Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Novel’s Extra - ตอนที่ 378

เรื่อง The Novel’s Extra - ตอนที่ 378

บทที่ 378 การสลับปริศนา (4)

…ผู้ติดอันดับอีกคนที่ผมไม่ทราบว่าเป็นใคร รวมไปถึง 5 คนผ่านการตรวจแล้ว อย่างไรก็ตามมี 3 คนที่ปฏิเสธและยืนกรานไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

– อ๊บๆ ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้คำตอบแล้วนะ อ๊บๆ

แม้แต่กบก็สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขาเป็นใคร ผมไม่รู้จัก 1 ใน 3 คนนี้เนื่องจากจำเป็นต้องมีข้อตกลงเป็นเอกฉันท์ในการเปิดประตูห้อง ด็อปเปิลแกงเกอร์จึงเหลือเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น พลังเวทมนต์ของพวกเขาเริ่มพุ่งสูงขึ้น

“แกกกกกกกกกกกก-!”

พวกเขาพุ่งเข้าหาพวกเราพร้อมกัน แม้ว่าพวกเขาจะเป็น ‘ผู้ติดอันดับ’ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ติดอันดับใกล้ๆกัน แชนายอน และ จินเซยอน ติด 30 อันดับแรกและ คิมฮัคพโย ที่มีรูปร่างเป็นกบก็มีความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน

“…อะไรกัน?”

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทั้ง 3 คนต่างก็พุ่งมาหาผมซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง

คนอื่นๆ

ซึ่ง –

หนึ่งในนั้นเหวี่ยงกำปั้นของเขา ทันใดนั้นหมัดอื่นๆก็กระโดดออกมาจากอากาศโดยรอบ ผมไม่มีเวลาชื่นชมความสามารถแปลกประหลาดเช่นนี้เพราะพลังเวทมนต์ที่หลอมรวมเข้ากับกำปั้นนั้นไม่ได้กระจอกเลยแม้แต่น้อย

“ทำไมต้องเป็นฉัน!?”

“-!!!”

ผมป้องกันกำปั้นด้วยความช่วยเหลือของ เอเธอร์ จากนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด ผมปล่อยให้เอเธอร์ควบคุมร่างกายของผม แขนของผมเหยียดออกและเอวของผมงอเหมือนเครื่องจักร ด้วยความได้เปรียบทั้งในเรื่องจำนวนและพลังไม่นานพวกเราก็จัดการ ด็อปเปิลแกงเกอร์ลงได้

“เฮ้ออออออออออออออ!”

จินเซยอน จบงานด้วยลูกศรของเธอ

“คุณปลอดภัยดีไหม?”

“OK.”

ผมไม่ได้บาดเจ็บและไม่มีบาดแผลอะไรแต่เนื่องจาก แชนายอน กำลังจ้องมองผมอย่างแปลกประหลาด ผมจึงพูดห้วนๆออกมา

“ไม่เห็นหรือไงว่าฉันไม่เจ็บ เธอจะถามอะไรมากมาย!”

“….”

แก้มของ จินเซยอน ป่องเล็กน้อย

“อะไรกัน.”

“…ไม่มีอะไร. ขอโทษทีนะ.”

ในที่สุดจินเซยอนก็โค้งคำนับและผมก็ไอแห้งอย่างเชื่องช้า

“อะแฮ่ม”

“ว่าแต่ คุณจินเซยอน รู้ได้ยังไง? ว่าด็อปเปิลแกงเกอร์นั้นไม่สามารถใช้คําภีร์” แชนายอน ถาม

จินเซยอนยิ้มและส่ายหัว

“ฉันไม่รู้ ฉันไม่เคยทดสอบ และฉันก็ไม่แปลกใจถ้าพวกเขาทำได้”

“จริงเหรอ? แล้ว … .”

“จะเรียกมันว่า ‘สัญชาตญาญ’ ก็ได้หากเตอคนที่ฉลาดกว่าและโดดเด่นกว่าฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผล”

เมื่อได้ยินแบบนี้ความชื่นชมของผมที่มีต่อจินเซยอนเพิ่มขึ้น แม้แต่ในฐานะผู้เขียนต้นฉบับผมไม่รู้ว่าด็อปเปิลแกงเกอร์สามารถใช้คําภีร์ได้มั้ยสถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในนิยายต้นฉบับและผมไม่ใส่ใจที่จะเขียนมากกว่าเรื่องที่จำเป็น แน่นอนผมเองก็ไม่ทราบวิธีการที่จะแยก

ด็อปเปิลแกงเกอร์ออกจากกันและมันก็ง่ายมาก ด็อปเปิลแกงเกอร์ไม่สามารถ ‘กลับสู่โลก’ ได้

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะเปิดประตูได้ไหม?” คิมฮัคพโยถาม เขากลับมาเป็นมนุษย์ก่อนที่ผมจะสังเกตเห็น

“แน่นอน มารวมตัวกันก่อนเพราะพวกเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใน

