ตอนที่ 865 เตือนด้วยความปรารถนาดี
อู่อีโค้งคำนับให้จากนั้นถึงได้หันกลับไปมองหยางโป” คนนี้คือคุณทานากะ เขาเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้มากที่สุดของทานิกาวะ ”
หยางโปจับมือกับอีกฝ่ายทานากะบีบมืออย่างแรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด หยางโปจึงรู้ว่าชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง !
แต่หยางโปก็ไม่ได้สนใจเพราะเป้าหมายของเขาคือโสมเขียว คนที่ต้องการหยุดเขาไม่ให้ได้
โสมเขียวมาล้วนแล้วแต่เป็นศัตรู !
หลังจากขึ้นรถมาอู่อีและทุกคนก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดจาอะไรกัน หลังจากรถขับมาได้กว่าครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็มาจนถึงโรงแรม
อู่อีแปลกใจมากเธอมองหน้าทานากะ” นี่ใครเป็นคนจัดการ ? ฉันไม่ได้บอกเอาไว้ก่อนแล้วหรือไงว่าให้ตรงไปหาทานิกาวะเลย ทำไมต้องพาเรามาที่โรงแรม ? ”
ทานากะดูสีหน้าลำบากใจ“ คุณหนูอู่อี คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย นี่เป็นการเตรียมการของคุณผู้ชาย ”
อู่อีขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก จึงหันไปพูดกับหยางโปว่า ” ต้องขอโทษด้วยจริงๆฉันทำให้นายต้องลำบากแล้ว ”
หยางโปยิ้มและปัดมือ” แต่ฉันกลับคิดว่าโรงแรมก็ไม่เลวนะ แค่เธอต้องเร่งจัดการให้เร็วที่สุด
ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะสามารถจัดการและทำการคลี่คลายได้โดยเร็วที่สุด! ”
อู่อีพยักหน้า” ฉันหวังว่ามันจะเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ”
หลังจากที่แต่ละคนเปิดห้องของตัวเองเสร็จแล้วทานากะก็ขอไปส่งทั้งสองคน เมื่อเดินมาถึงมุมหนึ่งทานากะก็กระซิบบอกกับหยางโปไปว่า “ คุณอย่ามาหวังสูงเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์
ช่วยดูฐานะตัวเองด้วยคุณหนูอู่อีไม่มีทางคบกับคนบ้านนอกอย่างคุณ และเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรอก ! ”
หยางโปเหลือบมองหน้าทานากะแล้วถามเสียงดังไปว่า” อะไร ? คุณพูดอะไร ? อู่อีหุ่นดีเหรอ ?
ก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันเรียบอย่างกับสนามบินไม่เห็นเหรอ ! ”
สีหน้าของทานากะเปลี่ยนไปทันทีเขากำลังจะเดินไปเบียดหยางโป เวลานี้อู่อีก็เดินตามหลังมาถึงพอดี ทานากะเหลือบมองหยางโปอย่างแค้นเคือง สีหน้าก็กลับมายิ้มแย้มทันที
หยางโปมองดูการเปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้าบนใบหน้าของทานากะก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
อู่อีรู้สึกมึนงงโดยไม่มีสาเหตุ ” นายหัวเราะอะไร ? ”
หยางโปโบกมือ“ ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากยิ้มเฉยๆ ”
ทานากะกระซิบกับอู่อี” เจ้าหมอนี่สมองมีปัญหาหรือเปล่า ? ”
อู่อีจ้องหน้าทานากะตาเขม็ง” อย่าพูดจาไร้สาระ ”
หยางโปเดินกลับไปที่ห้องจากนั้นก็หันไปยิ้มให้ทานากะและไม่ได้พูดอะไรมาก
แต่มันทำให้ทานากะอดที่จะขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
อู่อีกำลังจะเดินกลับห้องแต่ก็ถูกทานากะขว้างเธอเอาไว้ ” คุณหนู นายท่านขอให้คุณกลับบ้าน ”
”เขาขอให้ฉันกลับบ้าน ? พวกเขาสองคนไม่ทะเลาะกันแล้วเหรอ ? ” อู่อีถาม
สีหน้าทานากะเต็มไปด้วยความลำบากใจ“ คุณหนูอู่อี คุณควรจะสนใจเรื่องอื่นสักหน่อยได้ไหม ? ”
อู่อีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“ ฉันไม่สนใจเรื่องอื่นหรอก ฉันสนใจแค่เรื่องนี้เท่านั้น ”
เมื่อเห็นว่าทานากะยังไม่ตอบกลับมาสักทีอู่อีก็ไม่ได้ถามอะไรอีก ” คืนนี้ฉันจะพักอยู่ที่โรงแรม
