ๆ กับข้า หลังจากคุยกับสิงเหอจื่อแล้ว ก็ไม่มีใครไล่ล่าข้า… ผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการลงแรงจัดการข้านั้นไม่คุ้ม”
“ในขณะที่อีกสองทวีปนั้น ข้าก็ไม่ได้มีศัตรูคู่อาฆาตแท้จริง…”
“หรือว่าข้าถูกอาณาจักรวิญญาณจับจ้อง? ไม่ มันไม่น่าสนใจข้าด้วยซ้า! ยังไม่ถึงเวลา ถ้ามันยังรั้นจะมาหาข้า มันย่อมถูกอาณาจักรโลกนี้โจมตี…”
“อย่างนั้น… อันตรายจะมาจากที่ใดกันแน่?”
ฟางหยวนลูบคางและเริ่มตัดตัวเลือกต่าง ๆ ออกไป
ด้วยฐานะและความแข็งแกร่งของเขา มีคนเพียงไม่มากในอาณาจักรนี้ที่จะสามารถคุกคามเขาได้ หลังจากฟางหยวนตัดพวกเขาออกทีละคน สิ่งที่ดูไม่โดดเด่นที่สุดกลับกลายเป็นมีความเป็นไปได้มากที่สุด
“จ้าวแห่งฝันคนอื่น? หรืออาจจะเป็นผู้อาวุโสจี๋อิน?”
ตาแหน่งของอาณาจักรนี้นั้นปรากฏอยู่บนกระดานภารกิจของสมาพันธ์แห่งอาณาจักรอยู่แล้ว ตราบใดที่ระดับถึงและมีตาแหน่งสูงพอ จ้าวแห่งฝันคนใดก็สามารถได้ตาแหน่งของมันและมาที่อาณาจักรนี้
แน่นอนว่า สงครามครั้งใหญ่ที่กาลังจะเกิดและยังอันตรายหลายอย่างของอาณาจักรนี้ มีจ้าวแห่งฝันไม่มากนักที่กล้าข้ามฝันสู่อาณาจักรนี้
ดังนั้น จ้าวแห่งฝันที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดย่อมเป็นผู้อาวุโสจี๋อินแล้ว!
หลังจากพ่ายแพ้อย่างหนักครั้งก่อน นางจะไม่กลับมาแก้แค้นได้อย่างไร?
ต่อให้นางไม่ได้กลับมาแก้แค้น นางก็ยังสามารถจับตาดูอยู่เงียบ ๆ และเตรียมการสาหรับการกลับมาของตนเอง
บางที นางอาจจะไม่ได้มาเอง แต่ก็ยังสามารถมอบภารกิจใหม่ออกมาได้อย่างง่ายดายและสั่งเหล่าศิษย์ของนางให้ข้ามมาได้
“ลอริต้า!”
ตอนที่ฟางหยวนกาลังคิดเช่นนั้น เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและลุกขึ้นทันที
“พ่อบุญธรรม! เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ลอริต้าเข้ามาแล้วคารวะลง
“รีบเคลื่อนย้ายคนของเธอในสหพันธ์อินทรีทองไปเก็บและส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอาวุธปิศาจมา! เอาเฉพาะอาวุธปิศาจคนปัจจุบัน!”
ตอนที่ฟางหยวนไว้ชีวิตอาวุธปิศาจตอนนั้น ก็เพื่อให้เขามีเป้าหมายชัดเจนในเวลาเช่นนี้!
อย่างไรเสีย อาวุธปิศาจก็เป็นร่างจาลองและยังมีพลังมากพอ ถ้าผู้อาวุโสจี๋อินมาที่อาณาจักรนี้จริง ๆ ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเลือกเข้าครอบครองร่างนั้นเพื่อลดทอนปัญหามากมายไปได้
ฟางหยวนส่งคนไปจับตามองมันเอาไว้ ตราบใดที่เขาสามารถเทียบอาวุธปิศาจปัจจุบันกับเมื่อก่อน เขาต้องได้เงื่อนงาบ้าง
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของฟางหยวน ลอริต้าก็ไม่กล้าทาตัวอวดดีเหมือนปกติอีกและรีบรับคาด้วยน้าเสียงจริงจัง
สายตาฟางหยวนดูลึกซึ้งขึ้นขณะมองลอริต้าขอตัวกลับออกไป
การทดลองในอาณาจักรนี้นั้นเกี่ยวข้องกับอนาคตของต้าเฉียน มันคือตัวอย่าง! ดังนั้น ฟางหยวนจึงให้ความสนใจกับมันอย่างใกล้ชิดและไม่ลังเลเลยที่จะกาจัดสิ่งรบกวนใด ๆ และนั่นรวมถึงผู้อาวุโสจี๋อินด้วย!

อ่านตอนอื่นๆของ Carefree Path of Dreams คลิกเลย

แฟนเพจ