ช่องทางอื่นๆอาจยังมีคนจับตาดูอยู่ในหมู่พวกเราแม้ว่าความน่าจะเป็น

นั้นจะต่ำมาก ฉันเฝ้าดูใบหน้าของทุกคนและไม่มีใครลังเลแม้แต่

คนเดียวขณะฉีกม้วนกระดาษของพวกเขาออกจากกัน”

“ฉันเข้าใจแล้วเปิดประตูได้เลย”

คิมฮัคพโยเดินไปที่ประตูที่ปิดแน่น จินเซยอน พยักหน้า

“ทุกคนเห็นด้วยไหม”

“””อา”””

เมื่อมาถึงข้อตกลงประตูก็เปิดออกและพวกเราก็ออกมาจากห้อง

[ทางเดิน 8]

ทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องโดยสารของรถไฟมักจะแคบมาก แต่นั่นไม่ใช่กรณีของรถไฟขบวนนี้ เส้นทางนี้เป็นป่าเขียวชอุ่มที่ใหญ่กว่าปกติพื้นทำจากดินเกือบจะเหมือนกับว่าพวกเราอยู่ในอีกโลกหนึ่งและเราสามารถได้ยินเสียงน้ำไหลลงมาจากลำธาร

“พวกเราควรจะไปที่ไหนต่อไป คุณจินเซยอน?”

“ฉันไม่แน่ใจ. แต่พวกเราควรหาวิธีเปิดประตูสู่ทางเดิน….”

“อืมมม โอ้โห มีก้อนหินอยู่ที่นี่ด้วย”

ในขณะนั้นเองคิมฮัคพโยก็เตะหินใต้เท้าของเขา อ๊ะ…หินก้อนเล็กๆนั้นมีพลังเวทมนต์ของเขาขณะที่มันเข้าลอยเข้าไปที่หน้าต่างระบายอากาศของเขต 8 หลังจากนั้นไม่นาน คิมฮัคพโย ก็เปลี่ยนจุดยืนอยู่กับก้อนหิน

– ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ไปละนะ!

เสียงของเขาดังขึ้นจากเพดาน พวกเรา 4 คนถูกทิ้งให้ยืนงงๆโดยเฉพาะ ผม คิมฮัคพโยน่าจะเป็นจอมวายร้ายผู้มีเสน่ห์ซึ่งฉายแสงในช่วงครึ่งหลังของนิยายดังนั้นทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้กันนะ

“… .”

“…ทักษะอะไรละนั่น?”

“ถ้าความจำของฉันไม่ผิดมันเรียกว่า ‘การเปลี่ยนตำแหน่ง’…ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าเขาเป็นใคร อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเราไม่มีทักษะแบบนั้นพวกเรามาทำสิ่งที่เราทำได้กันเถอะ”

เราเดินไปกับ จินเซยอน ที่เป็นผู้นำทาง โดยไม่รู้ตัวผมพบว่าตัวเอง

ตัวติดกับ แชนายอน อีกครั้งที่พวกเราอยู่ใกล้กันมากผมอดไม่ได้ที่จะเหลียวมองเธอเป็นครั้งคราวและแชนายอนเองก็มองผมด้วยเช่นกัน

ผมรีบหลบตาเธออย่างรวดเร็ว แต่ แชนายอน ไม่ได้ทำแบบเดียวกัน ดวงตาของเธอยังคงจ้องมองอยู่บนใบหน้าของผม

…เวลาผ่านไปในความเงียบงัน

“โอ้ ดูดอกไม้นั้นสิ”

ทันใดนั้น แชนายอน ก็ก้มลงบนพื้นผมไม่แปลกใจกับการกระทำอย่างกะทันหันของเธอ ผมเหลียวมองเธอแล้วก็กลับไปตามทางของผม

พูดตามตรงผมอยากวิ่งหนีไปเหมือน คิมฮัคพโย ด้วยซ้ำ

– หมับ

แต่ แชนายอน จับข้อมือของผมในทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนเวลาหยุด

เดิน

“…อะไรเหรอ?”

“อืมม….”

ริมฝีปากของเธอขยับอย่างช้าๆ ช่วงเวลาสั้นๆนี้รู้สึกเหมือนนานเป็นปี

“นายรู้ไหมว่าดอกไม้นี้คืออะไร?”

โชคดีที่เธอถามคำถามง่ายๆแค่นี้ ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“…ตรวจสอบคำอธิบายไอเท็มสิ”

“แต่ฉันมองไม่เห็น”

ผมขมวดคิ้วและมองดอกไม้

[Lv.1 ???]

เธอพูดถูก ม่านแห่งตัวตน ปิดกั้นข้อมูลแบบนี้ด้วยเหรอ ผมตรวจสอบ Smartwatch แทนมันกลายเป็น Forget Me Not [1] (ดอกไม้สีสวย ความหมายดี ที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งรักโรแมนติก)

“มันคือ Forget Me Not”

“อ้อ~ อย่าลืมฉันเลย งั้นเหรอ นายค่อนข้างมีความรู้เหมือนกันนะ….”

“ฉันจะไปละนะ”

ผมพยายามหนี จินเซยอน และผู้ติดอันดับคนอื่นๆก็เดินออกไปไกลแล้วทำให้นี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบ ด้วยกุญแจลึกลับผมสามารถหลบหนีไปได้อย่างราบรื่น

“…ไปกันเถอะ.”

