Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 32

เรื่อง สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 32

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 32 เน่าเปื่อย
บทที่ 32 เน่าเปื่อย
โดย
Ink Stone_Fantasy
ตึกอิ่งชวน

เรียกที่นี่ว่าศูนย์การค้าอาจจะเหมาะกว่า เพราะมีร้านรวงต่างๆ นานาตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นห้า

ที่นี่เป็นสถานที่ดึงดูดพวกวัยรุ่น ด้วยเพราะมีร้านอาหารชั้นเลิศ ร้านเสื้อผ้า และร้านเครื่องประดับ เป็นต้น

แต่ไม่ได้หมายความว่าร้านรวงที่นี่จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะมีร้านค้าประเภทเดียวกันมากมาย วันหนึ่งเจ้าของร้านอาจขายไม่ได้เลยก็ได้

ดังนั้นตอนที่มีลูกค้าเดินเข้ามา บรรดาเจ้าของร้านก็จะขึ้นราคาตามใจชอบ…เอ่อ ให้การต้อนรับลูกค้าอย่างกระตือรือร้น

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงลองแวะเข้ามาดูได้นะคะ! เครื่องประดับของเราเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องเงินเป็นไงคะ? เงินบริสุทธิ์ 92.5% ทั้งหมด…ไม่อย่างนั้น คริสทัลก็ดีค่ะ! โรสควอตซ์* เลยนะคะ! โรสควอตซ์ช่วยนำโชคดีมาให้ได้ ซื้อให้แฟนคุณสักเส้นเถอะค่ะ! แฟนสวยขนาดนี้ จะปล่อยให้ข้อมือโล่งได้ยังไงล่ะคะ”

แม่ค้าคนนี้ราวกับติดปืนกลไว้ที่ปาก จนเจ้าของสมาคมซึ่งทำธุรกิจค้าขายเหมือนกันต้องละอายใจ

ใช่แล้ว คู่วัยรุ่นชายหญิงที่เดินเล่นมาถึงตรงนี้ย่อมต้องเป็นเจ้าของสมาคมและคุณสาวใช้

“เถ้าแก่เนี้ยเคยเห็นสร้อยแบบนี้ไหมคะ?” โยวเย่หยิบมือถือออกมาเปิดรูปรูปหนึ่งให้ดู

‘สร้อยที่มีจี้คริสทัลสีดำเส้นหนึ่ง’

“ อืม…คุ้นอยู่นะ” คุณป้าขายเครื่องประดับครุ่นนคิด แล้วพูดอีกว่า “แต่ของแบบนี้เห็นได้บ่อย…อืม พวกคุณอยากหาแบบเดียวกันเหรอ? ลองดูแบบของพวกนี้ได้นะคะ รูปแบบก็ไม่ต่างกันมากหรอกค่ะ! ถ้าถูกใจ ตอนนี้ร้านเราจัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อครบหนึ่งร้อยหยวนแถม…”

คุณสาวใช้ยื่นมือไปแตะบนหน้าผากของเธอเบาๆ คุณป้าที่พูดน้ำไหลไฟดับก็เงียบไปทันที

ทางฝั่งนั้น เจ้าของร้านลั่วกำลังมองพิจารณาเครื่องประดับของร้านค้าเล็กๆ ร้านนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เงี่ยหูฟังการซักถามของคุณสาวใช้ไปด้วย

“คุณลองนึกดีๆ นะคะ คุณจำสร้อยเส้นนี้ได้ไหม? เมื่อสามเดือนก่อน”

นั่นทำให้เถ้าแก่เนี้ยร้านเครื่องประดับจมดิ่งสู่ห้วงจิตสำนึกระดับลึก พูดง่ายๆ ก็คือ การสะกดจิตอย่างหนึ่งที่ทำให้คนนึกย้อนถึงความทรงจำหยุมหยิมพวกนั้น

“สามเดือนก่อน…” คุณป้ามองร้านตัวเองอย่างเลื่อนลอย ผ่านไปสักพักหนึ่งถึงได้พูดว่า “ฉันนึกออกแล้ว…สามเดือนก่อนมีคนเข้ามาขายสินค้า แล้วยัดเยียดสินค้าล็อตหนึ่งให้ฉัน ยังบอกอีกว่าเป็นคริสทัลเกรดดี ฉันเห็นว่าราคาถูกก็เลยรับมาส่วนหนึ่ง แต่มันขายออกยากจริงๆ…อืม น่าจะมีผู้หญิงคนหนึ่งมาซื้อไป”

“คุณยังจำลักษณะของคนขายได้ไหมคะ…ไม่ต้องเครียดนะคะ ค่อยๆ นึก คุณนึกได้แน่…ผ่อนคลายหน่อยค่ะ”