นายไปจัดการหน่อยก็แล้วกันพรุ่งนี้ฉันอยากเจอเขา ! ”
ทานากะพยักหน้าแล้วหันหลังเดินจากไป
เมื่อมองตามหลังของทานากะอู่อีก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ มีอยู่หลายเหตุผลที่เธอไม่เต็มใจที่จะกลับมา ทานิกาวะและภรรยาของเขามักจะทะเลาะกันเพราะเรื่องของเธอตอนนี้ทานิกาวะป่วยหนัก แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงหาเรื่องทะเลาะด้วยอยู่บ่อยครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นอู่อีก็ยังรู้ดีอีกว่าทานิกาวะดูเหมือนจะมีความตั้งใจที่จะให้เธอแต่งงานแต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการอย่างแน่นอน !
เช่นเดียวกับทานากะที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อสักครู่เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่ตามจีบเธออยู่
พ่อของทานากะเป็นผู้อาวุโสคนสำคัญของกลุ่มอินากาวะเขาได้เป็นเลขานุการของทานิกาวะตั้งแต่อายุยังน้อย ในกลุ่มอินากาวะถือว่าเขาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ แต่อู่อีไม่เต็มใจที่จะยอมรับการตามจีบแบบนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไปอยู่ที่ลอสแอนเจลิส !
อู่อีรู้ดีว่าทานิกาวะเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้วพ่อผู้ให้กำเนิดราคาถูกคนนี้ตามหาเธอพบเมื่อปีที่แล้ว ถึงกับใช้อำนาจวางแผนที่จะจัดงานแต่งของเธอ นี่จึงเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทนได้ ด้วยเหตุผลนี้เธอจึงตกลงให้หยางโปกลับมาด้วย เพราะเธอคิดว่า หยางโปจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและทำให้เธอควบคุมโชคชะตาของตัวเธอเองได้ ! หยางโปที่กำลังนั่งฝึกสมาธิอยู่บนเตียง ไม่ได้คิดคำนึงถึงเรื่องนี้เลย เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ทำไมจู่ๆอู่อีถึงเชื่อว่าเขาสามารถรักษาอาการป่วยของ
ทานิกาวะได้!
แม้ว่าจะอยู่ในเขตชานเมืองแต่พลังลมปราณของที่นี่ก็มีอยู่อย่างไม่เพียงพอ หยางโปฝึกฝนได้ช้ามากทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หยางโปจึงทำได้เพียงค่อยๆผ่อนพลังลมปราณออกมาและหยุดการฝึกฝน และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น ? ” หยางโปถาม
ลัวย่าวหัวถือโทรศัพท์และดูเหมือนจะหยุดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ ” นายรู้ไหม ? เมื่อคืนมีโจรมาที่ห้องของนาย ! ”
“โจร ? ” หยางโปตกใจมาก “ มีของอะไรถูกขโมยไปบ้าง ? ”
”นายสบายใจได้ ไม่มีอะไรถูกขโมยไป ขโมยคนนั้นโง่มากๆเขาอ้วนมากจนติดแหง็กอยู่ที่หน้าต่าง ออกมาไม่ได้ ! ” ลัวย่าวหัวหัวเราะ ฮ่าๆเสียงดัง
หยางโปค่อนข้างแปลกใจ“ ติดแหง็กอยู่ ? ”
”ใช่ นายเดาออกไหมว่าเป็นใคร ? ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปลังเลเล็กน้อย ” ใช่หยางเต๋อเชิงหรือเปล่า ” “ ใช่ เป็นเขา ตอนเช้าเขามาหาฉัน และหวังว่าฉันจะโม้ต่อหน้านายเพื่อช่วยให้เขามาจัดการธุระให้ แถมยังมอบของขวัญชิ้นเล็กๆให้กับฉัน
คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่กลับไปแต่กลับไปซ่อนตัวอยู่ในสวน และรอคอยโอกาสจนฟ้ามืด คิดที่จะเข้าไปในห้องของนายเพื่อขโมยของ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะอ้วนเกินไป ที่จะเข้าไปได้ ! ”
ลัวย่าวหัวหัวเราะไปด้วยในขณะที่อธิบายไปด้วย
หยางโปคิดถึงรูปร่างที่อ้วนท้วมของหยางเต๋อเชิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เพราะเขาพอจะจินตนาการถึงสถานการณ์ในเวลานั้นออก !