แต่ไม่ว่าผมจะใส่แรงลงไปมากแค่ไหน แชนายอน ก็ไม่ยอมปล่อยมือของผมเลยแม้แต่น้อย

“เธอจะทำอะไรน่ะ?”

เธอจ้องมองที่ข้อมือของผมและพยายามใช้กำลัง…แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมเห็น แชนายอน จ้องมองที่ผมด้วยสายตาที่มั่นใจ

จิตใจของผมสั่นไหว ดวงตาของผมเบลอราวกับเลนส์กล้องไม่ได้โฟกัส

“…อะ-อะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไร.”

ไม่นานมือของเธอก็อ่อนแอลงและผมก็สะบัดมือของเธอออกไป ในขณะเดียวกันบรรยากาศก็เงียบลงอีกครั้ง

“ฉันแค่คิดว่านายเป็นคนที่ฉันรู้จัก”

เสียงที่ได้ยินอย่างแผ่วเบาเข้ามาในหูและสั่นคลอนจิตใจของผมในทันที

ผมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าผมพูดไม่ออก แชนายอน ก็ถามออกมา

“นายเป็นยังไงบ้าง”

“…ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร แต่มันไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกเราไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของกันหรือแม้แต่แยกแยะเสียงเพราะม่านแห่งตัวตนดังนั้นจึงเป็นคำถามที่ไร้ความหมาย”

ผมตอบคำถามของเธอแล้วหันหลังกลับ

แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปไม่กี่ก้าว…คำพูดของเธอก็ทำให้เท้าและร่างกายของผมแข็งค้าง

“ คิมฮาจิน”

หัวใจของผมหยุดนิ่ง เมื่อผมได้ยินชื่อของผม ผมไม่สงสัยด้วยซ้ำว่า

ม่านของผมถูกถอดออกหรือว่าเธอมีพลังพิเศษบางอย่าง

ผมพยายามเอาชนะความรู้สึกที่ทำให้หายใจไม่ออก ภายในความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นแรง…มันร่ำร้อยอย่างเห็นได้ชัด

“นายคิดว่าฉันจะไม่สังเกตเลยเหรอ?”

“… .”

ผมกลืนน้ำลาย ผมพยายามทำให้ร่างกายที่สั่นเทาของผมสงบลง

จากนั้นผมหันหลังมาอย่างเงียบๆ เธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าผม เธอไม่ควรเห็นผมแต่ถึงกระนั้นเธอก็จำผมได้

ไม่นาน แชนายอน ก็ถอดผ้าคลุมออก ม่านแห่งตัวตนนั้นไม่สำคัญสำหรับผมเพราะผมสามารถแยกแยะใบหน้าของผู้เล่นแต่ละคนออก อย่างไรก็ตาม แชนายอน นั้นมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้

ดวงตาของเธอจ้องมองมาที่ผมอย่างเย็นชาด้วยความมั่นใจในความสงสัยของเธอ สายตาของเธอดูเหมือนจะทะลุผ่านร่างกายของผม

“…มันเป็นนาย”

พวกเราทั้งคู่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว แต่ผมไม่ได้เตรียมคำพูดใดๆ สำหรับการเจอกันครั้งสุดท้ายของพวกเรา ไม่ผมอาจจะเตรียมเอาไว้แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ถ้าจะพูดออกมามันก็น่าสมเพชเหลือเกิน

“เธอ…จำฉันได้ยังไง”

“เฮอะๆ นายคิดว่าฉันจำไม่ได้งั้นเหรอ”

แชนายอน หัวเราะเบาๆ

“ฉันใช้เวลานานหลายปีคิดแต่เรื่องของนาย”

น้ำตาเริ่มอาบดวงตาของเธอ แต่พวกมันไม่ได้ไหลลงมาราวกับว่า

พวกเขาถูกแช่แข็ง

“นายมักจะมองนาฬิกาของนายเสมอเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น”

‘นั่นคือวิธีที่เธอจำเราได้งั้นเหรอ’ ผมก้มหัวและยิ้มอย่างขมขื่น

“การกระทำที่แปลกประหลาดและลักษณะการพูดนิสัยน้อยๆและที่สำคัญวิธีการหายใจของนาย…”

เสียงโลหะของดาบขึ้นขณะที่ แชนายอน หยิบดาบของเธอออกมา

“ฉันจำได้ทั้งหมด จำได้อย่างชัดเจน”

ดวงตาที่ซับซ้อนของ แชนายอน จ้องมองมาที่ผมพวกมันเป็นสีดำสนิทอย่างสมบูรณ์ อย่างน้อยผมก็ควรแสดงตัวออกมา ผมยิ้มอย่างขมขื่นและวางมือบนใบหน้าของผม ผมรู้สึกได้ถึงหน้ากาก ผมจับมันและดึงมันอย่างแรง ผ้าคลุมของผมลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

“… เฮ้.”

ผมพูด

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

ตรงหน้าของผมคือแชนายอน

อ่านตอนอื่นๆของ The Novel’s Extra คลิกเลย

แฟนเพจ