ระหว่างที่พูด คุณสาวใช้ก็หยิบดินสอและกระดาษขาวออกมา ก่อนส่งไปไว้ในมือเถ้าแก่เนี้ยคนนี้ แล้วใช้เล็บแตะไปบนหน้าผากของเถ้าแก่เนี้ยเบาๆ

จากนั้นเถ้าแก่เนี้ยก็เริ่มใช้ดินสอวาดบางอย่างลงไปในกระดาษในช่วงที่ไม่ได้สติ…เป็นภาพเหมือนคนผู้หนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน

“นายท่าน เธอคงรู้เรื่องไม่เท่าไรแล้ว” คุณสาวใช้ถือกระดาษสีขาวที่มีใบหน้าของคนผู้หนึ่งมาข้างหน้าลั่วชิว

เขาเบนสายตาจากตู้โชว์มาที่รูปภาพบนกระดาษขาวนี้ หลังจากมองอยู่แป๊บหนึ่ง…คาดไม่ถึงว่าจะวาดได้เหมือนมีชีวิตจริงๆ

แต่ลั่วชิวกลับไม่มีภาพจำเกี่ยวกับผู้ชายในภาพนี้เลย

สวมแว่นตา ข้างๆ ตาซ้ายมีไฝเม็ดหนึ่งซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง นอกนั้นก็แค่คนหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง

“คุณป้าคนนี้ขายของที่ได้ออกไปหมดแล้วหรอ?”

“เหมือนขายให้แค่จ้าวหรูค่ะ” โยวเย่หยิบกล่องใบหนึ่งจากใต้ตู้ของคุณป้าออกมาเปิดแล้วพูดว่า “ที่เหลืออยู่ที่นี่แล้วค่ะ…จากที่เถ้าแก่เนี้ยคนนี้เล่า พวกนี้ขายออกยาก เธอก็เลยวางไว้ล่างสุดของตู้ ถือซะว่าโดนเอาเปรียบไปครั้งหนึ่ง”

ลั่วชิวหยิบสร้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมาจากในนั้น แล้วลูบไล้ไปพลางพูดว่า “ไม่ใช่ของแบบเดียวกัน”

“สร้อยเส้นนั้นอาจแค่ปนเข้ามาอยู่ในนั้น”

ลั่วชิวยิ้มแล้วปิดกล่องใบนี้ “ตอนนี้ดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพชรดำเม็ดนั้นหรือว่าสร้อยคริสทัลของจ้าวหรู เหมือนมีคนตั้งใจปล่อยออกมาอย่างนั้น เธอบอกว่าในนั้นมีพลังงานที่ใช้หลอกล่อให้มนุษย์เผยความปรารถนาจากก้นบึ้งหัวใจได้ เหมือนสมาคมของเราสินะ…น่าสนใจจริงๆ”

โยวเย่พูดอย่างเฉยชา “นี่เป็นวิธีการชั้นต่ำ ใช้ขยายเจตนาชั่วในใจคนเท่านั้น ไม่ได้เห็นแก่นแท้โดยตรง จะเทียบกับสมาคมของเราได้ยังไงคะ”

ลั่วชิวยิ้มแล้วไม่พูดอะไรอีก

“นายท่านคะ ฉันจะลองหาคนในภาพเหมือนที่ที่เมืองนี้ก่อนแล้วกันนะคะ”

“ไม่ต้อง” ลั่วชิวส่ายหัวเล็กน้อย “ถ้ามีวาสนาคงได้เจอกัน”

คุณสาวใช้รู้ว่าการคาดเดาของเจ้าของสมาคมแม่นยำมาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่ได้ซักไซ้ไตร่ถามต่อไป

แล้วลั่วชิวก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยเพราะค้นพบอะไรบางอย่าง เขาเปิดตู้ใบหนึ่งในร้านเครื่องประดับ แล้วหยิบสร้อยถักทำมือเส้นหนึ่งที่มีไพฑูรย์สีอำพันร้อยไว้สามเม็ดออกมาจากในนั้น

เขาคลายปมออก จากนั้นก็ยกข้อมือซ้ายของโยวเย่ขึ้นมา แล้วสวมมันเข้าไป

“กลับกันเถอะ”

เจ้าของร้านลั่วเดินเอามือไพล่หลังออกจากร้านเล็กๆ นี้มา

แน่นอนว่าเขาจ่ายเงินแล้ว

ในสถานีตำรวจ

“ตรวจสอบได้แล้ว จากส่วนผสมของยานี้น่าจะเป็นยาต้านมะเร็งชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Chidamide**”

“ยาต้านมะเร็ง?” หม่าโฮ่วเต๋อขมวดคิ้ว…เหล่าฉินที่อยู่ตรงหน้าบอกว่าเป็นยาต้านมะเร็งก็ต้องเป็นยาต้านมะเร็งแน่นอนแล้ว เขาบ่นพึมพำขึ้นมาอยู่พักหนึ่ง “เหล่าฉิน คุณเดาสิว่าผมเจอยานี้จากที่ไหน?”

