Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 306

เรื่อง เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 306

บทที่ 306 สังหารผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด

สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว

“อ๊าก !”

เซี่ยอู่หุ่ยจ้องมองหินวิญญาณเพลิงที่พุ่งตรงเข้ามาด้วยความหวาดผวา และเมื่อสัมผัสได้ว่ากายเนื้อของตนกําลังถูกเผาไหม้ เขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวังอีกทั้งยังแฝงไปด้วยความเคียดแค้นและไม่ยินยอม

องค์รัชทายาทเซี่ยอู่ซุ่ยเป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยานและเจ้าเล่ห์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับความไว้วางใจจากผู้เป็นบิดาให้เป็นผู้นําทัพในครั้งนี้ มันก็ทําให้เขายิ่งมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

ในตอนแรก เขาคิดว่าตนสามารถกวาดล้างอาณาจักรต้าเซียที่อยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุดได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็กอบกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีกลับคืนมา

แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าด้วยความประมาทเพียงชั่วครู่ เขากลับต้องมาตายอยู่ที่นี่!

“ม่ายยย!”

“อ๊ากกก!

หลังจากที่ร่างของเซี่ยอู่หุ่ยและผู้เชี่ยวชาญจุดสูงสุดขอบเขตเสินโหยวผู้นั้นกําลังถูกแผดเผาบรรดาองครักษ์ที่อยู่รอบบริเวณนั้นเองก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเช่นกัน

แต่ทันใดนั้นเอง ผู้เชี่ยวชาญจุดสูงสุดขอบเขตเงินโหยวที่อยู่ข้างกายเซี่ยอู่ซุ่ยก็แสยะยิ้มออกมาแทนที่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ในเวลาเดียวกัน คลื่นดัชนีก็พุ่งเข้าหาเจียงอี้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งทําให้อีกฝ่ายไม่มีเวลามากพอที่จะหลบหนี

“บ้าเอ้ย!”

การโจมตีดังกล่าวนั้นกะทันหันเกินไป เขารีบโคจรแก่นแท้พลังสีดําไปที่ดวงตาและรีบวิเคราะห์เส้นทางการเคลื่อนที่ของคลื่นดัชนีอย่างรวดเร็วพริบตาต่อมาความคิดสายหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา

“ดาบมังกรเพลิง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!”

เจียงอี้หมดหนทางและมีเพียงดาบมังกรเพลิงเท่านั้นที่พอจะพึ่งได้ พลังดัชนีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวนั้นน่าสะพรึงกลัวมากซึ่งสามารถทะลวงผ่านได้แม้กระทั่งภูเขา

ดาบมังกรเพลิงเป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับศักดิ์สิทธิ์และถูกสร้างขึ้นจากวัสดุพิเศษเฉพาะตัว หากแม้แต่มันยังไม่สามารถหยุดยั้งคลื่นดัชนีนั้นได้ เช่นนั้นเขาก็คงทําได้เพียงแค่รอรับความตาย

เมื่อคลื่นดัชนีจวนเจียนจะถึงตัว เจียงอี้ก็รีบยกดาบมังกรเพลิงขึ้นมาไว้ด้านหน้าและใช้มันราวกับโล่ป้องกัน

ยังงงงงง!

เมื่อพลังดัชนีเข้าปะทะกับตัวดาบ มันก็ส่งเสียงดังสะท้อนออกมา ทันใดนั้นเจียงอี้ก็เผยรอยยิ้มที่แสดงให้เห็นถึงความพอใจเมื่อตระหนักได้ว่าดาบมังกรเพลิงไร้ซึ่งรอยขีดข่วน

แต่พริบตาต่อมา รอยยิ้มนั้นก็จางหายไปในบัดดล เพราะแม้ว่าดาบมังกรเพลิงจะแข็ง แรงทนทานแต่แรงกระแทกที่พุ่งเข้ามาก็ทําให้นิ้วมือทั้งหมดของเจียงอี้บาดเจ็บสาหัสและไม่สามา รถยึดจับตัวดาบได้แน่นเช่นเดิม

ส่งผลให้ดาบมังกรเพลิงกระแทกใส่หน้าอกของเขาอย่างจังและส่งเขาลอยกระเด็นไปด้านหลังด้วยลักษณะที่คล้ายกับดาวตก

“อีก!”

