Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 24 สลัดออก

เรื่อง สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 24 สลัดออก

“…สุดท้าย ผมก็ฆ่านีโรตาย”

คุกใช้อุปกรณ์สื่อสารที่ได้มาจากตัวของนีโรติดต่อกับสมาคม

ทางนั้นเงียบฟังการรายงานจากคุก หลังผ่านไปนานถึงมีเสียงตอบกลับมาว่า “ทรราชมักจะควบคุมได้ยากเสมอ ผ่านมาตั้งหลายปีกลับมีแค่นีโรคนเดียวที่สืบทอดดาบยามะได้ แต่เรื่องนี้ก็ต้องโทษตัวเธอเองที่ทำให้นายโมโห ได้ความตายเป็นผลลัพธ์ก็สมควรให้เธอรับผิดชอบเอง…อืม เก็บดาบยามะกลับคืนมาก็พอ คุก ในเมื่อภารกิจทางตะวันออกล้มเหลวแล้วก็รีบกลับมาเถอะ”

“รับทราบ” คุกตอบ

บนโต๊ะมีทวนของเขาวางอยู่กับดาบยามะที่ขึ้นสนิม หลังคุกตัดการติดต่อแล้วก็วางอุปกรณ์สื่อสารไว้ด้วยกัน

เขาตักน้ำอุ่นมา หลังชุบผ้าจนเปียกแล้วก็บิดเล็กน้อย

เมื่อวางซานเอ๋อร์กับเสี่ยวจือไว้บนเก้าอี้แล้ว เขาก็ใช้ผ้าเช็ดร่องรอยบนใบหน้าของซานเอ๋อร์และเสี่ยวจือ ความเจ็บปวดถูกเผยออกมาจากการเคลื่อนไหวของเขา

เพราะเขาเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยนมาก

เขาที่ฟื้นฟูความทรงจำแล้วรู้อย่างชัดเจนว่าตนเองไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้…คนที่มีความรู้สึกพิเศษให้ซานเอ๋อร์ก็มีเพียงคนที่ชื่อมาร์คเท่านั้น

“ชื่อของฉันคือคุก”

หลังจัดการกับร่างของซานเอ๋อร์และเสี่ยวจือเรียบร้อยทำให้พวกเธอดูเหมือนกำลังหลับอยู่แล้ว คุกถึงได้นั่งลงข้างๆ และเริ่มเช็ดทวนยาวของตนเอง

“ตอนอายุได้สามขวบ มีคนพูดกับฉันว่าฉันเป็นพลเมืองของอาณาจักรแห่งเงา”

คุกหรี่ตาลง ยกปลายทวนมาที่ระดับสายตา จากนั้นก็เช็ดเบาๆ

“แต่อาณาจักรแห่งเงาอยู่ที่ไหนกัน ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งรับฉันไปเลี้ยง พาฉันขึ้นไปบนยอดเขาหิมะและฝึกฝนฉัน”

“น่าจะประมาณสิบขวบได้ที่ฉันฆ่าหมีบนยอดเขาหิมะด้วยมือของฉันเอง”

เขาพูดถึงความทรงจำที่เขาไม่เคยพูดให้ใครฟังมาก่อน

“ฉันอาศัยอยู่กับเธอมาโดยตลอด ผ่านไปสิบห้าปี…ผู้หญิงคนนั้นคืออาจารย์ของฉัน”

คุกยิ้มและเช็ดทวนยาวต่อ “แต่สำหรับฉัน เธอไม่เพียงเป็นอาจารย์ของฉัน แต่ยังเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันด้วย ไม่อาจพูดได้ว่ารัก แต่ไม่สามารถขาดได้”

“มันชื่อว่า Gae-Bolg (เกโบลก์) เป็นของชิ้นเดียวที่เธอมอบให้ฉัน”

“หลายปีมานี้ฉันออกตามหาเธอมาตลอด”

คุกสูดหายใจเข้าลึกๆ นิ่งไปนานมาก จากนั้นถึงถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “เป็นแบบนี้ก็ดี ให้มาร์คอยู่ที่นี่กับพวกเธอตลอดไป”

