143 บทเรียนดีๆล่ะ!
มิโคโตะรีบวิ่งไปที่สำนักงานจัสจ์เม้นสาขา177 จากนั้นเธอก็เคาะประตูอย่างมี
มารยาท ช่วยไม่ได้นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอมาสำนักงานของจัสจ์เม้น แล้วจะให้เธอ
บุกเข้าไปเลยนะเหรอ?
แน่นอนว่าหลังจากเคาะประตู มิโคโตะก็เปิดเข้าไปเลย บอกเป็นนัยว่าเธอกำลังรีบ
และเมื่อมิโคโตะเปิดเข้าไปภาพที่เห็นก็คือ…….
รุ่นพี่ ที่หุ่นดีมาก เธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ สายตาจดจ้องไปในทิศทางหนึ่ง มิโคโตะ
เห็นว่าคิ้วของรุ่นพี่คนนี้กำลังผูกเป็นปม
อีกคนเป็นสาวน้อยที่มีที่คาดผมแบบดอกไม้อยู่บนหัว มีหุ่นเล็กๆหน้าตาน่ารัก
ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ศีรษะเธอฟุบลงไปเล็กน้อย สามารถเห็น
หยาดน้ำตาที่หางตาเธอได้ ดูเหมือนเธอจะได้รับดาเมจบางอย่าง ทำให้เธอไม่กล้า
มองไปมากกว่านี้ สาวน้อยคนนี้ดูตรงกันข้ามกับรุ่นพี่คนนั้นเลย
ส่วนอีกคน เป็นคนที่เธอคุ้นเคยมาก กำลังนั่งบนเก้าอี้สายตาทอดมองออกไปนอก
หน้าต่าง มีแอบเหล่ตามามองไปที่ที่หนึ่งเป็นครั้งคราว ก่อนจะหันกลับไปมองนอก
หน้าต่างด้วยท่าทีที่ดูเย็นชาและโดดเดี่ยว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
สถานการณ์แปลกๆทำให้มิโคโตะตัวแข็ง อึ้งไปเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาขยี้ตาเบาๆ
ภาพที่เห็นก็ยังเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้มันจะดูปกติธรรมดา แต่ทำไมไม่รู้ เธอกลับ
รู้สึกว่ามันแปลกมากๆ
ไม่รู้ว่าวู่หยานเพิ่งสังเกตเห็นหรือเห็นนานแล้ว เขายิ้มให้เธอแล้วพูดว่า
“มาแล้วเหรอ มิโคโตะ……”
มิโคโตะรีบก้าวเท้าเดินมาข้างตัววู่หยาน แล้วถามทั้งๆที่ยังขมวดคิ้ว “เกิดอะไร
ขึ้น? จากที่ฟังจากโทรศัพท์เมื่อกี้ ไม่ใช่ว่านายกำลังลำบากอยู่หรอกเหรอ?”
“…อ่า….” วู่หยานถอนหายใจ มองมิโคโตะด้วยสายตาสงสาร แล้วยกมือไปวาง
บนไหล่เธอ จากนั้นพูดอย่างจริงจังว่า “มิโคโตะ ในที่สุดฉันก็เข้าใจความรู้สึกที่เธอ
ต้องเจอทุกวันแล้วล่ะ……”
“ห๊ะ?” มิโคโตะงุนงง
อีกด้านหนึ่ง โคโนริกับอุยฮารุก็เดินมา ทั้งสองคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป คนแรกมี
สีหน้าอยากรู้อยากเห็น คนหลังตาเป็นประกาจดุจดวงดาว ราวกับแฟนคลับผู้บ้า
คลั่งได้เจอคนดาราที่ชอบ
“เธอเป็น เอซของโทคิวะได มิซากะ มิโคโตะ คนนั้นน่ะเหรอ?” โคโนริ มองสำรวจ
มิโคโตะ ดูว่ามีอะไรแตกต่างจากคนปกติบ้าง จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
เจอกับคนแปลกหน้า มิโคโตะจะมีมารยาทมาก นับประสาอะไรกับอีกฝ่ายที่เป็น
รุ่นพี่ “คะ! ฉันชื่อ มิซากะ มิโคโตะ สวัสดีคะรุ่นพี่!”
“ไม่ต้องสุภาพแบบนั้นก็ได้ ฉันชื่อ โคโนริ มิอิ สวัสดีคุณ มิซากะ!”