ร่างของเจียงอี้กระแทกใส่ทหารนับสิบนายและผลักร่างของพวกเขากระเด็นออกไปเช่นกัน ทหารทั้งหมดที่อยู่ในเส้นทางของเขาต่างก็ถูกกระแทกจนได้รับบาดเจ็บโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามคนแรกที่ถึงขั้นกระอักเลือดออกมา

เจียงอี้จุกจนพูดไม่ออก เขารู้สึกราวกับว่ามีกําปั้นเหล็กขนาดยักษ์กระแทกใส่หน้าอกของเขาอย่างจัง ในเวลาเดียวกัน เขาก็กระอักเลือดออกมาแม้ว่าตัวจะยังลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ

โชคดีที่พลังของเจตจํานงสังหารยังคงแสดงผลและตรึงร่างของเหล่าทหารเอาไว้ มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะนําอาวุธขึ้นมาและรอเสียบร่างของเจียงอี้เป็นแน่

“องค์รัชทายาท!”

“ฝ่าบาท!”

เสียงกรีดร้องจํานวนนับไม่ถ้วนดังระงมอยู่ในอากาศ

รัชทายาทและว่าที่ราชาแห่งอาณาจักรเสินหว้สิ้นพระชนม์แล้ว? เหล่าชนชั้นสูงของอาณาจักรต่างพากันตื่นตระหนก พวกเขาจะอธิบายเรื่องนี้แก่ราชาเซี่ยถึงเวยอย่างไรดี? ดูเหมือนว่าการสูญเสียผู้สืบทอดบัลลังก์ในครั้งนี้ จะทําให้มีผู้คนจํานวนมากถูกประหารเป็นแน่!

“หน็อย! ไอ้สารเลว!”

บรรดาทหารน้อยใหญ่ของอาณาจักรเสินหรู่ต่างก็จ้องเขม็งไปยังเจียงอี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับการสังหารเขา แต่ตอนนี้พวกเขากลับสลัดความคิดนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็จะต้องตาย!

มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่มีหน้ากลับไปรายงานเรื่องการตายของเซี่ยหูยได้ เนื่องจากไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่จะต้องถูกประหาร เพราะแม้แต่ครอบครัวของพวกเขาก็คงจะถูกกวาดล้างเช่นกัน!

พี่บ!

ทันใดนั้น ผู้เชี่ยวชาญจุดสูงสุดขอบเจตเสินโหยวสี่ถึงห้าคนก็ระเบิดพลังออกมาและโถมตัวเข้าใส่เจียงอี้ที่กําลังบาดเจ็บทันที

ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญจุดสูงสุดขอบเจตเสินโหยวอีกสองคนที่อยู่ไม่ไกลจากเจียงอี้มากนักก็ทําการปลดปล่อยการโจมตีออกมาโดยไม่สนใจทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

“ฝ่าบาท..!!”

ไกลออกไป เว่ยกงกงปล่อยเสียงโห่ร้องซึ่งดังสนั่นไปทั่วทั้งสนามรบ เขาเป็นองครักษ์ประจํากายเซี่ยอู่หุย หากเจ้านายของเขาตาย เช่นนั้นเขาก็ต้องตายด้วยเช่นกัน

ร่างอันแก่ชราของเขาทะยานเข้าหาเจียงอี้ราวกับพญาราชสีห์ที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น แต่ ในขณะที่เขาก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าว มันก็ตรงกับจังหวะที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเงินโหยวระดม ปล่อยการโจมตีใส่เจียงอี้พอดี แต่ร่างของอีกฝายของอีกฝ่ายก็หายวับไปเห็นได้ชัดว่าเขา ใช้ศาสตร์แปรผันดวงจิตอีกครั้งแล้ว!

“ตาย! ตาย! ตาย!”

เว่ยกงกงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งขณะที่กวาดตามองไปรอบๆเพื่อมองหาเจียงอื้อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่การจะระบุตําแหน่งของเขานั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างถึงที่สุด เพราะเมื่อเจียงอี้เคลี่อนย้ายในพริบตาครั้งหนึ่งแล้ว โดยไม่ทันรอให้ฝ่ายศัตรูได้เข้าใกล้ ร่างของเขาก็แวบหายไปอีกครั้ง

“ตาย!”