“สรุปแล้ว ฉันเป็นคนที่โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

เขานั่งนิ่งอยู่สักพักถึงยืนขึ้นมา เก็บทวน ดาบและพวกอุปกรณ์ เขาเป็นเหมือนนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ

ในเมื่อเป็นนักท่องเที่ยว หลังจากพักชั่วคราวแล้วก็ต้องจากไป คุกจำคำพูดของผู้หญิงที่มอบทวนให้เขาได้ เธอพูดว่าไม่ต้องตามหาเธอ เพราะจะต้องมีสักวันที่เขาจะพบเจอสิ่งที่ควรค่าแก่การคิดถึงของเขา

“แต่มันก็สามารถพังทลายได้ใช่ไหมครับ…อาจารย์”

คุกยิ้มอย่างเศร้าสร้อย หลังเก็บของแล้วก็มองสองแม่ลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเปิดประตูห้องรับรองแขก…และจากไป

“เปิดไฟก่อน เดี๋ยวชนของ เสี่ยวจือ”

แต่ว่า…

“รู้แล้วน่า แม่”

ในพริบตาเดียวที่ภายในห้องสว่างขึ้นมานั้น คุกก็ตัวแข็งทื่อในทันที…ฝันงั้นเหรอ

“ลุงมาร์ค กลับมาแล้วเหรอคะ” เด็กหญิงรีบเตะรองเท้าของตนเองที่หน้าร้านและพุ่งเข้ามาหาคุกทันที

เป็น…ความฝัน

“คุณกลับมาแล้ว หิวไหม เดี๋ยวฉันทำอะไรให้กินดีไหม” ซานเอ๋อร์ถามอย่างเป็นห่วง

เป็น…ความฝัน

คุกหันกลับไปดูบนเก้าอี้ในห้องรับรองแขก…ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่บนนั้นเหลือเพียงกองฝุ่นทราย

“ลุกมาร์ค ทำไมในบ้านถึงมีทรายเยอะขนาดนี้” เสี่ยวจือดึงกางเกงของเขาและเงยหน้าถาม

“จริงๆ เลย” ซานเอ๋อร์ตกตะลึงมองดูทรายบนเก้าอี้ในห้องรับรองแขก ใบหน้าฉายแววสงสัยขึ้นมา “คุณเก็บมาเหรอ”

“พวกเธอ…ยัง” คุกพึมพำออกมา

ซานเอ๋อร์พูดว่า “ไปสถานีตำรวจมาน่ะค่ะ ต่อมาอยู่ดีๆ เสี่ยวจือก็ปวดท้องเลยไปเอายาที่อนามัย ฉีดยาและเพิ่งได้กลับมานี่แหละ”

“สถานีตำรวจ เมื่อไหร่กัน” คุกขมวดคิ้ว

ซานเอ๋อร์คิดและพูดว่า “อืม…น่าจะประมาณไม่นานหลังคุณที่ออกไปช่วงบ่าย มีตำรวจคนหนึ่งมาเคาะประตูบอกให้ฉันไปช่วยให้ปากคำเรื่องถูกคนเขียนอักษรใส่เมื่อวาน…ไม่รู้ว่าใครเป็นคนไปแจ้งตำรวจ ตำรวจบอกให้ฉันไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ ฉันเป็นห่วงว่าเสี่ยวจือจะอยู่คนเดียวไม่ได้เลยพาไปด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเมืองของพวกเรามีตำรวจที่หนุ่มขนาดนั้นมาประจำการตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย”

“เสี่ยวจือก็ไม่เคยเห็นค่ะ” เสี่ยวจือยกมือขึ้นมาเหมือนตอนตอบคำถามคุณครูในชั้นเรียน “แต่พี่ตำรวจคนนั้นตัวหอมมาก หอมกว่าน้ำหอมที่แม่ซ่อนไว้ในตู้อีก”

“เสี่ยวจือ” ซานเอ๋อร์ดีดหน้าผากของลูกสาวตนเองเบาๆ จากนั้นก็พูดอย่าง ‘แค้นเคือง’ ว่า “ยังไม่ไปอุ่นน้ำอีก ลูกต้องกินยาแล้ว อยากปวดท้องกลางดึกใช่ไหม”