“สะ…สวัสดีคะ รุ่นพี่ มิซากะ ฉันชื่อ อุยฮารุ คาซาริ ค่า……” แก้มอุยฮารุแดง
เล็กน้อย ขณะที่ทักทายสวัสดีมิโคโตะอย่างเหนียมอาย
“เอ่อ คือต้องขอโทษจริงๆนะที่มารบกวนพวกเธอน่ะ…..” มิโคโตะยกนิ้วเกาแก้ม
ภาพสามสาวทำความรู้กันทำวู่หยานยิ้มแห้งๆ ที่จริงพวกเธอควรรู้จักกันอยู่แล้ว
การที่มาเห็นทั้งสามทำความรู้จักกันทำวู่หยานรู้สึกแปลกๆ
แต่นี่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะเวลาที่เขาเข้ามาโลกนี้มันเป็นหนึ่งวันก่อนที่เนื่อเรื่องจะ
เริ่ม ดังนั้นช่วงเวลานี่พี่สาวเรลกันจึงยังไม่รู้จักอุยฮารุกับโคโนริ
มองดูสาวพูดคุยกันแถมดูเหมือนยาวขึ้นเรื่อยๆด้วย วู่หยานจึงพูดแทรกไปว่า
“เอ่อ คุณผู้หญิง ตอนนี้ฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”
ได้ยินเสียง สามสาวกหยุดคุย โคโนริยกนิ้วดันกรอบแว่น พูดว่า “คุณมิซากะ
โปรดดูแลเพื่อนคุณดีๆด้วย อย่าให้เขาออกมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกนะ
คะ ต้องรู้นะว่าผ๔ชายคนนี้มีคดีเก่าเยอะมากเลย…..”
วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ไม่รู้จะตอบไปไงดีเลย มิโคโตะเองก็เหมือนกัน แน่นอน
เพราะเธอรู้ถึงสถานการณ์ของวู่หยานดี ถ้าเกิดวู่หยานไปลวนลามสาวๆล่ะก็ เธอ
คงปล่อยฟ้าผ่าใส่ตั้งนานแล้วล่ะ……
เธอเหลือบตาไปมองวู่หยาน เห็นเค้าทำแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ราวลูกหมาน้อย ทำมิ
โคโตะหลุดขำออกมา ก่อนจะนึกอะไรออก แล้วมองไปรอบๆห้อง
“ใช่แล้ว คุโรโกะล่ะ?”
ห้องกลายเป็น เงียบกริบทันที……
มิโคโตะมองอุยฮารุกับโคโนริที่เงียบไป ก่อนจะหันไปหาวู่หยาน “เกิดอะไรขึ้น?
หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุโรโกะงั้นเหรอ?”
“มะ…ไม่เป็นอะไรค่ะ….สบายดีค่ะ…” อุยฮารุยกมือสะบัดไปมาต่อหน้ามิโคโตะ
แค่ดูก็รู้ละว่าเธอดูหวาดกลัวขนาดไหน
“คุณชิราอิ ได้รับการแจ้งงานค่ะ เลยออกไปข้างนอกแล้ว…..” โคโนริรีบลากอุยฮา
รุไปด้านหลัง แล้วพูดยิ้มๆกับมิโคโตะ แน่นอนว่าถ้าสังเกตุมากพอจะเห็นว่าสีหน้า
เธอดูไม่เป็นธรรมชาติ
“อ่อ เป็นแบบนี้เอง!”
“เอาล่ะ มิโคโตะเราไปกันเถอะ…..” วู่หยานดึงตัวมิโคโตะ แล้วเดินไปที่ทางออก
“งั้น รุ่นพี่โคโนริ คุณอุยฮารุ พวกเราไปก่อนนะ…..”
โคโนริกับอุยฮารุรีบพยักหน้า แตกต่างเมื่อกี้ที่กะจะคุยกับมิโคโตะยันค่ำอย่างเห็น
ได้ชัด ทำให้มิโคโตะเอียงหัวอย่างงุนงง ก่อนจะรีบไล่ตามวู่หยานไป
หลังจากพวกวู่หยานไป โคโนริกับอุยฮารุหันมามองหน้ากันก่อนจะเดินไปที่ใต้โต๊ะ
หนึ่ง แล้วมองเข้าไปข้างใน…….
มี คุโรโกะ ที่มือเท้าโดนมัดไว้หมด ปากก็มีผ้าอุดไว้ เธอร้อง ‘อือ! อือ! อือ!’