สีหน้าของเว่ยกงกงที่เดิมที่มีแต่ความเฉยชาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธเกรี้ยว ไม่นานนักเขาก็หยุดค้นหาเจียงอี้และหันไปมองซูรั่วเสวี่ยที่ยืนอยู่ห่างออกไปไกลแทน ทันใดนั้นร่างของเขาก็ทะยานออกไปราวกับหมาปาหิวกระหายและตรงเข้าหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

ความตั้งใจของเว่ยกงกงนั้นชัดเจนมาก ตั้งแต่ที่เซี่ยอู่หูยตายไป ตัวเขาเองก็ถือว่าตายไปแล้วเขาต้องการที่จะแก้แค้นเจียงอี้โดยสับร่างอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ แต่ในเมื่อไม่สามารถเข้าถึงตัวอีกฝ่ายได้ เขาจึงเบนความสนใจไปยังหญิงสาวที่เจียงอี้รักมากที่สุดแทน

ภายในสงคราม พลังของซูรั่วเสวี่ยถือว่าอ่อนแอมากและไม่ใช่แค่นางเท่านั้น บรรดาคนจากตระกูลซูทั้งหมดเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่สู้ดีเช่นกัน

หลังจากที่ปลดปล่อยแสงแห่งเสน่ห์เทวะออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถสังหารศัตรูได้นับหมื่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเผาพลาญพลังจํานวนมหาศาล เวลานี้พลังวิญญาณของพวกเขาอ่อนล้าจนถึงขีดสุด มีกระทั่งบางคนที่ล้มฟุบไปกับพื้นเนื่องจากไม่มีแรงที่จะพยุงร่างของ ตัวเอง

“ตายเสียเถอะ!”

การเคลื่อนที่ของเว่ยกงกงนั้นรวดเร็วเกินไป พริบตาเดียวเขาก็เข้าไปใกล้บริเวณที่ซูรั่วเสวี่ยอยู่แล้วทันใดนั้นเขาก็เร่งเร้าแก่นแท้พลังและปลดปล่อยฝ่ามือขนาดยักษ์ออกมา

“เจียงอี้! จงเบิกตาดูวาระสุดท้ายของผู้หญิงของตัวเองไว้ให้ดี!”

เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งของเว่ยกงกงดังมากจนทําให้บรรดาทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องยกมือขึ้นมาปิดหูเนื่องจากแก้วหูของพวกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างกะทันหันในเวลาเดียวกันร่างของเจียง ที่อยู่ห่างออกไปก็หยุดชะงักอย่างฉับพลัน

“เจ้า!”

เจียงอี้ยังคงรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก แต่เมื่อได้ยินคําประกาศกร้าวของเว่ยกงกง เขาก็รีบหันกลับไปมองพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาวลงทันตา

ฝ่ามือยักษ์ของชายชรามีความสูงหลายเมตร เห็นได้ชัดว่ามันคือหนึ่งในรูปแบบเต๋โจมตีหลังจากที่ฝ่ามือถูกปล่อยออกไป มันก็อยู่กลางอากาศเหนือซูรัวเสียและสมาชิกตระกูลซูคนอื่นๆพอดิบพอดี

ดูเหมือนว่าฝ่ามือยักษ์นี่จะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเว่ยกงกงแล้วอีกทั้งยังเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล

เหล่าทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็พยายามที่จะกระโจนเข้ามาเพื่อเสียสละตัวเอง แต่เนื่องจากเป็นเพียงแค่จอมยุทธขอบเขตจําอยู่ ร่างของพวกเขาจึงไม่สามารถขยับไปไหนได้ภายใต้แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญจุดสูงสุดขอบเขตเสินโหยว!

เจียงอี้อยู่ห่างจากซูรัวเสวี่ยมากเกินไปและไม่มีทางไปถึงทันเวลาแน่ เขาทําได้เพียงแค่มองไปยังนางที่กําลังตื่นกลัวราวกับลูกแมวน้อยที่อยู่ต่อหน้าหมาป่าและไม่สามารถทําอะไรได้

ก่อนหน้านี้ เจียงอี้คิดเพียงว่าจะทําอย่างไรถึงจะสังหารเซี่ยอู่หูยลงได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจต่อซูรั่วเสวี่ยมากนัก มันจึงทําให้ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุด

“ไม่นะ”

เวลานี้เจียงอี้รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ว่ายังไงซูรั่วเสวี่ยก็คงไม่รอดแล้ว ในขณะที่นางกําลังจะตายเขาก็รู้สึกราวกับหัวใจของตนนั้นถูกมีดนับร้อยนับพันกรีดแทง

ในเวลาเดียวกันเขาก็พยายามเคลื่อนย้ายพริบตาอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก็ยังคงเป็นภาพของฝ่ามือยักษ์ที่กําลังบดขยี้คนของตระกูลซู!

อ่านตอนอื่นๆของ เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven คลิกเลย

แฟนเพจ