“ไม่สน”

“…”หม่าโฮ่วเต๋อกะพริบตาแก้เก้อ แล้วจึงพูดต่อว่า “ผมหาเจอจากในห้องกู้จยาเจี๋ย มันตกอยู่บนพื้น น่าจะบังเอิญกลิ้งเข้าไปในพรม ตอนแรกเลยไม่มีคนสังเกตเห็น”

เหล่าฉินรีบลุกพรวดพราด แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่พูดโต้แย้งใดๆ หม่าโฮ่วเต๋อเห็นดังนี้จึงถามอย่างงงงันว่า “นี่?? คุณจะไปไหน?”

“ผมจะตรวจสอบศพของกู้จยาเจี๋ยอีกสักหน่อย”

บนถนน เฉินเหมยห่วนหันไปมองด้านหลังของตัวเองเป็นระยะๆ อีกทั้งยังเร่งฝีเท้าเดิน จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านเช่าของตัวเอง หลังจากปิดประตูจนแน่นสนิท ก็ยังคงไม่สบายใจ

เธอมองผ่านตาแมวบนบานประตู หลังจากไม่เห็นคนอยู่นอกประตู ถึงได้ถอนหายใจ

‘ระแวงเกินไปหรือเปล่านะ?’

เธออดถามตัวเองแบบนี้ไม่ได้ เฉินเหมยห่วนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอวางอาหารที่ออกไปซื้อข้างนอกไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงได้เอาน้ำร้อน เดินเข้าไปในบ้าน

ถึงจะบอกว่าลูกชายของเธอเริ่มขยับตัวเองบ้างแล้ว แต่ก็เป็นการกระทำง่ายๆ ไม่ได้ถึงระดับช่วยเหลือตัวเองได้เลย

“ยืนขึ้นสิ แม่จะเช็ดตัวให้ลูก”

เฉินเหมยห่วนถอดเสื้อของลูกชายออก แล้วเริ่มเช็ดจากด้านหลังเขา…เช็ดหลังให้ลูกชายมาหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มองเห็นบาดแผลมากมายบนตัวเขา เธอก็ทุกข์ใจจนน้ำตารื้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

‘ผู้ชายคนนั้น…เป็นปีศาจร้ายชัดๆ ใจดำตีเด็กจนเป็นขนาดนี้ได้ยังไง’

“ทำไมลูกไม่บอกแม่เลย” เฉินเหมยห่วนถามด้วยเสียงแหบแห้ง…แม้ว่าเธอไม่อาจได้รับคำตอบก็ตาม

“แต่ไม่เป็นไรแล้ว อีกแป๊บเดียวพวกเราก็จะไปจากที่นี่แล้ว” เธอจับบ่าลูกชายแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “พวกเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กัน เหมือนเมื่อก่อนยังไงล่ะ พวกเราจากพ่อที่เหมือนไอ้สารเลวนั่นมา แม่ก็เหลือแค่ลูกเท่านั้น ครั้งนี้แม่จะต้อง…”

เธอลูบหัวลูกชายเบาๆ แต่สีหน้ากลับเปลี่ยนไปทันที

ผม…ที่เธอสางให้ลูกชายหลุดติดนิ้วเธอออกมามากมาย

ผมทีละกำ ทีละกำ

“เป็นแบบนี้ได้ยังไง! ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ไม่จริง!”

เธอรีบหยิบผมพวกนี้ขึ้นไปปิดหนังหัวอย่างร้อนรน แต่มันกลับติดมือออกมามากกว่าเดิมจนเธอทำอะไรไม่ถูก …เธอไม่อาจหยุดผมหลุดร่วงพวกนี้ได้เลย

เขา…กำลังเน่าเปื่อย

*โรสควอตซ์หรือหินกุหลาบ เป็นอัญมณีในตระกูลควอตซ์อีกชนิดหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิดมาจากการผสมรวมตัวกันของธาตุไทเทเนียม เหล็ก และแมงกานิส จนเกิดเป็นสีชมพูสวยงาม และมีความนุ่มนวลอ่อนหวานในตัวเอง

**Chidamide ชื่อยาชนิดหนึ่ง

อ่านตอนอื่นๆของ สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด คลิกเลย

แฟนเพจ