สองสาวยิ้มอย่างขมขื่น ราวกับไม่แปลกใจ จากนั้นดึงคุโรโกะออกมาแล้ว แล้วแก้
มัด
“เจ้าเศษขยะนั่น! กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้! ฉันจะฝังแกทั้งเป็นเลยคอยดู!!”
เพิ่งเอาผ้าอุดปากออก คุโรโกะแหกปากทันที ทำให้โคโนริกับอุยฮารุต้องยกมือ
ขึ้นมาปิดหู
โคโนริฝืนยิ้ม แล้วช่วยแก้มัดต่อ ขณะเดียวก็พูดว่า “ชิราอิ นี่จะว่าเขาก็ไม่ได้นะ
ใครใช่ให้เธอไม่ฟังที่คนอื่นพูดล่ะ แถมยังคิดจะเทเลพอตโทรศัพท์เข้าตัวเขาอย่าง
ไร้เหตุผลอีก…..”
“แต่ไอ้ขยะนั่นมันมีความคิดสกปรกกับคุณพี่ ในฐานะที่ฉันเป็นองครักษ์ของคุณพี่
แล้วฉันจะทนให้เจ้านั่นมีชีวิตต่อได้ยังไงกันล่ะคะ!”
คุโรโกะพูดขึ้น ก่อนจะนึกอะไรได้ เธอก็ตะโกนเสียงดังว่า
“ใช่แล้ว! คุณพี่! คุณพี่ตามไอ้ขยะนั่นไป! เจ้านั่นต้องวางแผนพาคุณพี่ไปในที่ที่ไม่
มีมคนแล้วทำเรื่องอย่างว่ากับคุณพี่แน่เลย!!”
“ไม่ได้การแล้ว! คุณพี่ค่ะ! คุณพี่โปรดรอหนูก่อนนะคะ! คุโรโกะกำลังจะไปช่วย
แล้ว!”
เสียงตะโกนนี้ได้ดังกึงก้องไปทั่วสำนักงานจัสจ์เม้น……
แต่น่าเสีย ที่คุณพี่เค้าไม่ได้ยิน แถมเรื่องทำอย่างว่าน่ะ ไม่รู้ว่าทำกันไปกี่รอบแล้ว
ล่ะนะ…….
อีกด้านหนึ่ง ภายใต้การอธิบายของวู่หยาน มิโคโตะตึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
“หรือก็คือสถานะของนายเป็นพวกนักเลงสินะ……” พูดแบบนี้ สายตาที่มองวู่
หยานเต็มไปด้วยความสุข
“ใช่แล้ว ดังนั้นเธอย่าออกจากหอไปมีเรื่องกับพวกนักเลงล่ะ…..” วู่หยานพูดด้วย
ความไม่พอใจ ทำให้มิโคโตะขำก๊ากอีกรอบ
หลังจากหยุดหัวเราะ มิโคโตะก็พูดด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “ไม่รู้ว่าฮินางิคุ อิ
คารอส แล้วก็ แอสเทรียจะเป็นยังไงบ้าง?……”
“เอาน่า อย่างน้อยๆก็ไม่กลายเป็นพวกนังเลงแน่นอน……” ถึงพูดไปแบบนั้น แต่
ใจจริงวู่หยานอยากเห็นสามสาวในคราบสาวนักเลงถือไม้เบสบอลแล้วก็มีผ้าปิด
ปากมากฮ่า
ไม่รู้ว่านึกอะไรออก อยู่ๆวู่หยานก็หัวเราะออกมา “มิโคโตะ เธอคุ้นเคยกับเมือง
แห่งการศึกษา เพราะงั้นฉันฝากหาพวกฮินางิคุด้วยล่ะ!”
“แล้วตัวนายล่ะ?” มิโคโตะหยุดเดินแล้วหันไปมองวู่หยาน ราวกับจะมองทะลุเข้า
ไปในใจเขา
วู่หยานยิ้ม แล้วยกมือลูบผมเธอ “ฉัน? แน่นอนว่าต้องมีแผนอยู่แล้ว!”
โดนวู่หยานลูบหัว ปกติมิโคโตะจะเขินอาย แต่ตอนนี้เธอกำลังมองวู่หยานด้วยสี
หน้าจริงจัง จากนั้นพูดเสียงอ่อนๆว่า
“อย่าฝืนตัวเองนะ…..”
วู่หยานพยักหน้า แต่มิโคโตะก็ยังคงไม่สบายใจ “นายห้ามทำอะไรคนเดียวนะ
สัญญามาสิว่าพวกเราต้องทำด้วยกันน่ะ…..”
วู่หยานพยักหน้า แล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง…..