ตอนที่ 2120
“ต่อไปห้ามให้ใครเอาเหล้าให้น้องมันดื่มอีกนะ” หลินเฟิงบดกราม
กรอด ๆ
มั่วเป่ ยยังคงทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม “พี่หลิน พี่ทั้งเขินทั้งโกรธ
จนวีนเลยเหรอ”
หลินเฟิงอยากบอกว่า ใครก็ได้ช่วยเอาเด็กหน้านิ่งนี่ไปเก็บที่อื่นที
เดี๋ยวนี้เลย!
เหตุการณ์ตรงหน้าตลกมาก เพราะยากที่พวกเขาจะได้อยู่รวมกัน
ดังนั้นเมื่อเหยาเย่าคุยโทรศัพท์เสร็จกลับมานั่ง ก็ไม่คิดจะดึงตัวมั่วเป่ ย
ออกจากวงเลยสักนิด
เธอเข้าใจดี ต่อไปโอกาสจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้จะยิ่งน้อยลงเข้าไป
ใหญ่
พวกเราต้องหัดแยกจากกัน นี่คงเป็นการเติบโตในรูปแบบหนึ่ง
ดังนั้นเมื่อมีสายต่อเข้ามาอีก เธอจึงตัดสายทิ้ง คนที่โทรหาเธอเป็น
สาวน้อยคนหนึ่งที่ช่วงนี้ชอบเจียงจั่วอย่างหนัก
คงเพราะถือว่าเธอเป็นน้องของเจียงจั่วจริง ๆ จึงถามอยู่นั่นแหละว่า
เขาชอบอะไร
เธอไม่ค่อยกลับบ้านตระกูลเจียงสักเท่าไรแล้ว ช่วงนี้ก็ไม่ได้ติดต่อ
ใครด้วย
ไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด เพราะทางทีมเริ่มเตรียมการณ์บางอย่างแล้ว
แทบทุกคนรู้ว่านับแต่เทพหลินกับเฮียเย่าลาออก หัวหน้าก็ไม่คิดจะ
เล่นต่อ
การแข่งชิงแชมป์ เอเชียก็จบลงแล้ว คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อปีนั้นก็
ทำได้แล้ว
พูดตามหลักการแล้วย่อมต้องดีใจ แต่กลับยังเสียใจด้วยว่าทำไมต้อง
แยกจากกันด้วยวิธีนี้
เวลานี้เธอหาข่าวคราวของเจ้ลั่วไม่เจอแล้ว คงเพราะคบกันกับเทพ
เซียวอย่างมีความสุขดี
ทว่าในฐานะที่เพิ่งเข้าวงการอาชีพทีหลัง เซวียเหยาเย่าย่อมลืมภาพ
ของสาวผมยาวสยายในความทรงจำที่สวมชุดทีม ยืนหนึ่งเป็นนัก
เวทของเซิร์ฟระดับประเทศไม่ได้
ผู้หญิงหลายคนอยากเป็นอย่างเธอคนนั้น แต่กลับต้องมองเห็นเธอ
ลาออกไปด้วยสภาพดังกล่าว
เซวียเหยาเย่ายกแก้วเหล้าดื่มจนหมดเพื่อข่มอารมณ์หดหู่ลงไป ก่อน
จะหันมองมั่วเป่ ยที่ใบหน้าไร้อารมณ์พลางถือโค้กไว้
เด็กคนนี้ลุกขึ้นแล้วยื่นมือมากอดพลางเอ่ยจริงจังว่า “พี่เหยาเย่า ฉัน
เมาแล้ว”
หลินเฟิงคว้าโอกาสแขวะได้ในที่สุด “ยังรู้ตัวว่าเมาด้วยเหรอ”
“อื้ม” มั่วเป่ ยหันไปมอง “ดาวสุดสวยประจำทีม”
ดาวสุดสวยประจำทีม คำเรียกนี้…หลินเฟิงอึ้งค้าง “ถ้าพรุ่งนี้ฉันไม่
ไปคิดบัญชีกับอาจารย์เธอ ฉันจะไม่ใช้แซ่หลิน!”