“รู้แล้ว” เสี่ยวจือวิ่งไปในห้องรับรองแขก

ซานเอ๋อร์มองมาร์ค ใบหน้าแดงและพูดเบาๆ ว่า “ของบนตัวคุณคืออะไรเหรอ”

คุกสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดว่า “เรื่องของเธอจัดการเสร็จแล้วนะ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย มีเรื่องบางเรื่องเอาไว้พูดกันพรุ่งนี้เถอะ”

“อย่างนั้นกินข้าว…”

“ไม่ต้อง”

ไม่ใช่ความฝัน

ไม่รู้ว่าไฟไหม้ที่โรงสีดับลงเมื่อไหร่ มีของจำนวนมากที่ถูกเผาจนเรียบ แต่เพราะอยู่ข้างแม่น้ำ ไฟจึงไม่ลามไปไกล

โรงสีเหลือเพียงของบางอย่างที่ไหม้เกรียม เช่นไม้ของโรงสีและก็มี…ร่างของมนุษย์

เจ้าของสมาคมลั่วเดินไปบนขี้เถ้าและหยุดอยู่ตรงหน้าร่างกายที่ไหม้เกรียม จากนั้นก็ดีดนิ้ว

ทันใดนั้นร่างกายที่ไหม้เกรียมก็ฉีกออก หลังของสิ่งที่มีสีดำไหม้แตกออกเผยให้เห็นเป็นผิวเนียนเรียบ…ร่างของคนลุกขึ้นนั่งบนขี้เถ้า บิดเอวยืดกาย

“คิดว่าจะตายไปแล้วจริงๆ เสียอีก” …นีโร

นีโรที่อยู่เบื้องหน้าเจ้าของสมาคมลั่วตอนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าและนั่งอยู่บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจพลางขยับคอ หัวเราะและพูดว่า “หลังแม่ลูกคู่นั้นกลับถึงบ้านแล้ว คุกร้องไห้ไหม”

เจ้าของสมาคมลั่วส่ายหน้า

นีโรถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดหวังไปชั่วขณะ พูดอย่างหดหู่ว่า “ไม่ใช่แค่พ่ายแพ้ แต่ยังไม่ได้เห็นน้ำตาของลุงคุกอีก…ล้มเหลวจริงๆ”

เจ้าของสมาคมลั่วไม่พูดจา

นีโรไม่สนใจ บิดเอวและกางแขนนอนราบลงไปบนพื้น พึมพำกับตัวเองว่า “ตามนิสัยของลุงคุกแล้วจะต้องรายงานขึ้นไปว่าฉันตายแล้วแน่ๆ ต่อไปก็ไม่ต้องกลับไปที่สถานที่น่าเบื่อแบบนั้นอีกแล้ว…อืม ก็ถือว่าไม่เลวเลย”

เธอนั่งขึ้นมาและถามว่า “คืนนี้พระจันทร์สวยนะ ว่าไหมเจ้าของสมาคม”

ลั่วชิวเงยหน้ามองแวบหนึ่งและพูดเบาๆ ว่า “พระจันทร์เต็มดวง”

ทันใดนั้นนีโรก็กะพริบตาและพูดว่า “จะว่าไป…เจ้าของสมาคม นายจะไม่หาเสื้อผ้าให้ฉันใส่เลยหรือไง หรือชอบที่ฉันอยู่ในสภาพนี้มากกว่า ฉันไม่คิดมากนะ แต่ฉันก็ต้องเก็บเงินนะ แพงมากด้วย”

ลั่วชิวโบกมือ ชุดแบบเดียวกับที่นีโรเคยใส่โผล่ออกมากลางอากาศ ตกลงบนร่างกายที่มีบาดแผลนับไม่ถ้วนของนีโร…รอยเหมือนใยแมงมุมทำให้คนรู้สึกว่ามันเป็นแผลเป็นที่น่ากลัวมาก

“ขอบคุณ”

เธอรับชุดมาสวมอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านตอนอื่นๆของ สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด คลิกเลย

แฟนเพจ