“ใครส่งเขามา ” หยางโปถาม
”อู่อี ” ลัวย่าวหัวตอบ “ นายต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้นเวลาที่นายอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
สภาพร่างกายของคุณอวี่เหวินอยู่ในเกณฑ์ที่ดีบวกกับช่วงนี้เขาได้เตรียมวัสดุยาเอาไว้เป็นจำนวนมาก เขาน่าจะสามารถยืนหยัดอยู่ต่อได้สักระยะหนึ่ง ”
หยางโปพยักหน้า“ โอเคฉันจะระวังตัว ” หลังจากวางสาย หยางโปก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เขาพอจะเดาออกว่าเรื่องนี้มีอู่อีชักใยอยู่เบื้องหลังแต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นคำสั่งของอู่อีจริงๆ
แต่มันก็ไม่น่าแปลกเมื่อเบลสันถูกอู่อีจับตัวไปเพื่อนแสนดีอย่างหยางเต๋อเชิงคนนี้คงลืมเขาไม่ได้ !
หลังจากครุ่นคิดอยู่นานหยางโปก็จมดิ่งเข้าสู่ห้วงแห่งการฝึกฝนอีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นข้างนอก เพียงแค่พลังเพิ่มขึ้น เขาก็ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด !
ในอดีตหยางโปคิดเสมอว่าอวี่เหวินเป็นยอดฝีมืออยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ตอนที่เขาออกไป มันจึงทำให้เขารู้ชัดว่า ในความแข็งแกร่งที่มีก็ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เสมอ !
ในวันที่สองหยางโปตื่นขึ้นมากินข้าวเช้าอู่อีก็รีบเข้าไปนั่งตรงข้ามเขาทันที ” ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้หมดแล้ว นายจะได้เจอกับเขาวันนี้ ”
หยางโปเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองอู่อี” ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี หวังว่าเธอจะรักษาสัญญานะ ”
อู่อีไม่พูดอะไรมากหันหลังเดินออกไปด้านนอก จากนั้นหยางโป ก็เดินตามออกไป
เมื่อเจอกับผู้ชายที่ชื่อทานากะคนเมื่อวานนี้อีกครั้งเขาก็ชำเลืองมองไปที่หยางโปอย่างดูถูก
จากนั้นถึงได้หันไปมองอู่อี” คุณหนูอู่อี คุณจะต้องได้รับความกดดันมากแน่ๆ ถ้าคุณพาเขากลับไปด้วย ! ”
อู่อีเหลือบมองเขา“ มันเกี่ยวอะไรกับคุณหรือไง ? ”
ทานากะรู้สึกสำลักออกมาทันที” ผมแค่อยากเตือนด้วยความปรารถนาดี ”
อู่อีไม่ได้พูดตอบโต้อะไรบรรยากาศตรงหน้าจึงค่อนข้างที่จะเงียบ
หยางโปไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเขารู้ดีว่าทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น
ถ้าเขารักษาอาการป่วยของทานิกาวะไม่ได้จริงๆนั้นถึงจะเป็นหายนะ !