มั่วเป่ ยไม่แคร์ เริ่มพูดกับตัวเองว่า “อาจารย์บอกให้ฉันตั้งใจฝึก ต่อไป
ต้องคว้าแชมป์ ให้ได้ คนจะได้ไม่ลืมทีมไดมอนด์”
เหยาเย่าชะงักมือ ก่อนจะแย้มยิ้ม
ใช่ เธอลืมไปได้อย่างไรว่ายังมีมั่วเป่ ยอยู่ด้วย บอกตรง ๆ ว่าการอยู่
ในวงการอีสปอร์ตก็พึ่งพรสวรรค์จริง ๆ
บางคนไม่เหมาะที่จะเล่นอาชีพ
แต่สำหรับมั่วเป่ยถือว่าสมกับที่มีพรสวรรค์ หากเทียบเรื่องพรสวรรค์
แล้ว สิ่งที่ทำให้คนวางใจคือยัยหนูคนนี้มีความรับผิดชอบและมุ่งมั่น
มากทั้งที่อายุยังน้อย ไม่เคยยึดมั่นว่าตัวเองเก่งแล้วละเลยต่อการฝึก
และการเรียน
ไม่น่าล่ะ ฝ่าบาทจิ่วเห็นอีกฝ่ายทีไรเป็นต้องพูดว่า ‘Bey เล่นงาน
คู่แข่งได้น่ากลัวมาก แล้วก็ขี้อายด้วย หยอกนิดหน่อยไม่ได้’
ช่วงก่อนหน้านี้ จ้าวซานพั่งยังโมโหขนาดหนักในกลุ่มท่านเทพเพราะ
เรื่องนี้ ‘เจ้าแบล็ก เมื่อก่อนนายจะอวดหวาน ฉันพอทนได้ แต่นี่เจอ
กันทีไรต้องมาอวดว่าฉันไม่มีลูกศิษย์แต่ตัวเองมี กล้าพูดเนอะ อาย
บ้างไหม!’
ทว่าป๋ อจิ่วแค่ย้อนถาม ‘อิจฉาล่ะสิ?’
อ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลก ‘พรุ่งนี้ฉันจะรับลูกศิษย์เว้ย!’
‘รับไปดิ แต่ยังไงก็เก่งสู้ลูกศิษย์ฉันไม่ได้” แบล็กพีช Z บอก ‘ที่สำคัญ
ที่สุดคือ ศิษย์ฉันทำกับข้าวอร่อยด้วย’
วันนั้น จ้าวซานพั่งถึงกับประกาศรับลูกศิษย์ในโมเมนต์ของวีแชท
โดยมีเงื่อนไขว่า ‘พวกที่จบด้านคหกรรมละได้หมด’
เวลานั้นมีคนเห็นแล้วถึงกับวิจารณ์กันว่าท่านอ้วนจะหันไปเปิด
ร้านอาหารแล้ว
ตอนนี้เขาเปิดร้านอาหารจริง ๆ เหมือนจะไม่ข้องเกี่ยวกับวงการเดิม
สักนิด
บางครั้งเซวียเหยาเย่าก็คิดเหมือนกันว่าอยากเห็นพวกเขาแข่งอีกสัก
นัด
แค่นัดเดียวก็ยังดี
ตอนที่ 2121
จูบจนมึนหัวตาลาย
วันต่อมา
มั่วเป่ยกดศีรษะตัวเอง ลืมไปแล้วว่าได้พูดอะไรลงไป
เด็กหน้าหยิ่งบอกตัวเองว่า ต่อไปถ้าไม่มีอาจารย์อยู่ด้วย เธอจะไม่มี
วันดื่มเหล้าอีก
ทว่าหลินเฟิงกลับคิดเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจัง กำลังขบคิดหาทางจะรุก
คืนสักครั้ง
มาหาว่าเขารุกคืนไม่ได้เพราะหน้าตา เขาน่ะยอมเจ้าหู่ต่างหากโอเค
ไหม
แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด จะไม่อ่อนโยนอีกต่อไป!
หลินเฟิงคิดถึงตรงนี้ก็เห็นอวิ๋นหู่เดินออกจากห้องน้ำ จึงไม่พูดไม่จา
ดับบุหรี่แล้วดันร่างอีกฝ่ายติดกำแพงทันที
กลิ่นเหล้าอ่อน ๆ เจืออยู่ในลมหายใจ คงเพราะดื่มไม่เยอะจึงไม่
เหม็น เหมือนแค่มีกลิ่นหอม ๆ ด้วยซ้ำ
หลินเฟิงหน้าตาดี นี่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็รู้
เสี้ยวหน้าหล่อบีบเข้ามาใกล้ จากนั้นกระชากคอเสื้อเชิ้ตจนเบี้ยว
หล่ออย่างแบดบอยเล็กน้อย “นายจะขึ้นเตียงเองหรือจะให้ฉันบังคับ”
อวิ๋นหูแค่ละสายตามองก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร หยดน้ำยังเกาะที่เส้น
ผมดำสนิท เขาดึงผ้าขนหนูออกก่อนจะตอบอย่างไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันขึ้น
เตียงเอง”
“ว่าง่ายอย่างงั้นเชียว?” หลินเฟิงขมวดคิ้วสำรวจอีกฝ่าย “นายคงไม่
คิดจะปล้ำจูบฉันจนมึนหัวตาลายแล้วใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรหรอกนะ”
อวิ๋นหู่ขำกับข้ออ้างอีกฝ่าย “หืม? ยอมรับแล้วล่ะสิว่าเวลาฉันจูบนาย
ฟินมาก”
“เพื่อน มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ” หลินเฟิงหัวเราะครั้งหนึ่ง
อวิ๋นหู่พยักเพยิดให้อีกฝ่ายมองนิ้วมือของตัวเอง
หลินเฟิงมองตามไปก็เห็นแหวนที่เพิ่งสวมเมื่อคืนที่ผ่านมา มันเป็นสี
ดำและสลักชื่อของอีกฝ่ายไว้
หยดน้ำยังคงไหลหยดจากเส้นผมสีดำของอวิ๋นหู่ ชายหนุ่มหลุบตา
มองเขา “เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีกแล้ว นายจะเรียกฉันว่าสามี หรือ
จะให้ฉันเป็นคนเรียกเอง”
หลินเฟิงอึ้งกับคำพูดของอวิ๋นหู่ เบือนหน้าออกไปแล้วพูด “คำเรียก
มันเลี่ยนอะ”
อวิ๋นหู่ใช้ความคิด พูดต่อว่า “ก็เลี่ยนจริงด้วยแหละ”
หลินเฟิงเสนอ “ต่อไปฉันเรียกนายว่ามิสซิสหลินดีกว่า”
อวิ๋นหู่เงยหน้ามองเหมือนจะหัวเราะ “จะเอาเปรียบฉันด้วยคำเรียก
เหรอ?”
“จะเรียกว่าเอาเปรียบได้ไง ถ้านับเดือนกันฉันโตกว่านายนะ?” หลิน
เฟิงรู้สึกว่าทรงผมนั่นเกะกะสายตามาก จึงโยนผ้าขนหนูทิ้งไปเลย
อวิ๋นหู่รับเอาไว้ หน้ายังยิ้มอยู่ “ต่อให้นายแก่เดือนกว่าฉัน แต่เรื่อง
อื่น หึ”
ตอนแรกหลินเฟิงก็คิดไม่ทันว่าคำพูดอีกคนหมายความว่าอย่างไร
แต่พอคิดออกก็ผลักเขาให้ล้มลงบนขอบเตียง เสื้อเชิ้ตสีขาวและ
กางเกงสูทสีดำให้ความรู้อีกแบบเมื่ออยู่บนร่างเขา
อวิ๋นหูมองหน้าหลินเฟิง เห็นฝ่ายนั้นก้มตัวลงมาหัวเราะที่ข้างหูตัวเอง
“เดี๋ยวนายจะได้รู้ว่ามากกว่าจริงไหม”
อวิ๋นหู่ไม่ขยับ มองดูหลินเฟิงที่กำลังถอดเข็มขัดของเขา
ด้วยฝีมือการต่อสู้ของหลินเฟิง หากเจ้าตัวปรารถนา อวิ๋นหู่ย่อมสู้
ฝีมือไม่ได้
ถึงอย่างไรหากเทียบด้านพละกำลัง เขาย่อมเอาชนะหลินเฟิงไม่ไหว
แน่
อวิ๋นหู่รู้สึกถึงจุมพิตตรงริมหู นัยน์ตาขรึมลงทันใด กระทั่งเสียงยัง
แหบขึ้นเยอะ “นายคิดอยากทำแบบนี้เพราะเรื่องที่คุยกันเมื่อวานใช่
ไหม”
“ฉันอยากทำแบบนี้มานานแล้ว” หลินเฟิงก้มมองอีกฝ่ายบนลงล่าง
“นายเป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลอวิ๋นเลยนี่”
อวิ๋นหู่ค่อย ๆ คลี่ยิ้ม “ดูท่าทางฉันจะทำให้นายอยากเอาชนะได้แล้ว”
หลินเฟิงเห็นอีกฝ่ายยิ้มเย้าแบบนั้น ใบหูก็พลันร้อนผ่าว “นายหยุด
พูดได้แล้ว”
“ได้” อวิ๋นหู่ยื่นมือจะดึงหลินเฟิงเข้ามาใกล้
หลินเฟิงหรี่ตา “อย่าขยับด้วย”
อวิ๋นหู่เอ่ยเสียงแหบ “ฉันให้ความร่วมมือขนาดนี้แล้ว ยังไม่โอเค
เหรอ?”
“นี่นายเชื่อฟังฉันเหรอ” หลินเฟิงกดร่างอีกฝ่ายลงบนผ้านวมก่อนจะ
ทาบทับลงไป เรียวปากแนบตรงซอกคออวิ๋นหู่ ทั้งเท่ทั้งเย้ายวนใจ
“อีกอย่าง ฝีมืออย่างฉันยังต้องให้นายยอมร่วมมือด้วยเหรอ?”